
**แรกนี้รูปนี้มีการปรับสีให้แดงและส้มขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสให้ร้อนกว่าจากจากที่ร้อนอยู่แล้ว TT
หน้าร้อนมาแล้ว มาแต่งหน้าโทนผิวบ่มแดดโกลวๆกันค่ะ
ฮาวทูนี้ง่ายมาก พ้อยหลักคือโทนส้ม อมแดงชมพู และแซมชิมเมอร์สีทองให้ผิวดูโกลวผ่องเหลือบทองๆส้มๆนะคะ
เพื่อให้ง่ายสุดๆ ครูเลยทำฮาวทูแบบเลือกใช้แค่แบรนด์ KMA แบรนด์เดียว มีทั้งตัวคอลเลคชั่นใหม่ที่พึ่งจัดมาสำหรับต้อนรับ Summer หน้าร้อนนี้ และบางส่วนที่สภาพการใช้งานจะยับเยินเล็กน้อย มีความเรียลอยู่หน่อยๆ สาวๆมองข้ามตรงส่วนนี้ไปนะคะ 5555
ที่ครูเลือกแบรนด์นี้มาใช้เกือบหมดในฮาวทูเพื่อให้ง่ายต่อการหาซื้อ และจากที่สอนมา ครูพบว่าสาวๆจะงงสีหรือไม่มั่นใจว่าสีไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง แบรนด์KMAเป็นแบรนด์ที่ครูรู้สึกว่าสีเขาไม่โดดออกจากผิวคนไทยมาก ต่อให้ไม่เห่งสีเลยก็ไม่ค่อยพลาดค่ะ
สาวหมวยอยากแซ่บ สาวหมวยอยากฝอเบาๆ สาวหมวยอยากผิวบ่มแดด ไปดูกันเลย
Before & After

Finish look
Step1 ลงไพรเมอร์เพื่อให้รองพื้นเกาะผิว อยู่ทน และช่วยเบลอรูขุมขนให้เนียน
เพราะครูผิวมันรูขุมขนกว้างค่ะ สาวผิวแห้งก็ใช้ได้เพราะตัวนีช่วยเบลอริ้วรอยต่างๆได้ ขออภัยในสภาพขวดด้วยนะคะ ใช้มานานแล้ว ทาไพรเมอร์บางๆให้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะตรงจุดที่มีปัญหาเท่านั้นก็ได้ เช่นมีริ้วใต้ตา มีรูขุมขนกว้าง มีริ้วที่หน้าผาก มีริ้วที่ร่องแก้ม หรือรอยสิวตื้นๆ บีบออกมาปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวพอ เพราะยิ่งใช้เยอะเกินไปเดี๋ยวจะลอกเป็นขุยแทน แตะนิดเดียวก็พอค่ะ
Step 2 ลงรองพื้น
เนื่องจากลุคผิวบ่มแดดส่วนใหญ่จะแต่งไปทะเลกัน ซึ่งจะมีความหนึบของอากาศริมทะเล หรืออาจะมีการเล่นน้ำ ดังนั้นครูเลือกรองพื้นแบบที่สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ แต่ไม่แมทหรือแห้งมากจนเกินไป เพื่อให้ได้ผิวที่ดูฉ่ำหน่อย รองพื้นตัวนี้มีลักษณะเป็น Semimatte คือกึ่งแมทกึ่งฉ่ำ เกลี่ยง่าย ถ้ารีบก็ลงด้วยนิ้วเลยก็ได้ค่ะ . แต่ถ้าใครมีร่องรอยสิวให้เก็บเยอะสามารถเพิ่มความหนา บางบริเวณที่ต้องการปกปิด และย้ำด้วยฟองน้ำเปียกน้ำหมาดๆจะช่วยให้รองพื้นแน่นเนียนเป็นงานผิวและอยู่ทนขึ้น หลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้วใช้แป้งฝุ่นเซ็ตรองพื้นบางๆ
แนะนำว่าไม่ต้องลงแป้งหนามาก หรือลงแป้งพับผสมรองพื้น เพราะจะทำให้เมคอัพหนาเกินความจำเป็น และไหลเวลาเจออากาศอบอ้าวมากๆค่ะ
Step 3 เขียนคิ้ว
เริ่มจากหาตำแหน่งของหัวคิ้ว โดยวัดจากหัวตา ให้หัวคิ้วเลยหัวตามาเล็กน้อยตามรูป แล้วติ้กทำสัญลักษณ์ไว้เบาๆ
ตำแหน่งที่สอง คือหางคิ้วที่สวยที่สุดของแต่ละคน เราวัดโดยการใช้แปรงวางจากปีกจมูก ไปทาหางตา ก็จะได้ความยาวคิ้วที่เหมาะสมของโครงหน้าตัวเองแล้วค่ะ
ตำแหน่งที่สาม คือจุดหักหรือจุดสูงสุดของคิ้ว ให้มองตรงในกระจก กะคร่าวๆง่ายคือตรงกลางของตาขาว เมื่อได้จุดแล้วติ๊กทำสัญลักษณ์เอาไว้ก่อน
เมื่อได้สามจุดแล้วค่อยเขียนคิ้วกันค่ะ

เราจะวาดคิ้วง่ายๆโดยใช้ เส้นตรง4เส้นนะคะ .
เส้นที่ 1 เส้นท้องคิ้วจากหัวคิ้วไปจุดหัก
เส้นที่ 2 ต่อจากเส้นแรก โดยลากจากจุดหักคิ้วไปจุดสุดท้าย
เส้นที่3 มาเขียนคิ้วเส้นบนกัน โดยค่อยๆลากเส้นตรงจากหัวคิ้วมาจุดหัก กะคร่าวๆให้ขนานกันเส้นล่างก็ได้ค่ะ
เส้นที่ 4 ลากจากจุดหักเส้นบนมาบรรจบเส้นสุดท้าย ก็จะได้โครงคิ้วขึ้นมา
จากนั้นให้ค่อยๆถมสีให้ทั่ว ส่วนตรงหัวคิ้วให้เบลนสีเบาๆจะได้หัวคิ้วสีฟุ้งๆ
ใช้แปรงคอนซีลเลอร์และรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ค่อยเก็บขอบคิ้วที่ไม่สะอาด หรือปรับแต่งขอบคิ้วให้สวยตามชอบ


Step 4 แต่งตา เราจะใช้แค่สองสีง่ายๆค่ะ เริ่มต้นด้วยสีอ่อน โดยแตะสีและเบลนสีตั้งแต่หัวตาจนถึงกลางตา ถ้ารู้สึกว่าสีไม่ชัดสามารถแตะเพื่อเพิ่มความเข้มชัดของสีได้อีก จากนั้นใช้แปรงเล็กลงแตะที่หัวตาล่างถึงกลางตาล่างด้วยนะคะ
โปรดมองข้ามความขมุกขมัวของพาเลทไปนะคะ

สีที่2 เป็นสีเข้มเนื้อแมท ใช้แตะจากหางตาสะบัดเข้ามากลางตา มาชนกับสีอ่อนที่เราทำไว้ตอนแรก ค่อยๆแตะแปรงวนเบาๆ เพื่อไม่ให้สีชัดเป็นจ้ำๆ จากนั้นใช้สีเดิมแตะจากหางตาล่างมาชนกลางตาล่าง
**เนื้อแมท คืออายแชร์โดว์ที่เป็นสีอย่างเดียวไม่มีชิมเมอร์หรือประกาย หรือความวาว

จากนั้นคือการกรีดอายไลน์เนอร์หรืออินเนอร์ตามสไตล์ที่ชอบนะคะ เราจะไปส่วนของการไฮไลท์เฉดดิ้งและปัดแก้มค่ะ
Step 5 ลงไฮท์ไลท์ การลงไฮท์ไลท์คือการใช้สีสว่างลงในจุดกระทบแสงเพื่อให้ดูพุ่ง นูนออกมาแล้วแต่เลเวลของผลิตภัณฑ์และการปัด โดยเราจะดูเป็นจุดๆ เช่น หน้าผาก ถ้านู้นแล้วก็ปล่อย หรือใครหน้าผากแคบ หน้าผากแบนก็สามารถปัดได้ ตำแหน่งสันจมูก เหนือโหนกแก้ม ถ้าไม่ชอบโหนกแก้มเยอะๆตรงนี้เว้นไปได้นะคะ แล้วก็คาง

Step 6 เฉดดิ้ง หรือการสร้างเงาหลอกบนหน้าเรานั่นเอง ให้บางส่วนที่เราอยากให้มันลดลงดูน้อยลงได้

Step 7 การปัดแก้มครั้งนี้เราจะเลือกบรัชออนที่มีประกายเหลือบสีทองเล็กน้อยเพื่อให้ดูผิวโกลวสะท้อน ฉ่ำ ซึ่งครูใช้สองสีคู่กัน สีอ่อนที่ออกโทนพีชอมทองครูปัดวนๆที่หน้าแก้ม และใช้สีเข้มที่เหมือนสีประการังแต่มีชิมเมอร์สีทองปัดจากกกหูมาทางปีกจมูก เพื่อให้เกิดสีเข้มจากกรอบหน้าเข้ามาไล่อ่อนที่กลางหน้า

ทาลิปโทนส้มๆเน้นให้เลยขอบปากเบลอๆเหมือนไม่ตั้งใจเล็กน้อย ไม่ต้องทำขอบเนี้ยบกริบนะคะ
จากนั้นดัดขนตา ปัดมาสคาร่าและติดขนตาได้เลย

เสร็จแล้วค่าอยากเห็น Finish look แบบชัดๆให้ดูในคลิปข้างบนได้เลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดูBlog https://minimarumakeup.com/blog/
.
เพจ https://www.facebook.com/MinimaruMakeupByKai/
เพจรีวิว https://www.facebook.com/krukai.minimaru/
Sun Kissed แต่งหน้าผิวบ่มแดดยังไงให้รอด สวย แพง ด้วยเครื่องสำอางหลักร้อย สอนแต่งหน้าเพื่อสาวมือใหม่หัดขับ
หน้าร้อนมาแล้ว มาแต่งหน้าโทนผิวบ่มแดดโกลวๆกันค่ะ
ฮาวทูนี้ง่ายมาก พ้อยหลักคือโทนส้ม อมแดงชมพู และแซมชิมเมอร์สีทองให้ผิวดูโกลวผ่องเหลือบทองๆส้มๆนะคะ
เพื่อให้ง่ายสุดๆ ครูเลยทำฮาวทูแบบเลือกใช้แค่แบรนด์ KMA แบรนด์เดียว มีทั้งตัวคอลเลคชั่นใหม่ที่พึ่งจัดมาสำหรับต้อนรับ Summer หน้าร้อนนี้ และบางส่วนที่สภาพการใช้งานจะยับเยินเล็กน้อย มีความเรียลอยู่หน่อยๆ สาวๆมองข้ามตรงส่วนนี้ไปนะคะ 5555
ที่ครูเลือกแบรนด์นี้มาใช้เกือบหมดในฮาวทูเพื่อให้ง่ายต่อการหาซื้อ และจากที่สอนมา ครูพบว่าสาวๆจะงงสีหรือไม่มั่นใจว่าสีไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง แบรนด์KMAเป็นแบรนด์ที่ครูรู้สึกว่าสีเขาไม่โดดออกจากผิวคนไทยมาก ต่อให้ไม่เห่งสีเลยก็ไม่ค่อยพลาดค่ะ
สาวหมวยอยากแซ่บ สาวหมวยอยากฝอเบาๆ สาวหมวยอยากผิวบ่มแดด ไปดูกันเลย
Before & After
Finish look
Step1 ลงไพรเมอร์เพื่อให้รองพื้นเกาะผิว อยู่ทน และช่วยเบลอรูขุมขนให้เนียน
เพราะครูผิวมันรูขุมขนกว้างค่ะ สาวผิวแห้งก็ใช้ได้เพราะตัวนีช่วยเบลอริ้วรอยต่างๆได้ ขออภัยในสภาพขวดด้วยนะคะ ใช้มานานแล้ว ทาไพรเมอร์บางๆให้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะตรงจุดที่มีปัญหาเท่านั้นก็ได้ เช่นมีริ้วใต้ตา มีรูขุมขนกว้าง มีริ้วที่หน้าผาก มีริ้วที่ร่องแก้ม หรือรอยสิวตื้นๆ บีบออกมาปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวพอ เพราะยิ่งใช้เยอะเกินไปเดี๋ยวจะลอกเป็นขุยแทน แตะนิดเดียวก็พอค่ะ
Step 2 ลงรองพื้น
เนื่องจากลุคผิวบ่มแดดส่วนใหญ่จะแต่งไปทะเลกัน ซึ่งจะมีความหนึบของอากาศริมทะเล หรืออาจะมีการเล่นน้ำ ดังนั้นครูเลือกรองพื้นแบบที่สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ แต่ไม่แมทหรือแห้งมากจนเกินไป เพื่อให้ได้ผิวที่ดูฉ่ำหน่อย รองพื้นตัวนี้มีลักษณะเป็น Semimatte คือกึ่งแมทกึ่งฉ่ำ เกลี่ยง่าย ถ้ารีบก็ลงด้วยนิ้วเลยก็ได้ค่ะ . แต่ถ้าใครมีร่องรอยสิวให้เก็บเยอะสามารถเพิ่มความหนา บางบริเวณที่ต้องการปกปิด และย้ำด้วยฟองน้ำเปียกน้ำหมาดๆจะช่วยให้รองพื้นแน่นเนียนเป็นงานผิวและอยู่ทนขึ้น หลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้วใช้แป้งฝุ่นเซ็ตรองพื้นบางๆ
แนะนำว่าไม่ต้องลงแป้งหนามาก หรือลงแป้งพับผสมรองพื้น เพราะจะทำให้เมคอัพหนาเกินความจำเป็น และไหลเวลาเจออากาศอบอ้าวมากๆค่ะ
Step 3 เขียนคิ้ว
เริ่มจากหาตำแหน่งของหัวคิ้ว โดยวัดจากหัวตา ให้หัวคิ้วเลยหัวตามาเล็กน้อยตามรูป แล้วติ้กทำสัญลักษณ์ไว้เบาๆ
ตำแหน่งที่สอง คือหางคิ้วที่สวยที่สุดของแต่ละคน เราวัดโดยการใช้แปรงวางจากปีกจมูก ไปทาหางตา ก็จะได้ความยาวคิ้วที่เหมาะสมของโครงหน้าตัวเองแล้วค่ะ
ตำแหน่งที่สาม คือจุดหักหรือจุดสูงสุดของคิ้ว ให้มองตรงในกระจก กะคร่าวๆง่ายคือตรงกลางของตาขาว เมื่อได้จุดแล้วติ๊กทำสัญลักษณ์เอาไว้ก่อน
เมื่อได้สามจุดแล้วค่อยเขียนคิ้วกันค่ะ
เราจะวาดคิ้วง่ายๆโดยใช้ เส้นตรง4เส้นนะคะ .
เส้นที่ 1 เส้นท้องคิ้วจากหัวคิ้วไปจุดหัก
เส้นที่ 2 ต่อจากเส้นแรก โดยลากจากจุดหักคิ้วไปจุดสุดท้าย
เส้นที่3 มาเขียนคิ้วเส้นบนกัน โดยค่อยๆลากเส้นตรงจากหัวคิ้วมาจุดหัก กะคร่าวๆให้ขนานกันเส้นล่างก็ได้ค่ะ
เส้นที่ 4 ลากจากจุดหักเส้นบนมาบรรจบเส้นสุดท้าย ก็จะได้โครงคิ้วขึ้นมา
จากนั้นให้ค่อยๆถมสีให้ทั่ว ส่วนตรงหัวคิ้วให้เบลนสีเบาๆจะได้หัวคิ้วสีฟุ้งๆ
ใช้แปรงคอนซีลเลอร์และรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ค่อยเก็บขอบคิ้วที่ไม่สะอาด หรือปรับแต่งขอบคิ้วให้สวยตามชอบ
Step 4 แต่งตา เราจะใช้แค่สองสีง่ายๆค่ะ เริ่มต้นด้วยสีอ่อน โดยแตะสีและเบลนสีตั้งแต่หัวตาจนถึงกลางตา ถ้ารู้สึกว่าสีไม่ชัดสามารถแตะเพื่อเพิ่มความเข้มชัดของสีได้อีก จากนั้นใช้แปรงเล็กลงแตะที่หัวตาล่างถึงกลางตาล่างด้วยนะคะ
โปรดมองข้ามความขมุกขมัวของพาเลทไปนะคะ
สีที่2 เป็นสีเข้มเนื้อแมท ใช้แตะจากหางตาสะบัดเข้ามากลางตา มาชนกับสีอ่อนที่เราทำไว้ตอนแรก ค่อยๆแตะแปรงวนเบาๆ เพื่อไม่ให้สีชัดเป็นจ้ำๆ จากนั้นใช้สีเดิมแตะจากหางตาล่างมาชนกลางตาล่าง
**เนื้อแมท คืออายแชร์โดว์ที่เป็นสีอย่างเดียวไม่มีชิมเมอร์หรือประกาย หรือความวาว
จากนั้นคือการกรีดอายไลน์เนอร์หรืออินเนอร์ตามสไตล์ที่ชอบนะคะ เราจะไปส่วนของการไฮไลท์เฉดดิ้งและปัดแก้มค่ะ
Step 5 ลงไฮท์ไลท์ การลงไฮท์ไลท์คือการใช้สีสว่างลงในจุดกระทบแสงเพื่อให้ดูพุ่ง นูนออกมาแล้วแต่เลเวลของผลิตภัณฑ์และการปัด โดยเราจะดูเป็นจุดๆ เช่น หน้าผาก ถ้านู้นแล้วก็ปล่อย หรือใครหน้าผากแคบ หน้าผากแบนก็สามารถปัดได้ ตำแหน่งสันจมูก เหนือโหนกแก้ม ถ้าไม่ชอบโหนกแก้มเยอะๆตรงนี้เว้นไปได้นะคะ แล้วก็คาง
Step 6 เฉดดิ้ง หรือการสร้างเงาหลอกบนหน้าเรานั่นเอง ให้บางส่วนที่เราอยากให้มันลดลงดูน้อยลงได้
Step 7 การปัดแก้มครั้งนี้เราจะเลือกบรัชออนที่มีประกายเหลือบสีทองเล็กน้อยเพื่อให้ดูผิวโกลวสะท้อน ฉ่ำ ซึ่งครูใช้สองสีคู่กัน สีอ่อนที่ออกโทนพีชอมทองครูปัดวนๆที่หน้าแก้ม และใช้สีเข้มที่เหมือนสีประการังแต่มีชิมเมอร์สีทองปัดจากกกหูมาทางปีกจมูก เพื่อให้เกิดสีเข้มจากกรอบหน้าเข้ามาไล่อ่อนที่กลางหน้า
ทาลิปโทนส้มๆเน้นให้เลยขอบปากเบลอๆเหมือนไม่ตั้งใจเล็กน้อย ไม่ต้องทำขอบเนี้ยบกริบนะคะ
จากนั้นดัดขนตา ปัดมาสคาร่าและติดขนตาได้เลย
เสร็จแล้วค่าอยากเห็น Finish look แบบชัดๆให้ดูในคลิปข้างบนได้เลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้