ณ สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น
ระหว่างที่ผู้คนมากมายเข้าคิวเพื่อที่จะโหลดสัมภาระ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดเคาน์เตอร์
ผู้โดยสารที่มาถึงก่อนได้เข้าคิวเพื่อที่รอเป็นแถว
คนมาก่อนก็ยืนด้านหน้าแถวคนมาหลังก็ต่อท้ายแถว
จนใกล้เวลาเคาน์เตอร์รถเข็นที่รอเข้าคิวอยู่ ก็เตรียมเข็นรถเข็นเคลื่อนขบวนเพื่อจะเช็คอิน
ระหว่างนั้นมีจังหวะรอยต่อของผู้โดยสารสูงวัย 3-4 ท่าน เข็นตามคนข้างหน้าไม่ทัน
ได้มีผู้โดยสารวัยทำงาน 3 ท่านกับรถเข็นได้แทรกเข้ามาแซงหน้า
กลุ่มผู้โดยสารสูงวัยได้พูดประมาณว่า "คนอื่นเค้าต่อคิวกันตั้งนาน มาแซงคิวอีก"
ผู้โดยสารที่แทรกคิว ท่านนึงหันหลังพูดประมาณว่า "ก่อนหรือหลัง ก็ได้ขึ้นเครื่องเหมือนกัน"
กลุ่มผู้โดยสารสูงวัย ก็ได้บ่นต่ออีกสักพักใหญ่ ๆ เหมือนบ่นเรื่องฟ้าลมอากาศ ไป ก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น เหนื่อยก็เลิกบ่นและคุยเรื่องอื่นกันไปเอง
ความมีน้ำใจของของคนไทยในต่างแดนด้วยกันเอง กลับ หายไป.....
สิ่งที่คนไทยได้รับการสอนมาตั้งแต่เด็กให้เอื้อเฟื้อแก่ เด็ก สตรีมีครรภ์ คนแก่ คนพิการ นั้น หายไป....
คนไทยไม่ทำดีกับคนไทยด้วยกันเอง จะรอให้ใครทำ?
"ก่อนหรือหลัง ก็ได้ขึ้นเครื่องเหมือนกัน" คนไทยไม่ทำดีกับคนไทยด้วยกันเอง จะรอให้ใครทำ?
ระหว่างที่ผู้คนมากมายเข้าคิวเพื่อที่จะโหลดสัมภาระ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดเคาน์เตอร์
ผู้โดยสารที่มาถึงก่อนได้เข้าคิวเพื่อที่รอเป็นแถว
คนมาก่อนก็ยืนด้านหน้าแถวคนมาหลังก็ต่อท้ายแถว
จนใกล้เวลาเคาน์เตอร์รถเข็นที่รอเข้าคิวอยู่ ก็เตรียมเข็นรถเข็นเคลื่อนขบวนเพื่อจะเช็คอิน
ระหว่างนั้นมีจังหวะรอยต่อของผู้โดยสารสูงวัย 3-4 ท่าน เข็นตามคนข้างหน้าไม่ทัน
ได้มีผู้โดยสารวัยทำงาน 3 ท่านกับรถเข็นได้แทรกเข้ามาแซงหน้า
กลุ่มผู้โดยสารสูงวัยได้พูดประมาณว่า "คนอื่นเค้าต่อคิวกันตั้งนาน มาแซงคิวอีก"
ผู้โดยสารที่แทรกคิว ท่านนึงหันหลังพูดประมาณว่า "ก่อนหรือหลัง ก็ได้ขึ้นเครื่องเหมือนกัน"
กลุ่มผู้โดยสารสูงวัย ก็ได้บ่นต่ออีกสักพักใหญ่ ๆ เหมือนบ่นเรื่องฟ้าลมอากาศ ไป ก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น เหนื่อยก็เลิกบ่นและคุยเรื่องอื่นกันไปเอง
ความมีน้ำใจของของคนไทยในต่างแดนด้วยกันเอง กลับ หายไป.....
สิ่งที่คนไทยได้รับการสอนมาตั้งแต่เด็กให้เอื้อเฟื้อแก่ เด็ก สตรีมีครรภ์ คนแก่ คนพิการ นั้น หายไป....
คนไทยไม่ทำดีกับคนไทยด้วยกันเอง จะรอให้ใครทำ?