สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
การจะเป็น Youtuber เพื่อให้ได้เงินในระดับนั้นผมมองว่ามันอาจจะต้องผสานความเป็นเน็ตไอดอลเข้าไปด้วยหน่อยๆ คนประสบความสำเร็จแบบเหลือเชื่อมันมี แต่คนไม่ประสบความสำเร็จเลยมันก็เยอะ
สิ่งที่จำเป็นคือ คุณจะทำยังไงให้คุณ differentiate จากคนอื่นเป็นพันเป็นหมื่นคนที่ผลิต content แบบเดียวกับของคุณ
ผมไม่แน่ใจว่าคุณพูดถึง เกมเมอร์รายไหนนะ แต่ผมเล่น Rov คนที่ทำคลิปไม่ค่อยสร้างสรรค์นี่มีหลายคน แต่ดูเหมือนว่าจะจับtrend ตลาดถูก
บางคนโดนด่ามากๆ แต่ก็ยังทำคลิปออกมาเรื่อยๆ คนก็ยังกดเข้ามาดูเรื่อยๆ ตัวเองก็ยังแสดงความเป็นตัวเองออกมาสู่ภายนอกเรื่อยๆ
สิ่งนึงที่เหมือนกันคือการที่จะให้ได้ followers ในระดับนั้นคือการจะต้องมีจุดขาย การกล้าที่จะชัดเจนในจุดยืนของความเป็นตัวเอง แล้วผลิต content ออกมาถี่ๆ
ผมยกตัวอย่างเช่นอย่างน้องม่อน โดนด่าแทบตาย คนดูด่าเกิน 50% ผมว่าบางคนอาจจะถอดใจตั้งแต่ยอดวิวไม่ถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ แต่นี่กล้าผลิต content ออกมาเรื่อยๆ ตั้งหัวคลิปให้ชื่อดูน่าสนใจ ฯลฯ
แต่สิ่งนึงที่น่าจะเหมือนกัน คือการมี passion ในสิ่งที่ทำ เพราะคนดู ดูออกว่าคุณชอบสิ่งที่คุณทำจริงๆหรือเปล่า
แล้วบางทีมันก็อาจจะไม่ได้ได้เงินเท่ากันทุกเดือนตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับว่า กระแสที่คุณเลือกจับมันยั่งยืนขนาดไหน และ content ของคุณน่าสนใจขนาดไหน คุณยังจะใช้มุกเดิมๆในการแสดง คนก็เบื่อ
อย่างเดอะมาสซิงเกอร์ คนดูตอนแรกหลักสิบล้านคน ตอนนี้บางคลิปเหลือไม่ถึงแสน
ของแบบนี้มันคง ไม่ได้ดูที่แค่เรื่องคนดูชอบไม่ชอบ content ดีไม่ดี แต่มันรวมไปถึงกึ๋นในการทำธุรกิจด้วย
ส่วนตัวผมไม่เคยมองว่าอาชีพสุจริตไหนเป็น joke
สู้ๆครับ
สิ่งที่จำเป็นคือ คุณจะทำยังไงให้คุณ differentiate จากคนอื่นเป็นพันเป็นหมื่นคนที่ผลิต content แบบเดียวกับของคุณ
ผมไม่แน่ใจว่าคุณพูดถึง เกมเมอร์รายไหนนะ แต่ผมเล่น Rov คนที่ทำคลิปไม่ค่อยสร้างสรรค์นี่มีหลายคน แต่ดูเหมือนว่าจะจับtrend ตลาดถูก
บางคนโดนด่ามากๆ แต่ก็ยังทำคลิปออกมาเรื่อยๆ คนก็ยังกดเข้ามาดูเรื่อยๆ ตัวเองก็ยังแสดงความเป็นตัวเองออกมาสู่ภายนอกเรื่อยๆ
สิ่งนึงที่เหมือนกันคือการที่จะให้ได้ followers ในระดับนั้นคือการจะต้องมีจุดขาย การกล้าที่จะชัดเจนในจุดยืนของความเป็นตัวเอง แล้วผลิต content ออกมาถี่ๆ
ผมยกตัวอย่างเช่นอย่างน้องม่อน โดนด่าแทบตาย คนดูด่าเกิน 50% ผมว่าบางคนอาจจะถอดใจตั้งแต่ยอดวิวไม่ถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ แต่นี่กล้าผลิต content ออกมาเรื่อยๆ ตั้งหัวคลิปให้ชื่อดูน่าสนใจ ฯลฯ
แต่สิ่งนึงที่น่าจะเหมือนกัน คือการมี passion ในสิ่งที่ทำ เพราะคนดู ดูออกว่าคุณชอบสิ่งที่คุณทำจริงๆหรือเปล่า
แล้วบางทีมันก็อาจจะไม่ได้ได้เงินเท่ากันทุกเดือนตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับว่า กระแสที่คุณเลือกจับมันยั่งยืนขนาดไหน และ content ของคุณน่าสนใจขนาดไหน คุณยังจะใช้มุกเดิมๆในการแสดง คนก็เบื่อ
อย่างเดอะมาสซิงเกอร์ คนดูตอนแรกหลักสิบล้านคน ตอนนี้บางคลิปเหลือไม่ถึงแสน
ของแบบนี้มันคง ไม่ได้ดูที่แค่เรื่องคนดูชอบไม่ชอบ content ดีไม่ดี แต่มันรวมไปถึงกึ๋นในการทำธุรกิจด้วย
ส่วนตัวผมไม่เคยมองว่าอาชีพสุจริตไหนเป็น joke
สู้ๆครับ
ความคิดเห็นที่ 9
เหมือนเป็นดารานักแสดงนั่นแหละครับ ใช่ว่าใครๆ จะมีรายได้หลักล้านได้ทุกคน
บางคนไม่มีละคร ไม่ค่อยมีใครจ้างเลย อย่าง ยูทูปเปอร์ ก็เห็นยังมีคนถาม
ทำยังไงให้คนดูเยอะๆ ติดตามเยอะๆ ของอย่างนี้ทางใครทางมัน
ถ้าไม่ถนัด ถึงไปทำยูทูปเปอร์ ก็อาจไม่ได้รายได้อย่างที่คิดก็ได้
ไอที่เห็นว่าทำไมรายได้เยอะจัง เขาเอาแต่คนที่ประสบความสำเร็จมาให้ดูไง
ที่ทำเงินไม่ได้หรือได้น้อย 95 เปอร์เซ็น+ เขาไม่สนใจ สื่อไม่มีความจำเป็นต้อง
ไปทำข่าวของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ
บางคนไม่มีละคร ไม่ค่อยมีใครจ้างเลย อย่าง ยูทูปเปอร์ ก็เห็นยังมีคนถาม
ทำยังไงให้คนดูเยอะๆ ติดตามเยอะๆ ของอย่างนี้ทางใครทางมัน
ถ้าไม่ถนัด ถึงไปทำยูทูปเปอร์ ก็อาจไม่ได้รายได้อย่างที่คิดก็ได้
ไอที่เห็นว่าทำไมรายได้เยอะจัง เขาเอาแต่คนที่ประสบความสำเร็จมาให้ดูไง
ที่ทำเงินไม่ได้หรือได้น้อย 95 เปอร์เซ็น+ เขาไม่สนใจ สื่อไม่มีความจำเป็นต้อง
ไปทำข่าวของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ความคิดเห็นที่ 22
มองแบบนี้อีกแล้ว ไปมองว่า ปลายทางเค้าได้อะไร แต่ไม่เคยมองว่า ต้นทาง เค้าเสียอะไรไปบ้าง เพื่อนผมเป็นหมอ เข้ารอบคัดตัวไปแข่งชีวโอลิมปิก รอบสุดท้าย ทำงานช่วงแรกๆก็ได้เดือนละเกือบแสนบาทไปแล้ว ทั้งที่อายุยังไม่เท่าไหร่ ตอนนี้น่าจะได้เกิน 3 แสนไปแล้วมั๊ง แต่ตั้งแต่ ม.ต้น จนจบเฉพาะทาง มันเรียนหนักมาก หนักชนิดที่เรายังถามว่า
จะทำขนาดนี้ไปทำไมวะ เที่ยวบ้างก็ได้ มันก็บอกมันมีเป้าหมาย แล้วตอนนี้หมอก็ทำได้จริงๆไปแล้ว ตอนนี้เรื่องเที่ยวไม่ต้องพูดถึง ไปแทบจะครบทุกประเทศดังๆแล้ว
ผมก็เคยถามตัวเองว่า ทำไม ชีวิตเราไม่ดีแบบมันบ้างวะ แล้วก็ตอบตัวเองได้ในทันทีว่า "ไอ้สัส ยังทำไม่ถึงครึ่งของที่มันทำเลย จะเอาเท่าเค้าได้ยังไง"

ผมก็เคยถามตัวเองว่า ทำไม ชีวิตเราไม่ดีแบบมันบ้างวะ แล้วก็ตอบตัวเองได้ในทันทีว่า "ไอ้สัส ยังทำไม่ถึงครึ่งของที่มันทำเลย จะเอาเท่าเค้าได้ยังไง"
ความคิดเห็นที่ 16
ผมรู้สึกไม่เห็นด้วย เรื่อง passive income
จริงๆ มันต้อง โครต active ต่างหาก คุณต้องหา content ที่มันเป็นเทรนด์ ต้องดู ต้องพูด ต้องฝึกฝน ยิ่งคุณเป็นพวก มาใหม่ ยิ่งต้องหาแนวของตัวเอง เอกลักษณ์ของตัวเอง ต้องมี เพราะ content มีมากมายให้เลือกดู ในหัวข้อเดียวกัน
content บางอย่าง อย่างทำอาหาร แบบนี้ ก็อาจถูดพบได้ตลอด แต่ content อย่าง รีวิวรถยนต์ พวก มันตกรุ่นหรือเก่าแล้ว โอกาสถูกพบอีกก็แทบจะไม่มีแล้ว ดังนั้น มันไม่ passive แน่ สำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนสูงๆ จากการทำเรื่องนี้
ตัวอย่างผมดู game play (คนเล่นเกม ผมเรียกแบบนี้) บางคนเหมือนอม สัตว์ไว้ในปาก อ้าปากพูดทีวิ่งออกมารัวๆแบบนี้ผมก็ไม่ดู
จริงๆ มันต้อง โครต active ต่างหาก คุณต้องหา content ที่มันเป็นเทรนด์ ต้องดู ต้องพูด ต้องฝึกฝน ยิ่งคุณเป็นพวก มาใหม่ ยิ่งต้องหาแนวของตัวเอง เอกลักษณ์ของตัวเอง ต้องมี เพราะ content มีมากมายให้เลือกดู ในหัวข้อเดียวกัน
content บางอย่าง อย่างทำอาหาร แบบนี้ ก็อาจถูดพบได้ตลอด แต่ content อย่าง รีวิวรถยนต์ พวก มันตกรุ่นหรือเก่าแล้ว โอกาสถูกพบอีกก็แทบจะไม่มีแล้ว ดังนั้น มันไม่ passive แน่ สำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนสูงๆ จากการทำเรื่องนี้
ตัวอย่างผมดู game play (คนเล่นเกม ผมเรียกแบบนี้) บางคนเหมือนอม สัตว์ไว้ในปาก อ้าปากพูดทีวิ่งออกมารัวๆแบบนี้ผมก็ไม่ดู
แสดงความคิดเห็น
เห็นรายได้ Youtuber, รู้สึกสิ่งหรืองานที่เราทำอยู่ มันเหมือน joke
แม้กระทั่งเรื่องของเวลา (คือทู้นี้ขอข้ามเรื่อง content ของแชแนลนั้นๆไปก่อน)
ตัวอย่างคนนึงอายุประมาณ 20 ต้นๆได้ แคสเกมโทรศัพท์ คอนเทนต์ไม่ค่อย integrated แต่ใช้รถราคา 6-7 ล้าน
รายได้ต่อเดือนประมาณ 600,000.- (ซึ่งจริงๆมีหลายคนนะ คนไทยนี่ล่ะ หลักสิบ, ต่างชาติมีหลักร้อย)
ในแง่ของลูกจ้าง ผมให้เทพสุดเท่าที่รู้เลยนะ โปรไฟล์แทบจะเทพเจ้า (เผลอๆต้องจบโทด้วย)
New Entry Level, ผมขอยกตัวอย่างใน field ผมที่จบ; Bain & Co หรือพวก McKinsey
แม้กระทั่ง Goldman Saches ให้เริ่ม ~100,000ต้นๆ (ตอนนี้ไม่รู้ยังถึงไหม หรืออย่างโคตรหรูได้ 150,000.-)
(ไม่รู้ field ไหนให้ได้เท่านี้ไหม อาจจะมีกลุ่มหมอ)
แต่
ไม่มีเวลาแน่นอน ใช้คุ้ม เครียด ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นหรอกครับ แถมเงินไม่เท่าเค้าอีกด้วยนะ
ขณะที่ Youtuber? ยิ่งเรื่องความเครียดและ hours ที่ใช้
ผมเถียงหัวเด็ดตีนขาดว่าได้เปรียบแทบทุกกรณี
แถมที่ทำไป มันไปเป็น passive income โดยอัติโนมัติด้วยซ้ำ
ขณะที่ active income ต้องเปลี่ยนเงินที่ได้ไปลงทุนอีก
แถมยังต้องศึกษาอีก..
ส่วนคนที่แย้งเรื่องของ pathway ในอนาคตหรือค่าเสียโอกาส
ผมขอปัดตกนะครับ ได้เงินเยอะกว่า allocate มาลงทุนได้ง่ายกว่า (เพราะรายได้มันเยอะมาก: 0.5-1m)
ถ้าเยอะมากจริงๆ หลัก 50m (เก็บไม่กี่ปีก็ได้ครับ คนกลุ่มนี้ ระหว่างนี้ก็ลงทุน ทบต้นไปเรื่อยๆ)
ไม่ต้องไปเสี่ยงกองทุนด้วยซ้ำ (ขนาดกองทุนเสี่ยงน้อยแล้วนะ)
ลงแค่พันธบัตรก็มีเงินกินทั้งชีวิตแล้ว (เผลอๆแค่ฝากธนาคาร)
มาเทียบกับกลุ่มธุรกิจส่วนตัว อันนี้คือต้องไปไกลจริงๆครับ ถึงจะชนะ
แถมขึ้นชือว่าธุรกิจ เอาเวลา อายุ เข้ามาเกี่ยว ไม่ง่ายครับที่จะชนะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบเขต การรับผิดชอบและการจัดการ
แบกรับความเสี่ยงก็มากกว่ามาก
กลับเข้าเรื่อง
คือรู้สึกแบ่บ wtf เราทำไรอยู่????????????
เวลาที่เสียไปก็มหาศาล ผลตอบแทนคือ joke
8ชม. ได้เงินไม่เท่าไหร่ ที่อายุ ~25
ตัวเลข 50,000.- ยัง joke ด้วยซ้ำ
นี่หลักแสนยันแทบจะล้าน ล้านก็มี
เราทำอะไรกันอยู่อะครับ? joke มาก
ไปเป็น Youtuber กันเถอะครับผม
(สำหรับคนที่ยังทำงานเพื่อเงินอยู่)