สวัสดีครับน้องๆ ก่อนอื่นเลยจริงๆ พี่ก็ไม่ใช่คนเก่งอะไรหรอกนะ บางคนอาจถามว่าเวลาตั้งนานมัวไปทำอะไรอยู่ ก็ต้องบอกเลยว่า ตอนนั้นจะเตรียมตัวสอบเข้าอินเตอร์ที่นึงนะ เตรียมตัวมาแบบ 9-10 เดือนเลยทีเดียวแหละ มันเป็นการสอบ SAT อะ คือตอนสอบรอบเดือนตุลาคม กว่าคะแนนจะออกก็ พฤศจิกาอ่ะ ละคะแนนของพี่รู้สึกว่าไม่ดีขึ้นเลย ก็เลยมีความรู้สึกท้อน่ะ ก็บอกเลย ไขว้เขวเหมือนกัน ก็คิดไม่ออกเลยจะเข้าไรต่อ แม่อยากให้เข้าวิศวะมาตั้งนานและ เราก็เลยแบบ เอาว่ะ!! สู้กันสักตั้ง ก็ไปซื้อหนังสือมาเยอะพอสมควรเลยแหละ ละก็ลงคอร์สเรียนนู้นนี่นั่น (เดี๋ยวหนังสือกับคอร์สเรียนแอดจะแปะไว้ให้คนที่สนใจนะ) ก็ต้องบอกเลยว่า สิ่งที่สำคัญคือ ต้องจัดตารางดีๆนะ ไม่งั้นมั่วซั่วไปหมด + กับอย่าไปคิดว่าเวลามันเหลือน้อย ให้คิดว่ายังไงก็ทัน มันดีอย่างนึงคือ เพื่อนของพี่นั้น ให้กำลังใจได้ดีมาก จริงๆกำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญนะ กว่าจะเริ่มเรียนพิเศษ ช่วงนั้นก็ต้นๆพฤศจิกาละ คือพี่ก็เป็นคนแบบไม่ได้ขยันมากนะ แต่ตอนนั้นแบบรู้สึกขยันมากก พี่จะแบ่งเป็นช่วงๆนะ ช่วงของการเรียนกับช่วงของการอ่านหนังสือ

ช่วงเวลา 2 เดือนแรก

วันเสาร์-อาทิตย์ เรียนตั้งแต่ 8 โมงยัน 6 โมงเย็น ส่วนวันธรรมดาก็ 4 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ทุกวันจนครบ 2 เดือนอะ 5555 (นึกย้อนไปก็แบบ ทำได้ไงวะ) ตารางของพี่นั้นก็ เรียนพิเศษ 2 เดือนให้จบทุกคอร์สเลย คือพี่ตอนเรียนเสร็จกลับบ้านมาไม่ได้ทบทวนเลยอะ ใครทบทวนไหวก็ดีนะ แต่พี่ไม่ไหวว แต่งานที่ครูที่เรียนพิเศษสั่งมาพี่ก็ทำจนหมดเลยนะ อันนี้ก็ต้องลำดับความสำคัญให้ได้นะ คือพี่อะ ไม่ได้ไปสนใจทั้งการบ้าน การสอบของโรงเรียนเลย คือพี่ว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับเราแล้วอะะ (คือตอนนั้นคิดได้แค่นี้) เวลาส่วนมากเราต้องมุ่งมั่นให้กับ PAT 3 (เกรดที่โรงเรียนช่วยให้ติดวิศวะจุฬาไม่ได้นะ5555 แต่ก็อย่าให้ติด 0 ร ละกัน) ทีนี้พอติวจนหมดก็

ช่วงเวลา 2 เดือนหลัง (ประมาณ 3 อาทิตย์)

ต้นเดือนมกราละ ก็ได้เวลาลุยละครับผมม โดดเรียนสิครับรอไร อ่านหนังสือเลย (คำนวณเวลาเรียนดีๆนะครับ เดี๋ยวจะ มผ) พี่โดดประมาณอาทิตย์ละ 1-2 วันได้ ตารางอ่านหนังสือของพี่ก็คือ วันที่ไปโรงเรียน พี่ก็จะรีบไปอ่านหนังสือ (อ่านนอกบ้านนะ อ่านในบ้านพี่ไม่ค่อยมีสมาธิ ใครอ่านในบ้านได้ก็จะดีมาก  (ไม่เปลืองเงิน + เวลาเดินทาง) เริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็น - 5 ทุ่ม (พักตอน 6 โมง - 1ทุ่ม นอกนั้นห้ามหยุดพัก) สำหรับพี่นั้นอังกฤษผมก็อยู่ในระดับโอเคนะ ก็จะอ่านแค่ PAT3 วิชาเดียว (ถ้าจะทำข้อสอบเก่า ทำอันที่มีเฉลยนะ ถ้าไม่มีเฉลยไม่มีประโยชน์) แต่ละชุดจะได้คะแนนมากหรือน้อยอย่าไปสนใจมาก เน้นอ่านเฉลยเป็นพอ (ย้ำว่าอย่าเหลวไหล) พี่ก็จะแบ่งเป็นเวลาเนอะ อาจจะ 3 ชมแรกทำ PAT3 เวลาที่เหลือทำ GAT (คือวิศวะจุฬามันใช้ PAT1 แค่ 20% พี่ก็เลยไม่ได้ไปสนใจไรมาก เรียกได้ว่าเท555555) พี่ก็ทำแบบนี้มาทุกวันเลยนะ

ช่วงเวลา 1 อาทิตย์ก่อนสอบ

พอเหลือ 1 อาทิตย์ก่อนสอบ ก็จะต้องมีการปรับเวลา ทั้งการอ่านหนังสือและการนอน อย่าให้หนักและหักโหมจนเกินไปเนอะ พี่ก็จะอ่าน PAT3 แค่เฉลยเนอะ (เหมือนเป็นการทวนๆวิธีทำ ให้รู้แนวการคิด) , ส่วน GAT eng จะท่องศัพท์ก็พอ ดู grammar , GAT thai ก็จะเอาข้อสอบเก่ามาทำสัก 3 วันสุดท้ายอะ วันละชุดพอ ทีนี้ก็จะถึงเวลาที่เราจะต้องทวน PAT1 ละ เดี๋ยวจะไม่มีคะแนนเอา 55555 พี่ก็แค่อ่านเนื้อหา+เฉลยอย่างเดียวเลย ไม่ได้ทำแบบฝึกเลยนะ คือมันไม่ทันอะ ใครที่เวลาเหลือเยอะ แนะนำให้ทำนะ ส่วนคนที่เวลาเหลือน้อยก็แนะนำให้เท (ทำ PAT3 ให้มากๆ)

3 วันสุดท้าย!!!!

บอกเลยว่าจะมีทั้งความกดดัน ความตื่นเต้น แนะนำให้จัดตารางเลย แล้วทำตามตารางอ่านหนังสือให้ได้ คือ PAT3 พี่ก็มีความมั่นใจมากละ ว่าจะต้องทำได้ จากการฝึกฝนมาหลายๆเดือน ส่วน GAT พี่ก็ค่อนข้างโอเคละ ก็จะเหลือแค่ PAT1 อะที่มันเป็นปัญหา (เรื่องนี้ไม่อยากแนะนำนะ คือเวลาเหลือน้อยแล้วจริงๆ ก็ไปดูเทคนิคการเดาข้อสอบมาด้วยก็ดีนะ) อ่านวิธีทำเฉลยอย่างเดียวนะ ทุกวันเลย ละจะเห็นว่ามันเป็นแนวเดิมๆ เจอแบบนี้ต้องทำแบบนี้ พอทำ PAT1 เสร็จก็อ่านเนื้อหา PAT3 ด้วย ทุกวัน อย่าให้ลืมสูตร จนถึง 1 วันสุดท้ายก่อนสอบ มีแต่คนบอกว่าไม่ควรอ่านหนังสือ แต่พี่ทำไม่ได้จริงๆ ใครทำได้ก็ลองนะ แต่พี่ก็อ่านน้อยลงมากๆ คือเหลือแค่วันละ 3-4 ชม.เท่านั้น แล้วก็หาเกมส์เล่นเนอะ ก็อย่านอนดึกมากล่ะ อีกวันตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น

@@@@@@  วันสอบ  @@@@@@

คือ ก็ต้องบอกว่า พี่ลงโรงเรียนที่มีแอร์ไม่ทันนะ ได้แต่โรงเรียนพัดลม สำหรับพี่แล้วนั้นก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีผลนะ คิดว่าดีด้วยซ้ำ คือมันไม่ง่วงอะ ถึงแม้จะร้อนหน่อยก็ทนเอา น้ำดื่มก็สำคัญนะ เอาเข้าห้องสอบด้วย (เขาไม่ได้ห้าม) อย่าฟลุบหลับนะ เดะยาว

ก็จบกันไปละ เป็นไงบ้างงง ต่อจากนี้จะมาแนะนำหนังสือ + คอร์สเรียนเนอะ (พี่ไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์นะ 55555)
เริ่มจากคอร์สเรียนก่อนเลย
 - PAT1 พี่เรียนของ the tutor เนื่องจาก เนื้อหาในการเรียนน้อยดี (ประมาณ 100 ชม.)
 - PAT3 พี่เรียนของ ondemand อันนี้ต้องยอมรับว่าดีจริง
 - GAT นั้นเรียนแค่ GAT thai ไม่บอกสถาบันแล้วกันน แต่แนะนำให้อ่านเอง คือมันไม่ยากครับผมม เรียนไปเสียเวลาเปล่าๆ ได้เต็มอยู่ละ สำคัญที่ความรอบคอบ

ต่อมาจะเป็นหนังสือเนอะ
ก็ต้องบอกว่า เรียนมามากแค่ไหน ไม่เคยทำด้วยตัวเองเลย ก็ไม่มีประโยชน์

เริ่มจาก PAT1 แอดทำเล่ม
- หัวใจคณิตศาสตร์ ม.ปลาย หน้าปกเป็นรูปไพ่ อันนี้ส่วนมากจะเป็นเนื้อหา เอาไปทบทวนนะครับ
- ความถนัดทางคณิตศาสตร์หน้าปกเป็นรูปลูกเต๋า อันนี้จะเฉพาะทางหน่อยนึง จะเป็นแนวของ PAT1 โดยตรง ก็เปิดอ่านเฉลยอย่างเดียว
ทั้งสองเล่มเป็นของ อาจารย์ณัฐ อุดมพาณิชย์

ต่อมาก็ PAT3 ของเราละะ
- engineering sense เล่มสีดำ ต้องบอกเลยว่า ดีมากๆ เล่มนี้จะมีระดับความยากของข้อสอบจากง่ายไปจนยาก ทำให้หมดนะ!!
- engineering sense 2 อันนี้จะเป็นภาคต่อจากเล่ม 1 จะมีแต่ส่วนที่เป็น advanced อย่างเดียว (ค่อนข้างยากเลย) ทำไม่ได้อย่าเครียดครับ อ่านเฉลยดูแนวอย่างเดียว

ต่อมา GAT นะ (แนะนำให้เก็บให้ได้เยอะๆ)
- GAT thai พี่ทำเล่มของ อ.ขลุ่ย โคตรดีครับ บอกต่อ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนเลย
- GAT eng พี่ทำเล่มของ ดร.ศุภวัฒน์ พุกเจริญ เล่มสีแดงๆ ก็ดีไหมไม่รู้ แต่ผมทำแค่เล่มนี้เล่มเดียว

เดี๋ยวอันนี้จะบอกวิธีทำคะแนนนะ
เริ่มจาก PAT1 คือมันค่อนข้างยากทีเดียว เอาซัก 100/300 คะแนน ก็โอเคแล้ว
PAT3 อันนี้สำคัญมากจริงๆ ทำให้ได้ 200++/300 เลย
GAT เปอร์เซนต์คะแนนมันเท่า PAT1 เลยนะ อย่าให้พลาด เก็บให้ได้เยอะๆ ยิ่ง GAT thai ควรจะเต็ม อันนี้ก็ควรทำให้ได้ 250/300

มาคำนวณกันดูนะ ทำได้ตามนี้ก็ได้ 19xxx ละ ก็น่าจะติดละนะ

ส่วนคะแนนที่พี่ไปสอบมาเนอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้PAT1 ได้ 188/300
PAT3 ได้ 226/300
GAT ได้ 272.5/300

อ่านจบแล้วเป็นไงกันบ้าง อย่าพึ่งท้อนะ คนที่เวลาเหลือน้อยกว่าคุณก็ยังมี สำคัญที่ต้องสู้เนอะ!!

**หมายเหตุ** มันเป็นความคิดของพี่นะ เรื่องโดดเรียน ไม่ทำการบ้านที่รร ส่งไรพวกนี้5555555
**หมายเหตุ** เพิ่งเขียนกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ