เปิดกระเป๋าเด็กเทคนิคเยอรมัน แชร์ประสบการณ์ Dual-Ausbildung

สวัสดีค่ะ

เอิงเรียน Industriemechanikerin และฝึกงาน Werkzeugkonstruktion Ingenieurin จากโครงการช่วยเหลือ Migrant ที่จบปริญญาจากต่างแดนและได้รับการ Anerkennung จาก ZAB หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่จบมา (เอิงจบวิศวกรรมศาสตร์ ต้องได้รับการรับรองจาก Regierung von Schwaben ถึงจะเรียกตัวเองว่าเป็น Ingenieur ตามภาษาเยอรมันได้) ควบคู่ไปด้วย วันนี้มาแชร์ว่าเด็กเทคนิคที่นี่เรียนอะไรบ้าง และการเรียนระบบ Dual-Ausbildung ของเยอรมันเป็นอย่างไร

มาทำความรู้จักกับ Dual-Ausbildung

ที่เยอรมันมีอาชีพให้ทำ Ausbildung กว่าสี่ร้อยอาชีพ หลังจากจบ Ausbildung แล้ว ก็สามารถเรียนต่อเพื่อเป็น Meister หรือ Techniker ได้ ระบบ Dual-Ausbildung เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตราการว่างของหนุ่มสาวชาวเยอรมันต่ำมาก คนวัยหนุ่มสาวได้เรียนรู้การทำงานในสถานประกอบการ โรงงาน บริษัท ห้างร้าน โดยเรียนจาก Meister หรือเพื่อนร่วมงานที่มีความชำนาญในสาขานั้นๆ โดยตรง ควบคู่ไปกับการศึกษาภาคทฤษฎีในโรงเรียน

ปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือ

เยอรมันประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในอาชีพครู หมอ พยาบาล ซึ่งทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว

อาชีพด้านเทคนิคตอนนี้ก็กำลังเป็นที่ขาดแคลนในเยอรมัน แม้ว่าการทำ Ausbildung อาชีพด้านเทคนิคจะได้เงินค่าตอบแทน (Ausbildungsvergütung) สูงกว่าอาชีพอื่น แต่ก็ไม่ได้จูงใจหนุ่มสาว Gen Y เท่าไหร่นัก เนื่องจากงานหนักมากและเรียนหนักด้วย เพราะฉะนั้นคนจบอาชีพสายเทคนิคไม่ต้องกลัวตกงาน นายจ้างยินดีจ้างต่อเมื่อเรียนจบ อย่างเช่นที่บริษัทเอิงตำแหน่งทางเทคนิคว่างหลายตำแหน่ง ออเดอร์เยอะมาก ตอนนี้ทั่วโลกต้องการสินค้า Made in Germany มากเป็นพิเศษ ทำกันแทบไม่ทัน เป็นที่ปวดหัวกับฝ่ายบุคคลมากที่ไม่สามารถหาคนมาทำงานได้ ปกติ Ausbildung ด้านเทคนิคใช้เวลาเรียนสามปีครึ่ง แต่หัวหน้าเอิงขอร้องคนที่ผลการเรียนดีให้เรียนสามปี จบเร็วๆ จะได้มาทำงานเร็วๆ หุหุ นอกจากนี้ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเฉพาะบริษัทเอิง เนื่องจาก 80% ของ Azubi ที่บริษัทเอิงจบ Abitur หรือ Facharbitur มาก่อนทำ Ausbildung ดังนั้นหนุ่มสาวเหล่านี้เรียนต่อ Bachelor of engineer หรือต่อ Techniker กันหมดค่ะ เอิงก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้ทำงาน Ingenieur หลังจากจบ เอิงถามหัวหน้าทำไมรับแต่คนจบ Abitur ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไปต่อกันหมด หัวหน้าบอกว่าไม่รับ Mittelschule เพราะเรียนไม่ไหว คำนวณคิดวิเคราะห์เยอะ เคยรับมาแล้วเรียนไม่จบ เด็กที่จบ Realschule ก็ต้องเคี่ยวเข็นหนักมาก จบบ้างไม่จบบ้าง เด็กจบ Abitur หัวหน้าสบาย ไร้เรื่องปวดหัว เพราะเด็กมีความรับผิดชอบสูง เรียนจบชัวร์ หลังจากนั้นถ้าเด็กไม่ทำงานต่อก็เป็นเรื่องของฝ่ายบุคคล หุหุ (การเมืองในบริษัทแถบนี้เข้มข้นมากค่ะ)

การเรียน Industriemechaniker เอิงไปทำงานแปดวันไปเรียนสามวันสลับกับไป (ไม่นับเสาร์-อาทิตย์) ช่วงปิดเทอมก็ไปทำงาน ลาพักร้อนได้ 30 วัน ลาพักร้อนพิเศษ (ใช้โอที) ได้ 10  วัน ที่บริษัทมีโบนัสเรียนดีให้ด้วย และ Azubi ได้ Weihnachtgeld 50% ของเงินเดือน เวลาทำงานก็เป็นแบบ flexibel คุณจะทำตอนไหนก็ได้ตั้งแต่ 6-18 น. แต่ในหนึ่งสัปดาห์ต้องทำงาน 40 ชั่วโมง ซึ่งหรูมากสำหรับ Azubi ขนาดบริษัทให้โปรโมชั่นมากขนาดนี้ ยังไม่ค่อยมีคนเรียนเลยค่ะ

เรียนอะไรที่ Berufschule

อาชีพ Industriemechaniker ต้องเรียนวิชาต่างๆ ดังนี้

Automatisierungstechnik เรียนเกี่ยวกับ CAD Pneumatik SPS Steuerung และ Regelung

Bauelemente เรียนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของส่วนประกอบเครื่องจักร เช่น เพลา แบริ่ง เบรก

Fertigungstechnik เรียนเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตด้วยเครื่องจักร konventionellen เครื่องจักร CNC การประกอบ วัสดุศาสตร์ และ QS

Instahaltung เรียนเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องจักร และความปลอดภัยในการทำงาน

Sozialkunde เรียนเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน กฏหมายครอบครัว ระบบประกันสังคม ประกันสุขภาพ ระบบบำนาญ รัฐธรรมนูญ การเมือง เศรษฐกิจ และโครงสร้างสังคม

ภาษาเยอรมันกับจริยธรรม คนที่จบ Abitur ไม่ต้องเรียน เอิงโชคดีเทียบวุฒิได้ตามหลักสูตรของเยอรมันเลยไม่ต้องเรียน

ที่โรงเรียนจะเปิดเทอมเดือนกันยายนปิดเดือนกรกฎาคม การสอบก็จะสอบเก็บคะแนนเรื่อยไป สอบใหญ่วิชาละสองครั้งต่อเทอม

การสอบถ้าเป็นเรื่องคำนวณนี่ง่ายมากสำหรับเอิง แทบไม่ต้องอ่านทวนเลย เพราะคณิตศาสตร์เป็นภาษาสากล แต่บางวิชาต้องอ่านหนักมากเพราะข้อสอบเป็นข้อเขียน เขียนตอบสี่ห้าหน้าเป็นภาษาเยอรมัน เอิงได้เกรด 1-2 ทุกวิชา (เกรด 1 ดีเยี่ยม เกรด 6 แย่ที่สุด)

ตัวอย่างเนื้อหาที่เรียน จดย่อเตรียมสอบ


เด็กช่างที่นี่แบกกระเป๋าหนักมากค่ะ หนังสือเรียนทุกวิชา เพราะวันนึงเรียนสี่ถึงห้าวิชา สมุดจด กล่องข้าว แถมของเอิงต้องแบกหนังสือเรียนภาษาเยอรมันด้วย

กระเป๋าของเอิง


ที่ทำงาน

เอิงเรียนสาขาย่อย Feingerätebau ก็จะเน้นเรื่อง Vorrichtung สี่เดือนเเรกเป็นงานโลหะพื้นฐาน (ตะไบ เจาะ เลื่อย ตัดเกลียว) จากนั้นพอผ่านโปรแล้วก็เริ่มทำงานจริง ในแผนก Vorrichtungsbau เป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้นจะถูกส่งไปทำงานแผนกต่างๆ ด้านเทคนิค แผนกละสามเดือน จนกว่าจะเรียนจบ งานที่แผนก Vorrichtungsbau สนุกมาก Azubi จะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบโปรเจคตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่อ่านแบบ จัดหาวัสดุ ขึ้นรูปงาน ประกอบ ทดลองว่าใช้งานได้จริงมั้ย ระหว่างนี้ถ้ามีปัญหาเราจะไปคุยกับ Ingenieur/Techniker โดยตรงและร่วมกันแก้ปัญหา บางครั้งเป็นงานแก้ไขปรับปรุงเอิงจะได้ออกแบบเองด้วย ส่วนโปรเจคใหม่ Ingenieur เป็นคนออกแบบ

นอกจากนี้ที่ทำงานยังส่งไปอบรมตามศูนย์ฝึกอบรมต่างๆ ปีที่แล้วเอิงไปอบรมเรื่องเกียร์และการหล่อลื่น ที่ TU München ปีนี้เอิงมีอบรม CNC กับ CAD ปีหน้าอบรม SPS และ SAP บริษัทจ่ายค่าอบรมให้ทั้งหมด คอร์สละ €500-1000 ซึ่งแพงมากสำหรับชนชั้นกลางอย่างเรา นอกจากนี้ยังจ่ายค่าโรงแรมและค่าน้ำมันรถให้อีกด้วย

การสอบ IHK

IHK Bayern เป็นผู้จัดสอบ มีการสอบสองครั้ง เรียกว่า Abschlussprüfung Teil 1 จัดสอบตอนปีสอง คิดคะแนน 40% ข้อสอบภาคทฤษฎีใช้เวลา 90 นาที เขตที่เอิงอยู่สอบพร้อมกันทั้ง Oberbayern สอบรวมกันพันกว่าคน จัดสอบใน Messe Halle จากนั้นสัปดาห์ต่อมาสอบปฏิบัติ ซึ่งจัดตามสถานประกอบการ มีผู้เข้าสอบแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-20 คน ใช่เวลา 6.5 ชั่วโมง ข้อสอบให้เราสร้างเครื่องจักรเล็กๆ ซึ่งเราต้องขึ้นรูปงาน ประกอบ และต่อเข้ากับวงจร Pneumatik เปิดสวิตช์กดปุ่มใช้งานได้ตามที่โจทย์กำหนด

ส่วน Abschlussprüfung Teil 2 จะสอบตอนปีสาม

ตัวอย่างข้อสอบปฏิบัติ (ยืมมาจากอินเตอร์เน็ต)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ประโยชน์ของการทำ Ausbildung

หลายคนงงถามเอิงว่าจบปริญญาโทมาทำ Ausbildung ทำไม

ถึงแม้ว่าบริษัทที่เยอรมันไม่กีดกันคนต่างชาติ แต่การที่จะทำงานได้ต้องพูดภาษาเยอรมันสื่อสารได้เข้าใจดีโดยเฉพาะตำแหน่งที่ต้องสื่อสารกับหลายฝ่าย

Ausbildung ช่วยให้เอิงก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรม และให้โอกาสเอิงได้ไต่เต้าในตำแหน่งต่างๆ ต่อไป ทำให้เอิงได้เริ่มทำงานในสาขาที่เราได้เรียนและทำงานมาจากเมืองไทย มีโอกาสแสดงฝีมือ ฝึกความมั่นใจ (เอิงเป็นคนหัวดี แต่ไม่มั่นใจในตัวเอง ซึ่งเสียเปรียบชาวเยอรมันที่กล้าพูด วิจารณ์ กล้าแสดงออก) เรียนรู้วัฒนธรรมการทำงาน เรียนรู้ขั้นตอนการทำงาน สานสัมพันธ์กับบุคคลต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม (ที่ Bayern วิตามินบีจำเป็นค่ะ)

ทำให้เราไม่ว่างงานนานๆ เพราะยิ่งว่างงานนานยิ่งหางานยาก หรือหากทำงานพาร์ทไทม์จะกลับมาทำงานเต็มเวลาก็ยากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น บรรดาแม่ๆ ชาวเยอรมัน หลังจาก Elternzeit จะทำงานกันสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง หลังจากลูกเข้าสู่วัยรุ่น จึงมีเวลาว่างมาก อยากทำงานเต็มเวลาเพื่อที่จะมีรายได้เพิ่ม มีเงินเกษียณเพิ่ม แต่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลับเข้าสู่วงจรปกติ

ทำให้เรามีเวลาไปเรียนภาษา ตอนนี้เอิงเรียนระดับ C1 ตอนเย็นหลังเลิกงานสัปดาห์ละหกชั่วโมง เป็นรอบที่สองแล้ว เนื่องจากรอบแรกไม่แน่นพอที่จะสอบ การทำ Ausbildung ไม่เครียดเหมือนการทำงานประจำปกติ มีเวลาว่างเยอะ ทำให้เราได้ใช้เวลาว่างไปเรียนภาษา หรือออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกับครอบครัว

พอจบมาเราก็มีทั้งประสบการณ์การทำงานในเยอรมัน ประกาศนีบัตร C1 และประกาศนียบัตรจากการอบรมต่างๆ พร้อมที่จะสมัครงาน พร้อมสู่ตลาดแรงงาน มีโปรไฟล์ที่ดีสามารถแข่งขันกันชาวเยอรมันได้ ซึ่งตอนนี้เอิงได้ฝึกงานวิศวกรรม Werkzeugkonstruktion สัปดาห์ละสามชั่วโมง ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า อนาคตการกทางสู่อาชีพวิศวกรในเยอรมันของเราไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

สำหรับแม่บ้านต่างแดนอย่างเราชีวิตต้องพึ่งพาสามีทำให้รู้สึกอึดอัดใจไม่เป็นปัจเจก เครียด เหงา คิดถึงบ้าน การมีงานทำช่วยให้เราปรับตัวเข้ากับสังคมเยอรมันได้เร็วขึ้น ไม่รู้สึกว่าแปลกแยก สามีและครอบครัวสามีให้ความเคารพ ให้เกียรติเรา

ปัญหาลดลง เพราะเราไม่ต้องพึ่งพาสามีตลอด แถมยังเป็นที่พึ่งเป็นคู่คิดให้สามีได้

ประเทศเยอรมันสำหรับเอิงน่าอยู่มาก อากาศดี การคมนาคมสะดวก สินค้าอุปโภคราคาไม่แพง ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย มีความเป็นปัจเจกสูง แต่ก็มีน้ำใจ ขนาดเอิงเป็นคนชั้นกลางที่เมืองไทย มาจากครอบครัวที่มีการศึกษาสูง แม่เอิงจบปริญญาเอกเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เอิงไม่ต้องขวนขวายมาก ครอบครัวสนับสนุนทุกอย่าง ยังรู้สึกว่าคนชั้นกลางที่เยอรมันมีคุณภาพชีวิตดีกว่าเมืองไทยมาก เอิงพึ่งอยู่ที่นี่ได้สามปี ถ้าให้กลับไปอยู่เมืองไทยคงไม่กลับค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องมีงานที่มั่นคงจะได้อยู่ที่นี่ได้อย่างไม่ลำบาก

เรื่องเล่าขำๆ ระหว่างเรียนและทำงาน

เพื่อน Azubi ถามเอิงว่านี่เธอๆ เวลาเธอไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคชเชียร์ขอดูบัตรไหม เอิงขำก๊ากเลยค่ะ หน้าฉันมัน U-18 มากขนาดนั้นเลยหรือ (ฉันหน้าสดตลอดเวลา ไม่เคยแต่งหน้าเลย)

เพื่อน Azubi ถามว่าเธออยู่กับพ่อแม่หรือเปล่า หรือออกไปเช่า WG/Wohnung อยู่เอง ฉัน/ผมอยากย้ายออกจากบ้านพ่อแม่แต่ไม่มีเงินเช่า Wohnung ที่มิวนิคและรอบๆ ค่าเช่าแพงมาก เอิงก็ตอบไปว่าเอิงอยู่กับครอบครัว ไม่มีตังค์เช่า Wohnung เหมือนกัน (แต่ตอนนี้รู้กันหมดแล้วว่าเอิงอยู่กับสามีและไม่ใช่เด็กวัยรุ่น หุหุ)

เวลาเพื่อนร่วมงานไปเที่ยวเมืองไทยต้องมารายงานเอิงทุกคน พอกลับมาจากเมืองจะรีบมาหาเอิงกัน และโม้ให้เอิงฟังว่าไปไหนมาบ้าง

คราวหน้าถ้าเอิงว่าง จะมาเขียนเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกงานด้านวิศวกรรมค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่