สวัสดีจ้าาาาา ไม่ได้เขียนรีวิวมานานมากกกก ครั้งก่อนหน้า คงเป็นรีวิวงานแต่ง ตอนนี้ลูกสองแล้วจ้า
วันนี้อากาศดี (ร้อนจะแย่) เลยอยากจะมาแชร์ทริปร้อนๆ สลัดผ้าผ่อน นอนแช่น้ำกลางมหาสมุทรอินเดียซะหน่อย
"หวิวไปมั้ยแม่" ลูกกระตุกชายผ้าถุง >"< เพิ่งกลับมาอาทิตย์ที่แล้ว ผิวกำลังเริ่มลอกคราบเลย ฮือออ
เข้าเรื่องละกัน (ซะที) มัลดีฟส์ทริปนี้ เดินทางกันแบบครอบครัวหรรษา พ่อแม่ และลูกน้อยๆ (สี่ขวบ และหนึ่งขวบครึ่ง)
โอ้โห โอ้โห เด็กมากกกก พาไปทำเพื่อ ขัดจังหวะฮันนีมูนรอบสี่ห้าหกของพ่อแม่หมด ฮึ่ยย
แต่เคยไม่พาไปด้วย แล้วเหงาเท่าอวกาศเลยอ่ะคุณขา ปกติเราก็จะกระเตงกันไปทั้งแฟมิลี่ ขึ้นเหนือล่องใต้ ไปต่างประเทศ
อย่าไปกังวล ว่าเค้าจะเด็กไป จำอะไรไม่ได้หรอก อย่างน้อย เราจำได้ โอเคล่ะ
(เคยพาคนโตไปญี่ปุ่นตั้งแต่สองขวบ แน่นอน วันนี้นางบอกว่า ไม่เคยไปเลยยย แม้เราจะงัดหลักฐานรูปถ่ายมาให้ดู ก็มินำพา)
Maldives with Kids ระยะเวลา 4 วัน 3 คืน (15 - 18 มี.ค.)
โดยสารเครื่องบินบางกอกแอร์ พัก Anantara Dhigu
Fully Funded จากป่ะป๊า (หยิกแก้มสามที พร้อมมอบโล่ห์ มง และสายสะพาย)
พร้อมนำทุกท่าน แช่น้ำคลายร้อนไปพร้อมๆกันแล้วค่าาาา
:: Day 1 :: ออกเดินทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 09.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยสายการบินบางกอกแอร์ (แลกไมล์มา ดี๊ดี)
ขอชาบู ชาบู ชาบู สายการบินนี้ในการดูแลเด็กๆดีมาก แม่จองได้แถวหน้าสุด ติด basinest เพื่อให้เด็กน้อยได้มีที่ยืดแข้งขา
เพราะใช้เวลาเดินทางกันยาวๆ 5 ชม. นึกแล้วยังเมื่อยอยู่เลย ลูกเรือใส่ใจเด็กๆมาก เอาสติ๊กเกอร์มาให้ ขนม อาหาร คอยถามตลอด
แม่กำลังป้อนนมอยู่ มีเอาหมอนมารองแขนให้ (อันนี้ซึ้งจริง) คือเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ลูกเรือใส่ใจ
// การเดินทางครั้งก่อนหน้านี้กับสายการบินอื่น เด็กมีอาเจียน แม่ขอทิชชู่ ยังโดนเมิน ชั้นขอโทษ อย่าห่างเหินกันแบบนี้ ได้ม้ายยย
เวลาที่มัลดีฟส์เร็วกว่าไทยแลนด์ 2 ชั่วโมง อากาศร้อนถึงร้อนกว่ามาก สนามบินนานาชาติ ขนาดกะทัดรัด มีร้านรวงอาหารให้เลือกกินพอประมาณ
แต่ขบวนของดิฉันคว้าอะไรไม่ทันเลย ออกจากประตูแล้วพนักงาน Anantara ก็มาคว้าตัวไปทันที เพราะเรือจะออกแล้วจ้าาา ชาวบ้านเค้ารอเธออยู่
มาซิมา ชักช้าอยู่ไย ไปก็ไปค่ะ


Anantara Dhigu อยู่ไม่ไกลจากสนามบินมาก สามารถเดินทางโดย Speed Boat ได้ ประมาณ 35 นาที
โดยจะแวะส่งผู้โดยสายที่ Anantara Veli ก่อน (รีสอร์ทส่วนตั๊ว ส่วนตัว สำหรับคู่รัก ฮันนีมูนเท่านั้น !!) ห่างกันจิ๊ดเดียว
ก่อนลงเรือ พนักงานจะแจกเสื้อชูชีพให้ทุกคน มิต้องกังวลใจไป มี Size สำหรับผู้ใหญ่ และเบบี้น้อย
ตัดภาพ มาถึงเกาะเลยละกัน มีการตีกลองต้อนรับพอเป็นพิธีสวยงาม (แม่ถ่ายรูปไม่ทัน แม่เมาหัว)
ผ่านขั้นตอน check-in แนะนำสถานที่ พอดีมีพนักงานคนไทยด้วย (ชื่อคุณโบว์) มาช่วยเหลือเป็นอย่างดี จัดแจง ดูแล ช่วยจองทุกอย่าง
เพิ่งมารู้วันหลังๆว่า นางท้องได้ห้าเดือนแล้ว แต่พาเดินซะรอบเกาะ นึกแล้วเอ็นดูนาง หอบใช่เล่น ขอบคุณอีกครั้งมา ณ ที่นี้ค่ะ
เมื่อมากับเด็ก ปิดความคิดที่จะนอน Atoll กลางน้ำใสๆไปเลยค่ะ มีหวังได้เห็นเด็กว่ายน้ำกับปลาฉลามเป็นแน่
เลือกนอนบนบกสิคะคุณขา ได้มีหาดทรายกว้างๆ ให้เค้าวิ่งเล่น ปลอดภัยหายห่วง (แม้ใจแม่จะลอยไปอยู่กลางน้ำแล้วก็ตามกระซิกๆ)
เราเลือกห้องฝั่ง Sun rise อยู่ใกล้ Kids club และห้องอาหาร ส่วนอีกฝั่ง ก็เป็น Sun set ใกล้สระว่ายน้ำ และหันหน้าออกมหาสมุทร ไม่มีเกาะใดๆบัง
เปิดห้องมา ก็โอ้โห โอ้โห นี่หรือบางกอก ผิดกับบ้านนอกตั้งหลายศอกหลายวา // ผิด
พนักงานก็ตั้งใจประดิดประดอยเหลือเกิน

ในส่วนของเบบี้นั้น มีเตียงเสริมให้สำหรับคนโต และคอกน้อย ของตัวเล็ก (ไม่ได้ขอ แต่เค้าจัดให้ ดี๊ดีอ่ะ) พี่คนโต ก็มโนไปเลยว่า พี่โตมากแล้ว
พี่มีเตียงนอนของตัวเอง กลับบ้านมาก็จะขอแยกห้องนอนซะให้ได้ อย่าเพิ่งรีบเลยลูกกกกก แม่ยังไม่พร้อม

ส่วนห้องน้ำน้านนน ขุ่นผู้ชมคะ หนักกว่าห้องนอนอี๊กกกก Open-air ไปเลยยย อาบน้ำเย้ยแสงจันทร์ อายกระต่ายบนนั้นเป็นที่สุด
โรงแรมมีความใส่ใจเด็กน้อยด้วยนะ เตรียมเครื่องอาบน้ำของเด็กไว้พร้อม จะครีมจอห์นสัน โลชั่นเบบี้มายด์ ฟองน้ำขัดตัว มีครบ
คุณแม่มิต้องหอบหิ้วสิ่งใดไปให้เหนื่อยแรง แม้ดาวหรือเดือนก็มีให้ เพราะทางเราได้ถามหาไมโครเวฟ ซึ่งไม่มีในห้อง
พนักงานก็ไปยกไมโครเวฟมาให้จ้า และที่สำคัญ
น้ำขวด มีบริการให้ฟรี ไม่จำกัด ย้ำ ไม่จำกัด ดังนั้น ไม่ต้องหอบน้ำไปเด้อออ
ขนเสบียงไปก็พอ ขนมเด็ก อาหารเด็ก เตรียมให้พร้อม เพราะเรากำลังติดเกาะของจริง บ่มี 7-11 นะสูเจ้า แม้มีของโรงแรมก็อาจมิถูกใจ

จัดแจงแกะกระเป๋า เตรียมออกสำรวจพื้นที่ ทันใดนั้นเองงงงง นึกขึ้นได้ ถุงที่ซื้อจากคิงส์พาวเวอร์หายไปไหนนนน
สั่นเลยทีนี้ นั่งย้อนดูรูปถ่าย จุดสุดท้ายที่เจอ คือก่อนขึ้นเลย แล้วภาพจำก็ตัดไป รีบมาแจ้งให้คุณโบว์ (พนักงานคนไทย) ช่วยหา
เสียเวลาไปตลอดทั้งบ่ายกับการหาของ ซึ่งไม่รู้พลาดไปยังไง อาจเป็นก่อนลงเรือ แล้วยื่นให้พนักงานช่วยถือไว้ หรืออะไรไม่รู้
สุดท้าย พบว่า ถุงนั้นอยู่ที่ Lost&Found ที่สนามบินมาเล่ ทางโรงแรมจะส่งมาให้ ในเรือเที่ยวถัดไป คือ คุณพระคุ้มครองสุดๆ
นึกว่าจะได้นั่งนับเม็ดทรายพร้อมน้ำตาซะแล้ว ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่านอีกครั้ง / กราบ
ข้ามมาอาหารเย็นเลยละกันค่ะ เราเลือกห้องอาหารญี่ปุ่น ที่ฝั่ง Veli ต้องนั่งเรือข้ามฝากมา (ฝั่ง Veli อนุญาตให้เด็กข้ามมาทานอาหารได้หลังหกโมงครึ่ง)
เราคิดว่า ที่นี่เป็นเกาะ อาหารทะเลต้องสด เลยเลือกจะกินซูชิ (คิดว่าเป็น Best Choice จากตัวเลือกห้องอาหารทั้งหมด) แต่ก็ต้องบอกว่า Zen อร่อยแล้วหล่ะ 55555 และอีกอย่างเวลาMaldives เร็วกว่าไทย 2 ชม. ในวันแรกนั้นเด็กๆก็ยังปรับตัวกันไม่ได้ เวลาอาหารเย็นก็ล่วงเลยเป็นเวลานอนเข้าไปแล้ว
มีความวอแวสูงมาก เมื่อเด็กวอแว อะไรก็ไม่อร่อย กลับค่ะกลับ // แนะนำว่า ในวันแรกนั้น ทานข้าวที่ห้องดีกว่า 555
มีอีกหนึ่งเซอร์ไพร์จากโรงแรม พอกลับจาก dinner ทางเราพบขวดไวน์แช่เย็นไว้ที่ห้อง // แหม สามีจะมอมชั้นเหรอ บ้าหน่า ลูกมาด้วยนะ
Complimentary จ๊ะ ด้วยเพราะอะไรไม่รู้ แต่แถมให้ ทางเราก็สนองไว้ ไม่ให้เสียของ ฮี่ฮี่
:: Day 2 :: บ้านเราอยู่ฝั่ง Sun rise ก็ต้องออกมารับแสงแรกซิคะขุ่นผู้ชม นี่ก็ยังปรับตัวไม่ได้ พากันตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้า เวลามัลดีฟส์
โอย แม่เพลียมากก

น้ำใสมากกกกก เจอนีโม่แต่เช้า ว่ายเร็วจนจับภาพไม่ทัน

และทั้งวันนี้ เราหมดไปกับการเล่น Kids Club ซึ่ง ซึ่ง ซึ่ง มีตารางกิจกรรมให้เล่นเยอะมาก มีพนักงาน คล้าย nanny สองคนคอยดูแล
มีทั้งกิจกรรม Indoor (วาดรูประบายสี ศิลปะ Board game) และ Outdoor (ฟุตบอล ชิงช้า) และมีบางกิจกรรมต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น นั่งเรือกระจก (35 USD) ช่วงวันที่ไป พอจะมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่บ้าง เด็กๆ ก็วิ่งวน อยู่กับ Kid Clubs ทั้งวัน
และเด็กสองคนนี้ก็ซนไม่น้อย เล่นชิงช้าแล้วหงายหลัง แผ่นไม้ที่นั่ง ปะฉะดะกับหน้าผากเต็มๆ พี่ nanny รีบหาเจลเย็นมาประคบ
เร็วกว่าที่แม่จะตั้งสติได้อีก หนึ่งบาดแผลถือว่าได้มาถึงแล้ว
อ่ะอีกเรื่องสำหรับเด็ก คือ อาหารของเด็ก ให้บริการฟรี ย้ำ ฟรี เมื่อสั่งคู่กับอาหารของผู้ใหญ่ มีเด็กสองคนก็สั่งได้สองที่ แม้ตัวเล็กจะกินได้แค่กระแบะมือ

ใกล้ๆกับ Dhigu จะมีเกาะเล็กๆ เรียกว่า Picnic หรือ Gulhifushi เป็นที่ดำน้ำตื้น จะเดินไปจากทาง Atoll ก็ได้ หรือนั่งเรือไปก็สะดวกดี
มีบาร์น้ำเล็กๆด้วย ไม่ต้องกลัวอด

พร้อมแล้ว ดำเลยยยย // ตัวดำเลย

คำเตือน: พกครีมกันแดดสำหรับเบบี้ไปด้วยเน้อ ทาซ้ำทุกชั่วโมง และดื่มน้ำเยอะๆ ร้อนกว่าทะเลบ้านเราเยอะะะ
นึกแล้วแสบหลัง ดาเมจรุนแรงเหลือเกินคุณขา
:: Day 3 :: เหตุการณ์เริ่มเข้าที่ เราจะวนลูป ว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นทราย เล่น Kids Club กันอีกครั้ง
มากับเด็ก อย่าไปคิดอะไรเยอะค่ะ อะไรที่เค้าแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ (คล้ายๆ อะไรที่เค้าว่าดี เราก็ว่าดีนั่นแหละ)
กิจกรรมของโรงแรมเค้ามีเยอะมากนะ ดำน้ำลึกกับวาฬ Dolphin Quest Water Sport อื่นๆอีกมากมาย ทักทายไปได้
สนนราคาที่แตกต่างกัน และหนักพอควร คิดเป็น USD
ลืมเรื่องอาหารเช้าไปเลย ข้าเจ้าซื้อแพคเกจที่ได้เฉพาะอาหารเช้า ก็ต้องจัดอาหารแบบอิ่มไปถึงเย็น 555 เว่อร์มาก
อาหารของนางก็แกรนด์อยู่นะ หาว่าไป มีครบทุกสัญชาติ เลือกได้ตามความชอบใจ
(ชอบ Spinch กับข้าวต้มสุดล่ะ กินเมนูเดียวซ้ำกันทุกวัน // บ้าจริง เสียงเจ้าหญิงดิสนีย์)
No ภาพประกอบใดๆ ไม่เคยถ่ายทัน วุ่นวายกับการป้อนข้าวเด็ก ก็เกินพอล้าวว
:: Day 4 :: เตรียมแพคกระเป๋ากลับบ้านแล้วจ้า เฮ้ย ยังไม่ไปถึงชิงช้ากลางน้ำ ที่เป็น Landmark ของที่นี่เลยนะ
ได้แต่มองตาปริบๆอยู่ทุกวัน คิดแผนอยู่นั่น จะไปยังไงให้ถึง จะเดินข้ามไป หรือว่ายน้ำไป หรือคายัคไป
เช้านี้ ตัดสินใจ แต่งตัวเด็กให้พร้อม แล้วลุยเลย

เห็นชิงช้าลิบๆ นั่นมั้ย ฉันเก็บเอาไว้ให้เธอ และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ เหอ เหอ เหอ เป้าหมายของเรา !!
ช่วงที่น้ำใสๆ คือตื้นเดินได้ แต่ช่วงสีเข้ม คือลึกแบบขาไม่ถึง ก็ไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน ต้องว่ายน้ำไปสักระยะนึง
ตรงช่วงชิงช้า จะยืนได้อีกครั้ง เด็กน้อยก็ยืนได้ เอาว่ะ สู้ นั่งมองมาสามวันแล้ว ป่ะป๊า พาลูกค่อยๆลอยตัวไป อิแม่ เกิดป๊อดกลางทาง
ขอว่ายกลับมาทำใจ จะบ้าตาย แต่ก็ฮึบอีกรอบ มันไม่ไกลเลยนะ และไม่อันตรายด้วย แต่ใจตัวเองนี่แหละ ก้าวข้ามไม่ได้
อึดใจเดียว ก็ยืนได้ล่ะ ดีใจสุด อะไรสุด คนอื่น คือ กระดึ๊บไป พร้อมไม้เซลฟี่กับมือถือ ที่ลอยพ้นน้ำ โวะ หยามกันสุดๆ


ปิดทริปอย่างสวยงาม กล่าวโดยสรุป ..การพาเด็กน้อยมามัลดีฟส์ ไม่ได้ลำบากอะไร (แม้บางแสนก็เพียงพอแล้ว) 555
ถือว่าเราและลูกได้มีประสบการณ์ใหม่ ไว้เล่าสู่กันฟัง
ไว้มีตังค์ และแลกไมล์ได้ เราจะกลับมาพบกันใหม่น้าาาา

:: ขอบพระคุณทุกท่านที่ฟังแม่เวิ้นจนถึงบรรทัดนี้ ::
ดี ไม่ดี ก็ต้องดีแหละ อ่านจบแล้วเนอะ 5555
Ciao
[CR] [REVIEW]:: ใครว่ามัลดีฟส์ต้องไปแค่สองคน :: Maldives with Kids
วันนี้อากาศดี (ร้อนจะแย่) เลยอยากจะมาแชร์ทริปร้อนๆ สลัดผ้าผ่อน นอนแช่น้ำกลางมหาสมุทรอินเดียซะหน่อย
"หวิวไปมั้ยแม่" ลูกกระตุกชายผ้าถุง >"< เพิ่งกลับมาอาทิตย์ที่แล้ว ผิวกำลังเริ่มลอกคราบเลย ฮือออ
เข้าเรื่องละกัน (ซะที) มัลดีฟส์ทริปนี้ เดินทางกันแบบครอบครัวหรรษา พ่อแม่ และลูกน้อยๆ (สี่ขวบ และหนึ่งขวบครึ่ง)
โอ้โห โอ้โห เด็กมากกกก พาไปทำเพื่อ ขัดจังหวะฮันนีมูนรอบสี่ห้าหกของพ่อแม่หมด ฮึ่ยย
แต่เคยไม่พาไปด้วย แล้วเหงาเท่าอวกาศเลยอ่ะคุณขา ปกติเราก็จะกระเตงกันไปทั้งแฟมิลี่ ขึ้นเหนือล่องใต้ ไปต่างประเทศ
อย่าไปกังวล ว่าเค้าจะเด็กไป จำอะไรไม่ได้หรอก อย่างน้อย เราจำได้ โอเคล่ะ
(เคยพาคนโตไปญี่ปุ่นตั้งแต่สองขวบ แน่นอน วันนี้นางบอกว่า ไม่เคยไปเลยยย แม้เราจะงัดหลักฐานรูปถ่ายมาให้ดู ก็มินำพา)
Maldives with Kids ระยะเวลา 4 วัน 3 คืน (15 - 18 มี.ค.)
โดยสารเครื่องบินบางกอกแอร์ พัก Anantara Dhigu
Fully Funded จากป่ะป๊า (หยิกแก้มสามที พร้อมมอบโล่ห์ มง และสายสะพาย)
พร้อมนำทุกท่าน แช่น้ำคลายร้อนไปพร้อมๆกันแล้วค่าาาา
:: Day 1 :: ออกเดินทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 09.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยสายการบินบางกอกแอร์ (แลกไมล์มา ดี๊ดี)
ขอชาบู ชาบู ชาบู สายการบินนี้ในการดูแลเด็กๆดีมาก แม่จองได้แถวหน้าสุด ติด basinest เพื่อให้เด็กน้อยได้มีที่ยืดแข้งขา
เพราะใช้เวลาเดินทางกันยาวๆ 5 ชม. นึกแล้วยังเมื่อยอยู่เลย ลูกเรือใส่ใจเด็กๆมาก เอาสติ๊กเกอร์มาให้ ขนม อาหาร คอยถามตลอด
แม่กำลังป้อนนมอยู่ มีเอาหมอนมารองแขนให้ (อันนี้ซึ้งจริง) คือเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ลูกเรือใส่ใจ
// การเดินทางครั้งก่อนหน้านี้กับสายการบินอื่น เด็กมีอาเจียน แม่ขอทิชชู่ ยังโดนเมิน ชั้นขอโทษ อย่าห่างเหินกันแบบนี้ ได้ม้ายยย
เวลาที่มัลดีฟส์เร็วกว่าไทยแลนด์ 2 ชั่วโมง อากาศร้อนถึงร้อนกว่ามาก สนามบินนานาชาติ ขนาดกะทัดรัด มีร้านรวงอาหารให้เลือกกินพอประมาณ
แต่ขบวนของดิฉันคว้าอะไรไม่ทันเลย ออกจากประตูแล้วพนักงาน Anantara ก็มาคว้าตัวไปทันที เพราะเรือจะออกแล้วจ้าาา ชาวบ้านเค้ารอเธออยู่
มาซิมา ชักช้าอยู่ไย ไปก็ไปค่ะ
Anantara Dhigu อยู่ไม่ไกลจากสนามบินมาก สามารถเดินทางโดย Speed Boat ได้ ประมาณ 35 นาที
โดยจะแวะส่งผู้โดยสายที่ Anantara Veli ก่อน (รีสอร์ทส่วนตั๊ว ส่วนตัว สำหรับคู่รัก ฮันนีมูนเท่านั้น !!) ห่างกันจิ๊ดเดียว
ก่อนลงเรือ พนักงานจะแจกเสื้อชูชีพให้ทุกคน มิต้องกังวลใจไป มี Size สำหรับผู้ใหญ่ และเบบี้น้อย
ตัดภาพ มาถึงเกาะเลยละกัน มีการตีกลองต้อนรับพอเป็นพิธีสวยงาม (แม่ถ่ายรูปไม่ทัน แม่เมาหัว)
ผ่านขั้นตอน check-in แนะนำสถานที่ พอดีมีพนักงานคนไทยด้วย (ชื่อคุณโบว์) มาช่วยเหลือเป็นอย่างดี จัดแจง ดูแล ช่วยจองทุกอย่าง
เพิ่งมารู้วันหลังๆว่า นางท้องได้ห้าเดือนแล้ว แต่พาเดินซะรอบเกาะ นึกแล้วเอ็นดูนาง หอบใช่เล่น ขอบคุณอีกครั้งมา ณ ที่นี้ค่ะ
เมื่อมากับเด็ก ปิดความคิดที่จะนอน Atoll กลางน้ำใสๆไปเลยค่ะ มีหวังได้เห็นเด็กว่ายน้ำกับปลาฉลามเป็นแน่
เลือกนอนบนบกสิคะคุณขา ได้มีหาดทรายกว้างๆ ให้เค้าวิ่งเล่น ปลอดภัยหายห่วง (แม้ใจแม่จะลอยไปอยู่กลางน้ำแล้วก็ตามกระซิกๆ)
เราเลือกห้องฝั่ง Sun rise อยู่ใกล้ Kids club และห้องอาหาร ส่วนอีกฝั่ง ก็เป็น Sun set ใกล้สระว่ายน้ำ และหันหน้าออกมหาสมุทร ไม่มีเกาะใดๆบัง
เปิดห้องมา ก็โอ้โห โอ้โห นี่หรือบางกอก ผิดกับบ้านนอกตั้งหลายศอกหลายวา // ผิด
พนักงานก็ตั้งใจประดิดประดอยเหลือเกิน
ในส่วนของเบบี้นั้น มีเตียงเสริมให้สำหรับคนโต และคอกน้อย ของตัวเล็ก (ไม่ได้ขอ แต่เค้าจัดให้ ดี๊ดีอ่ะ) พี่คนโต ก็มโนไปเลยว่า พี่โตมากแล้ว
พี่มีเตียงนอนของตัวเอง กลับบ้านมาก็จะขอแยกห้องนอนซะให้ได้ อย่าเพิ่งรีบเลยลูกกกกก แม่ยังไม่พร้อม
ส่วนห้องน้ำน้านนน ขุ่นผู้ชมคะ หนักกว่าห้องนอนอี๊กกกก Open-air ไปเลยยย อาบน้ำเย้ยแสงจันทร์ อายกระต่ายบนนั้นเป็นที่สุด
โรงแรมมีความใส่ใจเด็กน้อยด้วยนะ เตรียมเครื่องอาบน้ำของเด็กไว้พร้อม จะครีมจอห์นสัน โลชั่นเบบี้มายด์ ฟองน้ำขัดตัว มีครบ
คุณแม่มิต้องหอบหิ้วสิ่งใดไปให้เหนื่อยแรง แม้ดาวหรือเดือนก็มีให้ เพราะทางเราได้ถามหาไมโครเวฟ ซึ่งไม่มีในห้อง
พนักงานก็ไปยกไมโครเวฟมาให้จ้า และที่สำคัญ น้ำขวด มีบริการให้ฟรี ไม่จำกัด ย้ำ ไม่จำกัด ดังนั้น ไม่ต้องหอบน้ำไปเด้อออ
ขนเสบียงไปก็พอ ขนมเด็ก อาหารเด็ก เตรียมให้พร้อม เพราะเรากำลังติดเกาะของจริง บ่มี 7-11 นะสูเจ้า แม้มีของโรงแรมก็อาจมิถูกใจ
จัดแจงแกะกระเป๋า เตรียมออกสำรวจพื้นที่ ทันใดนั้นเองงงงง นึกขึ้นได้ ถุงที่ซื้อจากคิงส์พาวเวอร์หายไปไหนนนน
สั่นเลยทีนี้ นั่งย้อนดูรูปถ่าย จุดสุดท้ายที่เจอ คือก่อนขึ้นเลย แล้วภาพจำก็ตัดไป รีบมาแจ้งให้คุณโบว์ (พนักงานคนไทย) ช่วยหา
เสียเวลาไปตลอดทั้งบ่ายกับการหาของ ซึ่งไม่รู้พลาดไปยังไง อาจเป็นก่อนลงเรือ แล้วยื่นให้พนักงานช่วยถือไว้ หรืออะไรไม่รู้
สุดท้าย พบว่า ถุงนั้นอยู่ที่ Lost&Found ที่สนามบินมาเล่ ทางโรงแรมจะส่งมาให้ ในเรือเที่ยวถัดไป คือ คุณพระคุ้มครองสุดๆ
นึกว่าจะได้นั่งนับเม็ดทรายพร้อมน้ำตาซะแล้ว ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่านอีกครั้ง / กราบ
ข้ามมาอาหารเย็นเลยละกันค่ะ เราเลือกห้องอาหารญี่ปุ่น ที่ฝั่ง Veli ต้องนั่งเรือข้ามฝากมา (ฝั่ง Veli อนุญาตให้เด็กข้ามมาทานอาหารได้หลังหกโมงครึ่ง)
เราคิดว่า ที่นี่เป็นเกาะ อาหารทะเลต้องสด เลยเลือกจะกินซูชิ (คิดว่าเป็น Best Choice จากตัวเลือกห้องอาหารทั้งหมด) แต่ก็ต้องบอกว่า Zen อร่อยแล้วหล่ะ 55555 และอีกอย่างเวลาMaldives เร็วกว่าไทย 2 ชม. ในวันแรกนั้นเด็กๆก็ยังปรับตัวกันไม่ได้ เวลาอาหารเย็นก็ล่วงเลยเป็นเวลานอนเข้าไปแล้ว
มีความวอแวสูงมาก เมื่อเด็กวอแว อะไรก็ไม่อร่อย กลับค่ะกลับ // แนะนำว่า ในวันแรกนั้น ทานข้าวที่ห้องดีกว่า 555
มีอีกหนึ่งเซอร์ไพร์จากโรงแรม พอกลับจาก dinner ทางเราพบขวดไวน์แช่เย็นไว้ที่ห้อง // แหม สามีจะมอมชั้นเหรอ บ้าหน่า ลูกมาด้วยนะ
Complimentary จ๊ะ ด้วยเพราะอะไรไม่รู้ แต่แถมให้ ทางเราก็สนองไว้ ไม่ให้เสียของ ฮี่ฮี่
:: Day 2 :: บ้านเราอยู่ฝั่ง Sun rise ก็ต้องออกมารับแสงแรกซิคะขุ่นผู้ชม นี่ก็ยังปรับตัวไม่ได้ พากันตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้า เวลามัลดีฟส์
โอย แม่เพลียมากก
น้ำใสมากกกกก เจอนีโม่แต่เช้า ว่ายเร็วจนจับภาพไม่ทัน
และทั้งวันนี้ เราหมดไปกับการเล่น Kids Club ซึ่ง ซึ่ง ซึ่ง มีตารางกิจกรรมให้เล่นเยอะมาก มีพนักงาน คล้าย nanny สองคนคอยดูแล
มีทั้งกิจกรรม Indoor (วาดรูประบายสี ศิลปะ Board game) และ Outdoor (ฟุตบอล ชิงช้า) และมีบางกิจกรรมต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น นั่งเรือกระจก (35 USD) ช่วงวันที่ไป พอจะมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่บ้าง เด็กๆ ก็วิ่งวน อยู่กับ Kid Clubs ทั้งวัน
และเด็กสองคนนี้ก็ซนไม่น้อย เล่นชิงช้าแล้วหงายหลัง แผ่นไม้ที่นั่ง ปะฉะดะกับหน้าผากเต็มๆ พี่ nanny รีบหาเจลเย็นมาประคบ
เร็วกว่าที่แม่จะตั้งสติได้อีก หนึ่งบาดแผลถือว่าได้มาถึงแล้ว
อ่ะอีกเรื่องสำหรับเด็ก คือ อาหารของเด็ก ให้บริการฟรี ย้ำ ฟรี เมื่อสั่งคู่กับอาหารของผู้ใหญ่ มีเด็กสองคนก็สั่งได้สองที่ แม้ตัวเล็กจะกินได้แค่กระแบะมือ
ใกล้ๆกับ Dhigu จะมีเกาะเล็กๆ เรียกว่า Picnic หรือ Gulhifushi เป็นที่ดำน้ำตื้น จะเดินไปจากทาง Atoll ก็ได้ หรือนั่งเรือไปก็สะดวกดี
มีบาร์น้ำเล็กๆด้วย ไม่ต้องกลัวอด
พร้อมแล้ว ดำเลยยยย // ตัวดำเลย
คำเตือน: พกครีมกันแดดสำหรับเบบี้ไปด้วยเน้อ ทาซ้ำทุกชั่วโมง และดื่มน้ำเยอะๆ ร้อนกว่าทะเลบ้านเราเยอะะะ
นึกแล้วแสบหลัง ดาเมจรุนแรงเหลือเกินคุณขา
:: Day 3 :: เหตุการณ์เริ่มเข้าที่ เราจะวนลูป ว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นทราย เล่น Kids Club กันอีกครั้ง
มากับเด็ก อย่าไปคิดอะไรเยอะค่ะ อะไรที่เค้าแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ (คล้ายๆ อะไรที่เค้าว่าดี เราก็ว่าดีนั่นแหละ)
กิจกรรมของโรงแรมเค้ามีเยอะมากนะ ดำน้ำลึกกับวาฬ Dolphin Quest Water Sport อื่นๆอีกมากมาย ทักทายไปได้
สนนราคาที่แตกต่างกัน และหนักพอควร คิดเป็น USD
ลืมเรื่องอาหารเช้าไปเลย ข้าเจ้าซื้อแพคเกจที่ได้เฉพาะอาหารเช้า ก็ต้องจัดอาหารแบบอิ่มไปถึงเย็น 555 เว่อร์มาก
อาหารของนางก็แกรนด์อยู่นะ หาว่าไป มีครบทุกสัญชาติ เลือกได้ตามความชอบใจ
(ชอบ Spinch กับข้าวต้มสุดล่ะ กินเมนูเดียวซ้ำกันทุกวัน // บ้าจริง เสียงเจ้าหญิงดิสนีย์)
No ภาพประกอบใดๆ ไม่เคยถ่ายทัน วุ่นวายกับการป้อนข้าวเด็ก ก็เกินพอล้าวว
:: Day 4 :: เตรียมแพคกระเป๋ากลับบ้านแล้วจ้า เฮ้ย ยังไม่ไปถึงชิงช้ากลางน้ำ ที่เป็น Landmark ของที่นี่เลยนะ
ได้แต่มองตาปริบๆอยู่ทุกวัน คิดแผนอยู่นั่น จะไปยังไงให้ถึง จะเดินข้ามไป หรือว่ายน้ำไป หรือคายัคไป
เช้านี้ ตัดสินใจ แต่งตัวเด็กให้พร้อม แล้วลุยเลย
เห็นชิงช้าลิบๆ นั่นมั้ย ฉันเก็บเอาไว้ให้เธอ และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ เหอ เหอ เหอ เป้าหมายของเรา !!
ช่วงที่น้ำใสๆ คือตื้นเดินได้ แต่ช่วงสีเข้ม คือลึกแบบขาไม่ถึง ก็ไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน ต้องว่ายน้ำไปสักระยะนึง
ตรงช่วงชิงช้า จะยืนได้อีกครั้ง เด็กน้อยก็ยืนได้ เอาว่ะ สู้ นั่งมองมาสามวันแล้ว ป่ะป๊า พาลูกค่อยๆลอยตัวไป อิแม่ เกิดป๊อดกลางทาง
ขอว่ายกลับมาทำใจ จะบ้าตาย แต่ก็ฮึบอีกรอบ มันไม่ไกลเลยนะ และไม่อันตรายด้วย แต่ใจตัวเองนี่แหละ ก้าวข้ามไม่ได้
อึดใจเดียว ก็ยืนได้ล่ะ ดีใจสุด อะไรสุด คนอื่น คือ กระดึ๊บไป พร้อมไม้เซลฟี่กับมือถือ ที่ลอยพ้นน้ำ โวะ หยามกันสุดๆ
ปิดทริปอย่างสวยงาม กล่าวโดยสรุป ..การพาเด็กน้อยมามัลดีฟส์ ไม่ได้ลำบากอะไร (แม้บางแสนก็เพียงพอแล้ว) 555
ถือว่าเราและลูกได้มีประสบการณ์ใหม่ ไว้เล่าสู่กันฟัง
ไว้มีตังค์ และแลกไมล์ได้ เราจะกลับมาพบกันใหม่น้าาาา
:: ขอบพระคุณทุกท่านที่ฟังแม่เวิ้นจนถึงบรรทัดนี้ ::
ดี ไม่ดี ก็ต้องดีแหละ อ่านจบแล้วเนอะ 5555
Ciao
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น