#ความรู้สึกหลังชม แบบไม่ถึงอาทิตย์ #แบบไม่สปอย #SpiderManIntotheSpiderVerse #smwo
Spider-Man: Into the Spider-Verse (ต่อไปนี้จะขอย่อว่า spidy-in)
คะแนน 7.1/10
***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.
#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
สไปเดอร์แมน...สไปเดอร์แมน...สไปเดอร์แมน...อีกแล้วเหรอ...นั่นคือความรู้สึกแรกของผมที่ได้เห็นตัวอย่างของมันแบบเซอร์ไพรส์ๆเล็กๆในเอ็นเครดิตของหนังเรื่องเวน่อม ก่อนที่จะรู้สึกๆมึนๆงงๆนั่งดูตัวอย่างไปจนจบและรู้สึกว่า...น่าสนุกแหะ แต่ไม่เอาดีกว่า ผมก็เลยไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงเพราะไม่ค่อยมั่นใจในตัวของโซนี่ซักเท่าไหร่ ที่ไปดูเวน่อมก็ไม่ได้อยากไปดูซักเท่าไหร่เช่นกันแต่เว่น่อมมันก็ทำให้รู้สึกสนุกเกินคาดเช่นกัน...เข้าเรื่องกันดีกว่า
#เรื่องย่อ
spidy-in เป็นเรื่องของ ไมลส์ โมราเลส เด็กหนุ่มที่ต้องย้ายโรงเรียนไปในเมือง...ละมั้ง เขาก็คงเหมือนเด็กทั่วๆไปหากไม่ได้ไปโดนแมงมุมกัดเข้า...คุ้นๆละซิ ใช่แล้วมันก็เหมือนกับต้นฉบับของไอ้แมงมุมในหนังนั่นแหละ ออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้เป็นแฟนบอยสไปดี้ซักเท่าไหร่แต่ถ้าหากว่าถามว่าชอบไหมก็ต้องบอกว่าเป็นฮีโร่ที่ชอบเป็นอันดับต้นๆ แหมแน่ละ ด้วยความที่เคยดูสไปเดอร์แมนของแซม ไรมี่มาตั้งแต่เด็กๆ และชื่นชอบการแสดงของโทบี้แม็ค ไกวร์มากๆ แต่นอกเหนือกจากนั้นผมก็ไม่ได้ติดตามอ่านคอมมิคซักเท่าไหร่ ส่วนตัวก็แอบอยากดูเรื่องของไมลส์ โมราเลสเล็กๆอยู่แล้วตอนแรกที่ดูก็รู้สึกแบบว่า...อืม คุ้มทุนอยู่แหะ แต่ที่ไหนได้ spidy-in มันทำให้เราได้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเพราะนอกจากในตัวอย่างที่เราเห็นสไปดี้ของเราตายและมีสไปดี้ตอนหนุ่มโพล่มา ภายในเรื่องเราก็จะได้พบกับสไปดี้อีกหลายคนในแต่ละจักรวาล ตอนแรกผมก็คาดเดาเอาไปเองว่ามันคงยังไม่จบในภาคแน่ๆ ด้วยความที่เข้าใจในชื่อภาคไปว่า… into เฉยๆ คงยังไม่จบหรอกน่า แต่ตัวหนังก็ดำเนินไปถึงในจุดที่เรียกได้ว่าจบดีและรู้สึกประทับ
#ความประทับใจแรก
ความประทับใจแรกของเรื่องก็ต้องบอกว่ามันเริ่มจากเรื่องของลายเส้นและอนิเมชั่นแบบพิเศษนี้ของโซนี่ อย่างที่บอกไปผมไม่เคยอ่านคอมมิคของฝั่งอเมริกาเลย จะมีเพียงเห็นผ่านๆตาบ้าง แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็เซย์โนด้วยความที่ภาษาไม่ค่อยแข็งก็เลยไม่ได้อ่าน แต่ตัวหนังเท่าที่เห็นก็ให้ลายเส้นชัดเจนประมาณว่าหลุดมาจากคอมมิคยังไง ยังงั้น พวกแฟนบอยที่อ่านคอมมิคคงร้องกรี้ดกร้าดกันเป็นแน่แท้แต่ผมไม่ใช่ ก็แค่รู้สึกว่ามันเท่ดี นั่นคือความประทับใจแรก
ในส่วนต่อมาก็คือเส้นเนื้อเรื่องที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้กลับไปดูสไปเดอร์แมนอีกครั้งเพียงแค่ได้อารมณ์ที่แตกต่างกัน ก็แน่ละนี่มันไม่ใช่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ แต่เป็น ไมลส์ โมราเลส นี่นา ก่อนจะค่อยๆเพิ่มปมเพิ่มปัญหาเข้ามาและสุดท้ายที่ประดับใจที่สุดคงหนีไม่พ้นการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนแปลกๆจากจักรวาลต่างๆ อย่างที่บอกผมไม่ได้อ่านคอมมิคแต่ก็เคยสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านี้มาบ้างก็เลยไม่ได้รู้สึกว้าวเท่าไหร่แต่ก็ทำให้เรารู้สึกตื่นว่า...เออแหะพอมาเป็นลายเส้นที่ขยับได้แบบนี้ก็น่าสนุกน่าหัวเราะไปอีกแบบ
ในส่วนของตัวละครก็ต้องบอกว่าผมประทับใจไมลส์ โมราเลสเป็นอย่างมากต้องบอกว่าหนังทำให้เราอินได้ไม่ยาก ด้วยบทหรือลายเส้นคงไม่แปลกที่จะมีแฟนบอยของหนังเรื่องนี้เพิ่มขึ้นหรือแฟนบอยของตัวละครต่างๆเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่นผมที่รู้สึกชอบสไปเดอร์หมดไฟแก่ๆคนนั้น กับสไปเดอร์เกวนที่ก็ดูเท่เอาการ แต่ที่แย่งซีนสุดๆก็คงไม่พ้นเพนนี่ ปาร์คเกอร์นี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกชอบเธอเป็นการพิเศษไม่รู้ว่าด้วยลายเส้นที่ว้าวกว่าชาวบ้านหรือหุ่นยนสไปเดอร์ของเธอก็ไม่ทราบ ความประทับใจของเรื่องก็มีประมาณนี้แหละ
#ความรู้สึกไม่ค่อยประทับใจ
และแน่นอนว่าตัวหนังที่มีต้นฉบับหรือภาคต่อหรือมีจักรวาลหรือเหมือนมีการทำให้ซ้ำเช่นนี้มันก็ต้องมีข้อเสียอยู่บ้าง ความรู้สึกไม่ค่อยประทับใจของเรื่องก็คือความ OP (Over Power) ของเหล่าตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกสงสัยตั้งแต่ฉากแรกๆของเรื่องว่าสไปเดอร์แมนจะแพ้ได้ยังไง จะตายได้ยังไง ความเก่งเกินไปของตัวละครทำให้โดนตัดบทตายง่ายเกินไปและทำให้เนื้อเรื่องคาดเดาได้ไม่ยากว่าสุดท้ายแล้วตัวหนังก็จะชนะแบบฟีลกู๊ดซึ่งคงเป็นสูตรสำหรับของหนังสไตล์นี้เกินไป...
ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู Spider-Man: Into the Spider-Verse ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ
***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ เพิ่งตั้งวันนี้ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง โดยน่าจะเริ่มต่อจากนี้ไปเรื่องๆ ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096 
#ความรู้สึกหลังชม แบบไม่ถึงอาทิตย์ #แบบไม่สปอย #SpiderManIntotheSpiderVerse #smwo
Spider-Man: Into the Spider-Verse (ต่อไปนี้จะขอย่อว่า spidy-in)
คะแนน 7.1/10
***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.
#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
สไปเดอร์แมน...สไปเดอร์แมน...สไปเดอร์แมน...อีกแล้วเหรอ...นั่นคือความรู้สึกแรกของผมที่ได้เห็นตัวอย่างของมันแบบเซอร์ไพรส์ๆเล็กๆในเอ็นเครดิตของหนังเรื่องเวน่อม ก่อนที่จะรู้สึกๆมึนๆงงๆนั่งดูตัวอย่างไปจนจบและรู้สึกว่า...น่าสนุกแหะ แต่ไม่เอาดีกว่า ผมก็เลยไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงเพราะไม่ค่อยมั่นใจในตัวของโซนี่ซักเท่าไหร่ ที่ไปดูเวน่อมก็ไม่ได้อยากไปดูซักเท่าไหร่เช่นกันแต่เว่น่อมมันก็ทำให้รู้สึกสนุกเกินคาดเช่นกัน...เข้าเรื่องกันดีกว่า
#เรื่องย่อ
spidy-in เป็นเรื่องของ ไมลส์ โมราเลส เด็กหนุ่มที่ต้องย้ายโรงเรียนไปในเมือง...ละมั้ง เขาก็คงเหมือนเด็กทั่วๆไปหากไม่ได้ไปโดนแมงมุมกัดเข้า...คุ้นๆละซิ ใช่แล้วมันก็เหมือนกับต้นฉบับของไอ้แมงมุมในหนังนั่นแหละ ออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้เป็นแฟนบอยสไปดี้ซักเท่าไหร่แต่ถ้าหากว่าถามว่าชอบไหมก็ต้องบอกว่าเป็นฮีโร่ที่ชอบเป็นอันดับต้นๆ แหมแน่ละ ด้วยความที่เคยดูสไปเดอร์แมนของแซม ไรมี่มาตั้งแต่เด็กๆ และชื่นชอบการแสดงของโทบี้แม็ค ไกวร์มากๆ แต่นอกเหนือกจากนั้นผมก็ไม่ได้ติดตามอ่านคอมมิคซักเท่าไหร่ ส่วนตัวก็แอบอยากดูเรื่องของไมลส์ โมราเลสเล็กๆอยู่แล้วตอนแรกที่ดูก็รู้สึกแบบว่า...อืม คุ้มทุนอยู่แหะ แต่ที่ไหนได้ spidy-in มันทำให้เราได้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเพราะนอกจากในตัวอย่างที่เราเห็นสไปดี้ของเราตายและมีสไปดี้ตอนหนุ่มโพล่มา ภายในเรื่องเราก็จะได้พบกับสไปดี้อีกหลายคนในแต่ละจักรวาล ตอนแรกผมก็คาดเดาเอาไปเองว่ามันคงยังไม่จบในภาคแน่ๆ ด้วยความที่เข้าใจในชื่อภาคไปว่า… into เฉยๆ คงยังไม่จบหรอกน่า แต่ตัวหนังก็ดำเนินไปถึงในจุดที่เรียกได้ว่าจบดีและรู้สึกประทับ
#ความประทับใจแรก
ความประทับใจแรกของเรื่องก็ต้องบอกว่ามันเริ่มจากเรื่องของลายเส้นและอนิเมชั่นแบบพิเศษนี้ของโซนี่ อย่างที่บอกไปผมไม่เคยอ่านคอมมิคของฝั่งอเมริกาเลย จะมีเพียงเห็นผ่านๆตาบ้าง แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็เซย์โนด้วยความที่ภาษาไม่ค่อยแข็งก็เลยไม่ได้อ่าน แต่ตัวหนังเท่าที่เห็นก็ให้ลายเส้นชัดเจนประมาณว่าหลุดมาจากคอมมิคยังไง ยังงั้น พวกแฟนบอยที่อ่านคอมมิคคงร้องกรี้ดกร้าดกันเป็นแน่แท้แต่ผมไม่ใช่ ก็แค่รู้สึกว่ามันเท่ดี นั่นคือความประทับใจแรก
ในส่วนต่อมาก็คือเส้นเนื้อเรื่องที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้กลับไปดูสไปเดอร์แมนอีกครั้งเพียงแค่ได้อารมณ์ที่แตกต่างกัน ก็แน่ละนี่มันไม่ใช่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ แต่เป็น ไมลส์ โมราเลส นี่นา ก่อนจะค่อยๆเพิ่มปมเพิ่มปัญหาเข้ามาและสุดท้ายที่ประดับใจที่สุดคงหนีไม่พ้นการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนแปลกๆจากจักรวาลต่างๆ อย่างที่บอกผมไม่ได้อ่านคอมมิคแต่ก็เคยสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านี้มาบ้างก็เลยไม่ได้รู้สึกว้าวเท่าไหร่แต่ก็ทำให้เรารู้สึกตื่นว่า...เออแหะพอมาเป็นลายเส้นที่ขยับได้แบบนี้ก็น่าสนุกน่าหัวเราะไปอีกแบบ
ในส่วนของตัวละครก็ต้องบอกว่าผมประทับใจไมลส์ โมราเลสเป็นอย่างมากต้องบอกว่าหนังทำให้เราอินได้ไม่ยาก ด้วยบทหรือลายเส้นคงไม่แปลกที่จะมีแฟนบอยของหนังเรื่องนี้เพิ่มขึ้นหรือแฟนบอยของตัวละครต่างๆเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่นผมที่รู้สึกชอบสไปเดอร์หมดไฟแก่ๆคนนั้น กับสไปเดอร์เกวนที่ก็ดูเท่เอาการ แต่ที่แย่งซีนสุดๆก็คงไม่พ้นเพนนี่ ปาร์คเกอร์นี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกชอบเธอเป็นการพิเศษไม่รู้ว่าด้วยลายเส้นที่ว้าวกว่าชาวบ้านหรือหุ่นยนสไปเดอร์ของเธอก็ไม่ทราบ ความประทับใจของเรื่องก็มีประมาณนี้แหละ
#ความรู้สึกไม่ค่อยประทับใจ
และแน่นอนว่าตัวหนังที่มีต้นฉบับหรือภาคต่อหรือมีจักรวาลหรือเหมือนมีการทำให้ซ้ำเช่นนี้มันก็ต้องมีข้อเสียอยู่บ้าง ความรู้สึกไม่ค่อยประทับใจของเรื่องก็คือความ OP (Over Power) ของเหล่าตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกสงสัยตั้งแต่ฉากแรกๆของเรื่องว่าสไปเดอร์แมนจะแพ้ได้ยังไง จะตายได้ยังไง ความเก่งเกินไปของตัวละครทำให้โดนตัดบทตายง่ายเกินไปและทำให้เนื้อเรื่องคาดเดาได้ไม่ยากว่าสุดท้ายแล้วตัวหนังก็จะชนะแบบฟีลกู๊ดซึ่งคงเป็นสูตรสำหรับของหนังสไตล์นี้เกินไป...
ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู Spider-Man: Into the Spider-Verse ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ
***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ เพิ่งตั้งวันนี้ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง โดยน่าจะเริ่มต่อจากนี้ไปเรื่องๆ ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096