คบกับแฟนมาได้ปีเศษ ด้วยอายุ ความพร้อม และคิดว่าเรารักกันจึงตัดสินใจจะแต่งงาน
แฟนรู้จักกันในงานอบรมพวกการลงทุน นานมาแล้วราวสองปี เขาบอกว่าเขาลงทุนพวกอสังหา จับที่ขาย มีปล่อยให้เช่า แอดไลน์กันตามประสา
ตอนแรกก็ไม่เคยคุยกันเพราะเรามีแฟนอยู่ จนเราเลิกกันกับแฟน เขาอัพสถานะในไลน์พอดีเห็นเขา จำได้ และแอบประทับใจอยู่จึงทักไปคุย
ด้วยความที่เขาทำงานต้องเดินทางตลอด เลยโทรคุยกันอย่างเดียวหลายเดือนถึงได้ตกลงนัดมาเจอกันอีก
เขาคุยดีมีแนวคิดทัศนะคติแบบที่เราชอบ ดูมีความคิดก้าวไกลมีวิสัยทัศ
ยิ่งพูดคุยเราก็ยิ่งรู้สึกมีอะไรที่คล้ายๆกัน เวลาเขามากทมเขาก็จะหาเราตลอด เทคแคร์ดูใส่ใจ
แต่เวลางานเขาจะยุ่งมาก เราเข้าใจว่าเขายุ่งมาก ทักไปจะไม่ค่อยตอบ ตอนนั้นคิดว่าเขาคงอยู่กับลุกค้า
ช่วงหลังเราตกลงคบกันแทบจะตัวติดกัน ไปหาเขาที่บ้าน เขามาหาเรา นอกจากเข้าจะออกทำงานตจว.
เขายังคงเทคแคร์ดูแลเป็นอย่างดี เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข เห็นรอยยิ้มของเขาก็หายเหนื่อย
ก่อนนี้เรามีกิจการอู่และแต่งรถ หุ้นทำรวมกับญาติแต่ไม่ใหญ่มาก พอมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆไม่ลำบาก มีลค.ประจำและขาจร
แล้วก็มีขายอะไหล่เก่าอะไหล่สำหรับพวกเล่นรถทางออนไลน์ด้วย จึงมีเงินระดังหนึ่ง
จนเราคุยว่าจะสร้างครอบครัวด้วยกัน และต่อมา ธุรกิจเขามีปัญหา ขาดกระแสเงินสด เขาเครียดมาก บอกเป็นหนี้แบงค์เยอะดีลที่ดีลไว้ปิดไม่ได้ตามคาด
ลูกค้าที่หาสำรองก็บาย ไม่เข้าดีล เขาบอกว่ากู้แบบไหนซักอย่างดอกสูงมากเราจึงเสนอตัว เข้าช่วยโดยให้เงินเก็บกับเขา รวมๆเป็นหกหลักปลาย
เราเป็นคนเก็บเงินเก่งมาก เป็นคนประหยัด กินอาหารข้างทาง ไปเที่ยวน้ำตกทะเล พักอุทยาน กางเต้นบ้าง บางทีก็ขี่มอไซค์ไปตจว.
ไปไหนมาไหนก็รถเมล์หรือไม่ก็แว๊นเอง รถก็ใช้รถวิ่งของที่อู่ คือเราตั้งใจเก็บจริงๆ คิดว่าเอามาสร้างบ้าน เป็นทุนสำรอง เพราะคิดว่าจะเอาไว้ใช้ตั้งครอบครัว
ตอนแรกเขาก็ปฏิเสทเราเองที่ยัดเยียดไปเบิกเงินสดมาวางให้เขา
ปรากฏว่าเขาก็ไม่ได้เอาไปปิดแบงค์ เขาบอกเขาเอาไปลงที่ใหม่ มันจะได้กำไรดีมากจะได้ใช้หนี้เราและปิดแบงค์ได้
และต่อมาก็บอกว่าขาดทุนอีก เราก็ยังเชื่อ ไม่เคยสงสัยเขาเลย และเอาเงินสำรองก้อนสุดท้านให้เขาไปปิดแบงค์ซะ
เขาก็เอาไปปิด
เราไม่เคยไปดูที่กับเขา ไม่เคยไปเจอเพื่อนร่วมงานเขา เขามีบอกจะพาไปแต่งานเราก็ยุ่ง งานเขาก็ยุ่ง
เรารู้แค่ว่าเขาลำบากจริงๆ เขาเคยขับบีเอ็มกลางเก่ากลางใหม่ พอเขาบอกว่ามีเรื่องเขาก็ขายรถ แล้วก็มาหาเราโดยรถสาธารณะตลอด
ตอนที่ว่ากู้เขาก็เอาสัญญากู้มาแบงค์ให้ดู ว่าเขาเป็นหนี้นะจะแต่งกันคิดดีแล้วเหรอ มันล้นพ้นตัวเขา เขาไม่รู้จะหมดหนี้เมื่อไหร่
ไม่อยากให้เรามาลำบากด้วยกัน
เราคิดว่าทุกคนผิดพลาดได้ เราจะปล่อยมือเขาในวันที่ลำบากได้ยังไง สู้อีกสิเคยมีทำไมจะมีไม่ได้ เราต้องผ่านมันไปได้
แต่มันก็ไม่ได้เป็นดังหวัง เขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาบอกทำงานเป็นนายหน้าแทนไม่ได้จับที่เองแล้วแต่เขายังมีลูกค้าและรู้จักนายทุนเยอะ
ก็ออกไปทำงานตามเคย แต่ติดต่อไม่ได้มากขึ้น ที่เคยตอบไลน์ กลับตอบสั้นๆ ที่เคยโทรกันตอนกลางคืนทุกคืนกลับโทรบ้างไม่โทรบ้าง
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร เข้าใจว่าคงโหมงานหนักกว่าเดิมเครียดกว่าเดิม คงเหนื่อยมาก
และทะเลาะกันบ่อยขึ้นๆ ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาช่างดูไม่มีเหตุผล ยิ่งเรื่องเงิน เราว่าเขายังติดใช้เงินเก่งอยู่ถึงจะลดมากแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้เคยคุยกันก่อนหน้า เขาชื่นชมที่เราประหยัด มาวันนี้เราประหยัดเกินไป
ใช่เราประหยัดมากขึ้น แต่ไม่ได้มาขึ้นเยอะ เราทำงบรายรับรายจ่ายส่วนตัวตลอด ก่อนหน้าและหลัง เราใช้เงินน้อยลง 5-10% ไม่ได้มีนัยยะขนาดนั้นเราว่า
แต่เราก็พูดบ่อยขึ้น ก็อยากคุยกันเรื่องนี้มากขึ้นด้วย เพราะเราคิดว่ามันควรจะคุยกันได้
เมื่อก่อนไปไหนมาไหนเขาจะเลี้ยงเรา ไปห้าง ไปร้านหรู ตอนนี้เราเลี้ยงเขาแทน
ไปกินห้างกันเราก็เลี้ยงนะแต่เราบอกเขาว่าต้องประหยัดกัน เราไม่ควรมาบ่อยเนอะ เขาก็ไม่พอใจ ว่าเราเลี้ยงแล้วไม่สบายใจใช่ไหม
ถ้าเราพูดว่าอะไรแพง บรรยากาศจะเปลี่ยนทันที บอกให้เซนไว้เขามีตังจะจ่ายให้เองครบทุกบาท
จากเคยไปเที่ยวกันก็ไม่ไปกับเรา บอกว่าไม่อยากให้เราจ่า
แต่ไปกับลูกค้า ไปกับเพื่อนได้ เราเริ่มเสียสนิทใจกัน เขาพูดจาเหมือนเราไม่ได้มีน้ำใจต่อเขา มองเขาเป็นตัวปัญหา ว่าเราเห็นแก่ตัว พอเขาจนเราจึงไม่รัก
จากคนที่เรามองว่าเขามีเหตุผลมีความคิดความอ่าน เป็นคนน่ารัก เราโดนคำพูดเขาปั่นทอนเป็นอย่างมาก
เราก็ว่าเขาเช่นกัน เพราะเหตุผลเขาดูน้อยลงมาก
แล้วก็เจอกันน้อยลง มีอะไรไม่ค่อยบอก ถามไปไหนไปกับใครก็รำคาญ แต่ก็ยังบอกว่ารักเราอยู่
เวลามาหากันก็ยังเทคแคร์ดีเหมือนเดิม เวลาอยู่ด้วยกันดูแลเราดีมาก มากจริงๆไม่เคยมีใครดูแลเราดีขนาดนี้นอกจากพ่อแม่
และถึงทะเลาะกันทุกวันเราก็ยังคุยกันอยู่แทบทุกวันคุยกันสองสามชม. แสดงว่าเขาก็ยังแคร์เราอยู่ใช่ไหม
แต่บางวันที่เขาติดงานหรือเหนื่อยมากๆ ก็จะตัดบทจบปิดเครื่อง ทักมาใหม่ตอนนเช้า แต่ไม่บ่อย เดือนที่ผ่านมาสามครั้ง
แต่ก็เสียความรู้สึกมากนะ
เราเอาเรื่องไปปรึกษากับเพื่อนเพื่อนว่าเขามีคนอื่นรึเปล่า
เราไว้ใจ แต่เราก็สงสัยมากเช่นกัน เขาห่วงมือถือไหม ก็ติดตัวเขาตลอดแต่เรารู้พาสเวิด เขาบอก
เราไม่เคยดูมือถือเขาเรารู้มันจะไม่มีอะไรแน่นอน
แต่เราดูคอมเขา เราชั่วมาก คอมมีพาสแต่เรามีเพื่อนที่เข้าดูได้ ก็ยกไปเลย
เราเจอปข้อมูลที่เอามาประติดประต่อ แล้วรู้ว่าเขาหลอกเอาเงินคนอื่น ยืมคนจากหลายที่ ต่างจากที่เขาเคยบอกเรา
แต่ข้อมูลนี่ค่อนข้างเก่า เพราะเป็นคอมพีซีที่ทิ้งไว้ในห้องเก็บของบ้านเขา
บ้านเขาเป็นบ้านหลังเล็กๆกลางเมือง เขาว่าเเป็นบ้านเพื่อนเขาเอง และตกแต่งภายในอย่างดี เขาว่าเขาตกแต่งเอง ถือเป็นน้ำใจให้เพื่อนที่คิดค่าเช่าเขาถูก
เราประทับใจกับสไตล์แต่งบ้านเขามาก เรียบร้อย ปราณีต มินิมอลแต่ดูดี เรามองว่าเขาเก่งที่เลือกแต่งบ้านได้สวยขนาดนี้ ด้วยเฟอร์ที่ราคาไม่สูง
แต่เราสืบมาจนได้ว่าที่จริงเป็นบ้านเช่า ยิ่งโดนหลอกดอกสอง แต่เราก็ยังเข้าข้างตัวเองว่า เขาบอกเราตั้งแต่เรารู้จักกันใหม่ๆ เขาคงอยากให้เราประทับใจ
บางทีคนเราก็โกหกกันเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราก็มีเรื่องที่โกหกบ้าง
เราสับคนว่าเขายังแคร์เรายังรักเราไหม ที่ผ่านมาเขาเป็นแค่อดีตเขาคงเปลี่ยนไปแล้ว เขาปรับตัวแล้ว และตอนนนี้เข้าสู้อยู่เพื่ออนาคตของเรา
เราคิดแบบนั้น หรือเราแค่หลอกตัวเอง
จะทำไงต่อดี
เราไม่ได้หมดแค่เงินเก็บเรายังโดนลดการถือหุ้นของอู่ลง เพราะอู่ต้องขยายแข่งญาติๆลงขันกันเพิ่มแต่เราไม่มีตังไปลงด้วย
ทำให้สัดส่วนรายได้เราน้อยลง บวกกับออนไลน์ที่เราขายคู่แข่งเยอะขึ้นมากตัดราคากัน
กว่าจะมีเงินเก็บเหมือนเดิมจากสถาพเราตอนนี้ต้องใช้เวลานานมาก
เพิ่งรู้ว่าคู่มั่นเคยเป็นพวกต้มตุ๋น ทำไงดีเครียดมาก วางแผนแต่งงานกันแล้ว และให้เงินเขาไปจำนวนมาก เขารักหรือหลอก
แฟนรู้จักกันในงานอบรมพวกการลงทุน นานมาแล้วราวสองปี เขาบอกว่าเขาลงทุนพวกอสังหา จับที่ขาย มีปล่อยให้เช่า แอดไลน์กันตามประสา
ตอนแรกก็ไม่เคยคุยกันเพราะเรามีแฟนอยู่ จนเราเลิกกันกับแฟน เขาอัพสถานะในไลน์พอดีเห็นเขา จำได้ และแอบประทับใจอยู่จึงทักไปคุย
ด้วยความที่เขาทำงานต้องเดินทางตลอด เลยโทรคุยกันอย่างเดียวหลายเดือนถึงได้ตกลงนัดมาเจอกันอีก
เขาคุยดีมีแนวคิดทัศนะคติแบบที่เราชอบ ดูมีความคิดก้าวไกลมีวิสัยทัศ
ยิ่งพูดคุยเราก็ยิ่งรู้สึกมีอะไรที่คล้ายๆกัน เวลาเขามากทมเขาก็จะหาเราตลอด เทคแคร์ดูใส่ใจ
แต่เวลางานเขาจะยุ่งมาก เราเข้าใจว่าเขายุ่งมาก ทักไปจะไม่ค่อยตอบ ตอนนั้นคิดว่าเขาคงอยู่กับลุกค้า
ช่วงหลังเราตกลงคบกันแทบจะตัวติดกัน ไปหาเขาที่บ้าน เขามาหาเรา นอกจากเข้าจะออกทำงานตจว.
เขายังคงเทคแคร์ดูแลเป็นอย่างดี เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข เห็นรอยยิ้มของเขาก็หายเหนื่อย
ก่อนนี้เรามีกิจการอู่และแต่งรถ หุ้นทำรวมกับญาติแต่ไม่ใหญ่มาก พอมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆไม่ลำบาก มีลค.ประจำและขาจร
แล้วก็มีขายอะไหล่เก่าอะไหล่สำหรับพวกเล่นรถทางออนไลน์ด้วย จึงมีเงินระดังหนึ่ง
จนเราคุยว่าจะสร้างครอบครัวด้วยกัน และต่อมา ธุรกิจเขามีปัญหา ขาดกระแสเงินสด เขาเครียดมาก บอกเป็นหนี้แบงค์เยอะดีลที่ดีลไว้ปิดไม่ได้ตามคาด
ลูกค้าที่หาสำรองก็บาย ไม่เข้าดีล เขาบอกว่ากู้แบบไหนซักอย่างดอกสูงมากเราจึงเสนอตัว เข้าช่วยโดยให้เงินเก็บกับเขา รวมๆเป็นหกหลักปลาย
เราเป็นคนเก็บเงินเก่งมาก เป็นคนประหยัด กินอาหารข้างทาง ไปเที่ยวน้ำตกทะเล พักอุทยาน กางเต้นบ้าง บางทีก็ขี่มอไซค์ไปตจว.
ไปไหนมาไหนก็รถเมล์หรือไม่ก็แว๊นเอง รถก็ใช้รถวิ่งของที่อู่ คือเราตั้งใจเก็บจริงๆ คิดว่าเอามาสร้างบ้าน เป็นทุนสำรอง เพราะคิดว่าจะเอาไว้ใช้ตั้งครอบครัว
ตอนแรกเขาก็ปฏิเสทเราเองที่ยัดเยียดไปเบิกเงินสดมาวางให้เขา
ปรากฏว่าเขาก็ไม่ได้เอาไปปิดแบงค์ เขาบอกเขาเอาไปลงที่ใหม่ มันจะได้กำไรดีมากจะได้ใช้หนี้เราและปิดแบงค์ได้
และต่อมาก็บอกว่าขาดทุนอีก เราก็ยังเชื่อ ไม่เคยสงสัยเขาเลย และเอาเงินสำรองก้อนสุดท้านให้เขาไปปิดแบงค์ซะ
เขาก็เอาไปปิด
เราไม่เคยไปดูที่กับเขา ไม่เคยไปเจอเพื่อนร่วมงานเขา เขามีบอกจะพาไปแต่งานเราก็ยุ่ง งานเขาก็ยุ่ง
เรารู้แค่ว่าเขาลำบากจริงๆ เขาเคยขับบีเอ็มกลางเก่ากลางใหม่ พอเขาบอกว่ามีเรื่องเขาก็ขายรถ แล้วก็มาหาเราโดยรถสาธารณะตลอด
ตอนที่ว่ากู้เขาก็เอาสัญญากู้มาแบงค์ให้ดู ว่าเขาเป็นหนี้นะจะแต่งกันคิดดีแล้วเหรอ มันล้นพ้นตัวเขา เขาไม่รู้จะหมดหนี้เมื่อไหร่
ไม่อยากให้เรามาลำบากด้วยกัน
เราคิดว่าทุกคนผิดพลาดได้ เราจะปล่อยมือเขาในวันที่ลำบากได้ยังไง สู้อีกสิเคยมีทำไมจะมีไม่ได้ เราต้องผ่านมันไปได้
แต่มันก็ไม่ได้เป็นดังหวัง เขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาบอกทำงานเป็นนายหน้าแทนไม่ได้จับที่เองแล้วแต่เขายังมีลูกค้าและรู้จักนายทุนเยอะ
ก็ออกไปทำงานตามเคย แต่ติดต่อไม่ได้มากขึ้น ที่เคยตอบไลน์ กลับตอบสั้นๆ ที่เคยโทรกันตอนกลางคืนทุกคืนกลับโทรบ้างไม่โทรบ้าง
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร เข้าใจว่าคงโหมงานหนักกว่าเดิมเครียดกว่าเดิม คงเหนื่อยมาก
และทะเลาะกันบ่อยขึ้นๆ ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาช่างดูไม่มีเหตุผล ยิ่งเรื่องเงิน เราว่าเขายังติดใช้เงินเก่งอยู่ถึงจะลดมากแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้เคยคุยกันก่อนหน้า เขาชื่นชมที่เราประหยัด มาวันนี้เราประหยัดเกินไป
ใช่เราประหยัดมากขึ้น แต่ไม่ได้มาขึ้นเยอะ เราทำงบรายรับรายจ่ายส่วนตัวตลอด ก่อนหน้าและหลัง เราใช้เงินน้อยลง 5-10% ไม่ได้มีนัยยะขนาดนั้นเราว่า
แต่เราก็พูดบ่อยขึ้น ก็อยากคุยกันเรื่องนี้มากขึ้นด้วย เพราะเราคิดว่ามันควรจะคุยกันได้
เมื่อก่อนไปไหนมาไหนเขาจะเลี้ยงเรา ไปห้าง ไปร้านหรู ตอนนี้เราเลี้ยงเขาแทน
ไปกินห้างกันเราก็เลี้ยงนะแต่เราบอกเขาว่าต้องประหยัดกัน เราไม่ควรมาบ่อยเนอะ เขาก็ไม่พอใจ ว่าเราเลี้ยงแล้วไม่สบายใจใช่ไหม
ถ้าเราพูดว่าอะไรแพง บรรยากาศจะเปลี่ยนทันที บอกให้เซนไว้เขามีตังจะจ่ายให้เองครบทุกบาท
จากเคยไปเที่ยวกันก็ไม่ไปกับเรา บอกว่าไม่อยากให้เราจ่า
แต่ไปกับลูกค้า ไปกับเพื่อนได้ เราเริ่มเสียสนิทใจกัน เขาพูดจาเหมือนเราไม่ได้มีน้ำใจต่อเขา มองเขาเป็นตัวปัญหา ว่าเราเห็นแก่ตัว พอเขาจนเราจึงไม่รัก
จากคนที่เรามองว่าเขามีเหตุผลมีความคิดความอ่าน เป็นคนน่ารัก เราโดนคำพูดเขาปั่นทอนเป็นอย่างมาก
เราก็ว่าเขาเช่นกัน เพราะเหตุผลเขาดูน้อยลงมาก
แล้วก็เจอกันน้อยลง มีอะไรไม่ค่อยบอก ถามไปไหนไปกับใครก็รำคาญ แต่ก็ยังบอกว่ารักเราอยู่
เวลามาหากันก็ยังเทคแคร์ดีเหมือนเดิม เวลาอยู่ด้วยกันดูแลเราดีมาก มากจริงๆไม่เคยมีใครดูแลเราดีขนาดนี้นอกจากพ่อแม่
และถึงทะเลาะกันทุกวันเราก็ยังคุยกันอยู่แทบทุกวันคุยกันสองสามชม. แสดงว่าเขาก็ยังแคร์เราอยู่ใช่ไหม
แต่บางวันที่เขาติดงานหรือเหนื่อยมากๆ ก็จะตัดบทจบปิดเครื่อง ทักมาใหม่ตอนนเช้า แต่ไม่บ่อย เดือนที่ผ่านมาสามครั้ง
แต่ก็เสียความรู้สึกมากนะ
เราเอาเรื่องไปปรึกษากับเพื่อนเพื่อนว่าเขามีคนอื่นรึเปล่า
เราไว้ใจ แต่เราก็สงสัยมากเช่นกัน เขาห่วงมือถือไหม ก็ติดตัวเขาตลอดแต่เรารู้พาสเวิด เขาบอก
เราไม่เคยดูมือถือเขาเรารู้มันจะไม่มีอะไรแน่นอน
แต่เราดูคอมเขา เราชั่วมาก คอมมีพาสแต่เรามีเพื่อนที่เข้าดูได้ ก็ยกไปเลย
เราเจอปข้อมูลที่เอามาประติดประต่อ แล้วรู้ว่าเขาหลอกเอาเงินคนอื่น ยืมคนจากหลายที่ ต่างจากที่เขาเคยบอกเรา
แต่ข้อมูลนี่ค่อนข้างเก่า เพราะเป็นคอมพีซีที่ทิ้งไว้ในห้องเก็บของบ้านเขา
บ้านเขาเป็นบ้านหลังเล็กๆกลางเมือง เขาว่าเเป็นบ้านเพื่อนเขาเอง และตกแต่งภายในอย่างดี เขาว่าเขาตกแต่งเอง ถือเป็นน้ำใจให้เพื่อนที่คิดค่าเช่าเขาถูก
เราประทับใจกับสไตล์แต่งบ้านเขามาก เรียบร้อย ปราณีต มินิมอลแต่ดูดี เรามองว่าเขาเก่งที่เลือกแต่งบ้านได้สวยขนาดนี้ ด้วยเฟอร์ที่ราคาไม่สูง
แต่เราสืบมาจนได้ว่าที่จริงเป็นบ้านเช่า ยิ่งโดนหลอกดอกสอง แต่เราก็ยังเข้าข้างตัวเองว่า เขาบอกเราตั้งแต่เรารู้จักกันใหม่ๆ เขาคงอยากให้เราประทับใจ
บางทีคนเราก็โกหกกันเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราก็มีเรื่องที่โกหกบ้าง
เราสับคนว่าเขายังแคร์เรายังรักเราไหม ที่ผ่านมาเขาเป็นแค่อดีตเขาคงเปลี่ยนไปแล้ว เขาปรับตัวแล้ว และตอนนนี้เข้าสู้อยู่เพื่ออนาคตของเรา
เราคิดแบบนั้น หรือเราแค่หลอกตัวเอง
จะทำไงต่อดี
เราไม่ได้หมดแค่เงินเก็บเรายังโดนลดการถือหุ้นของอู่ลง เพราะอู่ต้องขยายแข่งญาติๆลงขันกันเพิ่มแต่เราไม่มีตังไปลงด้วย
ทำให้สัดส่วนรายได้เราน้อยลง บวกกับออนไลน์ที่เราขายคู่แข่งเยอะขึ้นมากตัดราคากัน
กว่าจะมีเงินเก็บเหมือนเดิมจากสถาพเราตอนนี้ต้องใช้เวลานานมาก