ท่านใดขับรถกระบะ หรือรถบรรทุก ระวังไว้เนื่องจากฝุ่น 2.5 pm จาราจรกลางเลยมาตั้งด่านตรวจควันดำโดยเฉพาะทั่วกรุง ซึ่งเป็นเรื่องดี ถ้าตำรวจตั้งใจลดควันดำจริงๆ ด้วยความบริสุทธิใจจริงๆ ไม่ใช่หาเงินเข้ากระเป๋า
วันก่อนขับกระบะ ไปเจอด่านจากจาราจรกลาง เหยียบเร่งเครื่องครั้งสองครั้งแล้ววัดเลย โต้แย้งว่าเป็นเขม่าค้างท่อไอเสียก็ไม่ฟัง เขียนใบสั่งให้ 1,000 บาท ผิดตาม พรบ.จาราจร มาตรา 10 ทวิ ดังนี้
ถามว่าที่โดนปรับ มันถูกต้องไหม นำรถที่
เครื่องยนต์ ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน เกินกว่าที่กำหนดมาใช้ไหม ในเมื่อมั่นใจว่าเครื่องยนต์ยังสภาพดี
วันนี้เลยเอารถไปตรวจที่ขนส่งแล้ว ปรากฎว่าค่าผ่าน
ข้องใจมาก เลยโทรถามตำรวจที่ปรับ ว่าใช้วิธีการตามไหน ปรากฎว่าวิธีตรวจวัดมีหลักเกณฑ์ตาม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดค่าควันดำของรถยนต์ฯ
วิธีการคร่าวๆ คือ ก่อนการตรวจวัด เพื่อวัดให้ได้ค่าของไอเสียที่ปล่อยจากเครื่องยนต์จริงๆ จะต้องเตรียมสองสิ่งคือ
1. เครื่องมือตรวจวัด เช่น ต้องทำความสะอาด
2. รถยนต์ ต้องอยู่ในอุณหภูมิปกติ(ไม่ใช่วิ่งมาเครื่องร้อนๆแล้วตรวจ) ต้องปิดแอร์์ ต้องเร่งเครื่องสุดไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เพื่อไล่เขม่าตกค้างจากท่อไอเสีย เป็นต้น
ตามข้างต้น หมายความว่า การตรวจวัด ต้องตรวจวัดควันที่ออกจากเครื่องยนต์จริงๆ เพราะตามมาตรา10ทวิ หมายถึงเครื่องยนต์ ไม่ใช่ท่อไอเสีย(ท่อไอเสียเป็นชิ้นส่วนต่างหากจากเครื่องยนต์) โดยก่อนตรวจทั้งเครื่องมือวัดต้องสะอาด และท่อไอเสียต้องเหลือเขม่าตกค้างน้อยที่สุด ไม่ใช่วัดผลจากเขม่าตกค้าง ตามวิธีการถึงกำหนดให้เร่งเครื่องสุดไม่น้อยกว่าสองครั้ง คือมากกว่าสองก็ได้ เพื่อไล่เขม่าตกค้างให้เหลือน้อยที่สุด ตามนี้
ท่านใด โดนเรียกตรวจควันดำ ให้เหยียบจนแน่ใจว่าเขม่าเหลือน้อยที่สุด ค่อยวัดนะค๊ะ
ท่อไอเสีย ไม่ใช่เครื่องยนต์ ตามนี้
วิธีการตรวจวัดก็เขียนไว้ถูกต้องและเป็นธรรม แต่ตำรวจจะทำทุกทางให้เราผิดค่ะ เพื่อเงินส่วนแบ่งจากค่าปรับ ไหนจะนายที่บีบลงมาอีก ใครๆก็อยากได้เงิน แล้วให้คนที่จะได้เงินมาเป็นผู้ตรวจวัด เค้าก็ต้องพยายามตรวจให้ผิด ความซวยก็ตกอยู่กับประชาชนอย่างเรา (ความจริง ไม่โลกสวย)
ถ้าไม่เห็นด้วยกับใบสั่ง หรือเขาพยายามยัดเยียดให้แล้วไม่ฟัง ให้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งต่อเจ้าพนักงานผู้ออกใบสั่ง ณ จุดนั้น ได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องไปตามตัว ยิ่งจาราจรกลางยิ่งตามตัวยาก แล้วให้ตำรวจส่งเรื่องขึ้นศาลเลยค่ะ
ตอนนี้กำลังจะตามเอาผลตรวจที่ขนส่ง ไปโต้แย้งกับผู้ที่ออกใบสั่ง แต่ว่าตำรวจท่านนั้นอ้างว่าอยู่ข้างนอก ทั้งปีไม่เข้าสำนักงานแม้แต่วันเดียวค่ะ มันเป็นไปได้ไหม
ขอแชร์ประสบการณ์ไว้ เผื่อใครถูกตรวจควันดำ จะได้รู้กฎหมายเท่าทันตำรวจ(ที่ไม่ดี) ค่ะ
รู้เท่าทันตำรวจ ยัดเยียดข้อหาควันดำ
วันก่อนขับกระบะ ไปเจอด่านจากจาราจรกลาง เหยียบเร่งเครื่องครั้งสองครั้งแล้ววัดเลย โต้แย้งว่าเป็นเขม่าค้างท่อไอเสียก็ไม่ฟัง เขียนใบสั่งให้ 1,000 บาท ผิดตาม พรบ.จาราจร มาตรา 10 ทวิ ดังนี้
ถามว่าที่โดนปรับ มันถูกต้องไหม นำรถที่ เครื่องยนต์ ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน เกินกว่าที่กำหนดมาใช้ไหม ในเมื่อมั่นใจว่าเครื่องยนต์ยังสภาพดี
วันนี้เลยเอารถไปตรวจที่ขนส่งแล้ว ปรากฎว่าค่าผ่าน
ข้องใจมาก เลยโทรถามตำรวจที่ปรับ ว่าใช้วิธีการตามไหน ปรากฎว่าวิธีตรวจวัดมีหลักเกณฑ์ตาม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดค่าควันดำของรถยนต์ฯ
วิธีการคร่าวๆ คือ ก่อนการตรวจวัด เพื่อวัดให้ได้ค่าของไอเสียที่ปล่อยจากเครื่องยนต์จริงๆ จะต้องเตรียมสองสิ่งคือ
1. เครื่องมือตรวจวัด เช่น ต้องทำความสะอาด
2. รถยนต์ ต้องอยู่ในอุณหภูมิปกติ(ไม่ใช่วิ่งมาเครื่องร้อนๆแล้วตรวจ) ต้องปิดแอร์์ ต้องเร่งเครื่องสุดไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เพื่อไล่เขม่าตกค้างจากท่อไอเสีย เป็นต้น
ตามข้างต้น หมายความว่า การตรวจวัด ต้องตรวจวัดควันที่ออกจากเครื่องยนต์จริงๆ เพราะตามมาตรา10ทวิ หมายถึงเครื่องยนต์ ไม่ใช่ท่อไอเสีย(ท่อไอเสียเป็นชิ้นส่วนต่างหากจากเครื่องยนต์) โดยก่อนตรวจทั้งเครื่องมือวัดต้องสะอาด และท่อไอเสียต้องเหลือเขม่าตกค้างน้อยที่สุด ไม่ใช่วัดผลจากเขม่าตกค้าง ตามวิธีการถึงกำหนดให้เร่งเครื่องสุดไม่น้อยกว่าสองครั้ง คือมากกว่าสองก็ได้ เพื่อไล่เขม่าตกค้างให้เหลือน้อยที่สุด ตามนี้
ท่อไอเสีย ไม่ใช่เครื่องยนต์ ตามนี้
วิธีการตรวจวัดก็เขียนไว้ถูกต้องและเป็นธรรม แต่ตำรวจจะทำทุกทางให้เราผิดค่ะ เพื่อเงินส่วนแบ่งจากค่าปรับ ไหนจะนายที่บีบลงมาอีก ใครๆก็อยากได้เงิน แล้วให้คนที่จะได้เงินมาเป็นผู้ตรวจวัด เค้าก็ต้องพยายามตรวจให้ผิด ความซวยก็ตกอยู่กับประชาชนอย่างเรา (ความจริง ไม่โลกสวย)
ถ้าไม่เห็นด้วยกับใบสั่ง หรือเขาพยายามยัดเยียดให้แล้วไม่ฟัง ให้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งต่อเจ้าพนักงานผู้ออกใบสั่ง ณ จุดนั้น ได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องไปตามตัว ยิ่งจาราจรกลางยิ่งตามตัวยาก แล้วให้ตำรวจส่งเรื่องขึ้นศาลเลยค่ะ
ตอนนี้กำลังจะตามเอาผลตรวจที่ขนส่ง ไปโต้แย้งกับผู้ที่ออกใบสั่ง แต่ว่าตำรวจท่านนั้นอ้างว่าอยู่ข้างนอก ทั้งปีไม่เข้าสำนักงานแม้แต่วันเดียวค่ะ มันเป็นไปได้ไหม
ขอแชร์ประสบการณ์ไว้ เผื่อใครถูกตรวจควันดำ จะได้รู้กฎหมายเท่าทันตำรวจ(ที่ไม่ดี) ค่ะ