คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เท่าที่อ่านเนื้อเรื่อง การเรียบเรียงคำพูด คุณมีตรรกะ กระบวนการคิดที่ไม่ขัดแย้งต่อกัน นะ(ถ้าคุณเขียนด้วยธรรมชาติของคุณที่เป็นอยู่ ณ เวลานี้)
ที่คุณเป็นก็คือ คุณไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตัวเองบางช่วงเวลา เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณไม่ดีกับทัศนคติในตอนนี้ของคุณ คุณจึงมีอาการเครียด คุณอ่อนไหว(Sensitive)ต่อสิ่งกระทบเกินไปจากคนโดยทั่วไป คุณถูกสิ่งแวดล้อมกดดันจนทำให้ สภาวะกาทำสมาธิตามธรรมชาติบกพร่องจากที่ควรจะเป็น คุณขาดกำลังใจ ขาดเรี่ยวแรงที่ฝืนสู้กับอุปสรรค ทำให้เมื่อคุณเจอปัญหาบางอย่างที่คุณรังเกียจ คุณจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับมันเลยแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เพราะคุณหดหู่ ท้อแท้ และมักจมกับความหลังที่ผ่านมาแล้ว(มักเกิดกับบุคคลที่ขาดสังคมเป็นเวลานาน ขอให้รู้ด้วยว่า ธรรมชาติที่แท้จริงของคนทั่วไป ก็คือ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม)
.........วิธีแก้ คุณต้องออกจากวังวนเหล่านี้ ก็คือเปลี่ยนพฤติกรรม โดยหาวิธีที่คุณจะยืนหยัดในสังคมที่คุณอยู่อย่างเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง อย่าแครคนอื่นๆ มาเกินไป พยายามทำอะไรให้เพลิดเพลินจะได้ไม่คิดซ้ำๆ ย้ำๆ เรื่องเดิมเมื่อเวลาอยู่ตามลำพัง พยายามไปหาสังคมที่เค้ายอมรับต่อคุณ เล่นสนุกคุยให้เพลิดเพลิน มีเป้าหมายบ้างในบางครั้ง แพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่คุณก็สนุกที่จะอยู่กับช่วงเวลาแบบนั้น.......
ขอให้เข้มแข็ง อย่าอยู่ตามลำพังบ่อยๆ ไปนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อนๆ ติววิชาแลกเปลี่ยนความคิดกัน อย่างเพลิดเพลิน อย่าแครความรู้สึกของคนอื่น มากเกินไปครับ(คุณไม่ได้ขอเขากิน จะแครอะไร ใครไม่คบ ก็ไม่เห็นต้องง้อ กลัว อะไร ครับ)
ที่คุณเป็นก็คือ คุณไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตัวเองบางช่วงเวลา เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณไม่ดีกับทัศนคติในตอนนี้ของคุณ คุณจึงมีอาการเครียด คุณอ่อนไหว(Sensitive)ต่อสิ่งกระทบเกินไปจากคนโดยทั่วไป คุณถูกสิ่งแวดล้อมกดดันจนทำให้ สภาวะกาทำสมาธิตามธรรมชาติบกพร่องจากที่ควรจะเป็น คุณขาดกำลังใจ ขาดเรี่ยวแรงที่ฝืนสู้กับอุปสรรค ทำให้เมื่อคุณเจอปัญหาบางอย่างที่คุณรังเกียจ คุณจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับมันเลยแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เพราะคุณหดหู่ ท้อแท้ และมักจมกับความหลังที่ผ่านมาแล้ว(มักเกิดกับบุคคลที่ขาดสังคมเป็นเวลานาน ขอให้รู้ด้วยว่า ธรรมชาติที่แท้จริงของคนทั่วไป ก็คือ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม)
.........วิธีแก้ คุณต้องออกจากวังวนเหล่านี้ ก็คือเปลี่ยนพฤติกรรม โดยหาวิธีที่คุณจะยืนหยัดในสังคมที่คุณอยู่อย่างเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง อย่าแครคนอื่นๆ มาเกินไป พยายามทำอะไรให้เพลิดเพลินจะได้ไม่คิดซ้ำๆ ย้ำๆ เรื่องเดิมเมื่อเวลาอยู่ตามลำพัง พยายามไปหาสังคมที่เค้ายอมรับต่อคุณ เล่นสนุกคุยให้เพลิดเพลิน มีเป้าหมายบ้างในบางครั้ง แพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่คุณก็สนุกที่จะอยู่กับช่วงเวลาแบบนั้น.......
ขอให้เข้มแข็ง อย่าอยู่ตามลำพังบ่อยๆ ไปนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อนๆ ติววิชาแลกเปลี่ยนความคิดกัน อย่างเพลิดเพลิน อย่าแครความรู้สึกของคนอื่น มากเกินไปครับ(คุณไม่ได้ขอเขากิน จะแครอะไร ใครไม่คบ ก็ไม่เห็นต้องง้อ กลัว อะไร ครับ)
แสดงความคิดเห็น
ผมคิดว่าผมเป็นโรคซึมเศร้าครับ
เหตุการณ์ที่คิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า
1.สวัสดีคุณครูแต่เราก็เหมือนไหว้ลม เราก็เอามาคิดตลอดเห้ย นี่เราทำอะไรผิดหรือเปล่าวะ ( คือเราไหว้ไปคุณครูเค้าเห็นนะเพราะมันไม่ใช่ครั้งเดียวและหลายคนด้วย แต่ที่ครูทำคือมองหน้าเราไม่ยิ้มแล้วก็ทำหน้าบูดใส่ เราว่าเราก็ยิ้มให้นะ )
2. ตอนนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ส่วนสตังก็ไม่มีเห้ออ เราเคยเรียนได้เกรดดีนะ แต่หลังๆมาเราอ่านไม่เข้าหัวเรียนไม่รู้เรื่องมันมีความคิดอื่นเข้าหัวตลอดเราเคยท่อง พวกหน่วย si คำอุปสรรค แค่2-3ครั้งเดียวเราก็จำได้แล้ว แต่ตอนนี้เราต้องท่อง5-6ครั้ง เพราะเราคิดตลอดว่าถ้าท่องผิดครูจะหักคะแนนมั้ย จะโดนเพื่อนหัวเราะไหม "เราไม่ชอบการที่ถูกคนดูถูกหรือซ้ำเติมมากเลย"
3. เราโดนเพื่อนล้อว่าเป็นเกย์ เราก็ไม่ได้โกรธอะไรเพื่อนนะ เพราะมีคนบอกว่าเราบุคลิกเหมือนเกย์ ทั้งพ่อ-แม่ พี่สาว เพื่อน เวลาไปค่ายกิจกรรมหรือเจอเพื่อนใหม่ก็โดนถามทุกครั้งว่าเป็นมั้ย??? แต่จะวัดว่าคนเป็นเกย์คือต้องวัดที่ตรงไหนจริงมั้ย 555 แต่เรากลับเอามาคิดเห้ยนี่เราเหมือนขนาดนั้นเลยหรอ เห้ยทำไมวะ " จากนั้นเพื่อนผู้ชายที่สนิท คนเดียวเค้าก็บอกว่าเลิกเล่นด้วยกันเถอะเดี๋ยวก็มีคนมาว่ากูเป็นคู่เกย์กับอีก 555 " เราว่าก็มีรุ่นพี่ที่ชอบแล้วนะ เพื่อนเค้าอาจจะพูดเอาขำพูดเล่นๆ แต่เราคือคนที่เก็บเอามาคิดเพราะตอนเดินกับเพื่อนเรา เพื่อนเค้าก็จะแซวว่าจะพาคู่เกย์ไปไหน555 เราก็ไม่อยากให้เพื่อนโดนล้อเราก็พยายามตีตัวออกห่าง อยากที่บอกครับ เราไม่ชอบให้คนมาดูถูกหรือมาล้อข้อพกพร่องหรือข้อผิดพลาดของเรา
4. ผมชอบเอาข้อผิดพลาดของผมมาคิดซ้ำๆคิดวนไปทั้งวัน ทั้งคืน เช่น ผมเคยไปแข่งเล่านิทานภาษาอังกฤษ ผมพลาดเกือบตกเวที จากนั้นผมก็ Blank เลย555" ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่คิดซ้ำๆอยากแก้ไขมัน แต่ทุกเรื่องที่ผมเอามาคิดผมแก้ไขมันไม่ได้สักเรื่องเลยครับ
" ผมคิดว่าผมรู้ตัวว่าผมเป็นอะไร อะไรทำให้ผมเป็นแบบนี้ แต่ผมต่อต้านมันไม่ได้ครับ ทุกความผิดพลาด ทุกคำดูถูกเหยียดหยาม ทุกคำต่อว่า ทุกคำล้อเลียน ผมคิดและอยากแก้ไขมันอยากลบคำสบประมาทอยากแก้ไขความผิดพลาด "
ผมแค่อยากมีที่ระบาย ผมอยากจะระบายกับเพื่อน.. แต่ผมไม่มี อยากระบายกับครอบครัว ผมก็ไม่มี คำพูดที่ว่ามีคนรักเราแต่เราไม่รู้สำหรับผมมันคงไม่จริงครับ ผมไม่ได้มองโลกในแง่ลบนะครับ ถ้าใครที่อ่านมาคงคิดว่าผมก็เป็นคนมีเหตุผลไม่มากก็น้อย ผมตัดสินทางการกระทำของคนรอบข้างครับผมเห็นสิ่งที่เค้าทำ ผมรู้ในสิ่งที่เค้านินทา
" การที่รู้ว่า เพื่อนชอบพูดลับหลังว่าไอ้...ขี้อวดขี้โชว์ ทั้งที่เราคิดว่าเราอยากจะแสดงศักยภาพที่เรามีความสามารถที่เราพยายามฝึกฝนแต่คนรอบข้างกลับมองว่ามันคือการอวดคือการ Show off "
" การที่รู้ว่า แม่เคยกินยาฆ่าตัวเรา การที่รู้ว่าพ่อเอาเรามาทิ้งไว้กับญาติที่ไหนก็ไม่รู้ จะว่าโกรธก็ไม่ใช่นะครับเราเข้าใจเหตุผลในการไม่พร้อมและเคารพเหตุผลในการแยกทาง แต่มันเป็นเหตุผลบางอย่างที่เราอธิบายไม่ได้ "
" การที่ญาติที่เลี้ยงเราคิดกับเราเป็นแค่กาฝาก และลูกของญาติเราก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าเรานักทั้งที่เราพยายามทำดีด้วย เพราะเราไปแอบอ่านเจอdiary ของพี่สาว โดยการเขียนคำว่า ชีวิตของฉันตอน......แย่อยู่แล้วยังมีลูกของใครก็ไม่รู้มาให้แม่ฉันรับผิดชอบ ชีวิตของฉันโคตรเฮงซวย "
" การที่คุณครูชอบพูดเหน็บแนมเรา ทั้งที่เรายังไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด การที่เราซักผ้าแล้วผ้าโดนหมากระชากลงมาเลยตัดสินใจใส่เสื้อ คอปกไปแทนชุดพละ แล้วครูคนที่ชอบทำหน้าบูดใส่เราพูดว่า เราทำไมถึงเลวร้ายลงทุกวัน เราสตั้นหนักมาก 555 เลยบอกไปตามที่เราบอก ทำไมไม่ใส่ชุดนักเรียน 1วันจันทร์เราใส่ชุดนร วันอังคารใส่ชุดนร วันพุทธใส่ชุดนรเพราะเดินขบวนเลือกตั้งบ้าบอ เรากลับได้คำตอบมาว่าอย่ามาอ้าง เราก็ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ "
ก็นั้นแหละครับสิ่งที่ผมเจอ