ปัญหาฝุ่นพิษ เปลี่ยนจากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เปลี่ยนมาเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุ ดีกว่าไหม

สวัสดีค่ะ

เราเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในจ.ภาคเหนือ ขอไม่ระบุแล้วกันว่าจังหวัดไหน เพราะไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใด มันก็คือในประเทศไทยอยู่ดี

ขอเป็นคนหนึ่งที่ขออาสาออกความคิดเห็น และ ข้อเสนอแนะ ปัญหาฝุ่นพิษ ณ ตอนนี้ โดยใช้คำว่า หาวิธีป้องกันที่ต้นเหตุ

เพราะเท่าที่เห็นในเวลาที่ผ่านมาหลายเดือนนี้ ที่หน่วยงานนั่นนี่ออกมาทำกัน ถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ และเห็นใจทุกคนที่ต้องเหน็ดเหนื่อย เพื่อที่จะบรรเทาทุกข์เจ้าฝุ่นพิษที่มันเพิ่มสูงขึ้นทุกวี่วัน ให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ของตน แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะคะว่า นั่นคือ การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อย่างเช่น ที่เราทำกันอยู่ ก็คือ

1.ประกาศไม่ให้ทุกคนเผาขยะ

ถามว่า ยังมีเผากันอยู่ไหม
คำตอบคือ ยังมีอยู่เหมือนเดิม อาจจะแอบมากขึ้นด้วยซ้ำ และเป็นแค่กลุ่มบุคคลส่วนหนึ่งในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งนี่แหล่ะตัวปัญหา

2.รณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันรดน้ำหน้าบ้าน รดน้ำขึ้นที่สูง อาคารสูงๆก็ให้คอยรดน้ำลงมา บางอาคารก็ร่วมมืออย่างดี แต่บางอาคารก็ไม่ได้สนใจใส่ใจอะไร

ถามว่า แล้วแก้ปัญหาได้ไหม
ตอบว่า แก้ได้เฉพาะวันที่รดน้ำกัน วันรุ่งขึ้นก็ค่าฝุ่นพิษก็สูงขึ้นอีก แล้วสิ่งที่เสียไปคือ กำลังแรง กำลังคน ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ คือ น้ำ และสูญเสียไปอย่างมากมาย

3.รณรงค์ให้ทุกคนสวมหน้ากาก เมื่อออกจากบ้าน ทำให้ธุรกิจขายหน้ากากได้เงินกันไปตามๆกัน เพราะสุขภาพที่ดี ใครก็ต้องป้องกันตัวเอง และมีคำถามตามมาอีกมากมาย จะมีวันไหนกล้าออกจากบ้าน โดยไม่ใส่หน้ากากกันบ้าง

ซึ่งข้อนี้สำคัญมากค่ะ ถามว่าจะมีใครอยากมาเที่ยวบ้านเราเมืองเราอีกไหม ถ้าเค้าเห็นประชาชนในประเทศ ใ่ส่หน้ากากกันทั้งจังหวัด ประเทศเราจะสูญเสียรายได้เข้าประเทศขนาดไหนคะ

เอาแค่ 3 ข้อ ที่เห็นๆ คือ มันเป็นแก้ปัญหาที่ปลายเหตุทั้งสิ้น ไม่ทราบว่าผู้อ่านจะคิดเห็นเหมือนอย่างเราไหม ว่าที่จ.ภาคเหนือเราทำกันอยู่นี้มันคือแก้ที่ปลายเหตุ 

จุดประสงค์ของการเขียนกระทู้นี้ ไม่ได้ต้องการกล่าวหา หรือ ต่อว่า หน่วยงานใดๆนะคะ แต่อยากจะเสนอแนะ แนวทาง ที่เราจะปกป้อง ป้องกัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขปัญหาที่มันเกิดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย 
ป้องกัน ดีกว่า แก้ไข ดีไหมคะ

ย้อนกลับไปที่ข้อ1.ข้อเดียวจบเลยค่ะ

1.ที่ว่ารณรงค์ให้ทุกคนหยุดเผาขยะ เผาป่า เผาทุกสิ่งทุกอย่างนี่แหล่ะค่ะ คือ เป็นบุคคลที่เราไม่รู้ว่าเป็นใคร เค้าอยู่ในที่มืด เราอยู่ในที่สว่าง จะจัดการ ต้องให้คนในพื้นที่จัดการค่ะ

1.1 เริ่มจากระบบตามนี้ค่ะ

จังหวัด ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านก็สั่งการลงไปสิคะ ผ่านท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านท่านนายอำเภอ ผ่านท่านปลัดอำเภอ จนสุดท้ายลงไปถึงอบต.
อันนี้คือ ท่านนายกอบต.ค่ะ 

จากจุดใหญ่ๆข้างบน จากท่านผู้ว่ามา ท่านก็ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบดูแลในส่วนตัวเมือง อันนี้เข้าใจค่ะว่าท่านคงทำกันอยู่ แต่มองลึกๆลงไป การเผาขยะ เผาป่า มันคือพื้นที่รอบนอก ถูกไหมคะ ฉะนั้นก็น่าจะสั่งงานลงไปที่อบต. ท่านนายกอบต.นี่ล่ะค่ะ ต้องทำงานหนักหน่อย ท่านก็ประสานงานลงไปสิคะ เพราะมีหลายตำบล ก็แยกส่วนกันรับผิดชอบกันไปในส่วนของแต่ละอบต.ไป ดังนี้

อบต.สั่งงานไปที่ผู้นำชุมชนแต่ละหมู่บ้าน ในตำบลของตน 

แต่ละตำบล จะมีกำนัน มีผู้ใหญ่บ้าน  นี่แหล่ะคือ ตัวแปรสำคัญ เพราะเค้าจะมีสื่ออยู่ในมือค่ะ นั่นคือ การประกาศเสียงตามสายตอนเช้า กับ ตอนค่ำ และประชาชนที่อยู่ในแต่ละตำบล ก็จะได้ยินเสียงตามสายตลอด นอกจากจะไกลออกไปเท่านั้นที่อาจจะต้องมีกลุ่มบุคคลออกไปชี้แจง

สรุปคือ 
-ใช้เสียงตามสายประกาศ ชี้แจง ผลเสียที่จะตามมาจากการเผาขยะ เผาป่า 
ผลเสียทั้งระยะสั้น ระยะยาว ต่อสุขภาพ ต่อภาวะเศรษฐกิจในจังหวัดที่จะตามมา ลามไปถึงระดับประเทศ

-ทำป้ายประกาศ ออกไปตำบลรอบนอก ตามตลาด หน้าร.ร หน้าร.พ จุดสำคัญๆ ( ของบมาช่วยบ้านเมือง ในกรณีเร่งด่วนนี้ก่อนเถอะค่ะ )

-มีโทษปรับ บทลงโทษที่เข้มงวด จริงจัง 

-ทุกคนในหมู่บ้านของตน ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล พบเห็นอะไร หรือ ใครที่ยังฝ่าฝืนกระทำอยู่ ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านทันที ผู้ใหญ่บ้านก็ต้องประสานงานกับประชาชนในท้องถิ่นของตน และกับทางจังหวัด

ข้อแนะนำนี้ ถ้าในบางจังหวัดได้ดำเนินการอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีต่อพี่น้องประชาชนในจังหวัดของท่านค่ะ แต่ถ้าบางจังหวัดยังไม่ดำเนินการ หรือยังแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุกันอยู่ ลองเปลี่ยนวิธีกันดูนะคะ

กระทู้นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์จะต่อว่า หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยก เป็นเพียงข้อเสนอแนะ แนวทางป้องกัน เท่านั้นค่ะ

หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่เหมาะสม หรือ พิมพ์ข้อความไม่ถูกไม่ควร เจ้าของกระทู้ ขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ

ถ้ากระทู้นี้เป็นประโยชน์ในส่วนรวม กรุณาแบ่งปันให้ผู้อื่นได้ช่วยกันป้องกัน สอดส่อง ดูแล เพื่อสุขภาพของบุตรหลาน ในจังหวัดของท่านด้วยค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

ND. คนไทยคนหนึ่งค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่