ขอโพสต์ถามแทนน้องที่ออฟฟิสนะคะ น้องเค้าเขียนแล้วให้โพสต์ให้ ตามนี้เลยค่ะ
เราไปค้ำพี่ที่ออฟฟิสทั้งหมดสองก้อน ซึ่งเค้าลาออกแล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ คือ
(1) สหกรณ์ เงินต้นเหลือประมาณ 400,000 บาท (ตอนนี้ถูกหักเงินเดือนจากต้นสังกัดทุกเดือน เดือนละ 4600 บาท เป็นระยะเวลาปีกว่าๆแล้ว)
(2) ธนาคาร เงินต้นเหลือประมาณ 680,000 บาท ตอนนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจากับแบงค์ค่ะ ยังไม่ถูกฟ้อง
ที่เรากลุ้มใจคือหนี้ของธนาคาร เพราะจริงๆ ธ. จะฟ้องแล้ว แล้วเป็นยอดเงินที่สูงมากๆๆ เราไม่ไหวแล้วจริงๆ ส่วนหนี้สหกรณ์เราเริ่มทำใจยอมรับได้แล้วที่ถูกหักไปเป็นปี ก็ถือว่าฝาดเคราะห์ไป แต่ถ้าต้องมาให้ต้องจ่ายแทนหนี้ ธ. อีก เราไม่ไหว เราเครียดมากๆ นอนไม่หลับ สงสารพ่อแม่มาก เค้าทุกข์ใจแทนเรามาก เราไปเจรจากับแบงค์ ขอจ่ายแต่เงินต้น 400,000 บาท เพื่อถอดชื่อเราออกจากการเป็นคนค้ำ ธ.ก็ไม่ยอม บอกว่าต้องให้จ่ายเงินต้นคงเหลือเต็มจำนวนประมาณ 680,000 บาท ถึงจะถอดชื่อเราออกจากการเป็นคนค้ำได้ แล้วเราจะไปหาเงินมาจากไหน แค่นี้เราก็ใช้เดือนชนเดือนแล้ว ที่ขอ ธ.ชดใช้ 400,000 บาท จริงๆแล้วเราก็ไม่มีเงินหรอก ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาที่ไหน
เราสืบรู้มาว่าพี่เค้าทำงานที่ไหน มีรายได้มีเงินเดือนยืนยันแล้ว เราติดต่อเค้าไปได้ครั้งนึง ขอให้เค้าไปติดต่อธนาคาร ซึ่งคนกู้เค้าก็ติดต่อ ธ. ไปครั้งเดียวแล้วหายไปเลย คราวนี้เราก็ติดต่อคนกู้ไม่ได้อีกเลย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเค้าทำงานตรงนี้จริงๆ คือหมดหวังจริงๆ และเท่าที่รู้คือเค้ามีหนี้ทั้งในและนอกระบบเยอะมากๆๆๆๆๆๆ คิดว่าที่ลาออกจากหน่วยงานเราเพราะต้องการหนีหนี้ทั้งหมด และอีกอย่างคือเป็นหน่วยงานของรัฐ มันตามตัวได้ง่าย และถ้าเป็นคนล้มละลาย ก็ต้องออกจากงาน เรายิ่งพิมพ์ เรายิ่งเจ็บใจ ที่เราไว้ใจ โง่ไปค้ำประกันให้เค้า
ขอถามตามนี้นะคะ
1. เราควรพยายามต่อรองกับ ธ. จ่ายเงินก้อนไปก้อนเดียวเพื่อถอดชื่อออกจากคนฟ้องในขั้นก่อนถึงศาลดีไหม??
2. จำนวนเงินเท่าไหร่????ถึงจะถือว่านี่คือจำนวนเงินที่เหมาะสม ดีที่สุด ในฐานะคนค้ำแล้วเพื่อให้เรื่องมันจบๆๆไป แต่ถ้าเค้าให้เราจ่ายหมดทั้งเงินต้น เราก็ไม่ไหวจริงๆ คือถ้า ธ. ยอมให้เราจ่ายสักสามแสน เพื่อถอดเราออกจากคนค้ำก่อนฟ้องศาลเราจะพยายาม
3. ถ้าต่อรองแล้ว ธ. ยังยืนยันให้จ่ายเงินต้นเต็ม แล้วเราไม่ยอม จนกระทั่งถูกฟ้อง
3.1 เราสามารถไปต่อรองในชั้นศาล แล้วยอมจ่ายแค่สามแสนเพื่อถอดเราออกจากคนค้ำได้ไหม????? เราพยายามถามหลายๆคน คำตอบที่ได้ก็มีหลายแบบ
-แบบแรก บางคนก็บอกว่าสามารถทำได้ ให้ไปต่อรองที่ศาล อย่าไปยอมจะได้จ่ายน้อยลง ตกลงได้ จ่ายน้อยกว่า มันสามารถทำได้จริงไหม?????
-แบบที่สองบางคนบอกว่า ถ้าไปถึงศาลแล้วถ้าคนกู้ไม่ไป (ซึ่งเค้าไม่ไปแน่นอน) ถึงแม้เราในฐานะคนค้ำจะไปศาลก็เหอะ ก็ตกลงยอมความไม่ได้กับ ธ. คนค้ำทำอะไรไม่ได้เลย ศาลก็จะตัดสินตามที่ ธ.เสนอไป คือทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระ ซึ่งมันคงจะเป็นล้านๆแล้ว
4. เราสงสัยว่าส่วนใหญ่พอขึ้นศาลแล้วมันเป็นแบบที่หนึ่ง หรือ แบบที่สอง?????
5.พอถึงชั้นศาลแล้วคนกู้ไม่ไป ส่วนใหญ่ศาลจะทำยังไงจะตัดสินยังไง เราสามารถต่อรองขอจ่ายแค่ยอดเงินต้นครึ่งนึงได้ไหมคะ ดอกเบี้ยไม่จ่าย ที่เหลือก็ไปสืบทรัพย์เอากับคนกู้ได้ไหมคะ????
6.เมื่อถึงตอนศาล แล้วคนกู้ก็ไม่ไป เราก็ไม่ยอมจ่าย โดยเราจะขอในศาลให้ ธ.ไปทำเรื่องหักเงินเดือนของคนกู้ได้ไหมในเมื่อเรารู้ว่าเค้าทำงานที่บริษัทเอกชนไหน มีเงินเดือนมีรายได้ แล้ว ให้ ธ. ไปหักเอาเงินเดือนของคนกู้ก่อนได้ไหมคะ????? ก่อนที่จะมาหักเงินเดือนเราอีกง่ะ หรือเค้าจะหักทั้งสองคนพร้อมกันเลยคะ??????
7. เราสับสนมาก เราไม่รู้จะเลือกทางไหนดี จะยอมจ่ายเงินให้ ธ.ก่อนดีกว่าไหม หรือจะให้ไปฟ้อง แล้วไปตกลงที่ศาลดี แบบไหนถึงจะได้ยอดต่ำสุด
เรางงมาก คือเขียนๆมา นี่มันไม่ใช่เงินที่เรากู้เลยนะ ทำไม ธ. ต้องมาบีบเอากับเราด้วย ทำไมไม่ไปตามเอากับคนกู้เลย ธ. แค่ส่งใบแจ้งใบเตือนให้คนกู้ตามที่อยู่ที่แจ้ง แค่นี้ ก็ถือว่าติดตามเอากับคนกู้ก่อนตาม กม.แล้วเหรอคะ ทำไมไม่ตามให้ถึงที่สุดก่อนสิ ถึงจะมาเอากับคนค้ำ
เรารบกวนผู้รู้ ทนายที่เคยทำเคสแบบนี้ หรือคนอื่นๆตอบหน่อยค่ะ เพราะที่เราศึกษาคือมีแต่เคสคนกู้ แค่คนค้ำมันยังงง งง อยู่เลยค่ะ
รบกวนสอบถามเรื่องคนค้ำประกันควรทำอย่างไรดีคะหากคนกู้หนีหนี้ไป
เราไปค้ำพี่ที่ออฟฟิสทั้งหมดสองก้อน ซึ่งเค้าลาออกแล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ คือ
(1) สหกรณ์ เงินต้นเหลือประมาณ 400,000 บาท (ตอนนี้ถูกหักเงินเดือนจากต้นสังกัดทุกเดือน เดือนละ 4600 บาท เป็นระยะเวลาปีกว่าๆแล้ว)
(2) ธนาคาร เงินต้นเหลือประมาณ 680,000 บาท ตอนนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจากับแบงค์ค่ะ ยังไม่ถูกฟ้อง
ที่เรากลุ้มใจคือหนี้ของธนาคาร เพราะจริงๆ ธ. จะฟ้องแล้ว แล้วเป็นยอดเงินที่สูงมากๆๆ เราไม่ไหวแล้วจริงๆ ส่วนหนี้สหกรณ์เราเริ่มทำใจยอมรับได้แล้วที่ถูกหักไปเป็นปี ก็ถือว่าฝาดเคราะห์ไป แต่ถ้าต้องมาให้ต้องจ่ายแทนหนี้ ธ. อีก เราไม่ไหว เราเครียดมากๆ นอนไม่หลับ สงสารพ่อแม่มาก เค้าทุกข์ใจแทนเรามาก เราไปเจรจากับแบงค์ ขอจ่ายแต่เงินต้น 400,000 บาท เพื่อถอดชื่อเราออกจากการเป็นคนค้ำ ธ.ก็ไม่ยอม บอกว่าต้องให้จ่ายเงินต้นคงเหลือเต็มจำนวนประมาณ 680,000 บาท ถึงจะถอดชื่อเราออกจากการเป็นคนค้ำได้ แล้วเราจะไปหาเงินมาจากไหน แค่นี้เราก็ใช้เดือนชนเดือนแล้ว ที่ขอ ธ.ชดใช้ 400,000 บาท จริงๆแล้วเราก็ไม่มีเงินหรอก ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาที่ไหน
เราสืบรู้มาว่าพี่เค้าทำงานที่ไหน มีรายได้มีเงินเดือนยืนยันแล้ว เราติดต่อเค้าไปได้ครั้งนึง ขอให้เค้าไปติดต่อธนาคาร ซึ่งคนกู้เค้าก็ติดต่อ ธ. ไปครั้งเดียวแล้วหายไปเลย คราวนี้เราก็ติดต่อคนกู้ไม่ได้อีกเลย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเค้าทำงานตรงนี้จริงๆ คือหมดหวังจริงๆ และเท่าที่รู้คือเค้ามีหนี้ทั้งในและนอกระบบเยอะมากๆๆๆๆๆๆ คิดว่าที่ลาออกจากหน่วยงานเราเพราะต้องการหนีหนี้ทั้งหมด และอีกอย่างคือเป็นหน่วยงานของรัฐ มันตามตัวได้ง่าย และถ้าเป็นคนล้มละลาย ก็ต้องออกจากงาน เรายิ่งพิมพ์ เรายิ่งเจ็บใจ ที่เราไว้ใจ โง่ไปค้ำประกันให้เค้า
ขอถามตามนี้นะคะ
1. เราควรพยายามต่อรองกับ ธ. จ่ายเงินก้อนไปก้อนเดียวเพื่อถอดชื่อออกจากคนฟ้องในขั้นก่อนถึงศาลดีไหม??
2. จำนวนเงินเท่าไหร่????ถึงจะถือว่านี่คือจำนวนเงินที่เหมาะสม ดีที่สุด ในฐานะคนค้ำแล้วเพื่อให้เรื่องมันจบๆๆไป แต่ถ้าเค้าให้เราจ่ายหมดทั้งเงินต้น เราก็ไม่ไหวจริงๆ คือถ้า ธ. ยอมให้เราจ่ายสักสามแสน เพื่อถอดเราออกจากคนค้ำก่อนฟ้องศาลเราจะพยายาม
3. ถ้าต่อรองแล้ว ธ. ยังยืนยันให้จ่ายเงินต้นเต็ม แล้วเราไม่ยอม จนกระทั่งถูกฟ้อง
3.1 เราสามารถไปต่อรองในชั้นศาล แล้วยอมจ่ายแค่สามแสนเพื่อถอดเราออกจากคนค้ำได้ไหม????? เราพยายามถามหลายๆคน คำตอบที่ได้ก็มีหลายแบบ
-แบบแรก บางคนก็บอกว่าสามารถทำได้ ให้ไปต่อรองที่ศาล อย่าไปยอมจะได้จ่ายน้อยลง ตกลงได้ จ่ายน้อยกว่า มันสามารถทำได้จริงไหม?????
-แบบที่สองบางคนบอกว่า ถ้าไปถึงศาลแล้วถ้าคนกู้ไม่ไป (ซึ่งเค้าไม่ไปแน่นอน) ถึงแม้เราในฐานะคนค้ำจะไปศาลก็เหอะ ก็ตกลงยอมความไม่ได้กับ ธ. คนค้ำทำอะไรไม่ได้เลย ศาลก็จะตัดสินตามที่ ธ.เสนอไป คือทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระ ซึ่งมันคงจะเป็นล้านๆแล้ว
4. เราสงสัยว่าส่วนใหญ่พอขึ้นศาลแล้วมันเป็นแบบที่หนึ่ง หรือ แบบที่สอง?????
5.พอถึงชั้นศาลแล้วคนกู้ไม่ไป ส่วนใหญ่ศาลจะทำยังไงจะตัดสินยังไง เราสามารถต่อรองขอจ่ายแค่ยอดเงินต้นครึ่งนึงได้ไหมคะ ดอกเบี้ยไม่จ่าย ที่เหลือก็ไปสืบทรัพย์เอากับคนกู้ได้ไหมคะ????
6.เมื่อถึงตอนศาล แล้วคนกู้ก็ไม่ไป เราก็ไม่ยอมจ่าย โดยเราจะขอในศาลให้ ธ.ไปทำเรื่องหักเงินเดือนของคนกู้ได้ไหมในเมื่อเรารู้ว่าเค้าทำงานที่บริษัทเอกชนไหน มีเงินเดือนมีรายได้ แล้ว ให้ ธ. ไปหักเอาเงินเดือนของคนกู้ก่อนได้ไหมคะ????? ก่อนที่จะมาหักเงินเดือนเราอีกง่ะ หรือเค้าจะหักทั้งสองคนพร้อมกันเลยคะ??????
7. เราสับสนมาก เราไม่รู้จะเลือกทางไหนดี จะยอมจ่ายเงินให้ ธ.ก่อนดีกว่าไหม หรือจะให้ไปฟ้อง แล้วไปตกลงที่ศาลดี แบบไหนถึงจะได้ยอดต่ำสุด
เรางงมาก คือเขียนๆมา นี่มันไม่ใช่เงินที่เรากู้เลยนะ ทำไม ธ. ต้องมาบีบเอากับเราด้วย ทำไมไม่ไปตามเอากับคนกู้เลย ธ. แค่ส่งใบแจ้งใบเตือนให้คนกู้ตามที่อยู่ที่แจ้ง แค่นี้ ก็ถือว่าติดตามเอากับคนกู้ก่อนตาม กม.แล้วเหรอคะ ทำไมไม่ตามให้ถึงที่สุดก่อนสิ ถึงจะมาเอากับคนค้ำ
เรารบกวนผู้รู้ ทนายที่เคยทำเคสแบบนี้ หรือคนอื่นๆตอบหน่อยค่ะ เพราะที่เราศึกษาคือมีแต่เคสคนกู้ แค่คนค้ำมันยังงง งง อยู่เลยค่ะ