เมื่อต้องชำระเงินเพื่อปลดภาระผู้ค้ำประกัน สามารถฟ้องเพื่อเรียกเงินคืนจากผู้กู้ได้หรือไม่

เนื่องจากถูกบังคับคดี ยึดทรัพย์ (ห้องชุด 1 ห้อง) ราคาประเมินขายทอดตลาดอยู่ที่ 260,000 บาท และได้เจรจาประนอมหนี้กับธนาคาร(ธนาคารสีชมภู) และต้องการปลดภาระผู้ค้ำประกัน ต้องจ่ายเป็นเงินก้อน จำนวน  250,000 บาท (ยอดหนี้เงินต้น + ดอกเบี้ย = 520,000 บาท) ศาลพิพากษาให้ผู้กู้และผู้ค้ำ รับผิดชอบร่วมกัน
      ก่อนที่จะมีการตัดสินใจปลดภาระผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำได้พยายามติดตามหาผู้กู้ ว่าบ้านอยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน เพื่อให้ผู้กู้มาชำระหนี้ที่ตัวเองก่อไว้แล้ว และพบตัวแล้ว แต่จากการพูดคุยกัน ทำให้ผู้ค้ำไม่มั่นใจเลยว่า ผู้กู้จะสามารถชำระหนี้ได้ ถึงได้ก็ไม่รู้กี่ปี เพราะผู้กู้ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่มีเงินก้อนเพื่อปิดบัญชีหนี้ก้อนนี้ สามารถทำได้แค่ผ่อนชำระเท่านั้น และได้ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท จากยอดรวม 520,000 บาท ซึ่งไม่รู้กี่ปีถึงจะหมด และผู้กู้จะมีวินัยในการชำระหนี้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่มีอยุ่แล้ว และจนกว่าผู้กู้จะชำระหนี้หมด ห้องชุดหรือที่เราเรียกว่าบ้าน ก็จะยังไม่กลับมาเป็นของเรา ถ้าผู้กู้ไม่ชำระหนี้ และหนีไปอีก ผู้ค้ำก็ยังจะต้องกลับมารับผิดชอบแทนเหมือนเดิม จึงตัดสินใจที่จะปลดภาระผู้ค้ำประกันตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้ได้บ้านของเราคืนมาให้เร็วที่สุด
      อยากทราบว่าในกรณีที่ต้องชำระเงินเพื่อปลดภาระผู้ค้ำประกันนี้ สามารถฟ้องเพื่อเรียกเงินคืนจากผู้กู้ได้หรือไม่ หรือจากพ่อ-แม่ ของผู้กู้ (คิดว่าจะเข้าไปพูดคุยและขอร้องให้พ่อ-แม่ ของผู้กู้ช่วยเหลือ) หรือสามารถทำอย่างไรได้บ้างหรือไม่ เพราะตัวผู้กู้ไม่มีทรัพย์สินเป็นชื่อของตัวเองเลย เดือดร้อนมาก ๆ เพราะเงินก้อนที่จะเอาไปปลดภาระผู้ค้ำประกันนี้ก็ต้องหยิบยืมมาเหมือนกัน
     หากร้องต่อศาลขอให้หักเงินเดือนของผู้กู้ส่วนหนึ่งมาใช้หนี้ ศาลจะเห็นใจหรือไม่ และทำได้รึเปล่า (เงินเดือนผู้กู้อยู่ที่ไม่เกิน 20,000 บาท คือหมื่นปลายๆ ) หรือจะมีวิธีไหนแนะนำได้บ้าง จะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่