เที่ยว Leh Ladakh ฉบับ 2 วัย 5 ชีวิต
เพื่อนๆจ๋า นี่คือครั้งแรกของการรีวิวของเรา หากมีข้อเสนอ ติชม บอกเราได้เลยนะ เราจะได้พัฒนาให้ดีขึ้น
ต้นปี 2561 บทสนทนาในไลน์กลุ่ม "ลูกๆ" ดังขึ้น
ยุ้ย: แม่ๆ ไปเที่ยวเลห์ลาดักกันไหม มีพี่ที่เคยไปเค้าแนะนำมา มีหิมะด้วยนะ ไปปล่าวววว
แม่: ไปอินเดียหรอ ไม่เอาอ่ะ ห้องน้ำจะเข้ายังไง อาหารจะกินได้ไหม แขกตัวเหม็น ไม่เอา ไม่ไป (เหตุผลมาเป็นชุดค่ะ)
ยุ้ย: แม่ เค้าบอกว่ามันสวยนะ แล้วเราก็ส่งรูปให้ดู
แม่: อือๆ ก็สวยดี เดี๋ยวถามญาติพี่น้องก่อน (ที่บ้านเรา การถามญาติพี่น้องก่อน จะหมายถึงถามพ่อ ซึ่งเกือบ 100% พ่อตามใจแม่อยู่แล้ว)
ในระหว่างนี้ เราก็พยายามโน้มน้าว พ่อกับแม่ ต่างๆ นาๆ เพื่อลดอัตราความวืด ให้เป็นศูนย์
สรุป ผู้ร่วมทริป มีทั้งสิ้น 5 คน พ่อ(64 ปี) แม่(66 ปี) ป้า(71ปี) เรา(31ปี) และน้องชาย (27 ปี) จึงเป็นที่มาของทริปเที่ยวในครั้งนี้
เราทำหน้าที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูก แต่กว่าจะตกลงวันเดินทางกันได้ก็เกือบจะยกเลิกทริปนี้ เราตกลงไปเที่ยวกันระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม 2561 ราคาตั๋วก็เพิ่มไปละ เราได้ตั๋วไปกลับ BKK-Leh-BKK ของสายการบิน Jet Airways ในราคา 12,505 บาท/คน พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม ระหว่างจองเหมือนอยู่ในการแข่งขันจองตั๋ว เนื่องจากเราต้องทำรายการให้เสร็จภายในเวลาที่ระบบกำหนด แต่เรามัวแต่เลือกโน้นเลือกนี่ จนเวลาหมด พอทำการจองใหม่ราคาเดิมมันก็ขยับขึ้นมานิดหน่อย
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน เราก็มาทำ Visa online ต่อค่ะ ขั้นตอนไม่ยากเราดูวิธีจากเวปไซต์ เค้าบอกละเอียดมาก ต้องขอขอบคุณ
https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/

เราได้ e-visa มาแล้วววววววว
** ที่จริงขอ e-visa ก่อนเดินทางซัก 1 อาทิตย์ก็ได้ เค้าอนุมัติภายใน 24 ชม. แต่เราอยากให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เลยขอเร็วเป็นเดือนเลยค่ะ 555
อ่ะ!! เราบินเข้าประเทศเค้าได้แล้ว ต้องหาที่นอนสิคะ เราคิดไว้ว่าอยากได้ที่พักที่ห่างตัวเมืองออกมานิดนึง แต่สามารถเดินไปที่ Leh Market ได้ ระหว่างหาข้อมูล ก็เจอกระทู้ในพันทิพย์
https://pantip.com/topic/36396435
กระทู้นี้แนะนำโรงแรม Yarab Tso Hotel และจากการหาข้อมูลโรงแรม รวมถึง comment ของผู้เข้าพักเราจึงตัดสินใจเลือกโรงแรมนี้และติดต่อจองห้องพัก เจ้าของที่พักชื่อ Stanzin Namgyal ด้วยความเยอะของเรา เรามีคำถามเยอะมาก เพราะลูกทัวร์ของเราก็จะมีโรคประจำตัวที่แถมมาหลังจากอายุ 60 กัน โดยทั่วๆ ไปก็ความดัน ไขมัน เราจึง e-mail แจ้งให้ Stanzin จัดทัวร์กระดึ๊บ ให้เหมาะกับอายุของลูกทัวร์พันปี Stanzin ตอบ e-mail ไวมากและจัดทัวร์เที่ยวเบาๆ สำหรับ 8 วัน รวมรถ อาหาร คนขับ และห้องพักตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น ลูกทัวร์เราสามารถเดินนวยนาดชมเมืองที่สูงจากระดับน้ำทะเล 12,000 ฟุต ได้แน่นอน
ขอบอกสาวๆ Stanzin เป็นหนุ่มสไตล์ทิเบต ตอนเจอครั้งแรกมีแอบเขิล555 แต่ฮีสุภาพนะ บริการดีเยี่ยมค่ะ
ล่าสุดใน IG ฮีอัพรูปโชว์ Sick Pack ทำไมเพิ่งมาอัพนะ!!
เผื่อใครสนใจติดต่อได้เลย Stanzin namgyal
+919622820661 (waatsapp)
infohotel@hotelyarabtso.com
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน, e-Visa, ที่พัก, ประกันชีวิต และแผนเที่ยว ก็เตรียมตัวซื้อเสื้อกันหนาวสิคะ หนุ่มๆก็ใช้ตัวเดิมที่มีอยู่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่คุณนายแม่ ไม่ได้ค่ะ นางอยากได้เสื้อกันหนาว (ดูเอานะคะ คนไม่ค่อยอยากไปอินเดีย) พอได้เสื้อกันหนาวแล้ว ก็รอเวลาบินและเตรียมตัวลุยค่ะ ความสนุก เริ่มค่ะ!!
[CR] เที่ยว Leh Ladakh ฉบับ 2 วัย 5 ชีวิต
เพื่อนๆจ๋า นี่คือครั้งแรกของการรีวิวของเรา หากมีข้อเสนอ ติชม บอกเราได้เลยนะ เราจะได้พัฒนาให้ดีขึ้น
ต้นปี 2561 บทสนทนาในไลน์กลุ่ม "ลูกๆ" ดังขึ้น
ยุ้ย: แม่ๆ ไปเที่ยวเลห์ลาดักกันไหม มีพี่ที่เคยไปเค้าแนะนำมา มีหิมะด้วยนะ ไปปล่าวววว
แม่: ไปอินเดียหรอ ไม่เอาอ่ะ ห้องน้ำจะเข้ายังไง อาหารจะกินได้ไหม แขกตัวเหม็น ไม่เอา ไม่ไป (เหตุผลมาเป็นชุดค่ะ)
ยุ้ย: แม่ เค้าบอกว่ามันสวยนะ แล้วเราก็ส่งรูปให้ดู
แม่: อือๆ ก็สวยดี เดี๋ยวถามญาติพี่น้องก่อน (ที่บ้านเรา การถามญาติพี่น้องก่อน จะหมายถึงถามพ่อ ซึ่งเกือบ 100% พ่อตามใจแม่อยู่แล้ว)
ในระหว่างนี้ เราก็พยายามโน้มน้าว พ่อกับแม่ ต่างๆ นาๆ เพื่อลดอัตราความวืด ให้เป็นศูนย์
สรุป ผู้ร่วมทริป มีทั้งสิ้น 5 คน พ่อ(64 ปี) แม่(66 ปี) ป้า(71ปี) เรา(31ปี) และน้องชาย (27 ปี) จึงเป็นที่มาของทริปเที่ยวในครั้งนี้
เราทำหน้าที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูก แต่กว่าจะตกลงวันเดินทางกันได้ก็เกือบจะยกเลิกทริปนี้ เราตกลงไปเที่ยวกันระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม 2561 ราคาตั๋วก็เพิ่มไปละ เราได้ตั๋วไปกลับ BKK-Leh-BKK ของสายการบิน Jet Airways ในราคา 12,505 บาท/คน พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม ระหว่างจองเหมือนอยู่ในการแข่งขันจองตั๋ว เนื่องจากเราต้องทำรายการให้เสร็จภายในเวลาที่ระบบกำหนด แต่เรามัวแต่เลือกโน้นเลือกนี่ จนเวลาหมด พอทำการจองใหม่ราคาเดิมมันก็ขยับขึ้นมานิดหน่อย
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน เราก็มาทำ Visa online ต่อค่ะ ขั้นตอนไม่ยากเราดูวิธีจากเวปไซต์ เค้าบอกละเอียดมาก ต้องขอขอบคุณ
https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/
เราได้ e-visa มาแล้วววววววว
** ที่จริงขอ e-visa ก่อนเดินทางซัก 1 อาทิตย์ก็ได้ เค้าอนุมัติภายใน 24 ชม. แต่เราอยากให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เลยขอเร็วเป็นเดือนเลยค่ะ 555
อ่ะ!! เราบินเข้าประเทศเค้าได้แล้ว ต้องหาที่นอนสิคะ เราคิดไว้ว่าอยากได้ที่พักที่ห่างตัวเมืองออกมานิดนึง แต่สามารถเดินไปที่ Leh Market ได้ ระหว่างหาข้อมูล ก็เจอกระทู้ในพันทิพย์
https://pantip.com/topic/36396435
กระทู้นี้แนะนำโรงแรม Yarab Tso Hotel และจากการหาข้อมูลโรงแรม รวมถึง comment ของผู้เข้าพักเราจึงตัดสินใจเลือกโรงแรมนี้และติดต่อจองห้องพัก เจ้าของที่พักชื่อ Stanzin Namgyal ด้วยความเยอะของเรา เรามีคำถามเยอะมาก เพราะลูกทัวร์ของเราก็จะมีโรคประจำตัวที่แถมมาหลังจากอายุ 60 กัน โดยทั่วๆ ไปก็ความดัน ไขมัน เราจึง e-mail แจ้งให้ Stanzin จัดทัวร์กระดึ๊บ ให้เหมาะกับอายุของลูกทัวร์พันปี Stanzin ตอบ e-mail ไวมากและจัดทัวร์เที่ยวเบาๆ สำหรับ 8 วัน รวมรถ อาหาร คนขับ และห้องพักตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น ลูกทัวร์เราสามารถเดินนวยนาดชมเมืองที่สูงจากระดับน้ำทะเล 12,000 ฟุต ได้แน่นอน
ขอบอกสาวๆ Stanzin เป็นหนุ่มสไตล์ทิเบต ตอนเจอครั้งแรกมีแอบเขิล555 แต่ฮีสุภาพนะ บริการดีเยี่ยมค่ะ
ล่าสุดใน IG ฮีอัพรูปโชว์ Sick Pack ทำไมเพิ่งมาอัพนะ!!
เผื่อใครสนใจติดต่อได้เลย Stanzin namgyal
+919622820661 (waatsapp)
infohotel@hotelyarabtso.com
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน, e-Visa, ที่พัก, ประกันชีวิต และแผนเที่ยว ก็เตรียมตัวซื้อเสื้อกันหนาวสิคะ หนุ่มๆก็ใช้ตัวเดิมที่มีอยู่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่คุณนายแม่ ไม่ได้ค่ะ นางอยากได้เสื้อกันหนาว (ดูเอานะคะ คนไม่ค่อยอยากไปอินเดีย) พอได้เสื้อกันหนาวแล้ว ก็รอเวลาบินและเตรียมตัวลุยค่ะ ความสนุก เริ่มค่ะ!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น