สวัสดีค่ะ เราชื่อกุ๊ก เป็นสาวหมวยแท้ 100% หลายคนพอได้ยินว่าหมวย คงคิดว่าหมวยเกาหลีน่ารักๆ แบบเต้ย-จริญพร หรือสาวหมวยเก๋ๆ แบบคริส หอวัง แต่ไม่ใช่เลยค่ะ หมวยของเราคือหมวยซิ้มโบ๊ะหมวยแบบ เฮ้อออ...อ ลองดูรูปละกันค่ะ
ด้วยความที่เป็นลูกครึ่ง คือครึ่งไทย จีน และลาวพวน เราได้ยีนเด่น(หรือเปล่า?) มาครบ ทั้งตาตี่ ดั้งบี้จมูกบาน โหนกเยอะ หน้าใหญ่😢แต่ไม่ค่ะ เราไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา เราต้องไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้าให้ได้!! #มุ่งมั่น พอจบม.6 ก็ตามสูตรสาวบ้านนาเข้ามาล่าฝันในเมืองกรุง ตอนนั้นเพื่อน ก็ชวนไปทำงานเป็น พนักงานขายเค้าว่าเงินดี แต่เราไม่สนเราอยากสวยก็ต้องอยู่ใกล้กับความสวยความงามสิ เราเริ่มจากการเซิร์ตเว็บสมัครงาน ก็เจออาชีพ อาชีพหนึ่งชื่อว่าพนักงานTherapistประจำคลินิกความงาม เฮ้ยยย ใช่เลย!! อยู่คลีนิกเราต้องสวยขึ้นแน่ๆ ในระหว่างที่ทำงานเราก็จะได้ทำทรีตเม้นท์ เลเซอร์ โบท็อกซ์ฉีดโมโสแฟตบ้างตามโอกาสพอทำงานได้ 2-3 ปีก็เริ่มมีความคิดว่าอยากทำศัลยกรรม อย่างแรกเลยที่คิดจะทำคือจมูก เพราะตอนเด็กๆเจ็บมาเยอะกับคำว่า“อีบี้อีแบน” เราจึงมีความคิดว่าถ้ามีดั้งชีวิตต้องดี (ฮา)

พอเริ่มคิดจะทำ อย่างแรกเลยคือต้องเก็บหอมรอมริบเท่าที่เห็นก็มีตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน หลักพันนี่เทแบบไม่ต้องคิดจมูกเซินเจิ้นเราไม่เสี่ยง แต่ถ้าหลักแสนคงต้องไปขายนาทำจมูก ไม่ไหวๆ สรุปเป็นตัวเลขกลางๆ ประมาณหลักหมื่นโบนัสออกจะทุ่มสุดตัวสู้โว้ยยย….อัยกุ๊ก!!
เรื่องเงินจบไป ก็เหลือแต่ว่าจะทำกับใครคือเรามีจมูกอันเดียว ทำแล้วก็อยากให้จบเอาจริงๆ ทำงานมาหลายที่ เห็นปัญหามาเยอะ ทำแล้วจมูกเป็นแท่งแข็งทื่อมองเห็นขอบซิลิโคนดูปลอม หน้าแก่โด่งเกินนี่แค่ทำแล้วไม่สวยยังไม่รวมปัญหา อักเสบ เนื้อบาง บวมแดง เบี้ยว เสี่ยงทะลุ โอ้ยยยย..สารพัด บางคนแก้รอบที่ 4 รอบที่ 5 ก็ยังไม่จบไม่สิ้นเห็นแล้วเจ็บแทน
แต่ถ้ากลัวแล้วชาติไหนจะสวยเอาว่ะลองดูซักดั้งเอ้ยซักตั้งพอตัดสินใจแน่วแน่ ก็เริ่มเก็บข้อมูล เกณฑ์การเลือกของเราไม่ใช่ดูแค่ Before & After ด้วยความที่ทำงานด้านนี้ เราเคยเข้าไปดูในห้องผ่าตัดหลายครั้งอยากรู้งานของคุณหมอท่านไหนเราก็สืบได้จากเพื่อนๆ ในวงการว่างานคุณหมอแต่ละท่านเป็นอย่างไร บางท่านทำงานเร็วมากๆ เน้นปริมาณ บางท่านมือหนักหลังทำนี่บวมช้ำกันเป็นเดือนๆ บางท่านถนัดแต่ทรงแบบไหนก็จะทำแต่ทรงแบบนั้น บางท่านทรงสวยโอเคแต่งานผ่าตัดด้านในไม่สวยงามเหมือนภายนอก บางท่านเคสหลุดเยอะปัญหาหลังทำเพียบ
ผ่าน 2 ปี ก็ยังไม่ได้ทำ บอกตามตรงเลยว่าคิดเยอะ เลือกมากเกิ๊นนน จนวันนึงเพื่อนสนิทมาบ่นคุณหมอที่ทำงานด้วยให้ฟัง ว่านางเข้าช่วยคุณหมอทำจมูกโดนดุเยอะมากกก...ก พอถามจริงจังสรุปคือนางเอ๋อลืมนู้นลืมนี่คือคุณหมอแกเนี๊ยบมาก ในห้องผ่าตัดนี่แทบไม่มีเลือดคือเลือดน้อยมากงานอย่างเนียนนางเล่าว่า 80% หลังทำนี่แทบไม่ช้ำ บวมก็น้อยมากแล้วจะรออะไรไปปรึกษาสิค่ะ
เมื่อได้ปรึกษากับคุณหมอ ทางคุณหมอก็ได้อธิบาย ว่า หน้าเรา เหมาะกับทรงจมูกแบบไหน ถ้าทำแล้วจะต้องทำยังไงได้บ้าง ทางคุณหมอเลือกใช้ซิลิโคนแบบดี อยู่กับใบหน้าเราได้นาน ตอนนั้นคือไม่รู้อะไรดลใจบอกคุณหมอนัดผ่าพรุ่งนี้เลยมัดจำไปครึ่งนึงอีกครึ่งนึงจ่ายวันทำพอกลับบ้านก็เริ่มนอนเอาขาก่ายหน้าผากมันจะดีหรอว้าเจ็บไหมน๊าความป๊อดเริ่มมาลืมบอกเคสเราคุณหมอใช้ซิลิโคน usa soft natural แบบเดียวกับที่โรงพยาบาลอาจารย์ของคุณหมอใช้ที่เกาหลีเอาว่ะทั้งซิลิโคนและคุณหมอก็มาจากเกาหลียังไงก็ต้องได้ทรงเกาหลีสิจะได้เป็นทรงอื่นไปไม่ได้#ปลอบใจตัวเอง😂
เราได้คิวแรก 10.00 ตื่นมาพี่พยาบาลบอกให้ทานข้าวให้อิ่มงดกาแฟพอไปถึงคลีนิกพี่พยาบาลให้เปลี่ยนชุดคนไข้ถ่ายรูปให้ยาฆ่าเชื้อและลดบวมจากนั้นก็ทาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีระหว่างนั้นคุณหมอก็เข้ามาชวนคุยเล่นให้เราผ่อนคลายแต่ช่วยได้ไหมไม่เล้ยยยกลัวหนักมากกกอยากกลับบ้าน😰
ก่อนถึงวันนัดผ่าตัดก็รู้สึก ตื่นเต้น และมีความกลัว นิดๆ เพราะไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรมาก่อนเลย และมีความลุ้นว่า จมูกที่ทำนั้น จะออกมาเป็นยังไง จะสวยหรือเปล่า จะเข้ากับใบหน้าเราหรือไหม ? แต่ก็มั่นใจในฝีมือคุณหมองามตาค่ะ และเมื่อถึงวันนัดผ่าตัด.... นี่คือรูปกุ๊กก่อนทำนะคะ
ครั้งแรกที่เข้าห้องผ่าตัด รู้สึกว่า ห้องผ่าตัดดูดีมากกกก สะอาด มีเพลงคลอๆ เบาๆ ทำให้ไม่เครียดจนเกินไป หลังจากนั้นก็ เริ่มขึ้นเตียงนอน พยาบาลก็ จะเข้ามาจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ
พอเข้าห้องผ่าตัดผู้ช่วยก็จะเช็ดหน้าทำความสะอาด และเอาเครื่องวัดชีพจรมาใส่ที่นิ้วค่ะ เมื่อคุณหมอเข้ามาในใจคือตื่นเต้นมากค่ะ พอได้เวลาคุณหมอเข้ามาฉีดยาชาซึ่งพี่พยาบาลแจ้งว่าจะฉีดทั้งหมด 6 จุดพอจุดแรกเท่านั้นแหละน้ำตาไหลคือเจ็บโว้ยยในใจคิดด่าอีเพื่อนไหน

บอกว่าไม่เจ็บจุดที่ 2 ก็เจ็บอีกแต่พอจุดที่ 3-6 เฮ้ยยไม่เจ็บแล้วพอฉีดยาชาเสร็จคุณหมอก็ปล่อยเรานอนพักไปอีก 15 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่พี่พยาบาลบอกว่ากับเคสจมูกคุณหมอใช้เวลาทำแบบเต็มที่สบายๆคำว่าไม่รีบสบายๆฟังแล้วมันใจชื้นรู้สึกดีจัง☺
ผ่านไป 15 นาทีก็ได้เวลาขึ้นเขียงคราวนี้ตื่นเต้นหนักพอมีดกรีดลงไปบนเนื้อเท่านั้นแหละม้ายย...ยม่ายยย….ยไม่รู้สึกอะไรเลยเอาจริงๆฟิวมันเหมือนรู้ว่าทำอะไรแต่ไม่มีความรู้สึกหูมันได้ยินเสียงกุกกักๆแต่มันไม่เจ็บคุณหมอรู้ว่าเรากลัวเลยบอกให้เรานอนฟังเพลงหรือจะสวดมนต์ก็ได้“การทำจมูกถือเป็นการเปลี่ยนโหวงเฮ้งอย่างนึงถ้าเรามีจิตที่ดีหลังทำก็จะสวยงามเจอกับสิ่งที่ดีๆ” พอใจเราเริ่มสงบเออดีขึ้นเวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าก็เสร็จเรียบร้อยจมูกอ่ะยังไม่เจ็บแต่กลายเป็นเมื่อยตูดมากเพราะนอนนาน😅
เริ่มแรกหมอจะฉีดยาชาก่อนเลยพอหมอเริ่มฉีดยาชา คือเอาจริงๆ โดนยาชาไปก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยจริงๆ การฉีดยาชาเหมือนกับการฉีดยาชาที่เวลาเราทำฟันเลยค่ะ ไม่รู้สึกเจ็บ แต่ได้ยินเสียงตลอดเวลา ปกติมาก หลังนั้นคุณหมอจะค่อยๆฉีดจากสันจมูก ไล่ลงมาที่ปลายจมูก แล้วก็ปีกจมูกค่ะ หมอแทงยาชาแบบนับไม่ถ้วนเลย หลังจากที่ยาชาเริ่มออกฤทธิ์ ก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลยค่ะ คุณหมอก็จะเริ่มทาบและเหลาซิลิโคนให้เรา หลังจากนั้นก็เริ่มยัดซิลิโคนเข้าไปแล้วก็เอาออกมาเหลาใหม่จนกว่าจะพอดี แช่แว๊บบบบบ !! คุณหมองามตาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการชำแหละจมูกของเรา
คุณหมอให้เราดูกระจกตอนนั้นคืองงๆแต่พอส่องกระจกก็แทบกรี๊ดเหยยยย….ชั้นมีดั้งแล้วขนาดบวมๆยังสวยเลยนะเนี่ย (คิดในใจอิอิ)จากนั้นคุณหมอก็แปะพาสเตอร์และเผือกอ่อนซึ่งต้องแปะไว้ 3-7วันเราถามคุณหมอว่าต้องพักฟื้นไหมคุณหมอบอกว่าถ้างานของเราสามารถใส่เฝือกไปได้ก็ไปทำงานได้เลยจริงๆหมอไม่อยากให้นอนเฉยๆอยู่บ้านเพราะหน้าจะบวมแผลจะหายช้า สรุปคือฉีดยาชาเจ็บสุดตอนทำไม่เจ็บหลังทำมีปวดนิดๆตอนนั้นเราคิดกุ๊กเอ๋ยอย่าพึ่งดีใจไปคืนนี้ยาชาหมดฤทธิ์ต้องปวดหนักแน่ๆแต่พอกลับถึงบ้านก่อนนอนก็ยังไม่ปวดเลยคิดว่าพรุ่งนี้เช้าต้องปวดแน่ๆแต่พอตอนเช้าตื่นมาก็ยังไม่เท่าไหร่สรุปคือมีรู้สึกหน่วงๆตุบๆตรงปลายจมูกบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับปวดจนต้องกินยา
เรามาดู ความเปลี่ยนแปลงของ จมูกกันดีกว่าค่ะ
นี้เลยค่ะ ภาพก่อนทำจมูก เริ่มแรก ดูจากหน้าตรง จมูกดูกว้าง ๆ ไม่โด่ง
ภาพก่อนเสริมจมูก
ช่วงก่อนตัดไหม เราทำความสะอาดแผลตามที่หมอบอก
ปกติทุกวัน 7 วันหลังทำจมูก + ตัดไหม +ถอดเฝือก ครบกำหนด 7 วัน จะต้องมาทำการตัดไหมกัน ! จะได้เห็นทรงจมูกที่แท้จริงแล้ว ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากอยากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง >< ลุ้นมากว่าจะเป็นอย่างไร จะออกมาปัง แบบธรรมชาติอย่างที่อยากได้หรือเปล่า หลังจากถอดเฝือกรู้สึกสบายหน้ามาก โล่งเลย ได้ล้างหน้าสะอาดๆซักที
รอตัดไหม
ตัดมาที่ภาพเปรียบเทียบ Before / After กันเลยนะคะ
จะสังเกตว่าเห็นได้ชัดมาก ว่าดูดีกว่าเดิมเยอะมาก
ดีใจ จมูกมีสันแล้ว จมูกดูเป็นทรงธรรมชาติที่อยากได้ คือถูกใจมว๊าก คือมันดีย์มากแกร
ภาพก่อนเสริมจมูก / ภาพหลังเสริมจมูก
ผ่านมาประมาณ 1 ปี ตอนนี้รู้สึกชอบจมูกตัวเองมาก ๆ เวลาไปที่ไหน ก็จะมีแต่คนถามว่า ถามว่าไปทำที่ไหนมา จมูกสวยมาก ไม่โด่งจนเกินไป ไม่เวอร์วังอลังการ ดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ มาดูความปังแบบหน้าสดกันเลย เออเอาเส้ หน้าสดก็ปังอ่ะ
จากที่ปกติไม่กล้าถ่ายหน้าสด เพราะความไม่มีสันของจมูก จะหันด้านไหนก็ไม่ปัง ไม่โดนใจ แต่ตอนนี้นะหรอออ หึ ! มาเลยจะมุมไหนก็รอด
ภาพหลังเสริมจมูก
ทำให้รู้สึก ว่าตัวเองคิดไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่วันนั้นได้ตัดสินใจที่จะ เสริมจมูก และ คิดไม่ผิดที่เลือก เชื่อมือคุณหมองามตา เพราะ ทำครั้งเดียว สวย จบ ปัง ไม่พังแน่นอน ไม่มีแก้ครั้ง 2 3 4 5 6 แน่ๆ
เจอภาพประกอบสะพรึงตะลึงกันไปเลยจ้า. ความสันของจมูก คือเลิศมาก + กับการแต่งหน้าไปอีก OMG !! มากแกร
พูด ง่ายๆ คือ ครั้งเดียวเอาอยู่ !! หน้าตรงไม่ต้องใช้มุม การที่เสริมจมูกครั้งนี้ มันทำให้หน้าของกุ๊กดูเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมาก
สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมจมูก หรือการทำศัลยกรรม อยากจะแนะนำ คุณหมองามตานะคะ พูดคุยง่าย เข้าใจ และเก่งมากๆ
ขอปิดท้ายกะทู้นี้ด้วยภาพการเปลี่ยนแปลง ก่อนและหลังเสริมจมูก กับทาง คุณหมองามตา KPS Clinic ไปดูกันเล้ยยยยยยย
หน้าหมวยๆบ้านๆ เปลี่ยนเป็น หน้าสวยมีดั้ง !! ขอจบการรีวิว ศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเพียงเท่านี้นะคะ ทุกวันนี้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากๆแค่ไปไหนมาไหนกับแฟนแล้วเค้าไม่อายถ่ายรูปลงโซเซียล เอาจริงๆคนที่พึ่งรู้จักกันเค้ามองไม่ออกด้วยซ้ำว่าเราทำศัลยกรรมเค้าจะคิดว่าเราหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแต่ถ้าเอารูปเก่าๆให้ดูหรือเป็นเพื่อนสมัยเรียนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อัยกุ๊กแกมาไกลมากกกกกกก”
ก่อนจบขอฝากไว้นิดนึงการศัลยกรรมสำหรับเรามันก็เหมือนการเลือกผู้ชายเห็นแต่รูปไม่ได้คุยมันบอกไม่ได้หรอกว่าใช่หรือไม่ถ้าอยากทำอย่ามัวแต่นั่งอ่านในเนตลองไปคุยเลยปรึกษาเยอะๆเราจะรู้เองว่าเราต้องการอะไรและเหมาะกับแบบไหนเรามีเคล็ดลับง่ายๆคือถ้าคุยกันแล้วคลิ๊กเข้าใจตรงกันคุณหมอเข้าใจว่าเราต้องการอะไรถ็ถือว่าผ่านไปเกินครึ่งแต่ถ้าคุยแล้วงงๆไม่คลิ๊กเข้าใจกันไปคนละทางก็คือจบเถอะค่ะแยกย้าย!!
“มีดั้ง” มันดีที่สุดเลยเว้ยแก!!
เรื่องเงินจบไป ก็เหลือแต่ว่าจะทำกับใครคือเรามีจมูกอันเดียว ทำแล้วก็อยากให้จบเอาจริงๆ ทำงานมาหลายที่ เห็นปัญหามาเยอะ ทำแล้วจมูกเป็นแท่งแข็งทื่อมองเห็นขอบซิลิโคนดูปลอม หน้าแก่โด่งเกินนี่แค่ทำแล้วไม่สวยยังไม่รวมปัญหา อักเสบ เนื้อบาง บวมแดง เบี้ยว เสี่ยงทะลุ โอ้ยยยย..สารพัด บางคนแก้รอบที่ 4 รอบที่ 5 ก็ยังไม่จบไม่สิ้นเห็นแล้วเจ็บแทน
แต่ถ้ากลัวแล้วชาติไหนจะสวยเอาว่ะลองดูซักดั้งเอ้ยซักตั้งพอตัดสินใจแน่วแน่ ก็เริ่มเก็บข้อมูล เกณฑ์การเลือกของเราไม่ใช่ดูแค่ Before & After ด้วยความที่ทำงานด้านนี้ เราเคยเข้าไปดูในห้องผ่าตัดหลายครั้งอยากรู้งานของคุณหมอท่านไหนเราก็สืบได้จากเพื่อนๆ ในวงการว่างานคุณหมอแต่ละท่านเป็นอย่างไร บางท่านทำงานเร็วมากๆ เน้นปริมาณ บางท่านมือหนักหลังทำนี่บวมช้ำกันเป็นเดือนๆ บางท่านถนัดแต่ทรงแบบไหนก็จะทำแต่ทรงแบบนั้น บางท่านทรงสวยโอเคแต่งานผ่าตัดด้านในไม่สวยงามเหมือนภายนอก บางท่านเคสหลุดเยอะปัญหาหลังทำเพียบ
ผ่าน 2 ปี ก็ยังไม่ได้ทำ บอกตามตรงเลยว่าคิดเยอะ เลือกมากเกิ๊นนน จนวันนึงเพื่อนสนิทมาบ่นคุณหมอที่ทำงานด้วยให้ฟัง ว่านางเข้าช่วยคุณหมอทำจมูกโดนดุเยอะมากกก...ก พอถามจริงจังสรุปคือนางเอ๋อลืมนู้นลืมนี่คือคุณหมอแกเนี๊ยบมาก ในห้องผ่าตัดนี่แทบไม่มีเลือดคือเลือดน้อยมากงานอย่างเนียนนางเล่าว่า 80% หลังทำนี่แทบไม่ช้ำ บวมก็น้อยมากแล้วจะรออะไรไปปรึกษาสิค่ะ
เมื่อได้ปรึกษากับคุณหมอ ทางคุณหมอก็ได้อธิบาย ว่า หน้าเรา เหมาะกับทรงจมูกแบบไหน ถ้าทำแล้วจะต้องทำยังไงได้บ้าง ทางคุณหมอเลือกใช้ซิลิโคนแบบดี อยู่กับใบหน้าเราได้นาน ตอนนั้นคือไม่รู้อะไรดลใจบอกคุณหมอนัดผ่าพรุ่งนี้เลยมัดจำไปครึ่งนึงอีกครึ่งนึงจ่ายวันทำพอกลับบ้านก็เริ่มนอนเอาขาก่ายหน้าผากมันจะดีหรอว้าเจ็บไหมน๊าความป๊อดเริ่มมาลืมบอกเคสเราคุณหมอใช้ซิลิโคน usa soft natural แบบเดียวกับที่โรงพยาบาลอาจารย์ของคุณหมอใช้ที่เกาหลีเอาว่ะทั้งซิลิโคนและคุณหมอก็มาจากเกาหลียังไงก็ต้องได้ทรงเกาหลีสิจะได้เป็นทรงอื่นไปไม่ได้#ปลอบใจตัวเอง😂
เราได้คิวแรก 10.00 ตื่นมาพี่พยาบาลบอกให้ทานข้าวให้อิ่มงดกาแฟพอไปถึงคลีนิกพี่พยาบาลให้เปลี่ยนชุดคนไข้ถ่ายรูปให้ยาฆ่าเชื้อและลดบวมจากนั้นก็ทาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีระหว่างนั้นคุณหมอก็เข้ามาชวนคุยเล่นให้เราผ่อนคลายแต่ช่วยได้ไหมไม่เล้ยยยกลัวหนักมากกกอยากกลับบ้าน😰
ก่อนถึงวันนัดผ่าตัดก็รู้สึก ตื่นเต้น และมีความกลัว นิดๆ เพราะไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรมาก่อนเลย และมีความลุ้นว่า จมูกที่ทำนั้น จะออกมาเป็นยังไง จะสวยหรือเปล่า จะเข้ากับใบหน้าเราหรือไหม ? แต่ก็มั่นใจในฝีมือคุณหมองามตาค่ะ และเมื่อถึงวันนัดผ่าตัด.... นี่คือรูปกุ๊กก่อนทำนะคะ
พอเข้าห้องผ่าตัดผู้ช่วยก็จะเช็ดหน้าทำความสะอาด และเอาเครื่องวัดชีพจรมาใส่ที่นิ้วค่ะ เมื่อคุณหมอเข้ามาในใจคือตื่นเต้นมากค่ะ พอได้เวลาคุณหมอเข้ามาฉีดยาชาซึ่งพี่พยาบาลแจ้งว่าจะฉีดทั้งหมด 6 จุดพอจุดแรกเท่านั้นแหละน้ำตาไหลคือเจ็บโว้ยยในใจคิดด่าอีเพื่อนไหน
ผ่านไป 15 นาทีก็ได้เวลาขึ้นเขียงคราวนี้ตื่นเต้นหนักพอมีดกรีดลงไปบนเนื้อเท่านั้นแหละม้ายย...ยม่ายยย….ยไม่รู้สึกอะไรเลยเอาจริงๆฟิวมันเหมือนรู้ว่าทำอะไรแต่ไม่มีความรู้สึกหูมันได้ยินเสียงกุกกักๆแต่มันไม่เจ็บคุณหมอรู้ว่าเรากลัวเลยบอกให้เรานอนฟังเพลงหรือจะสวดมนต์ก็ได้“การทำจมูกถือเป็นการเปลี่ยนโหวงเฮ้งอย่างนึงถ้าเรามีจิตที่ดีหลังทำก็จะสวยงามเจอกับสิ่งที่ดีๆ” พอใจเราเริ่มสงบเออดีขึ้นเวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าก็เสร็จเรียบร้อยจมูกอ่ะยังไม่เจ็บแต่กลายเป็นเมื่อยตูดมากเพราะนอนนาน😅
เริ่มแรกหมอจะฉีดยาชาก่อนเลยพอหมอเริ่มฉีดยาชา คือเอาจริงๆ โดนยาชาไปก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยจริงๆ การฉีดยาชาเหมือนกับการฉีดยาชาที่เวลาเราทำฟันเลยค่ะ ไม่รู้สึกเจ็บ แต่ได้ยินเสียงตลอดเวลา ปกติมาก หลังนั้นคุณหมอจะค่อยๆฉีดจากสันจมูก ไล่ลงมาที่ปลายจมูก แล้วก็ปีกจมูกค่ะ หมอแทงยาชาแบบนับไม่ถ้วนเลย หลังจากที่ยาชาเริ่มออกฤทธิ์ ก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลยค่ะ คุณหมอก็จะเริ่มทาบและเหลาซิลิโคนให้เรา หลังจากนั้นก็เริ่มยัดซิลิโคนเข้าไปแล้วก็เอาออกมาเหลาใหม่จนกว่าจะพอดี แช่แว๊บบบบบ !! คุณหมองามตาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการชำแหละจมูกของเรา
คุณหมอให้เราดูกระจกตอนนั้นคืองงๆแต่พอส่องกระจกก็แทบกรี๊ดเหยยยย….ชั้นมีดั้งแล้วขนาดบวมๆยังสวยเลยนะเนี่ย (คิดในใจอิอิ)จากนั้นคุณหมอก็แปะพาสเตอร์และเผือกอ่อนซึ่งต้องแปะไว้ 3-7วันเราถามคุณหมอว่าต้องพักฟื้นไหมคุณหมอบอกว่าถ้างานของเราสามารถใส่เฝือกไปได้ก็ไปทำงานได้เลยจริงๆหมอไม่อยากให้นอนเฉยๆอยู่บ้านเพราะหน้าจะบวมแผลจะหายช้า สรุปคือฉีดยาชาเจ็บสุดตอนทำไม่เจ็บหลังทำมีปวดนิดๆตอนนั้นเราคิดกุ๊กเอ๋ยอย่าพึ่งดีใจไปคืนนี้ยาชาหมดฤทธิ์ต้องปวดหนักแน่ๆแต่พอกลับถึงบ้านก่อนนอนก็ยังไม่ปวดเลยคิดว่าพรุ่งนี้เช้าต้องปวดแน่ๆแต่พอตอนเช้าตื่นมาก็ยังไม่เท่าไหร่สรุปคือมีรู้สึกหน่วงๆตุบๆตรงปลายจมูกบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับปวดจนต้องกินยา