ตั้งแต่ป.1ที่โรงเรียนในกรุงเทพแห่งหนึ่ง มีกระดานกั้นระหว่างห้องแต่จะมีช่องด้านบนที่เปิดไว้ บางวันห้อง1/5กับ1/6 ก็เปิดศึกโยนของปาของใส่กันมั่ว เรียกได้ว่ามีอะไรก็ปาไปอีกฝั่งหมด เราเป็นคนนึงที่นั่งอยู่ในห้องและดูการกระทำนั้นของเพื่อนๆสมัยป.1 พอจบศึกทุกครั้งคือของทุกคนจะปนกัน หายมั่งพังมั่ง
ไปๆมาๆครูประจำชั้นเรียกเราไปตักเตือนค่ะว่าขโมยของเพื่อนไป แล้วเราก็ไปนั่งฟังครูดุแบบงงๆ
พอมาตอนป.4โรงเรียนเดิม ช่วงนั้นเหรียญโปเกมอนกำลังดัง เราก็เป็นคนนึงค่ะที่เอาไปดีดเล่นกับเพื่อน แล้วก็ชนะได้ของเพื่อนมาตามที่สัญญาตามกติกาที่ตั้งกันไว้ มาช่วงนึงเราเริ่มเบื่อเลยไม่ได้พกไปโรงเรียนหลายวัน เพื่อนคนนั้น(ยังจำชื่อนามสกุลได้จากวีรกรรมหลายๆอย่างไว้จะเล่าอีกทีค่ะ)บอกครูประจำชั้น(คนละคนกับตอนป.1)ว่าเราขโมยเหรียญโปเกมอนไปหมด ให้เหตุผลเพราะเห็นเด็กผู้หญิงรูปร่างแบบเราส่งกระเป๋าให้ตาแก่ๆแล้วเหรียญโปเกมอนตกลงมาจากกระเป๋า คือทุกเช้าเย็นปู่เราจะเดินจูงมือข้ามถนนมาส่งเราที่โรงเรียนจากบ้านค่ะ แล้วครูก็ดุว่าทำไมไปเอาของเพื่อนให้คืนเพื่อนไป งงเลยค่ะ ตอนนั้นเราก็อธิบายว่าไม่ได้เอาไป(ออกแนวเถียงเพราะไม่ได้เอาไปจริงๆไม่ได้นั่งฟังเงียบๆแบบตอนป.1) ครูไม่ฟังและไปบอกทางพ่อแม่ของเราค่ะ แต่สุดท้ายพอความจริงปรากฏคือเป็นเด็กอีกคนและเด็กคนนั้นก็ไม่ได้ขโมยของเพื่อนคนนั้นไปค่ะ นางโกหก แต่สาเหตุที่ทำก็ไม่เข้าใจค่ะ
แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เพื่อนทะเลาะกันแรง แล้วเราเป็นคนที่ซื่อๆบื้อๆคนนึง เพื่อนก็บอกให้เราเอาประโยคไปบอกอีกกลุ่มนึง พอไปถึงอีกกลุ่มเค้าก็ฝากข้อความมาบอกเป็นแบบนี้ทุกวันค่ะ วันนึงก็หลายรอบเพราะเปรียบเหมือนกับม้าส่งข่าว และแทบจะคุยกันเป็นนิยายได้เรื่องนึง ถ้าเราไม่ทำก็โดนตบค่ะ แล้วไปๆมาๆ2กลุ่มนี้กลับมาดีกัน แล้วเพื่อนคนเดิมเลยค่ะตัวโตสุดในรุ่น บอกว่าเราเป็นสาเหตุที่ทำให้แตกกัน แล้วก็กระชากเราไปตบไปๆมาๆจนเพลงโรงเรียนดังก่อนเคารพธงชาติ
เราเป็นคนนึงที่เพื่อนให้มาทำงานให้ตลอด งานกลุ่มก็โดนทำคนเดียว ถามว่าทำไมไม่ให้เพื่อนทำ เพื่อนไม่ทำค่ะ ตอนนั้นเราก็ยังเด็กเราก็เข้าใจว่า ถ้าไม่ทำเพื่อนจะไม่คบ เราแบ่งงานให้เพื่อนเรียกเพื่อนมาติวก็ไม่มา (ปัจจุบันรื้อเจอจดหมายที่เพื่อนคนนึงส่งมาเจอค่ะ) เพื่อนสนิทคนนึงเลยค่ะคนนี้เขียนจดหมายมาว่า เธอไปคบกับอีหน้าสิวคนนั้นทำไม (ตอนนั้นเรามีเพื่อนอีกคนเค้าค่อนข้างฮอร์โมนมาไวกว่าเพื่อนค่ะ) แล้วข้อความในจดหมายก็เขียนต่อว่า จริงๆตลอดมาเราหลอกใช้เธอ โง่จริงๆ ทำนองนี้ค่ะ
พอมาตอนม.3เราชอบเพื่อนคนนึงค่ะก็แอบชอบมาจนม.4-5เพื่อนในห้องเริ่มจับได้ก็ล้อแซว สักพักก็เลยโดนแบนจากคนในห้องหมดเลยค่ะ ตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าทำไม พอมาตอนม.6เลยไปถามเพื่อน2คนจริงๆจังๆ ว่าทำไมเธอไม่คุยกับเรา เค้าตอบว่าเธอแปลกๆ เราก็ถามต่อค่ะแปลกยังไง เค้าบอกว่าไม่รู้สิ ตอนนั้นจนถึงตอนนี้บอกตามตรงยังไม่เข้าใจเลยค่ะ555
พอจบม.6ไปเรียนต่อ ก็ไม่มีเพื่อนติดต่อมาเลยค่ะ กลุ่มเฟสเราอยู่เราโพสเรื่อยๆแต่มีโพสเราที่ไม่มีใครมาตอบ พอมาวันนึงค่ะมีเพื่อนที่โรงเรียนโทรมาถามเป็นไงบ้างสบายดีไหม สักพักขายเครื่องทำน้ำอุ่น เราบอกไปว่าตอนนี้ที่บ้านมีแล้วยังไม่เสียเลยยังไงจะบอกอีกทีนะ เค้าก็หายไปเลยค่ะจากวันนั้น แต่จะมีเพื่อนคนนึงที่เราส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดตลอด จริงๆคือคนที่เราแอบชอบตอนม.3ค่ะ(รักแรก) ก็มีคุยบ้างประปรายสัก2-3เดือนครั้งหรือครึ่งปีครั้งนึงส่วนใหญ่เป็นเราที่เป็นคนทักไปเอง
สมัยโรงเรียนเป็นช่วงที่เราได้รางวัลเด็กดีเด่นตลอดค่ะ เราเพิ่งมารู้จักคำหยาบจริงๆช่วงม.4ค่ะ แอบซื่อๆบื้อๆมาก แต่มีช่วงนึงที่เราพลาดมากในชีวิตเลยค่ะ คือเพื่อนบอกให้ไปดูต้นทางให้เพื่อนจะโดดเรียนไปที่ห้องสมุด เราก็ไม่กล้าปฏิเสธบวกกับไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต คือครูมาตามค่ะ เรากำลังจะหันไปบอกเพื่อน อ้าวหายไปไหนกันหมด หนีกันแบบเดอะแฟรชเลยค่ะ เหลือเราคนเดียวก็โดนเข้าห้องปกครองครั้งแรกค่ะ แล้วรางวัลเด็กดีเด่นเราก็จบตรงราวๆม.4ค่ะหลังจากที่ได้ทุกเทอม555
เราเป็นคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยมาก และทุกครั้งจะซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆมาฝากครูกับเพื่อนๆในห้องค่ะ และถ้าเพื่อนไม่มีเงินก็จะช่วยหารช่วยออกค่าข้าวขนมให้ เลยมารู้ทีหลังว่าเพื่อนในห้องนินทาค่ะว่าเราเอาเงินไปซื้อเพื่อน...
จริงๆเราตั้งใจเต็มใจให้เต็มใจช่วย ไปแบบไม่หวังไรตอบแทน ซึ่งก็ไม่มีใครมาให้ไรเราค่ะ วันเกิดเพื่อนในห้องวันเดียวกับเราคนนึงค่ะ เพื่อนในห้องจัดงานให้เพื่อนคนนั้นแต่ลืมเราเป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ555 แต่ตอนนั้นอาจจะข้อเสียเราด้วยค่ะ คือเราเป็นคนไม่ค่อยพูด
มาจนตอนนี้ไม่รู้ว่ามีเพื่อนกี่คนเหมือนกันค่ะ เพราะปกติมีแค่น้องกับเพื่อน2คนที่รู้จักในเกมคุยประจำ อาจจะมีคนในคลับเกมที่มีคุยบ้างประปราย
ส่วนเพื่อนมหาลัยไม่มีใครมากล้าคบกับเราค่ะ555 ประเด็นมันเกิดตอนปี1 เราสนิทกับอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าค่ะ เค้าชอบเราเพราะเราเป็นคนเดียวที่ส่งงานตรงเวลาตลอดมีความรับผิดชอบ กรรมตรงที่อาจารย์คนนี้ไม่ลงรอยกับอาจารย์ในสาขาอีก4คนค่ะ แต่อาจารย์คนนี้เป็นอาจารย์ที่ดีมาก ศิษย์คนไหนทำผิดก็ตักเตือน ศิษย์คนไหนทำถูกก็ยกย่อง เพื่อนก็ไม่ค่อยเรียนไม่ค่อยส่งงานในรายวิชาของอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าค่ะ
ก็เริ่มมีการไซโคโดยอาจารย์ในสาขาคนอื่นให้แตกกันเองค่ะเริ่มแรกแตกกันระหว่างห้อง1กับ2 แล้วค่อยๆแตกกันภายในห้องค่ะ แยกคนอื่นออกจากกลุ่มที่สนิทกับอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่า แล้วเวลาอาจารย์ให้เราบอกการบ้านเพื่อน เราก็มาบอกในกลุ่มไลน์โดนผู้ชายรุมด่าค่ะว่าไปเร่งเค้า ลูกรักอาจารย์ไรแบบนี้ค่ะ ก็งงๆว่าแค่มาบอกว่าอย่าลืมส่งงาน แล้วก็มีประเด็นบ่อยค่ะ คือกลุ่มเราจะรู้ช้ากว่ากลุ่มอื่นที่สนิทกับอาจารย์ในสาขาคนอื่นค่ะ บางทีไม่บอกไรเลยค่ะมาบอกเอาตอนกลางคืนแล้ววันรุ่งขึ้นมีนัดประชุม หรือบางทีก็ไปประชุมกันไม่บอกกลุ่มที่สนิทกับอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่า
มาพีคเอาตอนปี3ค่ะ อาจารย์ในสาขาร่วมมือกันล่ารายชื่อนักศึกษา เพื่อไล่อาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าออกค่ะ หลายคนไม่เห็นด้วย ปี2ก็ไม่เห็นด้วยหลายคนค่ะ แต่ก็มีล่าลายชื่อไปส่งเยอะมากค่ะ รายวิชาของอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่ามีเรากับเพื่อนอีกคนไปเรียนเสมอค่ะ แต่คนอื่นไม่เรียน บางคนมาเรียนบ้าง ไม่แปลกที่จะไม่รู้ว่าอาจารย์เค้าสอนอะไร... จนวันสุดท้ายก็มีนัดประชุมลับค่ะไม่บอกอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่า แต่เราเข้าไปประชุมด้วย เราเป็นคนนึงค่ะที่ชอบความถูกต้อง เราเลยเดินตามคณะบดีหลังประชุมไป แล้วขอความเมตตาจากท่านให้ช่วย เพราะอาจารย์เค้าสอนดีค่ะรักนักศึกษาทุกคน เวลาไปเข้าค่ายก็ไม่ให้ใครกินเหล้า ซึ่งช่วงที่อาจารย์เค้าไม่ได้ตามไป อาจารย์ในสาขาคนอื่นอนุญาติให้เมาได้ค่ะ เราก็เป็นหน่วยเก็บกวาดเพราะไม่เมา555
มีจัดงานให้รุ่นพี่ปี4ซึ่งรุ่นเราเป็นหัวหน้าในการจัดการ แต่พองานจบค่ะ มีประชุมอีกโดยไม่มีปี2เข้า แต่เห็นปี2บอกไม่ทราบค่ะว่ามี ปี2หลายคนคือนักศึกษาที่ไม่ได้เซ็นต์ชื่อตอนนั้นค่ะ ในการประชุมนั้นก็มีไซโคอีกค่ะ ให้แตกกันกับปี2 ประมาณว่าปี2ไม่ช่วยงาน... แล้วพูดถึงอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าค่ะ ว่าพวกเราต้องช่วยกันจัดการ... ไปๆมาๆอาจารย์หัวหน้าสาขาคนนี้ลาออกเองค่ะ
เราเป็นคนนึงที่พ่อแม่ตามไปรับส่งตลอด ไปเข้าค่ายก็ตามไป... แทบไม่ได้ไปเที่ยวหรือเดินห้างดูหนังเลยค่ะ555
เพื่อนที่ติดต่อมาคือจะให้เราช่วยทำงานไม่ก็เรื่องเงินก็มีค่ะ เราก็ช่วยตลอดเท่าที่ทำได้ บางทีก็เกินกำลังเราก็ยังช่วยค่ะ... มีใครปรึกษาเราก็รับฟังจนบางครั้งเรายอมรับค่ะว่าจิตตกอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ตลอด
ไม่รู้ว่าเพราะเราเป็นคนตรงๆเลยไม่มีใครอยากคบ หรือเพราะเราช่วยเพื่อนในชั้นจนเพื่อนคิดว่าใช้เงินซื้อเพื่อน เราเลยแทบไม่มีใครคบในชีวิตจริง แค่อยากระบายค่ะ 555 ขอโทษสำหรับความง้องแง้งนะคะ ตอนนี้คือใจพังมากค่ะ555 ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า
ขอบคุณเพื่อน2คนกับน้องที่เจอในเกมที่ยังคุยกับเราค่ะ555
สุดท้ายนี้ค่ะ โดดเรียนไม่ใช่เรื่องที่ดี อย่าใส่ความใครถ้าเราไม่รู้เรื่องจริงๆ เพราะมันทำให้คนๆนึงพังจริงๆ ความหวังดี ความตั้งใจ ความยินดีที่จะช่วยเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีค่ะ บางคนต้องการที่พึ่ง ใจเขาใจเรา ถ้าเราลำบากเราก็คงหาคนมาช่วยเหมือนกัน
เพื่อนในชีวิตจริงของเรามีกี่คนกันนะ
ไปๆมาๆครูประจำชั้นเรียกเราไปตักเตือนค่ะว่าขโมยของเพื่อนไป แล้วเราก็ไปนั่งฟังครูดุแบบงงๆ
พอมาตอนป.4โรงเรียนเดิม ช่วงนั้นเหรียญโปเกมอนกำลังดัง เราก็เป็นคนนึงค่ะที่เอาไปดีดเล่นกับเพื่อน แล้วก็ชนะได้ของเพื่อนมาตามที่สัญญาตามกติกาที่ตั้งกันไว้ มาช่วงนึงเราเริ่มเบื่อเลยไม่ได้พกไปโรงเรียนหลายวัน เพื่อนคนนั้น(ยังจำชื่อนามสกุลได้จากวีรกรรมหลายๆอย่างไว้จะเล่าอีกทีค่ะ)บอกครูประจำชั้น(คนละคนกับตอนป.1)ว่าเราขโมยเหรียญโปเกมอนไปหมด ให้เหตุผลเพราะเห็นเด็กผู้หญิงรูปร่างแบบเราส่งกระเป๋าให้ตาแก่ๆแล้วเหรียญโปเกมอนตกลงมาจากกระเป๋า คือทุกเช้าเย็นปู่เราจะเดินจูงมือข้ามถนนมาส่งเราที่โรงเรียนจากบ้านค่ะ แล้วครูก็ดุว่าทำไมไปเอาของเพื่อนให้คืนเพื่อนไป งงเลยค่ะ ตอนนั้นเราก็อธิบายว่าไม่ได้เอาไป(ออกแนวเถียงเพราะไม่ได้เอาไปจริงๆไม่ได้นั่งฟังเงียบๆแบบตอนป.1) ครูไม่ฟังและไปบอกทางพ่อแม่ของเราค่ะ แต่สุดท้ายพอความจริงปรากฏคือเป็นเด็กอีกคนและเด็กคนนั้นก็ไม่ได้ขโมยของเพื่อนคนนั้นไปค่ะ นางโกหก แต่สาเหตุที่ทำก็ไม่เข้าใจค่ะ
แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เพื่อนทะเลาะกันแรง แล้วเราเป็นคนที่ซื่อๆบื้อๆคนนึง เพื่อนก็บอกให้เราเอาประโยคไปบอกอีกกลุ่มนึง พอไปถึงอีกกลุ่มเค้าก็ฝากข้อความมาบอกเป็นแบบนี้ทุกวันค่ะ วันนึงก็หลายรอบเพราะเปรียบเหมือนกับม้าส่งข่าว และแทบจะคุยกันเป็นนิยายได้เรื่องนึง ถ้าเราไม่ทำก็โดนตบค่ะ แล้วไปๆมาๆ2กลุ่มนี้กลับมาดีกัน แล้วเพื่อนคนเดิมเลยค่ะตัวโตสุดในรุ่น บอกว่าเราเป็นสาเหตุที่ทำให้แตกกัน แล้วก็กระชากเราไปตบไปๆมาๆจนเพลงโรงเรียนดังก่อนเคารพธงชาติ
เราเป็นคนนึงที่เพื่อนให้มาทำงานให้ตลอด งานกลุ่มก็โดนทำคนเดียว ถามว่าทำไมไม่ให้เพื่อนทำ เพื่อนไม่ทำค่ะ ตอนนั้นเราก็ยังเด็กเราก็เข้าใจว่า ถ้าไม่ทำเพื่อนจะไม่คบ เราแบ่งงานให้เพื่อนเรียกเพื่อนมาติวก็ไม่มา (ปัจจุบันรื้อเจอจดหมายที่เพื่อนคนนึงส่งมาเจอค่ะ) เพื่อนสนิทคนนึงเลยค่ะคนนี้เขียนจดหมายมาว่า เธอไปคบกับอีหน้าสิวคนนั้นทำไม (ตอนนั้นเรามีเพื่อนอีกคนเค้าค่อนข้างฮอร์โมนมาไวกว่าเพื่อนค่ะ) แล้วข้อความในจดหมายก็เขียนต่อว่า จริงๆตลอดมาเราหลอกใช้เธอ โง่จริงๆ ทำนองนี้ค่ะ
พอมาตอนม.3เราชอบเพื่อนคนนึงค่ะก็แอบชอบมาจนม.4-5เพื่อนในห้องเริ่มจับได้ก็ล้อแซว สักพักก็เลยโดนแบนจากคนในห้องหมดเลยค่ะ ตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าทำไม พอมาตอนม.6เลยไปถามเพื่อน2คนจริงๆจังๆ ว่าทำไมเธอไม่คุยกับเรา เค้าตอบว่าเธอแปลกๆ เราก็ถามต่อค่ะแปลกยังไง เค้าบอกว่าไม่รู้สิ ตอนนั้นจนถึงตอนนี้บอกตามตรงยังไม่เข้าใจเลยค่ะ555
พอจบม.6ไปเรียนต่อ ก็ไม่มีเพื่อนติดต่อมาเลยค่ะ กลุ่มเฟสเราอยู่เราโพสเรื่อยๆแต่มีโพสเราที่ไม่มีใครมาตอบ พอมาวันนึงค่ะมีเพื่อนที่โรงเรียนโทรมาถามเป็นไงบ้างสบายดีไหม สักพักขายเครื่องทำน้ำอุ่น เราบอกไปว่าตอนนี้ที่บ้านมีแล้วยังไม่เสียเลยยังไงจะบอกอีกทีนะ เค้าก็หายไปเลยค่ะจากวันนั้น แต่จะมีเพื่อนคนนึงที่เราส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดตลอด จริงๆคือคนที่เราแอบชอบตอนม.3ค่ะ(รักแรก) ก็มีคุยบ้างประปรายสัก2-3เดือนครั้งหรือครึ่งปีครั้งนึงส่วนใหญ่เป็นเราที่เป็นคนทักไปเอง
สมัยโรงเรียนเป็นช่วงที่เราได้รางวัลเด็กดีเด่นตลอดค่ะ เราเพิ่งมารู้จักคำหยาบจริงๆช่วงม.4ค่ะ แอบซื่อๆบื้อๆมาก แต่มีช่วงนึงที่เราพลาดมากในชีวิตเลยค่ะ คือเพื่อนบอกให้ไปดูต้นทางให้เพื่อนจะโดดเรียนไปที่ห้องสมุด เราก็ไม่กล้าปฏิเสธบวกกับไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต คือครูมาตามค่ะ เรากำลังจะหันไปบอกเพื่อน อ้าวหายไปไหนกันหมด หนีกันแบบเดอะแฟรชเลยค่ะ เหลือเราคนเดียวก็โดนเข้าห้องปกครองครั้งแรกค่ะ แล้วรางวัลเด็กดีเด่นเราก็จบตรงราวๆม.4ค่ะหลังจากที่ได้ทุกเทอม555
เราเป็นคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยมาก และทุกครั้งจะซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆมาฝากครูกับเพื่อนๆในห้องค่ะ และถ้าเพื่อนไม่มีเงินก็จะช่วยหารช่วยออกค่าข้าวขนมให้ เลยมารู้ทีหลังว่าเพื่อนในห้องนินทาค่ะว่าเราเอาเงินไปซื้อเพื่อน...
จริงๆเราตั้งใจเต็มใจให้เต็มใจช่วย ไปแบบไม่หวังไรตอบแทน ซึ่งก็ไม่มีใครมาให้ไรเราค่ะ วันเกิดเพื่อนในห้องวันเดียวกับเราคนนึงค่ะ เพื่อนในห้องจัดงานให้เพื่อนคนนั้นแต่ลืมเราเป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ555 แต่ตอนนั้นอาจจะข้อเสียเราด้วยค่ะ คือเราเป็นคนไม่ค่อยพูด
มาจนตอนนี้ไม่รู้ว่ามีเพื่อนกี่คนเหมือนกันค่ะ เพราะปกติมีแค่น้องกับเพื่อน2คนที่รู้จักในเกมคุยประจำ อาจจะมีคนในคลับเกมที่มีคุยบ้างประปราย
ส่วนเพื่อนมหาลัยไม่มีใครมากล้าคบกับเราค่ะ555 ประเด็นมันเกิดตอนปี1 เราสนิทกับอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าค่ะ เค้าชอบเราเพราะเราเป็นคนเดียวที่ส่งงานตรงเวลาตลอดมีความรับผิดชอบ กรรมตรงที่อาจารย์คนนี้ไม่ลงรอยกับอาจารย์ในสาขาอีก4คนค่ะ แต่อาจารย์คนนี้เป็นอาจารย์ที่ดีมาก ศิษย์คนไหนทำผิดก็ตักเตือน ศิษย์คนไหนทำถูกก็ยกย่อง เพื่อนก็ไม่ค่อยเรียนไม่ค่อยส่งงานในรายวิชาของอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าค่ะ
ก็เริ่มมีการไซโคโดยอาจารย์ในสาขาคนอื่นให้แตกกันเองค่ะเริ่มแรกแตกกันระหว่างห้อง1กับ2 แล้วค่อยๆแตกกันภายในห้องค่ะ แยกคนอื่นออกจากกลุ่มที่สนิทกับอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่า แล้วเวลาอาจารย์ให้เราบอกการบ้านเพื่อน เราก็มาบอกในกลุ่มไลน์โดนผู้ชายรุมด่าค่ะว่าไปเร่งเค้า ลูกรักอาจารย์ไรแบบนี้ค่ะ ก็งงๆว่าแค่มาบอกว่าอย่าลืมส่งงาน แล้วก็มีประเด็นบ่อยค่ะ คือกลุ่มเราจะรู้ช้ากว่ากลุ่มอื่นที่สนิทกับอาจารย์ในสาขาคนอื่นค่ะ บางทีไม่บอกไรเลยค่ะมาบอกเอาตอนกลางคืนแล้ววันรุ่งขึ้นมีนัดประชุม หรือบางทีก็ไปประชุมกันไม่บอกกลุ่มที่สนิทกับอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่า
มาพีคเอาตอนปี3ค่ะ อาจารย์ในสาขาร่วมมือกันล่ารายชื่อนักศึกษา เพื่อไล่อาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าออกค่ะ หลายคนไม่เห็นด้วย ปี2ก็ไม่เห็นด้วยหลายคนค่ะ แต่ก็มีล่าลายชื่อไปส่งเยอะมากค่ะ รายวิชาของอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่ามีเรากับเพื่อนอีกคนไปเรียนเสมอค่ะ แต่คนอื่นไม่เรียน บางคนมาเรียนบ้าง ไม่แปลกที่จะไม่รู้ว่าอาจารย์เค้าสอนอะไร... จนวันสุดท้ายก็มีนัดประชุมลับค่ะไม่บอกอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่า แต่เราเข้าไปประชุมด้วย เราเป็นคนนึงค่ะที่ชอบความถูกต้อง เราเลยเดินตามคณะบดีหลังประชุมไป แล้วขอความเมตตาจากท่านให้ช่วย เพราะอาจารย์เค้าสอนดีค่ะรักนักศึกษาทุกคน เวลาไปเข้าค่ายก็ไม่ให้ใครกินเหล้า ซึ่งช่วงที่อาจารย์เค้าไม่ได้ตามไป อาจารย์ในสาขาคนอื่นอนุญาติให้เมาได้ค่ะ เราก็เป็นหน่วยเก็บกวาดเพราะไม่เมา555
มีจัดงานให้รุ่นพี่ปี4ซึ่งรุ่นเราเป็นหัวหน้าในการจัดการ แต่พองานจบค่ะ มีประชุมอีกโดยไม่มีปี2เข้า แต่เห็นปี2บอกไม่ทราบค่ะว่ามี ปี2หลายคนคือนักศึกษาที่ไม่ได้เซ็นต์ชื่อตอนนั้นค่ะ ในการประชุมนั้นก็มีไซโคอีกค่ะ ให้แตกกันกับปี2 ประมาณว่าปี2ไม่ช่วยงาน... แล้วพูดถึงอาจารย์หัวหน้าสาขาคนเก่าค่ะ ว่าพวกเราต้องช่วยกันจัดการ... ไปๆมาๆอาจารย์หัวหน้าสาขาคนนี้ลาออกเองค่ะ
เราเป็นคนนึงที่พ่อแม่ตามไปรับส่งตลอด ไปเข้าค่ายก็ตามไป... แทบไม่ได้ไปเที่ยวหรือเดินห้างดูหนังเลยค่ะ555
เพื่อนที่ติดต่อมาคือจะให้เราช่วยทำงานไม่ก็เรื่องเงินก็มีค่ะ เราก็ช่วยตลอดเท่าที่ทำได้ บางทีก็เกินกำลังเราก็ยังช่วยค่ะ... มีใครปรึกษาเราก็รับฟังจนบางครั้งเรายอมรับค่ะว่าจิตตกอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ตลอด
ไม่รู้ว่าเพราะเราเป็นคนตรงๆเลยไม่มีใครอยากคบ หรือเพราะเราช่วยเพื่อนในชั้นจนเพื่อนคิดว่าใช้เงินซื้อเพื่อน เราเลยแทบไม่มีใครคบในชีวิตจริง แค่อยากระบายค่ะ 555 ขอโทษสำหรับความง้องแง้งนะคะ ตอนนี้คือใจพังมากค่ะ555 ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า
ขอบคุณเพื่อน2คนกับน้องที่เจอในเกมที่ยังคุยกับเราค่ะ555
สุดท้ายนี้ค่ะ โดดเรียนไม่ใช่เรื่องที่ดี อย่าใส่ความใครถ้าเราไม่รู้เรื่องจริงๆ เพราะมันทำให้คนๆนึงพังจริงๆ ความหวังดี ความตั้งใจ ความยินดีที่จะช่วยเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีค่ะ บางคนต้องการที่พึ่ง ใจเขาใจเรา ถ้าเราลำบากเราก็คงหาคนมาช่วยเหมือนกัน