คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
สวัสดีครับ
ขอแสดงความเสียใจกับคุณพ่อครับ
ผมขอแชร์ประสบการณ์ที่ได้พบเห็นและจัดการมาครับ ผมไม่ใช่หมอ ผมไม่ใช่พยาบาล ไม่มีใบประกอบการในเรื่องสุขภาพใดๆ ทุกๆอย่างที่ผมจะแชร์ไว้ที่นี้ ถ้าคุณเห็นด้วย คุณจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจ และคุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ประจำตัวของคนไข้ก่อนที่จะลงมือกระทำ ถ้าแม้คุณลงมือกระทำตามประสบการณ์ที่ผมแชร์ไว้ที่นี้ แล้วเกิดอันตรายต่อผู้ป่วย ผมไม่ขอแสดงความรับผิดชอบใดๆไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมครับ ในเวลาเดียวกันนี้ผมไม่มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ใดๆ หรือเป็นตัวแทนให้กับ บริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทที่แนะนำวิธีการบำบัดอาการผู้ป่วย ที่ผมจะระบุไว้ในบทความนี้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อในตอนนี้ ไม่มีใครจะตอบได้อย่างชัดเจนครับ ประการแรก ผู้ที่ตอบ ไม่ว่าจะเป็นหมอ หรือพยาบาล จำเป็นต้องรู้ Diagnosis ของผู้ป่วยอย่างแท้จริงก่อน และข้อมูลประวัติการตรวจต่างๆเป็นกุญแจสำคัญมากๆในการชี้ชัดว่า เสมหะเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในเวลาอันสั้น และจะแก้ไขอย่างไรให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง ประการที่สอง ต้องมีผลของ Diagnostic Test ร่วมในการวินิฉัยของแพทย์เพื่อชี้เฉพาะถึงสาเหตุและการรักษาที่ถูกวิธีครับ
คุณหมอท่านบอกว่า เป็นอาการติดเชื้อทางปอด และรักษาหายแล้ว แต่เสมหะยังมีมากอยู่ สิ่งแรกที่ผมจะทำคำคือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่า อาการติดเชื้อถูกรักษาหายขาดแล้วจริงๆ การที่จะพาผู้ป่วยไปตรวจอีกโรงพยาบาลหนึ่งจะเป็นการยืนยันที่ดีครับ
การเคาะปอด CPT (Chest Physical Therapy)
https://www.cff.org/Life-With-CF/Treatments-and-Therapies/Airway-Clearance/Chest-Physical-Therapy/
เครื่องสั่นปอด (CPT Vest)
https://www.cff.org/Life-With-CF/Treatments-and-Therapies/Airway-Clearance/High-Frequency-Chest-Wall-Oscillation/
* บทความภาษาอังกฤษที่ระบุไว้เป็นบทความแนะนำให้อ่านเพื่อความเข้าใจเท่านั้น
*ผมขออภัยครับ บทความจากการค้นหาด้วยภาษาไทยนั้น ไม่มีแหล่งยืนยันและ credential ของผู้เขียนอย่างแน่นอน ทำให้บทความเหล่านั้นขาดความเชื่อถือสำหรับผม
ทั้งสองอย่างช่วยได้ครับ แต่สำหรับผู้ป่วยผู้ใหญ่อาจจะไม่สามารถขจัดเสมหะได้หมดไปอย่างที่ต้องการได้ แต่ถ้ามียา (หมอสั่งเท่านั้น) ช่วยละลายเสมหะ (https://www.cff.org/Life-With-CF/Treatments-and-Therapies/Medications/Mucus-Thinners/ *บทความเพื่อความเข้าใจเท่านั้น) เข้ามาช่วยด้วย จะมีผลที่ดีขึ้นกับผู้ป่วยครับ และถ้ามีการใช้ saline solution กับเครื่อง Humidifier ก็จะช่วยทำให้เสมหะเหลวตัวลงเพื่อง่ายแก่การดูดออกครับ
อีกบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเสมหะ (https://www.medicalnewstoday.com/articles/321549.php) *บทความอ่านเพื่อความเข้าใจ
อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น ก่อนที่จะลงมือกระทำ เชื่อในบทความใดๆ หรือใช้ยาใดๆกับผู้ป่วย คุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนนะครับ คุณต้องได้รับการ training ในการกระทำนั้นๆให้เกิดความชำนาญก่อนที่จะปฏิบัติต่อผู้ป่วย ผลเสียของการปฏิบัติกับผู้ป่วยโดยพลการ จะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีครับ เช่นการทำ CPT คุณต้องใช้เทคนิคอย่างถูกวิธี คุณต้องรู้เวลาทำ CPT ที่เหมาะสม การใช้ CPT Vest คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการตั้งค่าต่างๆให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วย การใช้ saline solution กับเครื่อง Humidifier คุณจำเป็นต้องรู้วิธีอย่างชำนาญจากแพทย์ก่อน เป็นต้น
ผมติดใจที่ผู้ป่วยติดเชื้อทางปอดหลังจากผ่าตัด หลังจากการผ่าตัด สมองที่ได้รับการกระทบกระเทือนจะทำงานของตนเองได้ไม่สมบูรณ์ สภาพแววล้อมต่างๆที่ร่างกายผู้ป่วยสามารถที่จะอยู่ได้ก่อนที่จะป่วย อาจจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายมากๆเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็น สภาพอากาศในห้องนอน ฝุ่น ความสะอาด อาหารที่รับประทาน สัตว์เลี้ยง ผู้คนในบ้านที่อยู่ใกล้กับผู้ป่วย คุณควรจะสร้างสภาพห้องพักฟื้นให้เหมือนห้องที่โรงพยาบาลคือ ปรับสภาพในห้องนั้นๆให้เหมาะกับอาการป่วยของคนไข้ครับ
คุณควรจะถามหมอด้วยว่า คนไข้ต้องการกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของสมองหลังการผ่าตัดด้วยหรือเปล่าครับ
สำหรับผม การไปหาหมอทุกครั้ง ผมจะไม่เพียงแต่พบหมอและบอกว่า ผมป่วย หรือปวดหัว หรือเป็นไข้ ผมจะนำประวัติส่วนตัวของผมไปแจ้งให้หมอทราบโดยละเอียดเช่น ถ้าผมป่วยเป็นไข้กระทันหัน มีอาการไอ ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ ผมจะบอกหมอด้วยว่า ผมจะมีอาการไอหนักที่สุดช่วงไหนของวัน เมื่อไอแล้วมีเสมหะมากน้อยเท่าไรในช่วงไหนของวัน ผมทานยากบรรเทาอาการไข้ชื่ออะไรจำนวนเท่าไรทั้งหมด เวลาที่ผมรู้สึกว่ามีอาการไข้จะมีช่วงไหนของวันที่ผมรู้สึกปวดกล้ามเนื้อและข้อต่างๆ สภาพต่างๆของการดำรงชีวิตของผมเป็นเช่นไรเป็นต้น
คุณเองจำเป็นต้องมีสมุดบันทึกสำหรับการบันทึกประจำวันสำหรับคุณพ่อไว้ด้วยครับ เมื่อท่านไม่สามารถที่จะบอกอาการคุณได้ คุณคือกุญแจดอกสำคัญในการรักษาคุณพ่อให้หายดีจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ นอกจากจะบันทึกอาการที่คุณพ่อแสดงออกมาแล้ว บันทึกอาการที่รับประทานด้วย บันทึกการขับถ่าย สีของอุจจาระปัสสาวะ สภาพแวดล้อมรอบๆตัวคุณพ่อ ความเปลี่ยนแปลงของ vital signs (https://medlineplus.gov/vitalsigns.html) ของแต่ละวัน ยาที่ให้ของแต่ละวันตามแพทย์สั่ง ยาใดที่จำเป็นต้องให้เพราะมาอาการตามหมอสั่ง
การตอบสนองต่อยาที่ได้รับ เป็นต้น การจดบันทึกประจำวันสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ แล้วแต่ว่าสิ่งใดที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยคนนั้นๆ
ผมขอแชร์ประสบการณ์นะครับ ผมขออภัยที่ไม่สามารถที่จะแนะนำอะไรได้ตามที่คุณถามไว้
My Two Cents,
ขอแสดงความเสียใจกับคุณพ่อครับ
ผมขอแชร์ประสบการณ์ที่ได้พบเห็นและจัดการมาครับ ผมไม่ใช่หมอ ผมไม่ใช่พยาบาล ไม่มีใบประกอบการในเรื่องสุขภาพใดๆ ทุกๆอย่างที่ผมจะแชร์ไว้ที่นี้ ถ้าคุณเห็นด้วย คุณจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจ และคุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ประจำตัวของคนไข้ก่อนที่จะลงมือกระทำ ถ้าแม้คุณลงมือกระทำตามประสบการณ์ที่ผมแชร์ไว้ที่นี้ แล้วเกิดอันตรายต่อผู้ป่วย ผมไม่ขอแสดงความรับผิดชอบใดๆไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมครับ ในเวลาเดียวกันนี้ผมไม่มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ใดๆ หรือเป็นตัวแทนให้กับ บริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทที่แนะนำวิธีการบำบัดอาการผู้ป่วย ที่ผมจะระบุไว้ในบทความนี้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อในตอนนี้ ไม่มีใครจะตอบได้อย่างชัดเจนครับ ประการแรก ผู้ที่ตอบ ไม่ว่าจะเป็นหมอ หรือพยาบาล จำเป็นต้องรู้ Diagnosis ของผู้ป่วยอย่างแท้จริงก่อน และข้อมูลประวัติการตรวจต่างๆเป็นกุญแจสำคัญมากๆในการชี้ชัดว่า เสมหะเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในเวลาอันสั้น และจะแก้ไขอย่างไรให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง ประการที่สอง ต้องมีผลของ Diagnostic Test ร่วมในการวินิฉัยของแพทย์เพื่อชี้เฉพาะถึงสาเหตุและการรักษาที่ถูกวิธีครับ
คุณหมอท่านบอกว่า เป็นอาการติดเชื้อทางปอด และรักษาหายแล้ว แต่เสมหะยังมีมากอยู่ สิ่งแรกที่ผมจะทำคำคือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่า อาการติดเชื้อถูกรักษาหายขาดแล้วจริงๆ การที่จะพาผู้ป่วยไปตรวจอีกโรงพยาบาลหนึ่งจะเป็นการยืนยันที่ดีครับ
การเคาะปอด CPT (Chest Physical Therapy)
https://www.cff.org/Life-With-CF/Treatments-and-Therapies/Airway-Clearance/Chest-Physical-Therapy/
เครื่องสั่นปอด (CPT Vest)
https://www.cff.org/Life-With-CF/Treatments-and-Therapies/Airway-Clearance/High-Frequency-Chest-Wall-Oscillation/
* บทความภาษาอังกฤษที่ระบุไว้เป็นบทความแนะนำให้อ่านเพื่อความเข้าใจเท่านั้น
*ผมขออภัยครับ บทความจากการค้นหาด้วยภาษาไทยนั้น ไม่มีแหล่งยืนยันและ credential ของผู้เขียนอย่างแน่นอน ทำให้บทความเหล่านั้นขาดความเชื่อถือสำหรับผม
ทั้งสองอย่างช่วยได้ครับ แต่สำหรับผู้ป่วยผู้ใหญ่อาจจะไม่สามารถขจัดเสมหะได้หมดไปอย่างที่ต้องการได้ แต่ถ้ามียา (หมอสั่งเท่านั้น) ช่วยละลายเสมหะ (https://www.cff.org/Life-With-CF/Treatments-and-Therapies/Medications/Mucus-Thinners/ *บทความเพื่อความเข้าใจเท่านั้น) เข้ามาช่วยด้วย จะมีผลที่ดีขึ้นกับผู้ป่วยครับ และถ้ามีการใช้ saline solution กับเครื่อง Humidifier ก็จะช่วยทำให้เสมหะเหลวตัวลงเพื่อง่ายแก่การดูดออกครับ
อีกบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเสมหะ (https://www.medicalnewstoday.com/articles/321549.php) *บทความอ่านเพื่อความเข้าใจ
อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น ก่อนที่จะลงมือกระทำ เชื่อในบทความใดๆ หรือใช้ยาใดๆกับผู้ป่วย คุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนนะครับ คุณต้องได้รับการ training ในการกระทำนั้นๆให้เกิดความชำนาญก่อนที่จะปฏิบัติต่อผู้ป่วย ผลเสียของการปฏิบัติกับผู้ป่วยโดยพลการ จะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีครับ เช่นการทำ CPT คุณต้องใช้เทคนิคอย่างถูกวิธี คุณต้องรู้เวลาทำ CPT ที่เหมาะสม การใช้ CPT Vest คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการตั้งค่าต่างๆให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วย การใช้ saline solution กับเครื่อง Humidifier คุณจำเป็นต้องรู้วิธีอย่างชำนาญจากแพทย์ก่อน เป็นต้น
ผมติดใจที่ผู้ป่วยติดเชื้อทางปอดหลังจากผ่าตัด หลังจากการผ่าตัด สมองที่ได้รับการกระทบกระเทือนจะทำงานของตนเองได้ไม่สมบูรณ์ สภาพแววล้อมต่างๆที่ร่างกายผู้ป่วยสามารถที่จะอยู่ได้ก่อนที่จะป่วย อาจจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายมากๆเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็น สภาพอากาศในห้องนอน ฝุ่น ความสะอาด อาหารที่รับประทาน สัตว์เลี้ยง ผู้คนในบ้านที่อยู่ใกล้กับผู้ป่วย คุณควรจะสร้างสภาพห้องพักฟื้นให้เหมือนห้องที่โรงพยาบาลคือ ปรับสภาพในห้องนั้นๆให้เหมาะกับอาการป่วยของคนไข้ครับ
คุณควรจะถามหมอด้วยว่า คนไข้ต้องการกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของสมองหลังการผ่าตัดด้วยหรือเปล่าครับ
สำหรับผม การไปหาหมอทุกครั้ง ผมจะไม่เพียงแต่พบหมอและบอกว่า ผมป่วย หรือปวดหัว หรือเป็นไข้ ผมจะนำประวัติส่วนตัวของผมไปแจ้งให้หมอทราบโดยละเอียดเช่น ถ้าผมป่วยเป็นไข้กระทันหัน มีอาการไอ ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ ผมจะบอกหมอด้วยว่า ผมจะมีอาการไอหนักที่สุดช่วงไหนของวัน เมื่อไอแล้วมีเสมหะมากน้อยเท่าไรในช่วงไหนของวัน ผมทานยากบรรเทาอาการไข้ชื่ออะไรจำนวนเท่าไรทั้งหมด เวลาที่ผมรู้สึกว่ามีอาการไข้จะมีช่วงไหนของวันที่ผมรู้สึกปวดกล้ามเนื้อและข้อต่างๆ สภาพต่างๆของการดำรงชีวิตของผมเป็นเช่นไรเป็นต้น
คุณเองจำเป็นต้องมีสมุดบันทึกสำหรับการบันทึกประจำวันสำหรับคุณพ่อไว้ด้วยครับ เมื่อท่านไม่สามารถที่จะบอกอาการคุณได้ คุณคือกุญแจดอกสำคัญในการรักษาคุณพ่อให้หายดีจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ นอกจากจะบันทึกอาการที่คุณพ่อแสดงออกมาแล้ว บันทึกอาการที่รับประทานด้วย บันทึกการขับถ่าย สีของอุจจาระปัสสาวะ สภาพแวดล้อมรอบๆตัวคุณพ่อ ความเปลี่ยนแปลงของ vital signs (https://medlineplus.gov/vitalsigns.html) ของแต่ละวัน ยาที่ให้ของแต่ละวันตามแพทย์สั่ง ยาใดที่จำเป็นต้องให้เพราะมาอาการตามหมอสั่ง
การตอบสนองต่อยาที่ได้รับ เป็นต้น การจดบันทึกประจำวันสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ แล้วแต่ว่าสิ่งใดที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยคนนั้นๆ
ผมขอแชร์ประสบการณ์นะครับ ผมขออภัยที่ไม่สามารถที่จะแนะนำอะไรได้ตามที่คุณถามไว้
My Two Cents,
แสดงความคิดเห็น
ผู้ป่วยทางสมอง มีเสมหะเยอะ ทำไงดีคะ
1. ทำยังไงให้เสมหะที่เป็นอยู่หายขาดคะ มีบางก็ได้เเต่ไม่เยอะเท่านี้ค่ะ (พ่อใส่สายอาหารทางจมูกค่ะ ทาน-ดื่มเองไม่ได้หมอกลัวสำลักเเละลงปอด)
2. หรือว่าขึ้นอยู่กับการพาเดิน ขยับร่างกายเยอะๆ ลุกนั่ง กายภาพคะ ไปอยู่ รพ. 2 สัปดาห์นอนยาวค่ะ
3. การเคาะปอดช่วยได้ไหมมากคะ เครื่องสั่นปอดจำเป็นไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
รักเเละเป็นห่วงพ่อมากค่ะ