
9 วัน 10 คืน ณ เมืองโตเกียว และ เมืองฟูจิโยชิดะ
เมื่อวางแผนไว้แค่ครึ่งเดียว... จึงยังมีที่เหลืออีกครึ่งนึงไว้พบประสบการณ์ใหม่ๆ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนที่เมืองโตเกียว และดูวิวภูเขาไฟฟูจิที่ริมทะเลสาบคาวากูชิโกะและเมืองเล็กๆแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ชื่อว่า "ฟูจิโยชิดะ" ที่อยู่ใกล้ๆกัน เป็นทริปแนวพักผ่อน กิน และเดินชมบรรยากาศ มีช้อปบ้างประปราย ต้องบอกว่าทั้งสนุกสนาน ค้นพบเจออะไรใหม่ๆ แต่ก็มีเรื่องพลาดๆหลายอย่าง ถึงยังไงก็รู้สึกว่าประทับใจค่ะ กับการกลับมาเยือนโตเกียวครั้งที่สอง และไปดูฟูจิเป็นครั้งแรกในชีวิต ตามความฝันของคุณสามี
หลังจากกลับมา เลยตั้งใจเขียนกระทู้นี้ เพื่อบอกต่อ ข้อมูล ประสบการณ์ และความรู้สึกส่วนตัว เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับคนไหนที่กำลังวางแผนคิดจะไปเที่ยว ในส่วนของข้อมูลใหม่ๆที่เราเจอกับตัวเองด้วยค่ะ
ครั้งนี้เราไปทั้งหมด 9วัน 10คืน (2คืนบนเครื่องบิน 7คืนที่โตเกียว 1คืนที่ฟูจิโยชิดะ) เดินทางคืนวันที่18 กุมภาพันธ์ 2019 - กลับคืนวันที่27 กุมภาพันธ์ 2019 โดยสายการบิน peach airline จากเมืองเซี่ยงไฮ้ (เราอาศัยอยู่เมืองเซี่ยงไฮ้ค่ะ)
Day1 " ค้นพบ พลาด ปล่อยวาง และความสุขง่ายๆ "
หลังจากถูกเครื่องบินเขย่าจนได้ประสบการณ์เมาเครื่องครั้งแรกในชีวิต เช้ามืดของวันแรก ลงจากเครื่อง ผ่าน ตม แบบยังไม่หายพะอืดพะอมดี ออกมาสู่อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินฮาเนดะ เมืองโตเกียว มองซ้ายมองขวา สายตาก็ไปสะดุดกับคำว่า " Shower room " ราวกับสนามบินแห่งนี้จะรู้ใจผู้โดยสารผู้อิดโรยอย่างเรา วันนี้กว่าจะได้เช็คอินเข้าโฮสเทลก็ปาเข้าไปเกือบเย็นซะด้วยสิ ไม่ต้องคิดนาน ลากกระเป๋าดิ่งเข้าไปดูรายละเอียดเลย ถ้าไม่เกิน300บาท เราจะสู้! .... แล้วราคาก็ช่างเป็นใจ ค่าบริการห้องอาบน้ำส่วนตัว 30นาที 1,030เยน/คน รวมภาษีแล้ว อาบเสร็จก็สดชื่นขึ้น80% ยังกับได้นอนเต็มอิ่มมาทั้งคืนแน่ะ!
== ค้นพบที่1 อาบน้ำที่สนามบิน 30นาที ประมาณ 300บาท ให้คะแนนความสดชื่นและพึงพอใจ 10/10 ค่าา

จากด้านหน้า จะมีตัวหนังสือใหญ่มาก เขียนว่า SHOWER ROOM เมื่อเดินเข้ามาจะเจอเคาน์เตอร์ติดต่อขอใช้บริการ และจ่ายเงิน เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ถ้ามีคนใช้บริการเต็มทุกห้อง ต้องรอคิว ก็จะมานั่งรอกันมุมนี้ล่ะ มีเก้าอี้ให้นั่งรอ ถึงเวลาก็ลากกระเป๋าเดินเข้าห้องตามหมายเลขที่เค้าแจ้งไว้ได้เลยค่ะ

สภาพห้องน้ำสะอาดมาก แต่ก็เล็กมากเช่นกัน ไม่มีโถส้วมนะคะ ธุระหนักเบา เชิญเข้าฟรีด้านนอก ของสนามบิน สะอาดสุดๆเช่นกัน

โซนเปียก มีแชมพู สบู่ ครีมนวดให้

โซนแห้ง มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ไดร์เป่าผมให้

มีเก้าอี้ให้ตัวนึง มีพื้นที่เล็กๆให้พอกางกระเป๋า รื้อของได้ค่ะ

ที่แขวนเสื้อ
อาบน้ำออกมาเสร็จ เค้าจะมีเครื่องดื่มฟรีให้เรา1อย่าง เราก็เลือกชาเขียว โดยกดเอาจากตู้ตรงบริเวณที่นั่งรอคิวอาบน้ำได้เลยค่ะ
สดชื่นเต็มที่แล้ว เราก็ออกมานั่งรอเคาน์เตอร์ KLOOK เปิด เพราะเราได้จ่ายเงินจองvoucher กับเอเจนท์นี้ไว้3อย่าง คือ ซิมการ์ด4G, บัตรSUICA(ที่ตอนหลังซุ่มซ่ามทำหาย) และ voucher Bus Limousine ไปกลับสนามบิน-เมืองโตเกียว
เรานั่งรอจนเคาน์เตอร์เปิด เรื่องราว "พลาด" เรื่องที่1 ก็เริ่มขึ้น รายละเอียดอยู่ในกระทู้คำถามที่ตั้งไว้ ขออนุญาตแปะลิงค์นะคะ
https://pantip.com/topic/38569924
กรณีความผิดพลาดนี้ เราอยากเตือนเพื่อนๆค่ะ ถ้าจะทำการซื้อvoucher จากเอเจนท์เจ้านี้ ควรตั้งค่าภาษาเป็นภาษาอังกฤษนะคะ สำหรับตอนนี้ ทางบริษัทก็ส่งอีเมล์มาบอกว่าจะคืนเงินให้ เราอยู่ในขั้นตอนรอเงินคืนอยู่ค่ะ
ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเซ็งมาก บรรยากาศมันเสียตั้งแต่เริ่มทริป โชคดีที่แฟนเราคิดบวกมากๆ ปลอบเราตลอดว่าไม่เป็นไร ช่างมัน เดี๋ยวเราไปเที่ยวกัน เราเลยพยายามคิดไปถึงความสุขที่รออยู่ข้างหน้า แก้ปัญหาตรงนี้ให้เต็มความสามารถแล้วก็ไปต่อ ด้วย รถไฟ ด้วยตัวเอง สองคนก็ลากกระเป๋ากันไป ขึ้นลงสถานีผิดๆถูกๆกันสนุกสนานเลยค่ะ
กว่าจะมาถึงโฮสเทลที่จองไว้ ใช้เวลาไปกับ ความงง+ง่วง พอสมควร แต่พอมาถึงแล้ว ก็ใจฟูขึ้นมาเยอะเลยค่ะ เพราะโฮสเทลน่ารักมากๆ สถานที่ตั้งอยู่ใกล้subway ใกล้แม่น้ำสุมิดะ ที่โฮสเทลนี้ ชั้นล่างจะเป็นร้านกาแฟ + bar&lounge บรรยากาศดีมากๆ ที่นี่มีทั้งห้องรวม ห้องรวมหญิง และห้องส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องน้ำรวมนะคะ ห้องน้ำงี้ สะอาดด มากก ตามแบบฉบับญี่ปุ่นเลยค่ะ ชั้นบนสุดก็จะเป็นห้อง common room ให้เรานั่งเล่น ชมวิวแม่น้ำ ทำอาหาร เล่นไพ่ ซักผ้า ฯลฯ ก็ถือว่ามาตรฐาน สะดวกสบาย แถมได้เพื่อนใหม่ด้วยค่ะ แขกที่มาพักก็ค่อนข้างมารยาทดี ไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง
โฮลเทลชื่อ Nui. Hostel & Bar Lounge มีน้องที่รู้จักแนะนำมาให้ก็เลยจองมาตามคำแนะนำ ซึ่งก็ประทับใจมากๆค่ะ

บรรยากาศcommon room ค่ะ

ห้องพักนอนแบบส่วนตัว วิวแม่น้ำสุมิดะ เรานั่งกินเบียร์ตรงโต๊ะนั้น กินไปมองแม่น้ำไป ฟินมากกค่ะ

ห้องส่วนตัว จะมีผ้าเช็ดตัวให้นะคะ ถ้าห้องรวม ต้องเช่าผ้าเช็ดตัวค่ะ ถ้าไม่ได้นำมาเอง

หลังเอาสัมภาระไปฝากที่โฮสเทล เพื่อรอเช็คอิน เราออกเดินหาอาหารมื้อแรกใส่ท้อง
สิ่งที่หมายมั่นปั้นมือ ว่าอยากจะมาพิสูจน์ด้วยลิ้นสักครั้ง ก็คือร้านข้าวหน้าปลาดิบ500เยน ที่มีชื่อว่า " Sasafune donmaru " ที่ดูรีวิวมาจากรายการสุโก้ยเจแปน
กูเกิ้ลแมพบอกเราว่า สาขาที่ใกล้ที่สุด อยู่ในระยะที่เดินถึงจากโฮสเทล อาจจะต้องเดินนานสักหน่อย แต่ยังไงเราชอบเดินหลงไปตามซอกซอยดูบ้านเมืองเค้าอยู่แล้ว ก็เลยออกเดินกัน
ถึงร้านแล้ว มาดูเมนูกันดีกว่า

ทุกเมนู 500เยน หมดเลยค่ะ รวม tax ก็จะ 500นิดๆ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 150บาท!!! สำหรับขนาดปกตินะคะ

หน้าตาร้านก็จะประมาณนี้ค่ะ มีแต่ซื้อกลับบ้านนะคะ ไม่มีนั่งกินค่า

เพราะฉะนั้น เราก็จึงมีโอกาส ได้เลือกสถานที่ดีๆ ไว้กินมื้ออร่อยๆด้วยตัวเอง ดีจริงๆเลย เหมือนได้มาปิคนิค นั่งกินข้าวหน้าปลาดิบอร่อยๆ ชมนกชมไม้ บอกเลยว่าฟินมากๆๆๆ ค่ะมื้อนี้

เติมพลังกายพลังใจเรียบร้อยแล้ว เรากะแฟนก็ออกลุยต่อเลยค่ะ วันนี้วางแผนว่าจะซื้อตั๋วรถบัสล่วงหน้า เพื่อนั่งรถบัสไปพัก1คืนที่เมือง ฟูจิโยชิดะในอีก2วันถัดไปค่ะ ซึ่งเมืองนี้และโฮสเทลที่เราพักจองไว้ในเมืองนี่แหละค่ะเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปเลย ฟูจิโยชิดะ เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆทะเลสาบKawaguchikoโดยเราจะต้องจองตั๋วรถบัสจากสถานีชินจูกุเพื่อไปลงสถานีชื่อว่า Fujisan station เหตุที่เลือกไปโดยรถบัส ก็เนื่องจากศึกษามาแล้วค่ะว่าราคาถูกกว่ารถไฟ นั่งรวดเดียว ใช้เวลาน้อยกว่า อีกอย่าง เรายังไม่เคยได้ลองนั่งรถบัสที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ
เมื่อไปถึงสถานีชินจูกุ การเดินหาอาคารสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋ว เป็นอะไรที่ยากมากๆค่ะ เพราะถนนหน้าตึกนั้น เป็นชั้น2 เดินวนเวียนหาก็หลงทิศไปหมด ดีที่เซฟรูปอาคารนั้นไว้ แฟนเราจึงตัดสินใจถามคนที่ดูเป็นเจ้าหน้าที่แถวๆนั้น จึงจะรู้ทิศว่าต้องเดินไปทางไหน
เมื่อถึงอาคารสถานีรถบัสแล้ว จุดขายตั๋วและปล่อยรถจะอยู่ชั้น4ค่ะ เดินขึ้นบันไดเลื่อนตามๆคนไป ไม่ยากค่ะ เข้าไปก็ถามเจ้าหน้าที่ใครสักคนได้เลย เค้าจะช่วยเราเอง โดยการซื้อตั๋วรถบัสครั้งนี้ เราซื้อตั๋วรถบัสไปกลับ Shinjugu-Fujisan station ราคาคนละ 3,900เยน และ voucher รถretro bus เหมา2วัน ชมวิวรอบๆทะเลสาบKawaguchiko ราคาคนละ 450เยน (retro busจะเป็นรถบัสที่วิ่งรอบๆทะเลสาบ และแวะตามจุดชมวิวต่างๆ มีรถออกเป็นรอบ เรื่อยๆทั้งวัน)

ภาพด้านบนนี้คือจุดซื้อตั๋วค่ะ
ได้ตั๋วมาเป็นที่เรียบร้อยก็เป็นอันจบภารกิจหลักของวัน ที่เหลือก็ปล่อยชิว เดินเล่นแถวนั้นค่ะ ในส่วนของมื้อเย็นที่หมายมั่นไว้ คือร้านเนื้อย่างคุณภาพ ราคาดี ตามที่คุณฮิโระซัง ได้แนะนำไว้ในรายการสุโก้ยเจแปนค่ะ แต่! ดันเข้าร้านผิด ไปเข้าร้านข้างๆที่อยู่ติดกันซะงั้น

นี่คือหน้าตาอาหารที่ได้ค่ะ เซ็ตที่เป็นแซลมอนรสชาติดีนะคะ ส่วนเซ็ตที่เป็นหมู รสชาติดี แต่เหมือนกินหมูปิ้งข้าวเหนียวหน้าปากซอยไปนิ้ดส์

ในส่วนของราคานั้น จำไม่ได้จริงๆ แต่รู้สึกจะไม่แพงมากค่ะ น่าจะแถวๆ 1000เยน บวกลบ
กินอิ่ม เดินเล่นสักพัก เริ่มเพลียๆ ได้เวลากลับที่พักละ ไปดูห้องพักแบบ8เตียงกันดีกว่าค่ะ

ถึงแม้ที่นี่จะเป็นโฮสเทล แต่พอเข้าโซนที่พัก ก็ค่อนข้างสงบ ไม่วุ่นวายค่ะ แขกที่มาพักค่อนข้างดี มีมารยาท มาจากหลากหลายประเทศ สภาพห้องพักสะอาดมาก ห้องน้ำก็สะอาดมากค่ะ ปกติจะเป็นคนเซ็นซิทิฟในเรื่องห้องน้ำ แต่กับที่นี่ ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ราคาห้องพักแบบนี้ อยู่ที่เตียงละ 878.31บาท/คืน เราจองผ่านอโกด้าค่ะ
เดี๋ยวมาเขียนต่อเรื่อยๆนะคะ
[CR] ++ review เที่ยวโตเกียว - ชมภูเขาไฟฟูจิในอีกมุมมอง ณ เมืองฟูจิโยชิดะ ++
ครั้งนี้เราไปทั้งหมด 9วัน 10คืน (2คืนบนเครื่องบิน 7คืนที่โตเกียว 1คืนที่ฟูจิโยชิดะ) เดินทางคืนวันที่18 กุมภาพันธ์ 2019 - กลับคืนวันที่27 กุมภาพันธ์ 2019 โดยสายการบิน peach airline จากเมืองเซี่ยงไฮ้ (เราอาศัยอยู่เมืองเซี่ยงไฮ้ค่ะ)
Day1 " ค้นพบ พลาด ปล่อยวาง และความสุขง่ายๆ "
หลังจากถูกเครื่องบินเขย่าจนได้ประสบการณ์เมาเครื่องครั้งแรกในชีวิต เช้ามืดของวันแรก ลงจากเครื่อง ผ่าน ตม แบบยังไม่หายพะอืดพะอมดี ออกมาสู่อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินฮาเนดะ เมืองโตเกียว มองซ้ายมองขวา สายตาก็ไปสะดุดกับคำว่า " Shower room " ราวกับสนามบินแห่งนี้จะรู้ใจผู้โดยสารผู้อิดโรยอย่างเรา วันนี้กว่าจะได้เช็คอินเข้าโฮสเทลก็ปาเข้าไปเกือบเย็นซะด้วยสิ ไม่ต้องคิดนาน ลากกระเป๋าดิ่งเข้าไปดูรายละเอียดเลย ถ้าไม่เกิน300บาท เราจะสู้! .... แล้วราคาก็ช่างเป็นใจ ค่าบริการห้องอาบน้ำส่วนตัว 30นาที 1,030เยน/คน รวมภาษีแล้ว อาบเสร็จก็สดชื่นขึ้น80% ยังกับได้นอนเต็มอิ่มมาทั้งคืนแน่ะ!
== ค้นพบที่1 อาบน้ำที่สนามบิน 30นาที ประมาณ 300บาท ให้คะแนนความสดชื่นและพึงพอใจ 10/10 ค่าา
อาบน้ำออกมาเสร็จ เค้าจะมีเครื่องดื่มฟรีให้เรา1อย่าง เราก็เลือกชาเขียว โดยกดเอาจากตู้ตรงบริเวณที่นั่งรอคิวอาบน้ำได้เลยค่ะ
สดชื่นเต็มที่แล้ว เราก็ออกมานั่งรอเคาน์เตอร์ KLOOK เปิด เพราะเราได้จ่ายเงินจองvoucher กับเอเจนท์นี้ไว้3อย่าง คือ ซิมการ์ด4G, บัตรSUICA(ที่ตอนหลังซุ่มซ่ามทำหาย) และ voucher Bus Limousine ไปกลับสนามบิน-เมืองโตเกียว
เรานั่งรอจนเคาน์เตอร์เปิด เรื่องราว "พลาด" เรื่องที่1 ก็เริ่มขึ้น รายละเอียดอยู่ในกระทู้คำถามที่ตั้งไว้ ขออนุญาตแปะลิงค์นะคะ
https://pantip.com/topic/38569924
กรณีความผิดพลาดนี้ เราอยากเตือนเพื่อนๆค่ะ ถ้าจะทำการซื้อvoucher จากเอเจนท์เจ้านี้ ควรตั้งค่าภาษาเป็นภาษาอังกฤษนะคะ สำหรับตอนนี้ ทางบริษัทก็ส่งอีเมล์มาบอกว่าจะคืนเงินให้ เราอยู่ในขั้นตอนรอเงินคืนอยู่ค่ะ
ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเซ็งมาก บรรยากาศมันเสียตั้งแต่เริ่มทริป โชคดีที่แฟนเราคิดบวกมากๆ ปลอบเราตลอดว่าไม่เป็นไร ช่างมัน เดี๋ยวเราไปเที่ยวกัน เราเลยพยายามคิดไปถึงความสุขที่รออยู่ข้างหน้า แก้ปัญหาตรงนี้ให้เต็มความสามารถแล้วก็ไปต่อ ด้วย รถไฟ ด้วยตัวเอง สองคนก็ลากกระเป๋ากันไป ขึ้นลงสถานีผิดๆถูกๆกันสนุกสนานเลยค่ะ
กว่าจะมาถึงโฮสเทลที่จองไว้ ใช้เวลาไปกับ ความงง+ง่วง พอสมควร แต่พอมาถึงแล้ว ก็ใจฟูขึ้นมาเยอะเลยค่ะ เพราะโฮสเทลน่ารักมากๆ สถานที่ตั้งอยู่ใกล้subway ใกล้แม่น้ำสุมิดะ ที่โฮสเทลนี้ ชั้นล่างจะเป็นร้านกาแฟ + bar&lounge บรรยากาศดีมากๆ ที่นี่มีทั้งห้องรวม ห้องรวมหญิง และห้องส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องน้ำรวมนะคะ ห้องน้ำงี้ สะอาดด มากก ตามแบบฉบับญี่ปุ่นเลยค่ะ ชั้นบนสุดก็จะเป็นห้อง common room ให้เรานั่งเล่น ชมวิวแม่น้ำ ทำอาหาร เล่นไพ่ ซักผ้า ฯลฯ ก็ถือว่ามาตรฐาน สะดวกสบาย แถมได้เพื่อนใหม่ด้วยค่ะ แขกที่มาพักก็ค่อนข้างมารยาทดี ไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง
โฮลเทลชื่อ Nui. Hostel & Bar Lounge มีน้องที่รู้จักแนะนำมาให้ก็เลยจองมาตามคำแนะนำ ซึ่งก็ประทับใจมากๆค่ะ
สิ่งที่หมายมั่นปั้นมือ ว่าอยากจะมาพิสูจน์ด้วยลิ้นสักครั้ง ก็คือร้านข้าวหน้าปลาดิบ500เยน ที่มีชื่อว่า " Sasafune donmaru " ที่ดูรีวิวมาจากรายการสุโก้ยเจแปน
กูเกิ้ลแมพบอกเราว่า สาขาที่ใกล้ที่สุด อยู่ในระยะที่เดินถึงจากโฮสเทล อาจจะต้องเดินนานสักหน่อย แต่ยังไงเราชอบเดินหลงไปตามซอกซอยดูบ้านเมืองเค้าอยู่แล้ว ก็เลยออกเดินกัน
ถึงร้านแล้ว มาดูเมนูกันดีกว่า
เติมพลังกายพลังใจเรียบร้อยแล้ว เรากะแฟนก็ออกลุยต่อเลยค่ะ วันนี้วางแผนว่าจะซื้อตั๋วรถบัสล่วงหน้า เพื่อนั่งรถบัสไปพัก1คืนที่เมือง ฟูจิโยชิดะในอีก2วันถัดไปค่ะ ซึ่งเมืองนี้และโฮสเทลที่เราพักจองไว้ในเมืองนี่แหละค่ะเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปเลย ฟูจิโยชิดะ เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆทะเลสาบKawaguchikoโดยเราจะต้องจองตั๋วรถบัสจากสถานีชินจูกุเพื่อไปลงสถานีชื่อว่า Fujisan station เหตุที่เลือกไปโดยรถบัส ก็เนื่องจากศึกษามาแล้วค่ะว่าราคาถูกกว่ารถไฟ นั่งรวดเดียว ใช้เวลาน้อยกว่า อีกอย่าง เรายังไม่เคยได้ลองนั่งรถบัสที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ
เมื่อไปถึงสถานีชินจูกุ การเดินหาอาคารสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋ว เป็นอะไรที่ยากมากๆค่ะ เพราะถนนหน้าตึกนั้น เป็นชั้น2 เดินวนเวียนหาก็หลงทิศไปหมด ดีที่เซฟรูปอาคารนั้นไว้ แฟนเราจึงตัดสินใจถามคนที่ดูเป็นเจ้าหน้าที่แถวๆนั้น จึงจะรู้ทิศว่าต้องเดินไปทางไหน
เมื่อถึงอาคารสถานีรถบัสแล้ว จุดขายตั๋วและปล่อยรถจะอยู่ชั้น4ค่ะ เดินขึ้นบันไดเลื่อนตามๆคนไป ไม่ยากค่ะ เข้าไปก็ถามเจ้าหน้าที่ใครสักคนได้เลย เค้าจะช่วยเราเอง โดยการซื้อตั๋วรถบัสครั้งนี้ เราซื้อตั๋วรถบัสไปกลับ Shinjugu-Fujisan station ราคาคนละ 3,900เยน และ voucher รถretro bus เหมา2วัน ชมวิวรอบๆทะเลสาบKawaguchiko ราคาคนละ 450เยน (retro busจะเป็นรถบัสที่วิ่งรอบๆทะเลสาบ และแวะตามจุดชมวิวต่างๆ มีรถออกเป็นรอบ เรื่อยๆทั้งวัน)
ได้ตั๋วมาเป็นที่เรียบร้อยก็เป็นอันจบภารกิจหลักของวัน ที่เหลือก็ปล่อยชิว เดินเล่นแถวนั้นค่ะ ในส่วนของมื้อเย็นที่หมายมั่นไว้ คือร้านเนื้อย่างคุณภาพ ราคาดี ตามที่คุณฮิโระซัง ได้แนะนำไว้ในรายการสุโก้ยเจแปนค่ะ แต่! ดันเข้าร้านผิด ไปเข้าร้านข้างๆที่อยู่ติดกันซะงั้น
กินอิ่ม เดินเล่นสักพัก เริ่มเพลียๆ ได้เวลากลับที่พักละ ไปดูห้องพักแบบ8เตียงกันดีกว่าค่ะ
เดี๋ยวมาเขียนต่อเรื่อยๆนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้