- บันทึกความทรงจำ โตเกียว - ฟูจิโยชิดะ ผ่านการเดินทางของผม -
“Always Sunset on Tokyo-Fujiyoshida Street”
ช่วงเวลาเดินทาง ถึงเช้ามืด 19- กลับ27กลางคืน กุมภาพันธ์ 2562
- จุดหมายปลายทาง ชมภูเขาไฟฟูจิ เดินชมเมือง และหาร้านกาแฟดื่ม ไปแบบ Slow Life -
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพ
เป็นครั้งแรกที่ตั้งกระทู้ ผิดพลาดประการใดก็ขอรับคำชี้แนะด้วยครับ ครั้งนี้เป็นการมาญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของผมและภรรยา
โดยห่างจากครั้งแรกประมาณ 5 ปีที่แล้วได้ โดยครั้งนั้นรู้สึกเหมือนชะโงกเที่ยวสะมากกว่าที่จะเสพบรรยากาศ
โดยการเดินทางในครั้งนี้เรากำหนดจุดหมายปลายที่หลักๆไว้ และก็เที่ยวไปตามเส้นทางที่เดินผ่าน สำหรับคนที่หลงเข้ามาอ่าน
กระทู้นี้จะแชร์เรื่องราวในภาพรวมเกี่ยวกับเมืองเล็กๆที่ชื่อ “ฟูจิโยชิดะ” และบางเรื่องราวในเมืองโตเกียว
ที่ผ่านความประทับใจของพวกเราได้ไปพบเจอ มาเล่าให้ฟังครับ
..............................................................................
ช่วงที่ 1 “จากสนามบิน – ที่พักในใกล้ย่าน Asakusa”
เราเดินทางจากสนามบิน Pudong, Shanghai, China. ถึงสนามบิน Haneda, Tokyo ใช้เวลา2.30 ชั่วโมงในการบิน เรารับกระเป๋าและออกจากประตูมาก็เกือบๆตี5ครึ่ง และแน่นอนครับบินช่วงดึก ผมนอนหลับๆตื่นๆ ทำให้เกิดอาการเพลียมาก การวางแผนเข้ามาจะเริ่ม 9 โมงเช้า เพราะทางคุณภรรยาซื้อตั๋วonlineสำหรับรถบัสเข้าเมืองกับ ตั๋วSuica ไว้ ต้องรอประมาณ 9.00โมง กว่าเคาน์เตอร์ที่สนามบินจะเปิดถึงแลกตั๋วได้ ระหว่างนี้มองไปเห็นห้องอาบน้ำในสนามบินมีให้บริการ ราคา ประมาณ 300 กว่าบาท ให้เวลา 30 นาที และเลือกน้ำเย็นๆได้ 1 ขวด............30 นาที ผ่านไป
สดชื่นนนนน แรงGuกลับมาแล้วโว๊ยยยยยย แล้วผมก็หลับต่อบนเก้าอี้...............Zzzzz
จนเวลา 9.00น ถึงได้เข้าเมืองโดนรถไฟปกติโดยใช้บัตร Suica ส่วนรถบัสที่จองเกิดข้อผิดพลาดในระบบจองตั๋วครับ ไม่เป็นไรเราลุยกันต่อ เราเดินทางกัน
ไม่นานก็ถึงโรงแรมของเราเพราะสนามบินฮาเนดะอยู่ใกล้เมืองมากกว่านาริตะเยอะ ที่พักของเรา เราจองรวดเดียวยาวเลยในทริปนี้เป็นคำแนะนำของรุ่น
น้องที่บอกว่า ”ที่นี่นะ ดีมากๆๆเลยเพ่” (แต่คนแนะนำยังไม่เคยพักนะ)....ผมก็เชื่อครับ จองไปเล้ยยย ที่พักเราชื่อเสียงเรียงนามว่า…
Nui Hostel & Bar Lounge
Nui Hostel อยู่ใกล้ๆย่าน Asakusa สามารถเดินไปเหนื่อยๆได้ และอยู่ใกล้สถานี Kuramae
โดยชั้นล่างของ Hostel ตอนเช้า-บ่ายแก่ๆเป็นร้านกาแฟ หลังจากนั้นเย็น-ดึกๆ กลายร่างเป็นร้านเบียร์ชิกๆ ที่พักเราเลือกแบบพักรวม5วัน และย้ายห้องไปพักแบบห้องเดียว4วันสุดท้ายไม่ว่าจะห้องแบบไหน ใช้ห้องน้ำรวมกัน แต่สะอาดมากครับ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำ Sumida....
เป้าหมายของเราในวันแรก ของวันนี้ คือ.............ไปซื้อตั๋วรถบัสเพื่อไปชมฟูจิครับ
แนวความคิดที่จะไปดูภูเขาไฟฟูจิ .....ไปครั้งแรกต้องเห็น ให้ได้!!
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราจะไปดูภูเขาไฟลูกนี้
เราอยากเห็นมันชัดๆเต็มๆ เราจึงเลือกที่จะคอยเช็คพยากรณ์อากาศอาทิตย์สุดท้ายก่อนเดินทางมาเที่ยว ดูจากทุกสำนักพยากรณ์
ทุกแอพ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยืนยันกันว่าเราจะไม่พลาด ในวันนั้นพระอาทิตย์แสดงสัญลักษณ์เต็มดวง
ไม่มีเมฆหมอกอะไรทั้งนั้น และพวกเราอยากไปวันธรรมดา เพื่อหวังว่าคนจะมาน้อย.....(ความจริงมันมักจะสวนทางกับสิ่งที่คิดเสมอ)
พอได้ฤกษ์งามยามดี เราก็จองที่พักสัก 1 คืน ทั้งหมดเป็นช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน เป็นที่สุดในทริปนี้ที่อยากจะมาเล่าให้ฟังเลยครับ
ส่วนแนวคิดที่จองที่พักจะมาเล่าให้ฟังระหว่างทางนะครับ
หลังจากเราฝากกระเป๋าไว้ที่ Hostel แล้ว(เช็คอินได้หลังบ่าย2ของทุกวัน) ก็ออกมาลุยตามแผนคร่าวๆของเราต่อ เราเดินออกมาจาก hostel เป้าหมายที่เราจะไปคือ Shinjuku Bus Station แต่ตอนนี้เราหิว เราอยากกินของดิบราคาไม่แรงและคุณภาพดี เราได้ปักหมุดร้านที่จะอยากจะกินไว้ใน Google map เรียบร้อยแล้ว ตรง Hostel เราสามารถเดินไปถึงร้านข้าวหน้าปลาดิบราคา 500 เยน สำหรับ size ปกติ ระหว่างเดินเท้าจาก hostel ไปร้านข้าวปลาดิบ ก็เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ Sumida เดินไปตามตรอกซอกซอย ดูโน้นนี่ไปเรื่อยๆ อากาศเย็นๆ มาฝนโปรยปรายเล็กน้อย จนถึงร้าน อร่อย รสชาติมาตราฐานคุณภาพญี่ปุ่น คือ ผ่านนนนน
หลักจากนั้น เราก็เดินไปต่อไปสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดเพื่อไป ซื้อตั๋วรถบัสล่วงหน้าก่อนเราเดินทางจริง
2 วัน เรานั่งรถไฟไปลงสถานี Shinjuku เรารู้แค่ว่าอาคารซื้อตั๋วมันอยู่แถวนั้น
แต่เราไม่รู้ว่าเราควรจะออกทางออกไหน? สถานีรถไฟชินจูกุในความคิดของผมตอนนั้นมันใหญ่มาก
ทางออกก็เยอะ เหมือนเป็นรังมด เราพยายามมองหาป้าย
ก็หาไม่เจอหรือตาเรามันลายไปหมดแล้วก็ไม่รู้
แต่ผมได้เซฟรูปของอาคารที่จะซื้อตั๋วมาด้วย เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่
เอารูปภาพอาคารให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่ได้ชี้ทางสว่างให้เราเดินไปถึงอาคารซื้อตั๋วรถบัสได้ในที่สุด ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ครั้งนี้เราจะไปดูฟูจิที่ทะเลสาบ Kawaguchiko และ จากเมือง Fujiyoshida (พระเอกมาแล้ว) โดยเราเดินขึ้นไปชั้น 4
ของอาคาร จะเป็นจุดซื้อตั๋วและจุดขึ้นรถ ในชั้นเดียวกัน การซื้อตั๋วไม่ยากครับ เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์เลยครับ หรือถ้ายังไม่แน่ใจ กลัวไม่ชัวร์
ก็จะมีพนักงานนั่งอยู่ตรง Information ให้ถามก่อนครับ พนักงานก็จะพามาซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ แล้วพนักงานตรงเคาน์เตอร์ก็จะถามคุณว่า
ไปไหน? จะไปเที่ยวกี่โมง? กลับวันไหน? กี่โมง? รอบของรถก็จะออกค่อนข้างถี่เลยทีเดียว ผมจองได้รอบ 8 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึง เอาละได้ตั๋วละ เราบรรลุเป้าหมายของวันนี้ก็ประมาณบ่าย 3 ก็เลยเดินๆดูในบริเวณชั้นซื้อตั๋ว ก็จะมีร้านสะดวกซื้อ1ร้านซึ่งคนแน่นมาก และร้านขายของฝากอีก1ร้าน ห้องน้ำบางช่วงก็ต้องต่อคิวกันเลย เรารู้ละว่าวันเดินทางเราควรจะเตรียมตัวมาอย่างไง หลังจากนั้นเราก็เดินแถวย่านชินจูกุไปเรื่อยเปื่อย
จนหาข้าวเย็นทานและกลับที่พักตอนหัวค่ำเลยเพื่อเช็คอิน และเข้านอนชาร์ตพลังไว้สำหรับวันพรุ่งนี้...(ตั๋วรถรอบทะเลสาบก็ซื้อได้ที่นี่เลยนะครับ)
เช้าวันต่อมา...เราตื่นกันแต่เช้าขึ้นไปชั้นบนสุดของ Hostel ที่เป็นพื้นที่แชร์ส่วนกลาง จะมีครัว
ที่นั่งอ่านหนังสือ เพื่อนั่งดื่มชาร้อนก่อนเข้าห้องน้ำ และคิดแผนคร่าวๆของวันนี้ที่เราจะไปกัน และเป้าหมายของวันนี้คือ ร้านกาแฟ Blue
Bottle สาชา Kiyosumi-Shirakawa สาขาแรก ซึ่งสถาปนิกผู้ออกแบบได้เอาพื้นที่ของโรงงานมารีโนเวทเป็นร้านกาแฟ รายละเอียดของร้านนี้ผมได้เขียนไว้ในอีกสาขาที่ผมไปด้านล่างแล้วครับ ตามลงไปอ่านกันได้
เราจบร้านกาแฟร้านนี้ของเราก่อนเที่ยง ระหว่างนั่งอยู่ในร้านกาแฟก็คิดกับแฟนต่อว่าจะไปไหนต่อดีละ เวลาเหลือครึ่งวัน
คุณแฟนเลยอยากไปดูพวกเครื่องสำอาง เลยจบแถวชินจูกุ และเดินไปต่อที่ฮารากุจุ เดินไปเรื่อยๆเจอทางรถไฟโน้นนี่นั้น ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเลย เหนื่อยก็หยุดพักนั่งดูสังคมที่คนทำงานเลิกงาน ต่างคนต่างรีบกลับบ้าน....เวลาของวันนี้หมดไปเรารีบกลับมานอนแต่หัวค่ำพร้อมกับถุงช๊อปใบโต
นี่ขนาดไม่รีบแล้วนะ แล้วของที่มันงอกออกมา มันมาจากที่ใด.....คืนนี้ต้องรีบนอนเพราะพุ่งนี้เราต้องตบเท้าออกจาก Hostel อย่างช้า 6 โมงเช้า
เพื่อที่จะมาถึงก่อนเวลารถออกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
แล้วจะมาต่อในช่วงที่ 2 นะครับ
บันทึกความทรงจำ โตเกียว - ฟูจิโยชิดะ ผ่านการเดินทางของผม “Always Sunset on Tokyo-Fujiyoshida Street”