เรื่องมีอยู่ว่าทำงานที่หนึ่งได้ 2 เดือนแล้วออกกระทันหัน (โดยแจ้งผ่าน hr คนเก่าที่ดูแลเราในช่วงนั้น ผู้บริหารรับทราบโดยทั่วกัน และไม่ได้เขียนใบลาออกเพราะบริบทไม่เอื้ออำนวยที่จะเขียนได้) สาเหตุเพราะจากความล้มเหลวในเรื่ององค์กร เนื้องาน และคน ทำให้เรากลายเป็นโรคหมดไฟ อารมณ์หงุดหงิดง่าย มีคนไลน์มาถามงาน และปัญหาที่ยืดเยื้อหลังลาออกมาเดือนกว่า คือ ไม่ได้รับเงินประกันที่หักจากเงินเดือน (ที่พึ่งมาทราบที่หลังรับเข้าทำงาน) ด้วยเหตุผลแม้จะไม่ได้ทำงานเสียหาย แต่ไม่แจ้งออกเป็นกิจลักษณะ
เราปรึกษาหลายคน จึงรู้ว่าบริษัททำไม่ถูกต้อง วันนี้จึงไปร้องเรียนที่กรมแรงงานที่รู้จัก (ซึ่งไม่ใช่เขตพื้นที่ทำงานเรา) ซึ่งเราขอร้องเรียน หรือแจ้ง แต่เนื่องจากเงินประกันที่เราไม่ได้รับนั้นเป็นจำนวนแค่หนึ่งพันบาท เจ้าหน้าที่เลยโทรไกล่เกลี่ยกับทางบริษัทให้ แล้วทางนั้นก็ค้านอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งสรุปได้ว่า บริษัทจะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารให้วันถัดไป
ต่อมาไม่ถึงสิบนาทีมีเบอร์แปลกโทรมา โทรมารัวๆ ซึ่งไม่กล้ารับ สักพักใหญ่ถึงได้รู้ว่าเป็นเบอร์กรมแรงงานที่แจ้งไป พอโทรกลับได้ความว่า บริษัทแจ้งกรมฯ ว่าขอให้เราไปรับเงินที่บริษัทเองเพราะเพื่อเป็นการป้องกันตัวบริษัทเอง (มาถึงตรงนี้บอกก่อนว่า เราไม่ถูกกับคนในบริษัทโดยเฉพาะเลขา ซึ่งมาทำหน้าที่ HR ในภายหลัง ด้วยทัศนะคติ และการทำงานที่ขัดกับเรามาแต่แรก จึงไม่อยากสู้หน้า) เราเลยตอบกลับไปว่าไม่โอเค เพราะไม่อยากไปเห็นหน้า แล้วก็วิธีนี้ไม่ป้องกันตัวเอง
หลังจากนั้น การสนทนาเจ้าหน้าที่ก็หลุดมาประมาณ อีกวิธีหนึ่งคือ แจ้งคำร้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่มองว่าเงินจำนวนน้อย ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต เขาก็เลยพูดให้ผมยอม ๆ ไปเพื่อจะได้ไม่มีปัญหา คิดซะว่า เรามาเอาเงินของเรา ไม่ใช่เงินของคนอื่น ไม่จำเป็นต้องกลัว หรือต้องอาย (แต่วิธีนี้ก็ไม่ป้องกันตัวเองเหมือนกัน เพราะปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมาเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
จึงโทรไปกรมแรงงานอีกเขตหนึ่งในพื้นที่ทำงาน เราได้เล่าถึงปัญหาที่เจอตามด้านบน ยังไงเจ้าหน้าที่บอกว่า พรุ่งนี้ให้มาเล่าอย่างที่โทรมาได้นะครับ เมื่อกรมฯ ของเขตนั้น ไม่รับแจ้ง ก็มาแจ้งเขตนี้ได้
อยากฝากเอาไว้แล้วกันว่าเวลาเลือกบริษัท พยายามมองให้ดี ๆ ไม่รู้ว่าเราจะเจอเรื่องปวดหัวต่าง ๆ อีกไหม
เรื่องเล่า ลาออกแล้ว ความปวดหัวหลังออกตามมา
เราปรึกษาหลายคน จึงรู้ว่าบริษัททำไม่ถูกต้อง วันนี้จึงไปร้องเรียนที่กรมแรงงานที่รู้จัก (ซึ่งไม่ใช่เขตพื้นที่ทำงานเรา) ซึ่งเราขอร้องเรียน หรือแจ้ง แต่เนื่องจากเงินประกันที่เราไม่ได้รับนั้นเป็นจำนวนแค่หนึ่งพันบาท เจ้าหน้าที่เลยโทรไกล่เกลี่ยกับทางบริษัทให้ แล้วทางนั้นก็ค้านอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งสรุปได้ว่า บริษัทจะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารให้วันถัดไป
ต่อมาไม่ถึงสิบนาทีมีเบอร์แปลกโทรมา โทรมารัวๆ ซึ่งไม่กล้ารับ สักพักใหญ่ถึงได้รู้ว่าเป็นเบอร์กรมแรงงานที่แจ้งไป พอโทรกลับได้ความว่า บริษัทแจ้งกรมฯ ว่าขอให้เราไปรับเงินที่บริษัทเองเพราะเพื่อเป็นการป้องกันตัวบริษัทเอง (มาถึงตรงนี้บอกก่อนว่า เราไม่ถูกกับคนในบริษัทโดยเฉพาะเลขา ซึ่งมาทำหน้าที่ HR ในภายหลัง ด้วยทัศนะคติ และการทำงานที่ขัดกับเรามาแต่แรก จึงไม่อยากสู้หน้า) เราเลยตอบกลับไปว่าไม่โอเค เพราะไม่อยากไปเห็นหน้า แล้วก็วิธีนี้ไม่ป้องกันตัวเอง
หลังจากนั้น การสนทนาเจ้าหน้าที่ก็หลุดมาประมาณ อีกวิธีหนึ่งคือ แจ้งคำร้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่มองว่าเงินจำนวนน้อย ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต เขาก็เลยพูดให้ผมยอม ๆ ไปเพื่อจะได้ไม่มีปัญหา คิดซะว่า เรามาเอาเงินของเรา ไม่ใช่เงินของคนอื่น ไม่จำเป็นต้องกลัว หรือต้องอาย (แต่วิธีนี้ก็ไม่ป้องกันตัวเองเหมือนกัน เพราะปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมาเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
จึงโทรไปกรมแรงงานอีกเขตหนึ่งในพื้นที่ทำงาน เราได้เล่าถึงปัญหาที่เจอตามด้านบน ยังไงเจ้าหน้าที่บอกว่า พรุ่งนี้ให้มาเล่าอย่างที่โทรมาได้นะครับ เมื่อกรมฯ ของเขตนั้น ไม่รับแจ้ง ก็มาแจ้งเขตนี้ได้
อยากฝากเอาไว้แล้วกันว่าเวลาเลือกบริษัท พยายามมองให้ดี ๆ ไม่รู้ว่าเราจะเจอเรื่องปวดหัวต่าง ๆ อีกไหม