คิดนานมากกว่าจะตั้งกระทู้นี้ แต่เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดกับน้องที่รู้จักและไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก เพราะรับรองว่าสักวันหนึ่งแก๊งนี้คงไปถึงงานวัดแถวบ้านใครสักคนแน่ๆ
....
เริ่มต้นคือน้าสาวของน้องคนนี้กับเพื่อนผู้หญิง 3 คน และเด็กหญิงอายุสิบกว่าขวบอีก 2 คน ไปเดินงานวัดที่หนึ่งช่วงสี่ทุ่มเกือบห้าทุ่ม แล้วเพื่อนน้าไปที่ซุ้มโยนห่วง และเล่นจนเสียเงินเริ่มจะเป็นหลักหมื่น น้าไม่ได้เล่นแต่อยากดูเลยไปยืนด้วย
เมื่อเล่นไปเรื่อยๆเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้เล่นก็เริ่มสังเกตความผิดปกติเพราะมีการชักชวนให้ลงเงินมากขึ้น จนคนที่เล่นข้างๆกระซิบบอกให้ระวังเพราะเขาเองเสียมาเกือบ 50,000 บาทแล้ว เพื่อนน้าที่ไม่ได้เล่นเลยโทรถามเพื่อนคนอื่นก็คิดว่าน่าจะกำลังโดนหลอกอยู่เหมือนกัน เลยพยายามชักชวนกันออกจากซุ้มแต่ก็มีการหลอกล่อด้วยเงินเดิมพันที่มากกว่าเดิม
หลังจากนั้นเพื่อนน้าเริ่มเสียเงินเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้จะถึง 20,000 บาท และเครียดมาก ทำให้เด็กๆ เริ่มกลัวและร้องไห้ เพื่อนสองคนที่ไม่ได้เล่นเลยจะพาเด็กออกมาแต่ก็ถูกคนของทางร้านล้อมไว้ไม่ให้ออก จนต้องขอออกเพื่อพาเด็กกลับบ้านเพราะดึกมากแล้วทางร้านเลยยอม
พอออกมาระหว่างทางก็โทรหาน้องคนนี้เพื่อให้ไปช่วยพาน้ากับเพื่อนออกมา เพราะตอนนั้นไม่รู้จะบอกใคร น้องเลยโทรแจ้ง 191 เพราะเริ่มเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี และรีบเตรียมตัวไปที่วัดทันที เพื่อนน้าเล่าเพิ่มว่าที่ดูผิดปกติเพราะคนที่ยืนเล่นน่าจะเป็นหน้าม้าของทางร้าน ท่าทางดูนิ่งไม่เหมือนคนที่กำลังสนุกในการเล่น (ส่วนคนที่บอกว่าเสียเงิน 50,000 ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นไงนะคะ)
สรุปยอดเงินที่เสียทั้งหมดน่าจะราว 30,000 บาท แต่น้าได้ยินใครสักคนแถวนั้นบอกให้ขู่ร้านกลับไปว่าจะลงบันทึกประจำวัน ร้านจะได้กลัวและยอมเจรจาเพื่อลดเงิน ซึ่งก็ได้ผล ตกลงจ่ายไปที่ประมาณ 2,000 บาท น้องเล่าต่อว่าระหว่างที่ยืนคุยกันมีคนของทางร้านยืนมองน้องตลอด ทำให้ไม่สามารถถ่ายคลิปอะไรไว้เป็นหลักฐานเพราะกลัวอันตรายจะถึงตัว
ตอนนั้นที่เวทียังมีการแสดงเสียงดัง การพูดคุยจึงแทบไม่ได้ยิน แต่ตลกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลพื้นที่แถวนั้นพอเห็นน้องเราถือมือถือไว้ที่อกและหันกล้องออก ก็รีบบอกว่าห้ามถ่ายคลิปนะ... น้องเลยบอกไม่ได้ถ่ายอยู่แล้ว (ก็โดนคนของทางร้านจ้องอยู่ใครจะกล้าถ่าย) แต่พอถามตำรวจว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจบอกไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งมาฟังเขาคุยกันเพราะปกติมีหน้าที่แค่ "ดูแลเวทีคอนเสิร์ต และบริเวณในงาน" น้องฟังแล้วฉุนมากเลยถามไปว่า "แล้วคนมาเดินงานล่ะคะ ไม่ต้องดูแลเหรอ" ตำรวจนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนกล้อมแกล้มตอบว่าก็ดูหมดแหละ แต่ความที่เสียงคอนเสิร์ตดังมากเพราะซุ้มอยู่ติดเวที พอขอให้ย้ายที่คุยก็ไม่ยอม น้องเลยไม่ได้ยินว่าเจ้าของร้านคุยอะไรกับน้า ตำรวจเองก็ไม่ได้ยินเหมือนกันเพราะเสียงดังมาก (อืมมม... ตำรวจก็อยู่ตรงนี้แล้ว แต่ช่วยอะไรไม่ได้เลยแฮะ)
ส่วน 191 ที่โทรแจ้งความไว้ประมาณ 10 นาที ก็มีตำรวจโทรกลับมา พอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมดตำรวจก็ตอบว่า "ใกล่เกลี่ยได้ก็ดีแล้ว ไม่เป็นไร" น้องงงมากเลยบอกแต่นี่มันเป็นการโกงนะคะ จะไม่เป็นไรจริงเหรอคะ แล้วทำไมตำรวจในพื้นที่ต้องห้ามถ่ายคลิปด้วย? ตำรวจในสายเลยตอบว่าเขาคงกลัววัดจะเดือดร้อนน่ะ (แต่ไม่ห่วงประชาชนที่โดนหลอก?)
จุดนี้น้องได้แต่งงกับงง และผิดหวังกับคำตอบของตำรวจมาก ถึงการกระทำทุกอย่างจะดีหมด แต่ประชาชนอย่างเราๆ ก็อยากได้ความจริงใจในการดูแลประชาชนจากตำรวจเหมือนกัน หรือไม่ควรหวังต่อดี? 55
... ก็เอานะคะ ถึงจุดนี้คงไม่ต้องพูดว่าอะไรเป็นอะไรเพราะข่าวก็มีอยู่ตลอด เพราะเคสนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เราเองก็เคยได้ยินแต่ไม่คิดจะเกิดกับคนรู้จัก
และยิ่งช่วยตอกย้ำว่า
"มิจฉาชีพมีได้ทุกอาชีพ จะในวัด ในซุ้มเกม หรือใน... ก็เป็นได้หมด เพราะพวกนี้ใช้ความโลภเป็นตัวล่อให้ทุกคนติดกับ จนยอมทำสิ่งผิดเพื่อเงิน"
ดังนั้นดูแลตัวเองกันดีๆ นะคะ เพราะครั้งนี้ไม่มีหลักฐานอะไรให้ดูเลย จะถ่ายคลิปก็โดนจ้อง... คงได้แต่บอกเล่าผ่านตัวอักษรเพื่อให้ทุกคนรู้ว่ากลโกงนี้ยังไม่หายไป และน่าจะมีต่อไปอีกยาวนานนนนนนน เพราะเป็นขบวนการที่มีการหนุนหลังแข็งแรงมากจริงๆ
V
V
ส่วนใครนึกไม่ออกเราหาคลิปมาให้ดูนะคะ น้องบอกหน้าตาเกมที่เห็นจะเป็นประมาณนี้ แต่เจ้าของร้านเหมือนจะไม่ใช่แก๊งเดิมในคลิป (แสดงว่ามีหลายแก๊ง?)

ป.ล. ช่วง 4.41 มีทนายแนะนำว่าสามารถเอาความผิดได้นะคะ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าแจ้งความไปจะมีอะไรคืบหน้าหรือเปล่า อาจโดนไกล่เกลี่ย "ให้ยอมความ" ก็เป็นได้
เตือนภัย : ซุ้มงานวัด กลโกง และ...
....
เริ่มต้นคือน้าสาวของน้องคนนี้กับเพื่อนผู้หญิง 3 คน และเด็กหญิงอายุสิบกว่าขวบอีก 2 คน ไปเดินงานวัดที่หนึ่งช่วงสี่ทุ่มเกือบห้าทุ่ม แล้วเพื่อนน้าไปที่ซุ้มโยนห่วง และเล่นจนเสียเงินเริ่มจะเป็นหลักหมื่น น้าไม่ได้เล่นแต่อยากดูเลยไปยืนด้วย
เมื่อเล่นไปเรื่อยๆเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้เล่นก็เริ่มสังเกตความผิดปกติเพราะมีการชักชวนให้ลงเงินมากขึ้น จนคนที่เล่นข้างๆกระซิบบอกให้ระวังเพราะเขาเองเสียมาเกือบ 50,000 บาทแล้ว เพื่อนน้าที่ไม่ได้เล่นเลยโทรถามเพื่อนคนอื่นก็คิดว่าน่าจะกำลังโดนหลอกอยู่เหมือนกัน เลยพยายามชักชวนกันออกจากซุ้มแต่ก็มีการหลอกล่อด้วยเงินเดิมพันที่มากกว่าเดิม
หลังจากนั้นเพื่อนน้าเริ่มเสียเงินเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้จะถึง 20,000 บาท และเครียดมาก ทำให้เด็กๆ เริ่มกลัวและร้องไห้ เพื่อนสองคนที่ไม่ได้เล่นเลยจะพาเด็กออกมาแต่ก็ถูกคนของทางร้านล้อมไว้ไม่ให้ออก จนต้องขอออกเพื่อพาเด็กกลับบ้านเพราะดึกมากแล้วทางร้านเลยยอม
พอออกมาระหว่างทางก็โทรหาน้องคนนี้เพื่อให้ไปช่วยพาน้ากับเพื่อนออกมา เพราะตอนนั้นไม่รู้จะบอกใคร น้องเลยโทรแจ้ง 191 เพราะเริ่มเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี และรีบเตรียมตัวไปที่วัดทันที เพื่อนน้าเล่าเพิ่มว่าที่ดูผิดปกติเพราะคนที่ยืนเล่นน่าจะเป็นหน้าม้าของทางร้าน ท่าทางดูนิ่งไม่เหมือนคนที่กำลังสนุกในการเล่น (ส่วนคนที่บอกว่าเสียเงิน 50,000 ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นไงนะคะ)
สรุปยอดเงินที่เสียทั้งหมดน่าจะราว 30,000 บาท แต่น้าได้ยินใครสักคนแถวนั้นบอกให้ขู่ร้านกลับไปว่าจะลงบันทึกประจำวัน ร้านจะได้กลัวและยอมเจรจาเพื่อลดเงิน ซึ่งก็ได้ผล ตกลงจ่ายไปที่ประมาณ 2,000 บาท น้องเล่าต่อว่าระหว่างที่ยืนคุยกันมีคนของทางร้านยืนมองน้องตลอด ทำให้ไม่สามารถถ่ายคลิปอะไรไว้เป็นหลักฐานเพราะกลัวอันตรายจะถึงตัว
ตอนนั้นที่เวทียังมีการแสดงเสียงดัง การพูดคุยจึงแทบไม่ได้ยิน แต่ตลกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลพื้นที่แถวนั้นพอเห็นน้องเราถือมือถือไว้ที่อกและหันกล้องออก ก็รีบบอกว่าห้ามถ่ายคลิปนะ... น้องเลยบอกไม่ได้ถ่ายอยู่แล้ว (ก็โดนคนของทางร้านจ้องอยู่ใครจะกล้าถ่าย) แต่พอถามตำรวจว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจบอกไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งมาฟังเขาคุยกันเพราะปกติมีหน้าที่แค่ "ดูแลเวทีคอนเสิร์ต และบริเวณในงาน" น้องฟังแล้วฉุนมากเลยถามไปว่า "แล้วคนมาเดินงานล่ะคะ ไม่ต้องดูแลเหรอ" ตำรวจนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนกล้อมแกล้มตอบว่าก็ดูหมดแหละ แต่ความที่เสียงคอนเสิร์ตดังมากเพราะซุ้มอยู่ติดเวที พอขอให้ย้ายที่คุยก็ไม่ยอม น้องเลยไม่ได้ยินว่าเจ้าของร้านคุยอะไรกับน้า ตำรวจเองก็ไม่ได้ยินเหมือนกันเพราะเสียงดังมาก (อืมมม... ตำรวจก็อยู่ตรงนี้แล้ว แต่ช่วยอะไรไม่ได้เลยแฮะ)
ส่วน 191 ที่โทรแจ้งความไว้ประมาณ 10 นาที ก็มีตำรวจโทรกลับมา พอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมดตำรวจก็ตอบว่า "ใกล่เกลี่ยได้ก็ดีแล้ว ไม่เป็นไร" น้องงงมากเลยบอกแต่นี่มันเป็นการโกงนะคะ จะไม่เป็นไรจริงเหรอคะ แล้วทำไมตำรวจในพื้นที่ต้องห้ามถ่ายคลิปด้วย? ตำรวจในสายเลยตอบว่าเขาคงกลัววัดจะเดือดร้อนน่ะ (แต่ไม่ห่วงประชาชนที่โดนหลอก?)
จุดนี้น้องได้แต่งงกับงง และผิดหวังกับคำตอบของตำรวจมาก ถึงการกระทำทุกอย่างจะดีหมด แต่ประชาชนอย่างเราๆ ก็อยากได้ความจริงใจในการดูแลประชาชนจากตำรวจเหมือนกัน หรือไม่ควรหวังต่อดี? 55
... ก็เอานะคะ ถึงจุดนี้คงไม่ต้องพูดว่าอะไรเป็นอะไรเพราะข่าวก็มีอยู่ตลอด เพราะเคสนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เราเองก็เคยได้ยินแต่ไม่คิดจะเกิดกับคนรู้จัก
และยิ่งช่วยตอกย้ำว่า "มิจฉาชีพมีได้ทุกอาชีพ จะในวัด ในซุ้มเกม หรือใน... ก็เป็นได้หมด เพราะพวกนี้ใช้ความโลภเป็นตัวล่อให้ทุกคนติดกับ จนยอมทำสิ่งผิดเพื่อเงิน"
ดังนั้นดูแลตัวเองกันดีๆ นะคะ เพราะครั้งนี้ไม่มีหลักฐานอะไรให้ดูเลย จะถ่ายคลิปก็โดนจ้อง... คงได้แต่บอกเล่าผ่านตัวอักษรเพื่อให้ทุกคนรู้ว่ากลโกงนี้ยังไม่หายไป และน่าจะมีต่อไปอีกยาวนานนนนนนน เพราะเป็นขบวนการที่มีการหนุนหลังแข็งแรงมากจริงๆ
V
V
ส่วนใครนึกไม่ออกเราหาคลิปมาให้ดูนะคะ น้องบอกหน้าตาเกมที่เห็นจะเป็นประมาณนี้ แต่เจ้าของร้านเหมือนจะไม่ใช่แก๊งเดิมในคลิป (แสดงว่ามีหลายแก๊ง?)
ป.ล. ช่วง 4.41 มีทนายแนะนำว่าสามารถเอาความผิดได้นะคะ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าแจ้งความไปจะมีอะไรคืบหน้าหรือเปล่า อาจโดนไกล่เกลี่ย "ให้ยอมความ" ก็เป็นได้