ควันหลงเล็กๆ น้อยๆ หลังแมทช์ PSG กับ Man. Utd. มีใครให้น้อยกว่านี้มั้ย?

....ว่ากันเฉพาะเกมยุโรป (เอาจริงๆ เผลอๆ อาจจะลามไปถึงเกมลีกเลยก็ยังได้ ..แต่เอาแค่เกมยุโรปก่อน) ... กับแมทช์หลังชนฝาของ แมนฯ ยูฯ ที่ต้องไปเยือน PSG ด้วยความจำกัดจำเขี่ยด้านทรัพยากรที่ทั้งถูกแบน (Pogba) และตัวหลักที่เจ็บระนาว (หลายชื่อเกิน หลักๆ ก็ Matic, Mata, Herrera, Lingard, Sanchez, Martial, Jones, Valencia และน่าจะรวมถึง Rojo ที่ถึงจะมีชื่อเป็นสำรอง แต่จริงๆ ก็ยังอยู่ในช่วงเพิ่งกลับมาจากการพักจากบาดเจ็บยาวคล้ายกรณี Lingard ที่เพิ่งหายเจ็บแล้วโดนเข็นลงมานัดใน EPL ได้ไม่นานก็เจ็บต้องรีบเปลี่ยนออกอีก)

... นั่นทำให้ในวันพุธที่ผ่านมา แมนฯ ยูฯ ต้องใช้ผู้เล่นทั้งตัวจริงตัวสำรองที่อายุในขณะลงแข่งรวมกันเฉลี่ย "ไม่ถึง 24 ปี" ...

นั่นแหละฮะ .. "ไม่ถึง 24 ปี" (ประมาณ 23.77 ปี) .. กับถ้วยยุโรปใบโตสุด .. กับสถานการณ์ที่ไม่มีให้แก้ตัวแล้ว (นัด 2) ..กับสถานการณ์ที่แบกสกอร์เป็นรองมาเยือน และแค่ผลชนะมันไม่พอ (ต้องยิงอย่างน้อยให้ได้ผลต่างประตูในนัด 2 นี้มากกว่า 2 ประตูเป็นอย่างน้อย) ...

เพราะงั้น ...กับตัวที่ลง ซึ่งมีอายุตอนลงแข่งดังนี้ ..

  ตัวจริง                                               ตัวสำรอง
- De Gea (28)                                   - Romero (32)
- Young (33)                                     - Greenwood (17) (เปลี่ยนแทนในนาทีที่ 87)
- Bailly (24)                                       - Dalot (19)           (เปลี่ยนแทนในนาทีที่ 36)
- Smalling (29)                                  - Rojo (28)
- Lindelöf (24)                                   - Garner (17)
- Shaw (23)                                       - Gomes (18)
- Fred (26)
- Mctominay (22)
- Pereira (23)                                     - Chong (19)        (เปลี่ยนแทนในนาทีที่ 80)
- Lukaku (25)
- Rashford (21)

.... โดยในช่วงแรกก่อนมีการเปลี่ยนตัว ผู้เล่นในสนามมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25.27 ปี ...และ .. หลังจากที่เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เมื่อเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายลงไป ทำให้ในสนามมีนักเตะอายุเฉลี่ยลงมาเหลืออยู่ที่ 23 ปี ...

... เออ อย่างกับว่าจะส่งไปเล่น U23 รายการ UCL ซะงั้น ต่างกันแค่ไม่ได้จำกัดผู้เล่นอายุเยอะ ... และ การส่งผู้เล่นที่อายุน้อยๆ ระดับ Greenwood กับ Chong ลงไปในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ไม่ใช่การส่งลงไปแบบหาประสบการณ์แบบส่งๆ ... แต่นั้นเป็นการส่งไปเพื่อรองรับกับแผน (ที่โซลชาร์ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม) ที่ว่าหลังจากที่สามารถนำ 1-2 ได้แล้ว ยังไม่ต้องการให้ทีมเร่งโหมบุกเอาประตูที่ต้องการเพื่อผ่านเข้ารอบจนกว่าจะเหลือเวลาที่คิดว่าทีมสามารถต้านอยู่ได้ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เพื่ออย่างน้อย ไม่ต้องการให้มีเวลามากเกินไปที่จะทำให้ PSG สามารถทำประตูเพิ่มได้ ...ซึ่งเมื่อพิจารณาจากศักยภาพตัวนักเตะแล้ว ยังไงดีกรีและประสบการณ์ของทาง แมนฯ ยูฯ ก็ถือว่าเป็นรอง PSG สุดกู่เมื่อผู้เล่นตัวสุดท้ายถูกส่งลงไป ..

.. โซลชาร์เอาความมั่นมาจากไหนว่าเขาสามารถควบคุมสถานการณ์ที่ต้องการได้หลังจากเริ่มที่จะต้องส่งผู้เล่น 2  คนสุดท้ายที่อายุและประสบการณ์น้อยนิดลงไป...

...

- อย่างแรก ...เอาเข้าจริง ถ้าไม่เพราะอาการบาดเจ็บของ Bailly ในช่วงครึ่งแรก (หรือถ้าไม่เพราะอาการ "เอาไม่อยู่" เนื่องจากขาด Match Fit ระดับสูงมานาน แล้วอยู่ๆ ต้องถูกหย่อนมาเจอกับเกมที่ตัวเองต้องไปรับผิดชอบฝั่งที่โดน Di Maria เผาเครื่องตลอดครึ่งชั่วโมงแรก ...ผลที่เกิดมันผิดคาดไปนิด) โซลชาร์อาจจะต้องการให้ Bailly อยู่ทั้งเกม และไม่ได้อยากให้เกิดสกอร์ 1-2 จนต้องพยายามรักษาระดับสกอร์ไปจนกว่าจะเห็นทิศทางก่อนจะส่งตัวที่สดและกระหาย (หลังจากที่ปลุกเสกกำลังใจกันมาตั้งแต่ก่อนบินมาฝรั่งเศส) ลงไปบดบี้ .. มันอาจจะต้องส่ง Dalot ลงเร็วไปแทน แต่จากผลงานกับช่วงนัดหลังๆ เจ้าหนู Dalot คนนี้กลับฉายแววในตำแหน่งปีกขึ้นมาด้วยความเร็ว ความกล้า จนเมื่อส่งลงไป ก็สามารถสลับตำแหน่งด้านขวากับ Young ช่วยกันรุกรับกับทางฝั่ง Di Maria ได้ค่อนข้างดี โดยมี Fred ที่อยู่หน้าแผงหลัง (แบบก็ยังมั่วๆ กับการเล่นของตัวเองนิดๆ ว่าแทนที่จะต้องทำหน้าที่เชื่อมเกมรุกแทน Pagba ที่โดนแบน ..แต่ไหงต้องมาช่วยแซะบอลบี้บอลคืนจากหน้าแผงหลังตัวเอง) คอยช่วยซ้อนช่วยแซะและเชื่อมเกมจากหลังไปหน้าสลับซ้ายขวาไปมาได้ตลอด

- อย่างต่อมา ... เนื่องจากเป็นเกมที่โชคเข้าข้างด้วย ทั้งเรื่องความลนลานของการจ่ายคืนหลัง (อันนี้ต้องชม Rashford ที่ไปไล่กดดัน) จนสามารถทำให้ฉลามตู้เย็นอย่าง Lukaku ฉกไปยิงเป็นประตูนำไว ... ความที่ฝนตกจนสนามทำให้เล่นยาก ทำให้ลูกกระดอนพื้นของ Rashford กลายเป็นลูกอันตรายกับคนแก่อย่าง Buffon แทน แล้วก็เสร็จฉลามตู้เย็นเจ้าเก่า ... นั่นทำให้แท็คติกของโซลชาร์ที่งัดมาใช้ในเรื่องการบังคับรูปเกมให้ต้านทานการทวงประตูคืนจากทาง PSG ให้ไปเกิดโมเมนตัมความกดดันกลับไปอยู่กับทาง PSG ได้ ...เกิดสภาพอิหลักอิเหลื่อกับทาง PSG ว่าจะเร่งบุกเอาประตูฝัง หรือเลี้ยงสกอร์ให้หมดเวลาดี ... สุดท้ายภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นแล้วว่า มันแค่พลิกเกมนิดเดียวในช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่โซลชาร์เลือกเสี่ยงให้ทีมตัวเองเลือกใช้ความสดจากผู้เล่น Young Blood มากดดันในช่วงนั้น เพื่อสู้กับทัศนคติของผู้เล่น PSG ที่เหนื่อยมาทั้งเกม ทำให้แม้ดีกรีผู้เล่นจะเป็นรอง แต่ถ้าโมเมนตัมของทีมฝ่ายบุกมันสดกว่า (ฝ่ายบุกเอาประตูอย่าง แมนฯ ยูฯ) ย่อมได้เปรียบในช่วงเวลาที่ต้องการประตูได้ (ซึ่งจะเห็นได้ว่า แม้แต่ Mbappe ช่วงท้ายความแน่นอนในการเข้าทำเริ่มลดลงไป เลี้ยงบอลได้เร็ว แต่จบสกอร์ได้ไม่ค่อยดี ในขณะที่ Di Maria ก็เริ่มหายไปจากเกม) ...ในขณะที่ทาง PSG ตั้งแต่ช่วงนาทีที่ 70 การเปลี่ยนตัวที่ลงมาเป็นไปในลักษณะต้องการรักษาสกอร์มากกว่า นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่มีตัวพลิกเกมหรือตัวที่หวังผลในเรื่องการทำเกมบุกเพื่อฝัง แมนฯ ยูฯ ดีกว่านี้แล้ว ...ให้หวังพึ่งแค่นักเตะเกมรุกในสนามที่ค่อยๆ หมดพลังงานและ Passion ในการเอาชนะคงยาก (ขอไม่นักคาวานี่ที่ไม่รู้จะเปลี่ยนลงมาช่วยอะไรได้ในช่วงนาทีต่อเวลาไปหลังจากเสียประตูสำคัญแล้ว)

- โซลชาร์ไม่ได้แค่เลือกนักเตะลงสนามส่งๆ ไป .. แน่นอน มันเป็นเรื่องบังคับที่ตัวผู้เล่นที่มีให้ใช้งานได้มันน้อยมากจนต้องดันนักเตะเยาวชนสโมสรขึ้นมาเล่นเกมนี้ด้วย ... Greenwood และ Chong ไม่ได้ถูกส่งลงไปอย่างแค่เพราะไม่มีตัวแล้ว หากจะเอาติดรายชื่อมาด้วย ก็ต้องมั่นใจว่าตัวเองต้องเสกเด็กในสโมสรให้มีใจที่ "โต" พอจะบู๊ในเกมสำคัญระดับวัดการเข้ารอบได้ และหมายความว่า หากส่งลงไปแล้ว หากมีสกอร์ที่ต้องการเกิดขึ้นได้ ต้องพร้อมจะทำงานได้ทั้ง 2 หน้า ทั้งรุก และรับ โดยต้องไม่เสียสมาธิจากสิ่งแวดล้อม บรรยากาศ เสียงเชียร์ ลูกเล่นลูกตุกติกจากฝ่ายตรงข้าม ... เด็กพวกนี้ต้องตื่นตัวตลอดเวลา (และน่าแปลก แทนที่ Bailly ที่ควรจะต้องนิ่ง กลายเป็นเหม่อหรือช้าเกินไปกว่าเด็กพวกนี้ในช่วงเวลาสำคัญสำหรับเกมนี้) ..ภาพที่เห็นโซลชาร์เรียกเด็กๆ มาล้อมวงติวแผนข้างสนามช่วงบอลตาย นอกจากจะเป็นการแก้เกมแบบนาทีต่อนาทีอย่างละเอียดแล้ว นั่นอาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่โซลชาร์ใช้ในการเรียกสมาธินักเตะลูกกรอกให้มีโฟกัสกับเกม สืบอารมณ์นักเตะจากการอ่านแววตาระหว่างคุย และลดความกดดันไม้ให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวแค่โค้ชหย่อนพวกเค้าลงทะเลแล้วหายไปกับข้างสนาม แต่พยายามส่งเสียงและสอนให้รู้สึกเหมือนว่าเล่นไปด้วยกัน (เป็นสาเหตุหนึ่งที่โซลชาร์บอกหลังเกมว่าตัวเองต้องหาเสื้อเอี้ยมสีสว่างมาใส่เพื่อให้เกิดความต่างระหว่างสีเสื้อตัวเองกับนักเตะ PSG เพราะโซลชาร์เองต้องคอยวิ่งในกรอบข้างสนามไปมาเพื่อตะโกนคุมเกมตลอด..) .. เพราะงั้นในทางตรงข้าม นักเตะมีความเชื่อใจในทีมงาน Staff กับโซลชาร์มากๆ จนสามารถทำตามแผนที่ปรับเปลี่ยนตามเกมที่ละเอียดและยากแบบนี้ได้ตลอดทั้งเกม ...

...

กลับมาที่อายุ ...

..... ข้าเจ้าไม่แน่ใจว่า ในเกมระดับสูงอย่างชิงแชมป์ยุโรปแบบนี้ ยังมีเกมไหนบ้างที่อายุนักเตะและความเป็นรองในเกมสำคัญชี้ชะตามันน้อยแบบที่โซลชาร์ใช้ในเกมนี้ ... แน่นอน ไม่ว่าผลการจับสลากในรอบ 8 ทีมจะได้จับไปเจอทีมใด นักเตะชุดนี้อาจจะไม่ได้กลับมาลงในรายชื่อตัวจริงอีกหากพวกตัวหลักหายจากการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามในเกมลีกได้แล้ว ... เพราะงั้น แมทช์ที่สามารถพลิกกลับมาเข้ารอบในเกมเจอกับ PSG เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ...อาจจะดูขำๆ กับพวกกองเชียร์ขี้อิจฉาที่ออกมาสงสัยว่าจะดีใจอะไรนักหนา จะตั้งกระทู้อะไรกันเยอะแยะ ทั้งๆ ที่เป็นแค่การผ่านเข้าไปรอบ 8 ทีม UCL เอง ... แต่กับนักเตะ Young Blood ที่ได้ลงในเกมนี้ มันคือประสบการณ์ที่ไม่รู้ตัวเองจะได้พบเจอแบบนี้ได้อีกหรือไม่ ในฐานะนักเตะตัวสำรอง นักเตะประสบการณ์น้อย นักเตะดีกรีรอง นักเตะอายุน้อย ... การต้องกลับไปสู่โลกแห่งการทำงานหนักเพื่อแข่งขันกับการดันตัวเองขึ้นมาเป็นตัวจริงหรือได้ลงสนามบ้างในบางเกม ยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสแบบนี้กลับมาอีกหรือไม่ ...จะไปแช่งให้ตัวหลักมันเจ็บเยอะๆ กันแบบนี้อีกมันก็ไม่ใช่เรื่อง  ..จะต้องสู้กับการแย่งตำแหน่งในรายชื่อตัวจริงที่ต้องส่งไปแข่งรายการทางการก็ไม่รู้ว่าจะมี % แค่ไหน ...ยิ่งเกิดฤดูกาลหน้า เกิดโซลชาร์ไม่ได้ไปต่อ หรือเกิดสโมสรซื้อผู้เล่นสำเร็จรูปดีกรีสูงเข้ามาชนตำแหน่งตัวเองแล้วละก็ ...

....เกมกับ PSG ..มันก็คือเกมที่ควรค่าแก่การดีใจบ้าคลั่ง หรือแม้แค่ได้มีช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่ได้ลงไปบดบี้ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนของแผนผัง เพื่อทีมที่พวกเค้าสังกัดอย่าง แมนฯ ยูฯ ... เป็นเกมที่เรียกได้ว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต" สำหรับพวกดาวรุ่งตัวสำรองแบบนี้แล้ว ...มิใช่หรือ?

...

เอ้า ... !! มีใครให้ (อายุ) น้อยกว่านี้บ้าง ???

เม่าเนิร์ด
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่