<วิเคราะห์หลังเกมส์ PSG vs Man United> การอดทน รอจังหวะ และความโชคดี

ขออนุญาตออกตั;ก่อนว่าเป็นการวิเคราะห์จากฝั่งแฟนแมนฯยูไนเต็ดคนนึงอย่างผม และไม่ได้เป็นเซียนฟุตบอลแต่อย่างใด แต่อยากจะวิเคราะห์จากสิ่งที่เห็นในเกมส์และอยากให้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ

ก่อนเริ่มต้องยอมรับว่าแมนยูฯ อยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบาก จนในมุมมองหลายคนคิดไว้แล้วว่าโอกาสตกรอบไปแล้วกว่าครึ่งตัว ทั้งจากผลการแข่งขันนัดแรกที่แพ้มา 0-2 ในบ้านตัวเอง และสภาพนักเตะที่แนวรุกบาดเจ็บหลายคน รวมถึง pogba ที่ติดโทษแบน แต่มองในแง่ดีคือทำให้การเดินทางมาเล่นในครั้งนี้แทบไร้ความกดดัน และไม่มีอะไรจะเสีย

นักเตะที่ลงสนาม PGS ยังคงให้ Mbappe ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนในเกมส์แรก ถึงแม้ Cavani จะกลับสู่ทีมแล้ว ซึ่งทาง Tuchel เองน่าจะตั้งใจเจาะเกมส์รับของแมนยู ด้วยการใช้ความเร็วเหมือนเกมส์แรก ส่วนแมนยูจัดทัพด้วยนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ยังสามารถเล่นได้อยู่ โดยให้ Bailly เล่นแบ็คขวา ขยับ young ขึ้นมาเล่นกองกลางฝั่งขวา โดยแผงกลางยืน 4 ตัว ให้ Fred และ McTominay อยู่ตรงกลาง และ Pereira รับผิดชอบฝั่งซ้าย คู่หน้าเป็น Rashford+Lukaku

เริ่มเกมส์มาเหมือนฝันที่แฟนแมนยูวาดไว้สำหรับการกลับมาในเกมส์นี้ เมื่อได้ประตูเร็วตั้งแต่นาทีที่ 2 จากความผิดพลาดของ Kehrer ที่จ่ายคืนหลังไม่ดี ทำให้ Lukaku ที่คอยจ้องอยู่แล้ว ฉกบอลและแตะหนี Buffon ยิงเข้าไป ลูกนี้ถึงแม้จะมาจากความผิดพลาดของ PSG แต่ก็ต้องชมการบีบเกมส์ของนักเตะแมนยู และการจ้องดักบอลของ Lukaku ที่คอยโอกาสอยู่ตลอดเวลา

หลังจากเสียประตู PSG ก็เริ่มตั้งเกมส์บุกใส่แมนยูชุดใหญ่ ซึ่งในช่วง 25 นาทีแรกเห็นได้ชัดว่า กองกลาง 3 คนของ PSG ครองเกมส์เหนือกว่ากลางฝั่งแมนยูชัดเจน สามารถเคาะบอลครองบอลได้อย่างสบาย และหากเสียบอล ก็ไล่คืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้แมนยูขึ้นเกมแทบไม่ได้ โดยเฉพาะการเจาะทางฝั่งขวาของแมนยู ที่ต้องใช้ Bailly ไปยืน และมักยืนผิดตำแหน่ง และโดน Di maria เผาหลายครั้ง  จน PSG มาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 12 จากการหลุดไลน์ล้ำหน้าของ Mbappe ก่อนผ่านเข้ากลางให้ Bernat ยิงเข้าไป ซึ่งลูกนี้ต้องบอกว่าเป็นความผิดพลาดของ Bailly ทั้งจังหวะเช็คไลน์พลาด และยังเหม่อ ไม่มองตัวประกบ จนต้องเสียประตู

เกมกลับมาอยู่ในมือของ PSG ทั้งหมดอีกครั้งและยังคงทำเกมบุกเจาะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายของตัวเอง ในขณะที่แมนยู อาศัยการรับในแดนตัวเอง และใช้กลับโต้กลับฉาบฉวยบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากแดนหน้าไม่สามารถเก็บบอลได้ และกองกลางโดนบีบจนไม่สามารถเอาตัวรอดได้ และจ่ายบอลไม่ดีหลายครั้ง

ถึงแม้เกมจะอยู่ในการครอบครองของ PSG และแมนยูได้โอกาสสวนบ้าง แต่มักจะมาตายเพราะการตัดสินใจที่ไม่ดีของ Rashford ในจังหวะสุดท้าย ซึ่งแฟนแมนยูมักจะเห็นแบบนี้เป็นประจำ แต่มาจนถึงนาทีที่ 30 การตัดสินใจยิงไกลกว่า 35 หลาของ Rashford ก็นำมาซึ่งประตูที่ 2 เมื่อ Buffon รับลูกยิงไกลเด้งพื้นไม่อยู่ และก็เป็น Rukaku ที่ยังคงจ้องหาโอกาสให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา คอยวิ่งเลี้ยงไลน์ และซ้ำลูกยิงเข้าไป โดยจะสังเกตได้ว่าก่อนเริ่มเกมและช่วงต้นเกมมีฝนตก ทำให้เป็นเรื่องลำบากของผู้รักษาประตูที่จะรับลูกยิงในลักษณะนี้ และไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าแมนยูน่าจะถนัดเล่นท่ามกลางสายฝนมากกว่า อาจเพราะในอังกฤษฝนตกบ่อยกว่า 555+

ในนาทีที่ 35 จุดเปลี่ยนสำคัญอย่างหนึ่งของเกมก็เกิดขึ้น เมื่อฝั่งแมนยู ตัดสินใจเปลี่ยน Bailly ออกจากสนาม ไม่ว่าจะเรื่องอาการบาดเจ็บ(เจ้าตัวเดินเขยกออกมา) หรือเป็นเหตุผลด้านแทคติก ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องรวดเร็ว เพราะหลังจากนั้น เกมฝั่งขวาของแมนยูก็ดูแน่นขึ้น และยังมีการเติมเกมรุกที่ดีของ Dalot เพิ่มขึ้นมา

หลังผ่าน 35 นาที กลางแมนยูเริ่มจับจังหวะของเกมได้มากขึ้น สามารถตัดบอล และเอาตัวรอดจากการบีบของ PSG ได้มากขึ้น ทำให้เกมดีขึ้นยังชัดเจน ถึงแม้จะโดน PSG ครองบอลบุก แต่ก็ไม่สามารถเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายได้ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-2

ครึ่งหลัง ลักษณะของเกมคล้ายกับท้ายครึ่งแรก คือ PSG ครองบอลบุก ส่วนฝั่งแมนยูครองตั้งรับและสวนกลับ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ Solskjaer ตั้งใจไว้ว่าจะต้องยิงประตู และยื้อสกอร์ไว้ให้ยังอยู่ในเกมไปจนถึงช่วงปลายเกม แทคติกเกมรับของแมนยูจะแพคตรงกลางแน่น เพื่อป้องกันการจัดทะลุไลน์ล้ำหน้าอีก และบีบให้ PSG จ่ายบอลออกข้างเพื่อให้โยนเข้ามา ซึ่งจุดนี้จะไม่มีความอันตรายมากนัก เพราะผู้เล่นของ PSG ค่อนข้างเล็ก หากเปิดโด่งมา เซ็นเตอร์แมนยูสามารถจัดการได้หมด รวมถึงการทะลุไปเปิด cut back จากเส้นหลังของ PSG แทบไม่สามารถทำได้เลยในครึ่งหลัง

PSG มีโอกาสทองในนาทีที่ 83 ที่ Mbappe ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไป แต่ Da gea และ Smalling ช่วยกันเซฟประตูได้ รวมถึง Bernat ที่ยิงซ้ำชนเสา

รูปเกมถึงแม้จะตามอยู่ 1 ลูก แต่แมนยูก็เล่นเหมือนไม่ทุกร้อนอะไร เล่นตามแผนยื้อไปเรื่อยๆ และ 10 นาทีสุดท้าย ได้เปลี่ยน Tahith Chong ลงมาเพื่อเสริมเกมรุก ซึ่งไพ่ในมือมีอยู่แค่นี้จริงๆ ในทางกลับกัน ฝั่ง PSG เหมือนจะยิ่งเล่น ยิ่งกดดันตัวเอง ถึงแม้สกอร์จะนำอยู่ 1 ลูก แต่ผู้เล่นเริ่มหัวเสีย เล่นพลาดเองบ่อยๆ รวมถึงแดนกลางที่มักถูก  McTominay  ตอดนิดตอดหน่อย จนอารมณ์เสียไปหลายคน โดยนาทีที่ 87 แมนยูก็ส่งแนวรุกลงมาเพิ่มอีกคนคือ Mason Greenwood แทน Young (ก็ตัวเปลี่ยนมันมีเท่านี้จริงๆ)

แต่แล้วดราม่าก็มาเกิดขึ้นในนาทีที่ 90 เมือแมนยูมาได้จุดโทษจาก VAR เมื่อ Dalot ได้ยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบ Kimpembe ออกหลังไป ผมเชื่อว่าจังหวะนั้นไม่มีใครมองทันว่าโดนแขน เพราะเห็นแต่ Dalot คนเดียวที่ฟ้องกรรมการ ส่วนผมเองก็ขอแค่แฉลบออก แล้วมาลุ้นเอาที่ลูกเตะมุม แต่พอดูภาพช้า และ VAR คือเห็นได้ชัดว่าโดนแขน และอยู่ในเขตโทษ และผู้ตัดสินดู VAR แล้วหลายรอบและตัดสินใจให้ ซึ่งในมุมมองผมเอง จังหวะนี้ถือว่าค่อนข้างโชคร้ายกับเจ้าบ้าน เพราะถ้าไม่มี VAR มาตัดสิน ผมมั่นใจว่าแมนยูจะไม่ได้จุดโทษนี้ แต่เมื่อต้องดู VAR และภาพชัดมันค่อนข้างชัดว่าโดนจริง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ และเป็นไปได้ยากที่แขนจะแนบลำตัวในจังหวะกระโดดบล๊อก แต่มองในมุมมองของฝ่ายรุก จะค่อนข้างเสียประโยชน์จากจังหวะโดนแขน เพราะบอลเกิดจากการยิงเข้าหาประตู ไม่มีใครรู้ว่าจะตรงกรอบหรือไม่ แต่เมื่อฝ่ายรุกเสียประโยชน์ และภาพค่อนข้างชัดว่าโดนและบอลเปลี่ยนทิศทาง ทำให้ผู้ตัดสินจำเป็นต้องให้ ซึ่งมันโหดร้ายจริงๆกับทีมเจ้าบ้านที่โดนในนาทีนั้น และแมนยูก็ถือว่าโชคดีมากๆ

ตัดภาพมา Rashford ถือบอลเตรียมยิงจุดโทษแล้ว หลายคนบอกเลยว่าใจมันได้จริงๆ เด็กอายุขนาดนี้ ต้องมารับผิดชอบหน้าที่ที่สำคัญ ในช่วงเวลาสำคัญ  ขนาดคนดูอย่างเราดูอยู่บ้านยังตื่นเต้น แล้วนักเตะคนรับหน้าที่จะขนาดไหน และเจ้าตัวก็ทำหน้าที่สำเร็จ ยิงประตูสำคัญลูกนี้เข้าไปได้

ผู้ตัดสินทดเวลาเพิ่มให้อีก 6 นาที(จาก 3 เป็น 9 นาที)หลังจากจุดโทษ  PSG เร่งเกมบุกอย่างหนัก ส่ง Cavani ลงมา ส่วนแมนยูเปลี่ยนครบแล้ว แต่ต้องชมความละเอียดของสต๊าฟแมนยูอีกครั้ง เมื่อถอย Lukaku ลงไปยืนหลังช่วยอีกคน  ช่วยป้องกันลูกโด่งการครอสบอลเข้าไป และเวลาก็มีน้องเกินไปสำหรับ Cavani จบเกมส์แมนยูดราม่าพลิกนรก กลับมาชนะได้ 3-1 รวมผล 2 นัด เข้ารอบด้วย Away goal

ปัจจัยที่ทำให้แมนยูพลิกสถานะการณ์กลับมาชนะได้ มันประจวบเหมาะ และมาพร้อมกันจริงๆ ทั้งการได้ประตูขึ้นนำเร็ว รวมถึงประตูที่ 2 ที่ได้มาในครึ่งแรก รวมถึงความมีวินัย อดทน เล่นตามแผนตามเกมที่วางเอาไว้ และมีโชคเข้าข้างด้วยในจังหวะจุดโทษ ทำให้ทุกอย่างจบลงเป็นใจในค่ำคืนนี้

คะแนนนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด (โดยมุมมองผมเอง)

De Gea  7 เล่นตามมาตรฐานที่สูงอยู่แล้วของตัวเอง ไม่มีข้อผิดพลาด และเซฟจังหวะหลุดเดี่ยวของ Mbappe ไว้ได้

Shaw  8 เด่นทั้งเกมรุก และรับ เอาตัวรอดจากจังหวะโดนบีบได้ดี แทบไม่หลุดตำแหน่งในเกมรับ

Lindeloef 8 นักเตะที่สม่ำเสมอที่สุดในยุค Solskjaer และเกมนี้ก็เช่นเดียวกัน จัดการลูกเปิดจากด้านข้างได้หมด

Smalling 8 ประกบ Mbappe ได้ดีที่สุดเท่าที่เค้าจะทำได้แล้ว มีจังหวะบล๊อกลูกยิงในระยะเผาขนในครึ่งแรกได้ 2-3 ครั้ง และไม่มีข้อผิดพลาดในเกมนี้

Young 7 ช่วงต้นเกมอาจจะโดนเจาะบ่อย เพราะเล่นกลาง ซึ่งกลายเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัดไปแล้ว พอถูกถอยมาเล่นที่เดิมก็ทำหน้าที่ได้ดี ปิดเกมรุกได้ดีกว่าต้นเกม

Bailly 4 โดนเจาะทางฝั่งนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม ต้องเข้าใจเจ้าตัวด้วยว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัด และฟอร์มกำลังตก รวมถึงต้องรับผิดขอบกับลูกแรกที่เสียไป

Dalot 7 ลงมาปิดเกมรุกในฝั่งขวาของตัวเองได้ดี รวมถึงการเติมเกม และได้จุดโทษจากจังหวะยิงไกล ถึงแม้บางครั้งจะตัดสินใจไม่ดี แต่ถือว่าลงมาแล้วเปลี่ยนเกมได้เลย

McTominay 8 เป็นคนที่วิ่งระยะทางเยอะที่สุดในสนาม เกมนี้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ตอดนิดตอดหน่อยทำลายเกม และทำให้กลาง PSG หัวร้อนหลายคน โชคดีที่ไม่โดนใบเหลือง

Fred 8 ช่วงแรกถึงแม้จะทำเกมไม่ได้เลย แต่พอผ่านไปเรื่อย ก็เป็นกองกลางของแมนยูที่เอาตัวรอดได้ดีที่สุด มีจังหวะแย่งบอล และจ่ายบอลสวยๆหลายครั้ง อาจจะเป็นเกมที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในชุดแมนยู

Pereira 6 มีดีที่ลูกขยัน และการไล่บอลที่ดี แต่การจ่ายบอล และทำเกมรุกยังค่อนข้างมีปัญหา เอาตัวรอดไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่ถึงกับเสียหาย เพราะเล่นเกมรับได้โอเค

Rashford 7 ความเร็วมีประโยชน์ทั้งการไล่บอล และจังหวะสวนกลับ (มีส่วนกับประตูที่ 1 และ 2) แต่บางครั้งการตัดสินใจจังหวะทีเด็ดทีขาดยังไม่ค่อยดี แต่กล้าหาญยิงจุดโทษ และไม่พลาด

Lukaku 8(MOM) ยิง 2 ประตู จากความขยัน ความเข้าใจเกม อ่านความผิดพลาดของคู่แข่ง แต่ยังมีปัญหากับการพักบอลในแดนหน้า (ยังงงอยู่ว่าตัวก็ใหญ่ ทำไมแย่งโหม่งแทบไม่เคยได้) แต่แค่นี้ก็ถือว่าทำงานสำเร็จสำหรับกองหน้าแล้ว

Solskjaer และทีมงาน 9 ด้วยศักยภาพนักเตะที่มีอยู่ในมือ แต่สามารถทำได้ตามแผน และเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างเกินคาด ก็คงต้องยกความดีความชอบให้ทั้งหมด รวมถึงการตัดสินใจเปลี่ยน Bailly ออกเร็ว มันทำให้อุดรอยรั่วฝั่งนั้นได้อย่างชัดเจน

ทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวจากการดูถ่ายทอดสดนะครับ หากมีตรงไหนผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ และอยากจะให้เพื่อนๆ พี่น้อง มาแสดงทัศนะและความคิดเห็นกันครับ

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่