ปั้นจั่นขอโทษสำหรับแฮชแท็ก #อยากแปลกไม่เเดกคนละ ที่อาจจะทำให้ไปกระทบความรู้สึกของแฟนๆของรายการ แฟนคลับรายการ รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน คณะกรรมการผู้มีคุณวุฒิทั้งหลาย
คลิปเต็ม
ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย นักแสดงหนุ่มยกมือขอโทษกรณีแฮชแท็ก #อยากแปลกไม่เเดกคนละ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าที่จริงหลังจากที่โพสต์ไปกระแสตั้งแต่ในทวิตเตอร์ หรือว่าในไอจีส่วนตัวปั้นจั่นเองที่ทุกคนมาคอมเมนต์ ยังไม่ได้มีโอกาสพูด ปั้นจั่นเองยังไม่ได้เขียนหรือว่าตอบอะไรทั้งในทวิตเตอร์แล้วก็ในไอจี ก็เพราะว่า รู้ว่าเดี๋ยวจะต้องมีงานแล้วก็พวกพี่มาสัมภาษณ์นะฮะ แล้วก็จะได้ตอบทีเดียวเลย ที่จริงทั้งหมดทั้งมวลก็ ก่อนอื่นเลยละกัน ผมต้องขอโทษด้วย สำหรับแฮชแท็กที่อาจจะไปทำให้กระทบความรู้สึกของแฟนๆของรายการ แฟนคลับรายการ รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน หรือคณะกรรมการผู้มีคุณวุฒิทั้งหลาย แต่บอกด้วยความจริงใจเลยว่าตอนที่เขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะไปก้าวล่วงหรือว่าทำให้รู้สึกไม่ดี หรือว่าไปต่อว่า มันเหมือนเวลาเราเขียนแฮชแท็กก็ต้องทำให้มันเป็นแฮชแท็กที่ดูน่าสนใจ ผมอาจจะต้องขอโทษด้วย ผมอาจจะคิดน้อยไปหน่อย แล้วก็ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม อันนี้จะเป็นบทเรียนที่จะทำให้ผม เวลาผมจะเล่นโซเชียลหรือว่าจะทวิตเตอร์ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ก็คงจะระวังมากกว่านี้ แล้วก็ไม่ใช้คำหยาบคาย ที่จะทำให้มีส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้ว ในเรื่องของสิ่งที่ผมพูดไป ผมก็รู้สึกจากใจจริงๆนะครับ
ต้องบอกเลยว่าอย่างแรก ผมไม่ทราบว่าใครจะเชื่อหรือมันอาจจะเป็นข้อแก้ตัวนะฮะ แต่ว่าต้องพูดตรงๆว่าไม่ได้แก้ตัว ตัวผมเอง ผมติดตามมาสเตอร์เชฟมาตั้งแต่ซีซั่นแรก แต่ว่าซีซั่นนี้ไม่ได้ดู เพราะปกติผมจะตามดูในยูทูป ผมไม่ทราบจริงๆว่าเป็นของช่องไหน ผมเห็นข่าว แล้วผมก็ ผมรู้สึกว่ามันสะเทือนใจผม เพราะว่าผมเองเป็นคนที่รักธรรมชาติ แล้วก็ชอบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยครับ
ที่จริงผมก็ตกใจนะครับเพราะว่าจากเรื่องนึง สำหรับผมแล้วมันถูกกลายเป็นเรื่องของ กลายเป็นเรื่องผมเหมือนไปดิสเครดิตช่องนึง ซึ่งผมพูดตรงๆว่าเราอยู่ในวงการเดียวกัน ผมทราบดีเรื่องของมารยาท แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะช่องไหนที่จะมานั่งแบบว่าดิสเครดิตกัน เพราะว่าทุกช่องก็ ผมทำงานกับพี่ๆ แล้วผมก็รู้จักกับผู้ใหญ่ในสาขาต่างๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะส่งผลกระทบ แล้วก็ที่สำคัญตอนนี้มันส่งผลกระทบกับ ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวผมคนเดียว แต่คนที่อยู่รอบตัวผมซึ่งผม ยังไงก็ขอโทษแล้วก็ขอให้ทุกคนเข้าใจผมด้วย ในสิ่งที่ผมทำไป ให้อภัยผมด้วย แล้วก็ไม่อยากให้ไปถามหรือว่าหาอะไรก็แล้วแต่กับคนอื่น ถ้าเกิดว่ามีอะไรขอให้มาที่ผม ให้ผมเป็นคนพูด ให้ผมเป็นคนอธิบาย เพราว่าคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับการลงโซเชียลผมครั้งนี้
ต้องบอกว่าที่จริงผม รายการนั้นที่เอาออกมา เป็นรายการที่เป็นเทปส่งมาจากญี่ปุ่น สำหรับตัวผมเอง ผมแค่เป็นคนเหมือนบอกเล่า ผมไม่ได้เป็นคนไปชิม แต่ถามว่าปั้นจั่นเองเคยรับประทานหูฉลามหรือเปล่า ต้องบอกว่า ผมเชื่อว่า90% คนในเอเชียนะครับ เคยทานหูฉลามกันหมด แต่ ณ วันนั้นเราเคยทาน แต่ ณ วันนี้เราหยุดทาน มันเหมือนคน วันนี้เรายังกินเนื้ออยู่ แล้วเราก็หยุดกินเนื้อ ผมก็ต้องขอโทษละกัน มันเป็นวิจารณญาณของคนแต่ละคนว่าจะหยุดหรือจะกิน เราไม่สามารถไปห้ามใครได้ ก็แค่บอกต่อแล้วก็รณรงค์ ถ้าเค้ายังไม่เลิกมันก็ไม่ใช่ความผิด เพราะว่ามันยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกปกป้อง แล้วก็ไม่ได้อยู่ในพ.ร.บ.คุ้มครอง สำหรับตัวผมเองผมก็ไม่กล่าวโทษใครทั้งนั้น สิ่งที่ผมทำไป ไม่ได้มีเจตนาในการที่จะไปสื่อให้ใครเสียความรู้สึก แต่สำหรับตัวผมเอง บางทีสำหรับคนรักสัตว์แล้ว เวลาเราพูดถึงเรื่องนี้ เราก็จะรู้สึกสะเทือนใจแล้วกระทบจิตใจค่อนข้างมาก
ก็มีเครียดนะ จะบอกว่าไม่เครียดเลยก็ไม่ได้ แล้วก็ทุกคอมเม้นต์ หลายๆคนก็บอกว่าให้ไม่อ่าน แต่สำหรับตัวผมเอง ผมก็อดไม่ได้ที่จะเปิดอ่าน แล้วผมก็รู้ว่ามัน คือทุกคอมเม้นต์อ่ะ มันเป็น คือผมต้องอ่านเพื่อให้ผมจำ พอผมจำแล้วมันจะได้มาเป็นบทเรียนว่าผมจะต้องปรับปรุงแก้ไขยังไง แล้วก็เรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอีกในชีวิต ผมกล้ารับปาก เพราะว่าผมจะไม่ไปแตะต้องอะไรกับโซเชียลอีกแล้ว เพราะผมรู้สึกว่ามันเซนซิทีฟ แล้วก็ไม่มีใครเข้าใจเราทั้งหมด แล้วบางทีแมสเซจที่จะสื่อออกไป ใน 1 คำ มันอาจจะตี ถูกตีความหมายได้เป็น 10 เป็น 20 เป็น 100 เป็น 1,000 เหมือนที่มันเกิดขึ้น ผมไม่รู้เลยว่ามันจะออกมาหน้าไหน เอาเป็นว่า ณ วันนี้ผมขอโทษ แล้วก็ผมไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็คงจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
ณ วันนี้ตัดสินใจแล้วครับว่า เราจะไม่วิจารณ์อะไรใดๆกับใครทั้งสิ้น คืออาจจะเป็นบทเรียนที่เราเพิ่งแก้ไข ผมเองก็อยู่วงการมานาน แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองก็ระวังในทุกฝีก้าว แต่ว่าคงจะระวังไม่พอ แล้วก็ครั้งนี้ก็คงจะเข้าใจในทุกอย่าง จะทำอะไรก็ทำกับตัวเองนี่แหละครับ ไม่เข้าไปก้าวก่ายในส่วนของใครแล้วทั้งสิ้น
ผมว่าหลักๆแล้วคนที่อยู่ในวงการ หรือว่าพี่ๆรอบตัวเข้าใจเจตนาสำหรับคนที่รู้จักผม บางคนก็ไม่มีอะไรก็ให้กำลังใจ ที่จริงเค้ารู้เจตนามากกว่า ส่วนผมเองผมไม่ได้มีเจตนาก้าวล่วงหรือว่าไปพูดเสียดสี หรือว่าไปให้ร้ายรายการ หรือว่าผู้ใหญ่ในรายการทั้งสิ้น เพราะว่าผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพแล้วก็ติดตามผลงานมาตลอด ตอนที่ผมทวิต ผมไม่คิดว่าจะกระทบถึงผู้ใหญ่สักคนเลยจริงๆ ด้วยความที่ผมเป็น อาจจะคิดน้อยไป ขอโทษจริงๆครับ
ไม่นะครับ คงไม่ครับ ก็คงใช้ชีวิตแบบปกติ แล้วก็สิ่งที่ผมโพสต์ไปผมอาจจะ ผมต้องบอกตรงนี้ว่าผมคงจะไม่ได้ลบหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะ 1.ผมรู้สึกว่ามัน ผมทิ้งไว้เป็นบทเรียนให้กับตัวผมเอง แล้วก็ หลักๆแล้วผมว่าไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไรครับ
-------------------------------------------
นอจากนี้ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย ยังชี้แจงกรณีภาพเป้างานบอลว่า “ไม่ได้เห็นคลิป เห็นเป็นภาพนะ เปลี่ยนโหมดได้แล้วใช่ไหม เห็นเป็นภาพก็ตลกดีฮะ ที่จริงก็ เรื่องนี้ก็ มันแว๊บเดียวเองนะ แล้วเราก็ยิงไม่เข้าไง / อาจจะเป็นเพราะกางเกงครับผม กางเกงผ้าร่ม ผมว่าใครอยู่ในมุมนั้นก็น่าจะเป็นอย่างนั้น
ที่จริง หลักๆแล้วคนอื่นก็ไม่ได้ใส่เซฟนะ ไม่หรอก ใส่เซฟแล้วอึดอัด ผมก็ระวังมาโดยตลอด เพราะว่าเรื่องนี้มันก็แบบอยู่วนเวียนรอบตัวเราอ่ะ เราก็เลยระวังเป็นพิเศษ แต่ว่าช็อตนั้นอ่ะไม่คิดจริงๆว่ามันจะเป็นอย่างงั้นนะ พอเห็นก็ตกใจ รู้สึกว่าฮาดี ยังไงพี่ๆแฟนก็ยังให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่ที่หน้าเราเท่านั้นเอง
ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆในกลุ่ม แล้วก็พี่ๆของพี่ฝนผู้จัดการก็ส่งเข้ามา ไลน์ก็เด้ง โห งามไส้ อีกแล้ว ถึงแม้เราจะระวังแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเป็นเรื่องโจ้กกิ้ง คือแต่ก่อนอาจจะหงุดหงิดกับเรื่องพวกนี้ แต่ว่า ณ วันนี้ อะไรก็ปลงหมดแล้ว ธรรมมะช่วยได้ ธรรมมะสวัสดี ขอบคุณครับ
ปั้นจั่นยกมือขอโทษ กรณีแฮชแท็ก #อยากแปลกไม่เเดกคนละ เป็นบทเรียนการเล่นโซเชียล พร้อมชี้แจงกรณีรายการที่มีภาพหูฉลาม
ปั้นจั่นขอโทษสำหรับแฮชแท็ก #อยากแปลกไม่เเดกคนละ ที่อาจจะทำให้ไปกระทบความรู้สึกของแฟนๆของรายการ แฟนคลับรายการ รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน คณะกรรมการผู้มีคุณวุฒิทั้งหลาย
คลิปเต็ม
ต้องบอกเลยว่าอย่างแรก ผมไม่ทราบว่าใครจะเชื่อหรือมันอาจจะเป็นข้อแก้ตัวนะฮะ แต่ว่าต้องพูดตรงๆว่าไม่ได้แก้ตัว ตัวผมเอง ผมติดตามมาสเตอร์เชฟมาตั้งแต่ซีซั่นแรก แต่ว่าซีซั่นนี้ไม่ได้ดู เพราะปกติผมจะตามดูในยูทูป ผมไม่ทราบจริงๆว่าเป็นของช่องไหน ผมเห็นข่าว แล้วผมก็ ผมรู้สึกว่ามันสะเทือนใจผม เพราะว่าผมเองเป็นคนที่รักธรรมชาติ แล้วก็ชอบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยครับ
ที่จริงผมก็ตกใจนะครับเพราะว่าจากเรื่องนึง สำหรับผมแล้วมันถูกกลายเป็นเรื่องของ กลายเป็นเรื่องผมเหมือนไปดิสเครดิตช่องนึง ซึ่งผมพูดตรงๆว่าเราอยู่ในวงการเดียวกัน ผมทราบดีเรื่องของมารยาท แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะช่องไหนที่จะมานั่งแบบว่าดิสเครดิตกัน เพราะว่าทุกช่องก็ ผมทำงานกับพี่ๆ แล้วผมก็รู้จักกับผู้ใหญ่ในสาขาต่างๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะส่งผลกระทบ แล้วก็ที่สำคัญตอนนี้มันส่งผลกระทบกับ ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวผมคนเดียว แต่คนที่อยู่รอบตัวผมซึ่งผม ยังไงก็ขอโทษแล้วก็ขอให้ทุกคนเข้าใจผมด้วย ในสิ่งที่ผมทำไป ให้อภัยผมด้วย แล้วก็ไม่อยากให้ไปถามหรือว่าหาอะไรก็แล้วแต่กับคนอื่น ถ้าเกิดว่ามีอะไรขอให้มาที่ผม ให้ผมเป็นคนพูด ให้ผมเป็นคนอธิบาย เพราว่าคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับการลงโซเชียลผมครั้งนี้
ต้องบอกว่าที่จริงผม รายการนั้นที่เอาออกมา เป็นรายการที่เป็นเทปส่งมาจากญี่ปุ่น สำหรับตัวผมเอง ผมแค่เป็นคนเหมือนบอกเล่า ผมไม่ได้เป็นคนไปชิม แต่ถามว่าปั้นจั่นเองเคยรับประทานหูฉลามหรือเปล่า ต้องบอกว่า ผมเชื่อว่า90% คนในเอเชียนะครับ เคยทานหูฉลามกันหมด แต่ ณ วันนั้นเราเคยทาน แต่ ณ วันนี้เราหยุดทาน มันเหมือนคน วันนี้เรายังกินเนื้ออยู่ แล้วเราก็หยุดกินเนื้อ ผมก็ต้องขอโทษละกัน มันเป็นวิจารณญาณของคนแต่ละคนว่าจะหยุดหรือจะกิน เราไม่สามารถไปห้ามใครได้ ก็แค่บอกต่อแล้วก็รณรงค์ ถ้าเค้ายังไม่เลิกมันก็ไม่ใช่ความผิด เพราะว่ามันยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกปกป้อง แล้วก็ไม่ได้อยู่ในพ.ร.บ.คุ้มครอง สำหรับตัวผมเองผมก็ไม่กล่าวโทษใครทั้งนั้น สิ่งที่ผมทำไป ไม่ได้มีเจตนาในการที่จะไปสื่อให้ใครเสียความรู้สึก แต่สำหรับตัวผมเอง บางทีสำหรับคนรักสัตว์แล้ว เวลาเราพูดถึงเรื่องนี้ เราก็จะรู้สึกสะเทือนใจแล้วกระทบจิตใจค่อนข้างมาก
ก็มีเครียดนะ จะบอกว่าไม่เครียดเลยก็ไม่ได้ แล้วก็ทุกคอมเม้นต์ หลายๆคนก็บอกว่าให้ไม่อ่าน แต่สำหรับตัวผมเอง ผมก็อดไม่ได้ที่จะเปิดอ่าน แล้วผมก็รู้ว่ามัน คือทุกคอมเม้นต์อ่ะ มันเป็น คือผมต้องอ่านเพื่อให้ผมจำ พอผมจำแล้วมันจะได้มาเป็นบทเรียนว่าผมจะต้องปรับปรุงแก้ไขยังไง แล้วก็เรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอีกในชีวิต ผมกล้ารับปาก เพราะว่าผมจะไม่ไปแตะต้องอะไรกับโซเชียลอีกแล้ว เพราะผมรู้สึกว่ามันเซนซิทีฟ แล้วก็ไม่มีใครเข้าใจเราทั้งหมด แล้วบางทีแมสเซจที่จะสื่อออกไป ใน 1 คำ มันอาจจะตี ถูกตีความหมายได้เป็น 10 เป็น 20 เป็น 100 เป็น 1,000 เหมือนที่มันเกิดขึ้น ผมไม่รู้เลยว่ามันจะออกมาหน้าไหน เอาเป็นว่า ณ วันนี้ผมขอโทษ แล้วก็ผมไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็คงจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
ณ วันนี้ตัดสินใจแล้วครับว่า เราจะไม่วิจารณ์อะไรใดๆกับใครทั้งสิ้น คืออาจจะเป็นบทเรียนที่เราเพิ่งแก้ไข ผมเองก็อยู่วงการมานาน แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองก็ระวังในทุกฝีก้าว แต่ว่าคงจะระวังไม่พอ แล้วก็ครั้งนี้ก็คงจะเข้าใจในทุกอย่าง จะทำอะไรก็ทำกับตัวเองนี่แหละครับ ไม่เข้าไปก้าวก่ายในส่วนของใครแล้วทั้งสิ้น
ผมว่าหลักๆแล้วคนที่อยู่ในวงการ หรือว่าพี่ๆรอบตัวเข้าใจเจตนาสำหรับคนที่รู้จักผม บางคนก็ไม่มีอะไรก็ให้กำลังใจ ที่จริงเค้ารู้เจตนามากกว่า ส่วนผมเองผมไม่ได้มีเจตนาก้าวล่วงหรือว่าไปพูดเสียดสี หรือว่าไปให้ร้ายรายการ หรือว่าผู้ใหญ่ในรายการทั้งสิ้น เพราะว่าผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพแล้วก็ติดตามผลงานมาตลอด ตอนที่ผมทวิต ผมไม่คิดว่าจะกระทบถึงผู้ใหญ่สักคนเลยจริงๆ ด้วยความที่ผมเป็น อาจจะคิดน้อยไป ขอโทษจริงๆครับ
ไม่นะครับ คงไม่ครับ ก็คงใช้ชีวิตแบบปกติ แล้วก็สิ่งที่ผมโพสต์ไปผมอาจจะ ผมต้องบอกตรงนี้ว่าผมคงจะไม่ได้ลบหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะ 1.ผมรู้สึกว่ามัน ผมทิ้งไว้เป็นบทเรียนให้กับตัวผมเอง แล้วก็ หลักๆแล้วผมว่าไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไรครับ
-------------------------------------------
นอจากนี้ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย ยังชี้แจงกรณีภาพเป้างานบอลว่า “ไม่ได้เห็นคลิป เห็นเป็นภาพนะ เปลี่ยนโหมดได้แล้วใช่ไหม เห็นเป็นภาพก็ตลกดีฮะ ที่จริงก็ เรื่องนี้ก็ มันแว๊บเดียวเองนะ แล้วเราก็ยิงไม่เข้าไง / อาจจะเป็นเพราะกางเกงครับผม กางเกงผ้าร่ม ผมว่าใครอยู่ในมุมนั้นก็น่าจะเป็นอย่างนั้น
ที่จริง หลักๆแล้วคนอื่นก็ไม่ได้ใส่เซฟนะ ไม่หรอก ใส่เซฟแล้วอึดอัด ผมก็ระวังมาโดยตลอด เพราะว่าเรื่องนี้มันก็แบบอยู่วนเวียนรอบตัวเราอ่ะ เราก็เลยระวังเป็นพิเศษ แต่ว่าช็อตนั้นอ่ะไม่คิดจริงๆว่ามันจะเป็นอย่างงั้นนะ พอเห็นก็ตกใจ รู้สึกว่าฮาดี ยังไงพี่ๆแฟนก็ยังให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่ที่หน้าเราเท่านั้นเอง
ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆในกลุ่ม แล้วก็พี่ๆของพี่ฝนผู้จัดการก็ส่งเข้ามา ไลน์ก็เด้ง โห งามไส้ อีกแล้ว ถึงแม้เราจะระวังแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเป็นเรื่องโจ้กกิ้ง คือแต่ก่อนอาจจะหงุดหงิดกับเรื่องพวกนี้ แต่ว่า ณ วันนี้ อะไรก็ปลงหมดแล้ว ธรรมมะช่วยได้ ธรรมมะสวัสดี ขอบคุณครับ