[CR] ปฏิบัติการฟื้นฟูหน้าปัง(ปินาศ)จากการแพ้เมคอัพ ฉบับรวบรัดจบในทู้นี้เท่านั้น

เหตุผลที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานอกจากจะมาแชร์วิธีรักษาหน้าตัวเองจากผลข้างเคียงการรักษาแพ้เครื่องสำอางแล้ว ก็อยากจะเตือนสาวๆที่ชอบแต่งหน้าด้วยว่าอย่าได้พลาดเหมือนเราเลย T^T บอกก่อนว่าด้วยความที่เราทำงานด้านบริการ ต้องเข้าสังคมเจอคนนั้นคนนี้เยอะแยะไปหมด จนทำให้เราต้องรักษาภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูดีสมเป็นหน้าตาขององค์กร ทุกครั้งที่ออกไปทำงานเลยต้องจัดเต็มกับการแต่งหน้าสุดๆ เรียกได้ว่าถ้าไม่สวยพอจะไม่ยอมออกจากบ้านเลย 555 จนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้วว่าออกจากบ้านทีไรต้องยกแป้งมาตบๆ แฟนถึงกับบ่นว่าจะมีสักวันไหมที่ได้เห็นเธอหน้าสดบ้าง แน่นอนว่าไม่มี เพี้ยนเขิน
     แล้วก็ไม่รู้ไปทำเวรกรรมอะไรไว้นะ เพราะจู่ๆเราก็ดันแพ้เครื่องสำอางเสียอย่างนั้น ยอมรับแหละว่าเป็นความผิดตัวเองด้วยส่วนหนึ่งที่ดันไปซื้อเครื่องสำอางจากในเน็ตมาใช้เลยหน้าพังแบบนี้ ซึ่งอาการหน้าพังมันกระทบกับอะไรหลายๆอย่างในชีวิตเรามาก ทั้งเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว ตอนนั้นเรารู้สึกอายมากจนไม่กล้าออกไปไหน ยื่นลาพักร้อนแล้วขอพักรักษาตัวดีกว่า เพราะหน้าพังๆแบบนี้ยังไงก็คงทำงานไม่ได้หรอก อมยิ้ม20
 
     คนที่เคยผ่านประสบการณ์แนวนี้จะรู้กันดีว่ามันเครียดยังไง ช่วงนั้นก็แวะหาหมอเป็นว่าเล่นเลยค่ะ กินทั้งยาสเตอรอยยารักษาสิวจนดีขึ้น แต่ปัญหาก็ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยาที่เราใช้มันมีผลข้างเคียง ทำให้หน้าแห้งมาก แบบมากๆจริง สภาพหน้าแบบนี้ยังไงก็แต่งหน้าไม่ได้แน่ เราก็เลยต้องรีบกลับมาบำรุงหน้าตาตัวเองด่วนเลย วันนี้ก็เลยอยากมาแชร์กลเม็ดเคล็ดลับและสกินแคร์ต่างๆที่เราใช้ในการฟื้นฟูหน้าตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่มีปัญหาคล้ายๆเราบ้าง เอาล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า
 
ของที่เราใช้หลักๆบ่อยๆมี8อย่างด้วยกัน จะรีวิวทีละอย่างแบบไม่เรียงลำดับการใช้นะคะ
 
 
1.Joliena Plus Moisturizing Placenta Cream
อันนี้เราไม่ได้ซื้อเองแต่แม่ซื้อมาให้ใช้ บอกว่าใช้ไปเถอะช่วยได้ เราไปค้นๆดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากในเน็ตแล้วก็เลยรู้ว่ามันเป็นครีมรกแกะที่ขึ้นชื่อพอสมควร มีคนรีวิวกันเยอะแยะ นอกจากเป็นครีมรกแกะแล้วยังผสมวิตามินลงไปด้วย และไม่มีสารอันตรายจึงสามารถใช้ได้ทุกผิวแม้ผิวแพ้ง่าย เราก็เลยหันมาใช้จริงๆจังๆเลยค่ะ แล้วก็ชอบมาตั้งแต่นั้นเลย คือมันไม่ใช่ครีมรกแกะที่เหนียวเหมือนยี่ห้ออื่นอ่ะค่ะ มันจะเบาๆลื่นๆซึมง่าย แล้วก็ไม่ระคายเคืองด้วย เราเลยใช้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ เรื่องความชุ่มชื้นก็แน่นอนจริง ใช้ทีนี่อย่างฉ่ำเลย ชอบมากกก เพราะเราต้องการความฉ่ำมากๆจากที่หน้าแห้งอย่างแรงเพราะผลข้างเคียงจากยานั่นแหละ แต่นอกเหนือจากเรื่องความชุ่มชื้นแล้วเรายังรู้สึกว่ามันช่วยให้หน้าเราแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม แล้วริ้วรอยที่เคยมีก็ลดลงไปพอสมควร เป็นผลพลอยได้ดีที่มาก 555 มันเป็นครีมที่เหมาะกับคนมีที่ปัญหาผิวหน้าแรงๆจริงๆ ใครที่มีปัญหาอยู่ก็ลองใช้ได้นะ
 
2.Tropicana Virgin Coconut Oil
อันนี้ซื้อมาด้วยความหงุดหงิดกับหนังหน้าตัวเอง เพราะตอนนั้นหน้าแห้งมากจนรู้สึกแสบหน้าไปหมด ก็เลยคิดว่าเอาน้ำมันมาทาหน้าซะเลยจะได้จบๆกันไป 5555 คิดแล้วก็ซื้อน้ำมันมะพร้าวมาใช้เลย ใช้เฉพาะตอนกลางคืนก่อนนอน โอโห้ดีมาก หน้านี่คือฉ่ำชุ่มชื้นระดับสุด ฉ่ำจนเข้าขั้นมันเลยทีเดียว ใช้แล่วเอาหน้าลงกะทะทอดได้เลย อีกอย่างคือหน้าเนียนขึ้นมาก แบบนุ่มเลยล่ะ แต่ด้วยความมันมากและกลิ่นมะพร้าวอันรุนแรงเหลือเกิน(ใช้ทีกลิ่นติดผ้าห่ม ที่นอน หมอน มุ้งไปหมด)ทำให้เราใช้ไม่บ่อยนัก หันไปใช้พวกครีมอะไรแบบนี้มากกว่า แต่มันก็ใช้ดีมากจริงนะสำหรับคนที่หน้าแห้งมากๆ

3.Ocean Skin Speedy Miracle Deep Ocean Water Essence
หลังจากที่เจอความมันจากน้ำมันมะพร้าวไปก็เลยหันเหมาที่วงการน้ำตบแทน ซึ่งน้ำตบส่งตรงจากทะเลอย่างน้ำตบปลาวาฬเป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่(พยายาม)ใช้ให้คุ้มมากเพราะแพง 555 ไม่ค่อยชอบนิดหนึ่งตรงที่มันมีน้ำหอม(แต่เราใช้แล้วไม่แพ้นะ) ส่วนตัวแล้วโอเคในระดับมาตรฐาน ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นนานขึ้นและใสขึ้นพอสมควร ผิวเด้งอิ่มน้ำดี แต่สำหรับคนผิวแห้งมากๆต้องใช้ตัวอื่นเพิ่มไปด้วย ส่วนตัวคิดว่ามันเหมาะกับผิวมันมากกว่าผิวแห้งแฮะ แต่ใช้ได้ดีเลยสำหรับคนที่ชอบบำรุงผิวนะ
 
 
4.Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion
ตัวนี้ไม่ได้พึ่งซื้อแต่มีมานานแล้ว เป็นตัวที่นึกอะไรไม่ออกก็หยิบมาใช้ก่อนแก้ขัดได้ทุกอย่าง เหมือนเวลาป่วยแล้วก็กินยาพาราไรแบบนี้ 555 ส่วนตัวขวดสีขาวเป็นสีที่เราชอบมากที่สุด ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี เลยค่อนข้างจะเบาใจว่ายังไงก็ไม่แพ้ สีขาวเป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นนะ เราว่าเอามาใช้แทนน้ำมันมะพร้าวได้เลยเพราะชุ่มชื้นสูสีกันมาก แต่ฮาดะมันดีกว่าตรงที่มันมีความเหลวๆแบบน้ำเปล่า ไม่ได้ข้น ใช้แล้วสบายหน้าดี แต่นอกจากความชุ่มชื้นมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพิ่มเติมเลยนะ(ถ้าใครอยากได้มากกว่านี้คงต้องใช้ตัวอื่น) อันนี้ใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืนเลย ส่วนตัวเราพกไว้ทาๆถูๆเวลาที่รู้สึกว่าหน้าแห้งเป็นพิเศษ

5.Physiogel Soothing Care A.I. Cream
จริงๆไม่ชอบอันนี้มากที่สุดเพราะมันเหนียว 555 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันช่วยหนังหน้าเราได้เยอะจริงๆ อันนี้ได้มาจากหมอค่ะ หมอบังคับให้ทาก็ต้องทา ก็ใช้เฉพาะกลางคืนเพราะมันข้นไม่ไหวแล้ว 555 ด้วยความที่อยากหายไวๆ ก็ใช้เป็นสลิปปิ้งมาส์กไปเลย เฮ้ยมันดีขึ้นจริงวะ ปกติหน้าเราจะแห้งแบบเป็นขุยๆแต่ใช้อันนี้แล้วหน้ามันไม่ลอกเป็นขุยๆแล้วอ่ะ รู้สึกได้ว่าผิวแข็งแรงขึ้น อากาคันๆเคืองๆตึงๆหน้าก็ไม่ค่อยมี แต่เสียตรงนี่มันข้นไปหน่อยไม่ใช่สไตล์ แต่เราก็ยังใช้อยู่นะ ใช้คู่ไปกับjolienaอีกที ใช้บ่อยพอกัน

6.Skinfood Premium Tomato Whitening Essence
อีกปัญหาหนึ่งที่เราเจอนอกจากการหน้าแห้งแล้วคือสีผิวไม่เท่ากันค่ะ เหมือนว่าหน้าบางแล้วโดนอะไรนิดหน่อยก็เป็นเอฟเฟคไปหมด แต่เรายังไม่กล้าใช้ครีมผิวขาวปกติเพราะกลัวว่าถ้าใช้แล้วจะแพ้ เลยพยายามหาอะไรที่ทำให้หน้าใสแล้วก็ไม่แรงแบบที่คนหน้าแบบเราใช้ได้ และที่ตอบโจทย์ที่สุดก็เอสเซนต์มะเขือเทศมาจากSkinfoodนี่แหละ จริงๆที่เลือกมาใช้เพราะความออแกนิก(หักคะแนนตรงมีน้ำหอมอยู่นิดหนึ่ง) คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ตามสบาย นอกจากทำให้หน้าขาวใสขึ้นมันก็ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกทางด้วยนะ
 
 
7.Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++
กันแดดนี่ขาดไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าหน้าจะเป็นยังไงก็ต้องมีกันแดดให้หน้าบ้างแหละ ยิ่งหน้าบางๆยิ่งดำง่ายอยู่ด้วย ถ้าไม่มีกันแดดเดี๋ยวกลายเป็นเปาปุ้นจิ้นแน่ 5555 กันแดดนมเปรี้ยว(เราชอบเรียกงี้เพราะกลิ่นมันนมเปรี้ยวอ่ะ555)นี่มีติดตัวไว้นานแล้วล่ะ ใช้ตลอดตั้งแต่ตอนหน้าปกติจนถึงตอนหน้ามีปัญหาก็ยังใช้อยู่ เป็นเดอะเบสในเรื่องกันแดดจริงๆ ใช้ง่ายเกลี่ยง่าย กันแดดกันน้ำติดทนแน่นมาก นอกจากเรื่องการกันแดดแล้วยังช่วยบำรุงผิวได้ด้วย ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากบอกว่าดี ใช้ๆไปเถอะ 555
 
ตอนนี้หน้าตาก็กลับมาดีแล้ววว แต่งหน้าจัดเต็มได้ตามปกติเหมือนเดิม
 
ทั้งหมดนี่เป็นตัวที่เราใช้ประจำช่วงที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้า จนปัจจุบันก็กลับมาหน้าดีจนสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเหมือนเดิม เก็ตฟีลม่ะแบบหน้าแห้งดั่งทะเลทรายซาฮาร่าแล้วสามารถกลับมาชุ่มฉ่ำได้อ่ะ พูดเลยว่าปลื้มมากๆค้า 5555 หลายอันเราก็ยังคงใช้ต่อมาอยู่นะเพราะประทับใจจากการได้ใช้ในครั้งนี้นี่แหละ ถือว่าในเรื่องแย่ๆก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่แหละ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เข็ดนะ เข็ดมากกกก ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเลือกเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ก็เน้นอันที่มีราคาแพงๆดีๆไปเลย ไม่อยากพลาดหน้าพังอีก สาวๆเวลาใช้อะไรก็ระวังกันด้วยน้า อย่าเห็นแก่ของถูกเดี๋ยวจะต้องมาเสียเวลารักษาหน้าใหญ่โตแบบเราอีก นานาเชิดเพี้ยนเสียงสูง
ชื่อสินค้า:   Joliena Plus,Tropicana,Ocean Skin,Hada Labo,Physiogel,Skinfood,Anessa
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่