เหตุเกิดจากโดนดองคิวทำฟัน 2 ปี เลยเจอหมอฟันดีดีเข้า

....หลังจากที่ผมได้ตั้งกระทู้ https://pantip.com/topic/37793616 บอกเล่าเรื่องราวความรักระยะไกลของผมแล้ว ซึ่งมันก็ได้สิ้นสุดลงไปแล้วเนื่องจากเหตุผลหลายๆ อย่าง ทั้งระยะทาง หน้าที่การงานที่เปลี่ยนไป รวมถึงใจของคนด้วยเช่นกัน  ใช่ครับผมถูกบอกเลิกในวันเกิดของตนเอง ฮ่าๆ แต่ก็ทำใจไว้สักพักแล้วครับ  ก็ขอบคุณช่วงเวลาดีดีที่ได้ทำร่วมกันมานั่นแหละครับ ระยะเวลากว่า 1 ปีก็มีความสุขมาก และขับเคลื่อนชีวิตผมได้ดีพอสมควร  แต่กระทู้นี้ผมได้เจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดครับ ผมเลยอยากจะแบ่งปันให้ฟังว่า บางครั้งทุกอย่างมันก็เหมือนเป็นไปตามพรหมลิขิต ถ้าคนนั้นไม่ไป คนนี้ก็ไม่มา

....เหตุเกิดจากผมโดนดองคิวทำฟัน 2 ปีครับ  เนื่องจากผมเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มือถือ  ทำให้ จนท ไม่สามารถติดต่อผมให้มาทำฟันได้ประกอบกับผมก็ไม่ค่อยว่างด้วยเช่นกัน  เพราะช่วงนั้นผมอยู่ ปี 3-4 งานเยอะมาก อีกทั้งวิจัยก็ต้องทำ  ทำให้ไม่ได้โฟกัสเรื่องฟันเลย  พอผมขึ้นปี 5 ทำให้มีเวลามากขึ้นเล็กน้อย  จึงเข้าไปติดต่อกับ จนท ที่ รพ ทันตกรรม ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสานครับ  แต่ดูเหมือนว่าผมจะโชคร้ายนิดหน่อย  เพราะไม่มีหมอคนไหนว่างเลย ฮ่าๆ (หมอในที่นี้ก็คือ นศ.ทันตแพทยฯ ปี 5-6) เพราะแต่ละคนก็มีคนไข้แล้วก็คิวเต็มหมดแล้วด้วย  แต่พี่ จนท ก็ได้ให้หมายเลขโทรศัพท์หมอคนหนึ่งมา  ผมก็ไม่รีรอ  บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้  แล้วช่วงเย็นๆ ก็ได้โทรไปหาพี่หมอเขา (ขออนุญาตเรียกพี่หมอละกัน ฮ่าๆ )  พอโทรไปปุ๊บก็ได้คุยเล็กน้อยว่าเราต้องการจะทำอะไร  แต่บังเอิญว่าช่วงนั้นคิวพี่เขาไม่ค่อยว่างเลย  ผมก็เลยรอต่อไปเรื่อยๆ  เพราะผมก็ว่างตลอดอยู่แล้วเลยไม่ได้กังวลอะไร

....วันต่อมา  มี ผช คนนึงแอดเฟซบุ๊คเข้ามาแล้วก็ทักแชทมาหาผมบอกว่า "สวัสดีครับคนไข้  พี่หมอเองนะ  ที่น้องโทรมาเมื่อวานครับ"  คือตอนนั้นอึนๆ งงๆ  เพราะว่าเข้าไปส่องแล้ว ไม่มีอัลไลเลยยยยยยยยยยยย  อารมณ์เหมือนเฟซบุ๊คปลอมน่ะครับ ฮ่าๆ  อีกอย่างมีเพื่อนร่วมกัน 5 คน  เราก็งงว่าเออบังเอิญจัง  แต่ที่งงกว่านั้นคือ  พี่เขารู้ได้ยังไงว่าเราเนี่ยยยยเป็นคนไข้ของเขา  เพราะเรายังไม่เคยเจอหน้าหรือเห็นหน้ากันเลย  แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่เขาอาจจะเซิร์จหาชื่อ-นามสกุลเราก็ได้  เพราะว่าชื่อเฟซบุ๊คผมตั้งเป็นชื่อ-นามสกุลจริง  เราก็คุยเรื่องที่จะทำฟันกันปกติครับไม่มีอะไร  (ที่ไม่มีอะไรไม่ได้คิดอะไรเนื่องจากตอนนั้นผมยังคบกับแฟนเก่าอยู่ด้วย ผมก็ไม่ได้มองใครเลยเพราะเรามีคนของเราอยู่แล้ว)  ก็นัดไปตรวจฟันก่อน  เราก็ไปตามนัดทุกครั้งแหละครับ  แต่ทำฟันกับ นศ. นี่จะทำนานหน่อย  เพราะจะได้นัดบ่อยมาก  ซึ่งผมก็โอเคเพราะเราก็อยุ่ใกล้ๆ รพ อยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร

....พอได้เจอหน้าครั้งแรกนะครับ  สิ่งที่คิดในหัวคือ  เอ๋าาาา ทำไมไม่เหมือนในรูปเลย ฮ่าๆ พี่เขาดูดีกว่าในรูปอะนะครับ  คือที่จริงแล้วเนี่ยยังไม่มั่นใจว่าพี่เขาเป็นพี่หรอกครับ  แต่ก็เรียกพี่ไว้ก่อน  เพราะเรียนชั้นปีเดียวกัน  จริงๆ แล้วอายุก็น่าจะเท่ากัน  แรกๆ เราก็ยังไม่ได้คุยกันอะไรมากครับ  ในแชทก็มีแต่เรื่องทำฟันนี่แหละ  อีกอย่างผมเป็นพวกตอบแชทช้ามากกกกก  ไม่ค่อยเข้าไปดูแชทเลย  เพราะปิดแจ้งเตือนทุกอย่างในโทรศัพท์ไว้  ดังนั้นว่างจริงๆ ถึงจะเข้าไปดู  พี่เขานัดให้ไปทำอะไรก็ไปทำนั่นแหละครับ  แต่ช่วงนั้นพี่เขายังไม่ว่างและยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะได้ทำให้หรือไม่  เพียงแค่เหมือนไปตรวจๆ ดูเฉยๆ  ระหว่างนั้นก็ได้ทำฟันกับพี่ปี 6 รอ  เป็นเคสสอบพี่เขาพอดี  เป็นพี่ ผญ นะครับ  (แอบดีใจ  เพราะจาก ปสก  แล้ว ผญ จะมือเบามากและทำได้นุ่มนวลมาก  หมอ ผช ที่เจอนี่ทำทีปากระบมหมด ฮ่าๆ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ)  นั่นแหละผมก็ไปทำฟันกับหมอ ผญ รอ ทำไปเรื่อยๆ ครับ

....และแล้วหลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 เดือน  พี่เขาก็โทรมาครับ  แล้วก็มาคุยกันเรื่องที่จะทำฟันว่าจะทำประมาณวันไหน  นัดวันที่เท่าไหร่  ทำอะไรบ้างนั่นแหละครับ  ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเลิกกับแฟนไป  ผมไม่เคยปิดกั้นตัวเองนะ  เพราะคิดว่ายังไงชีวิตเราก็ต้องเดินหน้าต่อ  แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับพี่เขานะครับ  ก็คงยังเหมือนเดิม  ยังเฉยๆ อยู่  จนถึงวันที่เราจะต้องทำฟัน  เราก็เจอกันอีกครั้ง  แล้วก็คือต้องไปเอ็กซเรย์ก่อนที่จะทำทุกอย่างเลย  วันนั้นก็ไปตามนัดปกติ  จุดที่ผมประทับใจก็คือ  พี่เขาดูแลดีมากทั้งๆ ที่เราก็อยู่ได้แหละแต่ก็ยังคอยมาสอดส่องความคืบหน้า 55555 แต่วันนั้นก็ยังไม่ได้ทำฟันครับ ฮ่าๆ หมดเวลาราชการก็ต้องกลับครับ  สรุปแล้ววันนั้นก็คือได้เอ็กซเรย์อย่างเดียว  เลยต้องหาวันนัดวันใหม่มาเพื่อที่จะทำฟันครับ

....พอได้วันนัดแล้ว ผมก็มาตามนัดธรรมดา  เคสผมนี่ต้องอุดฟันครับ  วันแรกกับวันที่สองนี่ผมยังไม่ได้อุดครับ  เพราะต้องรอไรหลายอย่างผมก็บอกไม่ถูก  ก็รู้แต่ว่ายังไม่ได้เริ่มอุด ฮ่าๆ ก็นัดไปเรื่อยๆ แหละครับ  จนถึงวันที่ได้อุดจริงๆ  เมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ที่แล้วนี่แหละครับ  ด้วยสภาพฟันผมเนี่ยมันทำให้ติดแผ่นกั้นน้ำลายยาก ยากมากๆ ด้วย แล้วพอติดได้แล้วคือเจ็บมากครับ  จิกเหงือกมากเลยครับ  แต่ผมก็อดทนเอานะครับ  แต่สิ่งที่พีคคือ  ผมเกิดปวดฉี่ขึ้นมาครับ  ผมก็บอกพี่เขาไปนั่นแหละว่าปวดฉี่  พี่เขาก็ดูเหวอๆ นะครับเพราะเพิ่งจะติดแผ่นกั้นน้ำลายได้  ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมจะกลั้นไว้ 5555 อดทนเอา ฮึ้บๆๆๆ  แต่ความอดทนมันก็มีขีดจำกัดอะครับ  ผมเลือกวิธีนอนหลับหนีอาการปวดฉี่กับอาการเจ็บเหงือกเนื่องจากกิ๊ฟที่หนีบแผ่นกั้นน้ำลายจิกเหงือก  ปวดฉี่นี่ขมิบไม่รู้จะขมิบยังไงแล้วครับตอนนั้น  ความอดทนมันก็มีขีดจำกัดอะนะครับ ฮ่าๆ หายใจนี่แทบจะเล็ด  ผมเลยบอกพี่เขาว่า "พี่ครับ ไม่ไหวแล้วครับ  ขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหมครับ"  พี่เขาก็รีบทำแหละครับ  คือจนได้มัดแผ่นกั้นน้ำลายไว้ในปากแล้วก็อมไปเข้าห้องน้ำด้วย  แล้วก็รีบไปรีบมาด้วย  พี่เขาก็พาไปนะ รอด้วย คือดูแลดีอะ  ตอนนั้นแหละรู้สึกประทับใจ ฮ่าๆ  แต่วันนั้นอุดชั่วคราวไปแล้วค่อยมาอุดจริงๆ  เพราะเวลาไม่พอครับ  ฮ่าๆ  จะได้มาเจอหน้าบ่อยมากกกก

....หลังจากที่ทำฟันมา  จุดเริ่มต้นอยู่ตรงนี้แหละครับ  วันนั้นช่วงค่ำๆ  พี่เขาก็ทักมาบอกว่า "พี่ขอโทษนะที่ให้อั้นฉี่"  จังหวะนั้นคือแบบ  เออผมก็ไม่รู้จะตอบไปไงอ่าาาา  คือเราก็เกือบทำให้พี่เขาทำไม่เสร็จเหมือนกัน  เลยบอกพี่เขาไปตามนั้น  แต่เราก็ได้บอกพี่เขาไปว่า "เอาเป็นว่าเดี๋ยวเลี้ยงข้าวปลอบใจละกัน" ฮ่าๆ ว่างๆ ค่อยไปกินข้าวกัน  นั่นแหละครับจุดเริ่มต้นมันอยุ่ที่ตรงนี้  เราก็เริ่มคุยเรื่องทั่วๆ ไปมากขึ้น  คือผมชอบออกกำลังกายงี้ก็คุยเรื่องนี้แลกเปลี่ยนกันไป  วันนั้นก็คุยจนดึกอยู่  ผมเลยขอตัวไปนอนก่อนฮ่าๆ เพราะต้องตื่นเช้า  พี่เขาเลยบอกว่า "ไมนอนไวจัง" จังหวะนั้นคือแบบ เห้ยยยยย ไม่ธรรมดา (คิดไปเอง) ก็บอกฝันดีอะไรทำนองนี้แหละครับตามปกติ

....คือตอนนี้ผมต้องทำฟันกับพี่หมอ 2 คน พี่ ผญ กับ ผช แหละครับ  ซึ่ง ผญ นี่อยู่ปี 6 แล้วได้นัดวันมาทำฟันนานแล้ว  แล้ววันที่ไปทำฟันกับพี่ ผญ คือความบังเอิญมันมีบนโลกใบนี้จริงๆนะครับ ผมขึ้นไปที่ห้องทำฟันพอดีเจอพี่เขาเดินออกมา (พี่หมอ ผช) น่ะครับ  พี่เขาก็โบกมือทักทายแหละครับ แบบเขินๆ เราก็เลยยิ้มๆ แบบเขินๆ ส่งกลับไป  คือมันรู้สึกเขินจริงๆ นะ วินาทีนั้น ฮ่าๆ วันนั้นคือยิ้มทั้งวัน มีความสุขมากกกกก ฝึกงานอยู่เจอเรื่องปวดหัวขนาดไหนก็มีความสุขอะ เอาจริงๆ หน้าพี่เขาตอนนั้นลอยมาตลอดเลย  เลยคิดว่าเราตกหลุมรักพี่เขาเข้าแล้วแหละ ฮ่าๆ

....แล้วมีวันนึงคือจะต้องเดินทางไปทำธุระที่ กทม เลยถามพี่เขาว่า เราสามารถเอามอไซด์ไปจอดไว้ที่สนามบินได้หรือไม่  เพราะไม่อยากใช้แท็กซี่หรือแกร็บเนื่องจากรู้สึกแพง ฮ่าๆ 1 นาทีต่อมา พี่เขาตอบกลับมาว่า  หาในอินเตอร์เน็ต  เขาบอกว่ามีที่จอดแต่ไม่รับฝาก  พี่เขาก็ให้คำแนะนำอย่างอื่นๆ แทน  เอออันนี้ก็แบบอึ้งๆ นิดๆ เพราะผมคนถามแท้ๆ ไม่หาข้อมูลก่อนเลย ฮ่าๆ ดูแย่ๆ ยังไงไม่รู้  แต่ก็ได้แต่ขอบคุณพี่เขาไป  ก็มีคุยต่ออีกสักเล็กน้อย  พอถึง กทม  คืนนั้นพี่เขาก็ทักมานะครับว่า "ทำไรอยู่" อะไรทำนองนี้ เราก็ตอบกลับไป แล้วถามกลับ  คือวันนั้นพี่เขาไปชิวๆ ที่บาร์  เราก็เลยถามว่าไปกับใคร  พีคมากกกก พี่เขาตอบกลับมาว่า "ไปกับแฟน" เออตอนนั้นช็อค ช็อคมาก มากที่สุด ใจหล่นตุ๊บเลยยยยยยยยยย แบบเฮ้ยยยย ต้องถอยแล้วงั้น  แต่ผมก็ถามต่อแหละว่าจริงรึเปล่า  พี่เขาก็ถามกลับมาว่า "เชื่อเหรอว่าพี่มีแฟน"  "หน้าพี่เหมือนคนมีแฟนเหรอ" แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีก  พีคกว่ามีแฟนก็คืออออออออออออออออ ประมาณ 1 ชม ถัดมา เพื่อนพี่เขารีเควสแชทมาบอกว่า "เธอ เราเป็นเพื่อนหมอ...นะ เธอชอบเพื่อนเราใช่ป้ะ" ผมก็เลยตอบกลับไปว่า "เขามีแฟนละนี่" เพื่อนเขาเลยบอกว่า "มันไม่มีแฟนนนนนน เรามาแก้ข่าว  ถ้าชอบจริงๆ ก็เดินหน้าต่อเลย สู้ๆ" คือจังหวะนั้นคือ ทั้งพีคคคคคคคทั้งช็อค ทำไรไม่ถูก ไม่นงไม่นอนมันแล้ว ฮ่าๆ เพื่อนพี่เขาเลยบอกอีกว่า "มันโสดมานานเลยเขินๆ กลัวๆ ถ้าชอบจริงๆ ให้แชทไปบอกเลย ถ้าชอบจริงๆ อะ" เราเลยตอบกลับไปว่า "แชทบอกมันดูไม่จริงใจเท่าไหร่  แต่จะไปกินข้าวกันอยู่อาทิตย์หน้า" แล้วก็ขอบคุณเพื่อนเขาอะแหละ

....พอกลับมาก็ไปทำฟันกับพี่เขาต่อนั่นแหละครับ  จังหวะเจอหน้ากันคือเขินมากกกกกก ฮ่าๆ ยิ้มมมมมม แบบบบบ โอ้ยยยไม่ไหวแล้ว  พอทำเสร็จ เย็นๆ พี่เขาก็ทักมาถามนั่นแหละว่าเป็นยังไงบ้าง (ตอนนั้นมีเรื่องนิดหน่อยแล้วบ่นๆ ในเฟซบุ๊คเลยไม่แน่ใจว่าถามเรื่องไร ฮ่าๆ) เลยตอบเรื่องฟันไปตามความจริงว่า  ทำดีมากกกกก มือเบา ทำละเอียด เนี้ยบสุดๆ พี่เขาก็ดูดีใจนะ  แต่ที่เราพูดไปก็คือความจริงอะแหละ  พี่เขาเลยถามว่าเกิดเรื่องไรเล่าไรงี้  แต่เรื่องมันยาวเลยบอกพี่เขาไปว่าเอาไว้ไปกินข้าวด้วยกันแล้วจะเล่าให้ฟังนะครับ  จนวันไปกินข้าวด้วยกัน  ผมก็ขับรถไปรับพี่เขาที่หอ  จากนั้นก็ไปกินชาบูกัน  กินประมาณ 2.30 ชม ได้ ฮ่าๆ นานมากกก คุยกันสนุกเลย แต่ผมพูดเก่งอะ (ไม่รู้จะพลาดตรงนี้รึเปล่าพูดเก่งไป) กลัวพี่เขาไม่ชอบอยู่  แต่มันก็คือตัวตนของผมอะเนอะ  เลยถามพี่เขาว่ารู้เมื่อไหร่ว่าผมชอบพี่  พี่เขาก็บอกว่าไม่รู้เลย  (อันนี้ไม่รู้อำกันรึเปล่า ฮ่าๆ)  พอไปส่งพี่เขาที่หอเราก็ร่ำลากันธรรมดา บ๊ายบายกันแบบเขินๆ  คืนนั้นคือนอนหลับลึกมากกกก ฝันดีสุดๆ  รู้สึกมีความสุขมากเลยนะ

....หลังจากวันนั้นผมก็มีนัดไปทำฟันกับพี่ ผญ และวันนั้นผมก็ได้เจอกับพี่เขาโดยบังเอิญอีกครั้งครับ พอผมขึ้นไปถึงปุ๊บป๊ะหน้ากับพี่เขาพอดีเลยครับเลยโบกมือทักทายกันนั่นแหละครับ  เขินๆแบบเดิมเลย  แต่หลังจากวันนี้นี่แหละครับเราไม่ค่อยได้คุยกันเลยเพราะพี่เขาก็จะสอบผมก็มีงานต้องสะสางเช่นกันเลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่แต่ผมก็ยอมรับนะว่าตามจีบพี่เขาอยู่ซึ่งเป็นคนแรกที่ตามจีบเลยแฟนที่ผ่านๆมาคือเป็นตัวเราที่ถูกจีบมาตลอด  แต่ผมคิดว่าคนนี้แหละที่เราอยากจะคุยอยากจะคบด้วยมีเรื่องราวที่ดี  มีที่มาที่ดีกกจุดเริ่มต้นมันดีอะครับ  เราไม่ได้รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชั่น  แต่เรารู้จักกันจากธุระต่างๆจนได้พูดคุยกัน  ผมก็ยังไม่รู้นะครับว่าพี่เขาคิดยังไงกับผม  แต่ผมก็อยากจะทำตามความรู้สึกตัวเองผมจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

ปล. เรื่องที่ประทับใจอย่างหนึ่งคือ ผมกับพี่เขาเกิดวันเดียวกัน เดือนเดียวกัน แต่คนละปีกันครับ  จริงๆ ความบังเอิญมันมีบนโลกจริงๆ ครับ

...สุดท้ายผมขอบคุณที่เข้ามาอ่านและแลกเปลี่ยน  ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่