ใครเคยอยู่ในโรคแห่งจินตนาการบ้าง ซึ่งโลกแห่งจินตนาการกับโลกแห่งความเป็นจริง มันต่างกันโดยสิ้นเชิง

อาจเป็นเพราะเราไม่เคยได้รับความอุ่นอุ่นจากพ่อแม่ตั้งแต่คลอดออกมา ไม่เคยได้กินนมแม่เลย เพราะแม่เราน้ำนมไม่ออก แม่เอาเราไปฝากญาติเลี้ยงแต่เราคลอดและออกจาก รพ. ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เราจึงจินตนาการถึงพ่อแม่อีกคนที่ให้ความอบอุ่น ความรัก ความเข้าใจ พ่อแม่ที่ไม่เคยบังคับลูก ไม่ห้ามโน่นนี่นั่น ไม่ทำร้ายลูกไม่ว่าทั้งทางด้านร่างกายหรือจิตใจ ไม่เห็นลูกเป็นทาส มีเหตุผลและรับฟังหตุผลของลูก พ่อแม่ที่กอดลูก ห่วงลูกอย่างแท้จริง ไม่ดุ ไม่ด่า ไม่ตี โดยที่ไม่มีเหตุผล เอาใจใส่ ไม่มาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวที่มากเกิน (ของที่มาส่ง พ่อแม่จริงเราจะถืออภิสิท แกะดูตลอด) ไม่บังคับ ให้ความเป็นอิสระโดยดูอยู่ห่างๆก็ได้ พูดคุยได้ทุกเรื่อง เป็นที่ปรึกษาเวลาเรามีปัญหาได้ ซึ่งคนที่เลี้ยงเรามานิสัยดี ไม่เคยทำให้เราเสียใจเหมือนพ่อแม่แท้ๆที่เราต้องเสียน้ำตาให้พวกท่านตลอด (เสียน้ำตาจากคำพูดและการกระทำของพ่อแม่นับตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ใกล้พ่อแม่แล้ว และเป็นแบบนี้มาเรื่อย คล้ายเราจะเป็นโรคซึมเศร้าไปแล้ว เครียดทุกวัน กดดันตลอด มันจำเป็นจริงๆที่ต้องย้ายมาอยู่ใกล้พ่อแม่ ) ตั้งแต่เราเกิด เราพอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนั้นที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เราคิดว่าเราโชคดีมากๆที่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงเอง ถ้าพวกเขาเลี้ยง เราคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว หรือพวกเขาอาจเลี้ยงไม่เป็นเลี้ยงเราให้อดๆอยากๆ อาจตายแบบอนาถาแต่เด็กก็ได้ แต่เราก็อยากมีพ่อแม่ดีๆเหมือนคนอื่น ซึ่งนิสัยพ่อแม่ในจินตนาการตรงข้ามกับพ่อแม่จริงทั้งหมด แม่ตัวจริงไม่เคยมาหามาเยี่ยมที่บ้านญาติเลย มาแต่พ่อ และนานๆมาที ไม่เคยให้เงินหรือส่งเสียเราเลย มาส่งก็ตอนเราเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เหตุผลคือกลัวเราไม่เลี้ยงตอนพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เอง เมื่อเราไปอยู่หอเอง เพราะไปเรียนอีกจังหวัดตั้งแต่ ม.1 พ่อแม่ไม่เคยมาเยี่ยมหรือโทรหาสักครั้ง ทั้งๆที่ตอนนั้นก็มีมือถือแล้ว จำความได้พ่อแม่ไม่เคยพาไปเที่ยวเลย พ่อมีนิสัยดุ ชอบก้าวก่าย บังคับหรือห้ามแม้เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ และอีกหลายอย่าง แม่ก็เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยดุ มีปัญหาเรื่องอื่นแทน เช่นก้าวก่าย จู้จี้จุกจิก บังคับ ต้องทำอย่างนี้เท่านั้น ไม่อะลุ่มอะล่วยเลย อะไรที่เป็นไปไม่ได้ หรือไม่ทัน แกก็จะบังคับให้ทำให้ได้ โดยเราอธิบายไปว่าทำไมมันถึงไม่ได้ แกก็บอกว่าเถียงแก เช่น แกให้ไปกรุงเทพ โดยไปเช้าสุด 8 โมง เดินทาง 6 ชม.ขั้นต่ำ ไม่รวมเดินทางต่อไปทำธุระอีก รถติด ไหนจะธุระเสดอีก แล้วก็นั่งรถเมล์ติดๆเพื่อมาต่อรถตู้ อย่างไรวันนั้นก็ไม่ทันรถตู้เที่ยวสุดท้ายยุดี (วันๆแกอยู่แต่บ้าน ไม่เคยไปไหน ไม่เคยนั่งรถสาธารณะ ไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นยังไง แกไม่รู้ แกไม่ฟัง แกจะให้เราทำตามความต้องการของแกให้ได้ถ้าทันก็เหนื่อยตายค่ะ วิ่งขึ้นรถเมล์และลุ้นจนเหนื่อยว่าจะทันไหม การคุยกับแม่มันเหนื่อยใจค่ะ แต่ถ้าไม่คุยก็โดนด่า ไปไหนต้องรายงานล่วงหน้า ปัจจุบันมีเหตุจำเป็นต้องมาอยู่ใกล้พ่อแม่ คนที่เลี้ยงเราก็ย้ายมาด้วย จึงรู้ว่านิสัยพ่อแม่เป็นคนหัวโบราณมาก เราออกไปไหนไม่ได้เลย ทำให้เราไม่มีเพื่อนเลย พ่อแม่บังคับให้เป็นทาส เหมือนโดนขังไว้ แค่ไม่ได้ขังจริงแต่ความรู้สึกอ่ะเหมือนโดนขัง มีรถแต่ห้ามออกไปไหน เราอยากหนีไปให้ไกลๆ แต่ติดตรงที่คนที่เลี้ยงเราไม่ยอมไปด้วย เขาไม่เห็นด้วยกับความคิดเรา ปัจจุบันเขาก็เครียดที่เรามีปัญหากับพ่อแม่ เขาบอกว่าพ่อแม่จะทำอะไรเราเราก็ต้องยอม และเราปล่อยบางอย่างไปอย่าเก็บไปคิด เขาจะทำไรก็เรื่องของเขา เราก็อยากทำให้ได้นะ แต่ถ้าใครไม่เจอกับตัวเองจริงๆไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ได้ เขาบอกว่าพ่อแม่ทำให้เราเกิดมาเราก็ต้องเลี้ยงดู มันเป็นหน้าที่ (เห้อ)      

   ตั้งแต่ ม.1 ถึงจบมหาลัย เราอยู่หอ เราเคยเป็นอิสระมาก่อน พอมาอยู่บ้าน โดนพ่อแม่ห้ามโนน่นนี่นั่นสารพัด เช่น จะออกไปส่งไปรษณีย์ให้ลูกค้า ก็ยังถามว่าส่งอะไร ข้างในเป็นอะไรบ้าง ทำหน้าตาไม่พอใจไม่อยากให้ออกไป ออกนอกบ้านไม่ได้ทั้งๆที่มันจำเป็น ไม่ใช้รถเลย รถก็พังอีก เครียดค่ะ ในปัจจุบันก็ยังจินตนาการเหมือนมีพ่อแม่อีกโลกที่คอยเข้าใจให้กำลังใจเราอยู่ พูดกันได้ทุกเรื่อง เลี้ยงลูกได้ไม่ขาดตกบกพร่อง เราจินตนาการว่าแม่คนนี้สักวันต้องมารับเราไปอยู่ด้วย เราจินตนาการทุกทีก็มีความสุขเหลือเกิน อาจฟังว่ายากที่จะมีพ่อแม่แบบนี้อยู่บนโลก.... แต่เราเชื่อว่าพ่อแม่ที่นิสัยแบบที่เราจินตนาการมีอยู่จริงในโลกนี้แน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเป็นพ่อแม่ใครๆคือผู้โชคดีคนนั้น ซึ่งอาจจะไม่ใช่พ่อแม่เรา แต่ถ้าเรามีลูกเมื่อไร เราจะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด เราไม่ชอบอะไรเราจะไม่ทำแบบนั้นกับลูกเด็ดขาด เด็กก็เป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะบังคับให้ซ้ายหัน ก็ต้องหันซ้ายตาม ตลอดทุกครั้งโดยไม่มีเหตุผล เช่น วันนั้นพ่อห้ามไปส่งไปรษณีย์ให้ลูกค้า ทำท่าทางไม่พอใจ ไม่ให้ออกไปเลย (ปกติเราส่งเคอรี่ ให้เคอรี่มารับที่บ้าน คชจ.มันสูง บางอย่างส่งไปรษณีย์ได้ ประหยัดกว่า เราก็เอา เพราะเป็นการประหยัดต้นทุนเราด้วย) แต่พ่อจะให้ส่งแต่เคอรี่ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด รถมีไว้จอดดูเฉยๆ ห้ามขับ แล้วซื้อมาเพื่อ??? เราบอกเหตุผลว่าจอดนานๆมันไม่ดีนะ แกก้อเถียงว่ารถแกเป็นสิบๆปีจอดแล้วก็ยังใช้ได้ ถ้าเราอธิบายไป=เราเถียง จึงวางเฉย ไม่รู้จะทำไงจริงๆ ได้แต่จินตนาการในโลกแห่งจินตนาการแล้วยิ้มหวานอยู่คนเดียว เมื่อเราว่าง เช่น ก่อนนอน เราก็จะจินตนาการทันที ทำให้หลับสบาย.  อาจเล่ากลับไปมาบ้างนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สุขภาพจิต ปัญหาครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่