ศึกแดงเดือดผ่านไปแล้วหลายคนก็เสียดายว่าเกมมันไม่สนุกสักเท่าไหร่ ส่วนตัวผมก็มองว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ผมเข้าใจมันมีปัจจัยหลายอย่างที่คนเป็นผู้จัดการทีมต้องคิด เราก็แค่คนภายนอกจะไปรู้อะไรทุกอย่างเหมือนคนที่อยู่ในสถานการณ์จริง แดงเดือดครั้งนี้มีประเด็นดังนี้ครับ
1.เกมแดงเดือดนี้ทั้ง2ทีมเล่นกันค่อนข้างใช้พลังและความฟิตเยอะมีเบียดมีกระแทกกันแต่ก็ระวังตัวและค่อนข้างรัดกุมมาก
2.ปัจจัยนึงที่ทำให้ทั้งสองทีมซึ่งเล่นกันเต็มที่แต่กลับบุกไม่สุด น่าจะมาจากโปรแกรมการแข่งขันซึ่งดันมาชุกช่วงนี้ แถมนักเตะที่เจ็บ ไล่ตั้งแต่ ucl เอฟเอคัพ พรีเมียร์ลีกที่เล่นกันต่อเนื่องทั้งกลางสัปดาห์และสุดสัปดาห์ จะเล่นเอามันส์หรือให้สะใจอย่างเดียวคงไม่ไหว ต้องนึกถึงสภาพทีมด้วย เพราะทั้ง2ทีมก็มีตัวสำคัญที่เจ็บพอๆกัน โดยก่อนแข่งลิเวอร์พูล มี 3ตัวที่เจ็บ จาก24ตัว ส่วนแมนยูถ้าตัดเฟลไลนี่ออก จะเจ็บ5ตัวจาก26 หลังจากนัดนี้แมนยูเจ็บเพิ่มไปอีก4 ส่วนลิเวอร์พูลเสียหายมากเพราะฟีร์มิโน่ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการประสานเกมก็เจ็บเช่นกัน
3.ด้วยสภาพเกมบุกของลิเวอร์พูลที่บุกสวน และสปีดเกมที่รวดเร็ว ผมว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาต้าและ เอร์เรร่าเจ็บ เพราะ2คน อายุ30 กับ29 กับเกมที่ต้องวิ่งไล่แบบนี้ ต่อให้ความฟิตถึง ต้องวิ่งไล่ขึ้นๆลงก็อาจบาดเจ็บได้
4.ลูกที่แรชฟอร์ดยิง บอกเลยว่าผมเสียวมาก เพราะแกยิง knuckle ball ได้ แต่ด้วยเกมที่บีมกันไวเลยทำให้เกิดความผิดพลาด เพราะเหมือนกับต้องรีบยิง เลยขุดดินจังเบอร์จนทำให้ตัวเองเจ็บเอง แต่ความฟิจแกดีมาก อยู่ได้จนจบเกมทั้งที่เจ็บเป็นคนแรก ส่วนคนอื่นไปต่อไม่ไหวเลยต้องเปลี่ยนตัวออกไป
5. ลูกที่ฟีร์มิน่เจ็บก็เช่นกัน ลิเวอร์พูลกำลังสวนกลับด้วยความไว ฟีโน่จ่ายบอลออกไปแต่ลงผิดจังหวะ เลยเจ็บไปด้วยซึ่งหวังว่าจะเจ็บไม่หนัก
6.วันนี้2ทีมลงมาด้วยโจทย์ที่เหมือนๆกันในความคิดผม แมนยูก็ไม่ได้หวังจะเอาชนะให้ได้ขนาดนั้น ลิเวอร์พูลก็มีโจทย์ว่าจะไม่โหมใส่มากกับเกมที่ใส่กันขนาดนี้ เพราะได้3แต้มแล้วตัวเจ็บเพิ่มคงไม่คุ้มกับความลำบากระยะยาวในนัดอื่น สู้เก็บ1แต้มแล้วเซฟตัวสำคัญไว้ดีกว่า ยิ่งตอนฟีร์มิโน่เจ็บนี่ผมว่าถ้าอยากจะบุกจริงๆจังเอาชากิรี่ลงไปป่วนแต่แรกเลยดีกว่า แต่ความเสี่ยงที่จะเจ็บมันจะสูง แถมถ้าเอาลงแล้วไม่ชนะจะได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งผมไม่แปลกใจที่เลยที่สเตอรริดจ์จะได้ลง
7.การเล่นแมนยูวันนี้คล้ายๆที่บาเยิร์นเล่น เพราะเห็นรับลึกจริงแต่ไม่ได้รับลึกแบบนั้นตลอด ผู้เล่นแมนยูจริงๆรับทั้งสนาม วิ่งไล่กันจนจ่ายลำบาก อาศัยจังหวะสวนกลับซึ่งบอลจะไปอยู่ที่ป๊อกบาเป็นหลัก จากนั้นป๊อกบาจะหาโอกาสจ่ายทะลุบ้าง ยิงบ้าง โยนบ้าง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ลูกากู ซึ่งวันนี้ลูกากูเป็นตัวที่คล็อปป์ก็คาดไม่ถึง เพราะมีบทบาทค่อนข้างเยอะ
8.ลิเวอร์พูลก็มาสไตล์เดิม อย่างที่ผมเคยบอกว่าการที่เกมรับลิเวอร์พูลไม่ดีทำให้ต้องมาพะวงเรื่องการรุก แถมต้องมาพะวงเรื่องจะเจ็บเพิ่มอีก ก่อนหน้านี้ที่กองหลังลิเวอร์พูลอยู่ครบเราจะเห็นเกมบุกบบไม่ห่วงหลังบ้านเลยโดนบุกสวนกองหลังก็แย่งกลับได้ไว แต่ตอนนี้เทรนท์และโกเมสไม่ได้อยู่ในสนาม กองกลางจึงไม่เน้นเจาะ หรือพาบอลไปเอง เพราะผู้เล่นแมนยูนั้นค่อนข้างแข็งแรงถ้าโดนเบียดแย่งและสวนกลับไปอาจเสียประตูได้ วันนี้เกมรุกลิเวอร์พูลมี2แบบเท่านั้นคือ โยนจากด้านขวาซึ่งก็ไม่แม่นเอามากๆ และการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของมาเน่กับซาล่าห์พาบอลเข้าไปซึ่งเป็นไปได้ยากมาก ส่วนจะยิงไกลนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะผู้เล่นแมนยูวิ่งทั่วสนามทำให้ไม่มีเวลาและอีกอย่างตัวยิงไกลถ้าไม่มีชากิรี่ก็คงไม่มีใครกล้ายิง
9.วันนี้โรเบิร์ตสันไม่ค่อยกล้าขึ้นเพราะลูกากูคุมอยู่ หรืออีกนัยนึงลูกากูก็ทำอะไรไม่ได้สัดวกมากเพราะโดนโรเบิร์ตสันคุม แต่โดยส่วนตัวผมแล้ววันนี้ลูกากูค่อนข้างป่วนทีเดียวเพราะป๊อกบาวึ่งโดนเฮนเดอร์สันตามก็ค่อนข้างเงียบ กลับกลายเป็นลูกากูที่ค่อนข้างป่วน หาจังหวะจ่ายทะลุช่อง มีกระโดดโหม่ง และโยนผ่านหน้าปากประตูหงส์ไป เรียกว่าน่าจะสร้างโอกาสได้เยอะสุดแล้วสำหรับทีมแมนยู
10. คล็อปป์มีธงในใจแล้วว่านัดนี้จะไม่ให้ใครเจ็บเพิ่ม จากที่เห็นว่าตอนแรกจะเอาเทรนท์ลงก็เปลี่ยนใจ ซึ่งผมก็ใจชื้นเหมือนกัน เพราะนัดก่อนหน้านี้ที่ลงผมเห็นเทรนท์จับหัวเข่าเลยคิดว่าไม่ดีแน่ในเกมที่ปะทะกันหนักแบบนี้ ถ้าเอาลงอีกมีเจ็บอีกแน่ ถ้าเป็นเกมยุโรปยังพอว่า เพราะหากมีปะทะกันแบบนี้มันฟาล์วแน่ๆ แต่บอลอังกฤษเน้นความแข็งแรง ปะทะกันแรงๆก็ไม่ฟาล์ว
11. การที่คล็อปป์เอาสเตอร์ริดจ์ลงคล็อปคงหวังว่าจะให้สเตอร์ริดจ์หาจังหวะยิงสวยๆเข้าไป จริงๆในทีมลิเวอร์พูลผมมองว่ามี3คนที่จับบอลดีที่สุดไม่ห่างตัวมาก คือ ฟีร์มิโน่ เทรนท์ และสเตอรริดจ์ สเตอร์ริดจ์เป็นคนที่จับบอลแล้วไม่ต้องแต่งมาก กดได้เลยทั้งซ้ายทั้งขวา แถมลูกยิงแกยังนิ่ง ส่าย และลูกไม่หมุนเลย คล้ายๆ knuckle ball แต่ไม่ฮุคขนาดนั้น แต่เวลาแกเลี้ยงบอลแล้วเหมือนบอลจะเกาะแกะเกินไป
12. บางคนบอกสเตอรริดจ์หมดสภาพ จริงๆผมว่าไม่ใช่ การจะใช้งานสเตอร์ริดจ์นั้นต้องมีคนจ่ายทะลุกช่องให้แกหลุดเข้าไปก่อกวน อาจจะยิงหรือส่งก็แล้วแต่ แต่ทีมลิเวอร์พูลนี่ไม่มีตัวนี้มานานแล้ว มีแต่เลี้ยงกินตัวเข้าไปชิ่งหรือส่งกันแถวเขตโทษแล้วถึงจะยิง บ่อยครั้งที่ตอนอยู่ตรงเขตโทษแล้วไม่ยอมยิงกัน ยังพยายามส่งให้เพื่อนอีก อาจเป็นเพราะแต่ละคนไม่ใช่หน้าธรรมชาติ ระยะไกลกว่าเขตโทษเลยไม่กล้ายิงเมื่อพยายามจ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษก็ธรรมดาที่กองกลังที่ยืนกันเต็มต้องสกัดได้ เกมของลิเวอร์พูลเลยจบตรงที่ไปถึงหน้าเขตโทษแต่ไม่ได้ยิง บ่อยครั้งที่ผมเห็นตัวรุกลิเวอร์พูลวิ่งทำทางแต่กองกลางกลับไม่ส่ง เงื้อเหมือนจะส่งแต่ก็พลิกบอลไปทางอื่น ก็เลยงงว่าทำไมไม่ส่ง แต่ถ้าชากิรี่ลงมา ลูกที่กองกลางจะดึงบอลไม่ส่งนั้น ชากิรี่จะส่งทันที เพราะถ้าส่งช้ากว่านี้จังหวะมันจะไม่สวย ซึ่งเมื่อวานชากิรี่ก็มีส่งลุกแบบนี้แต่มันมีเวลาน้อยไปนิด เกมก็ค่อนข้างจะปิดแล้ว เพราะแมนยูก็ลงมากันแน่น ผมว่าถ้าจะหาใครเล่นกับสเตอรริดจ์ได้ก็ชากิรี่นี่แหละ
13. สเตอร์ริดจ์เป็นคนที่ส่งทะลุช่องและส่งในจังหวะที่ถูกต้องได้ดี ไม่มัวลังเลดึงบอลกลับเพราะลังเลกลัวว่าจะส่งแล้วติด ซึ่งอาการแบบนี้เป็นโรคประจำตัวของกองกลางลิเวอร์พูลไปแล้ว วึ่งก็เข้าใจว่าจะเอาแน่นอน แต่ผมว่ามันเยอะไป อีกอย่างคือสเตอร์ริดจ์มีจังหวะเช็คไลน์และsignature ที่บอกให้รู้ว่าต้องส่งจังหวะนี้นะแล้วแกจะมีโอกาสหลุด ถ้าสังเกตให้ดี แกจะวิ่งขึ้นไปอยู่เหนือกองหลังนิดนึงเพื่อไม่ให้ล้ำแล้วย่อตัวเตรียมวิ่ง หากส่งจังหวะนี้แกไม่ล้ำแน่นอนแถมพวกที่จะเช็คล้ำต้องมีเหวอกันแน่ ผมเห็นแกทำแบบนี้บ่อยๆสมัยแรก แล้วเจอร์ราร์ดเป็นพวกชอบจ่ายทะลุอยู่แล้ว เรียกว่าทั้งสเตอร์ริดจ์กับซัวเรซยิงกันมันเลยทีเดียว แต่ทีม ณ ตอนนี้คงไม่ได้สนซิกของแก เพราะเน้นดึงบอลกันไปหน่อย
14.นัดนี้เป็นอีกนัดที่ซาล่าห์โดนประกบแบบหนักมาก เพราะแกตัวเล็ก เจอแรงกระแทกไปบอลก็จับบอลลั่นแล้ว ผมว่าแกต้องไปปรับปรุงการเลี้ยงบอลสักหน่อย จะได้เอาตัวรอดได้ยามโดนรุม เพราะมุมมองของผมแกยังสู้ฟีร์มิโน่ไม่ได้ แต่วันนี้ก็ได้เห็นความพยายามของซาล่าห์เรื่องฟรีคิก ก็หวังว่ามันจะเป็นอาวุธใหม่ได้
15. พูดถึงเรื่องฟรีคิก ถ้าไม่นับเทรนท์กับชากิรี่ ลิเวอร์พูลไม่มีตัวยิงฟรีคิกเลย ทั้งๆที่หน้าจะเป็นหน้าที่ของพวกตัวท็อปอย่างฟีร์มิโน่ มาเน่ หรือซาล่าห์ เพราะพวกเก่งๆมักจะยิงฟรีคิกเก่งด้วย อาจจะเป็นเพราะสไตล์เยอรมันไม่เน้นยิงเข้าเองอยู่แล้ว มีแต่ลูกสูตรส่งเข้าไปยิง
16. พูดถึงกองหลังหงส์แดงบ้าง วันนี้ก็ยังเอ๋อๆบ้าง มาติปจะยิงเข้าประคูอีกแล้ว ดูแล้วเป็นคนแปสกัดไม่เก่งเพราะมีปัญหาตลอด แต่กองหลังก็เริ่มเช็คล้ำหน้าได้สวยๆบ้าง จริงๆแล้วอาวุธอีกอย่างหนึ่งของลิเวอร์พูลคือการเช็คล้ำหน้า เพราะในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกพวกทีมกลางตารางเวลาบุกเร็วจะโดนเช็คล้ำหน้าตลอด เพราะวินัยเกมรับดี แต่พอตัวหลักเจ็บการเช็คล้ำหน้าก็แย่ลง เพราะถึงเช็คล้ำหน้าได้แต่ก็มีพลาดลูกที่ลูกากูครอสเข้ามา
17.พูดถึงแมนยูบ้าง นัดนี้ช่วงแรกป๊อกบาค่อนข้างหายเพราะโดนเฮนเดอร์สันตามติด แถมอีก2ตัว ฟาบินโญ๋ กับ ไวนัลดุมก็แพ็คกลางแน่นทีเดียว
18.แรชฟอร์ดก็เป็นอีกคนที่เด่น ถึงจะเจ็บแต่ในความคิดผมนั้น เพราะมีแรชฟอร์ดค้ำอยู่ทำให้ลิเวอร์พูลไม่กล้าลอยมาก
19. ลูกากูก็เป็นอีกคนนึงเพราะเนื้อแท้แล้วเป็นคนที่เล่นดีมากๆ ทั้งไว ใหญ่ คล่องและโหม่งได้ นัดนี้ก็มีจ่ายสวยๆโดยเฉพาะลูกที่ลินการ์ดหลุด ดีที่อลิสซงไว
20 กองหลังแมนยูและกองกลางคนอื่นก็วิ่งพล่านมาก วินัยดี มาเน่กับซาล่าห์ก็เข้าพื้นที่อันตรายไม่ได้ อย่างมาเน่จะเห็นว่า ยัง เอาไม่ค่อยอยู่แต่ก็วิ่งไล่ไม่ปล่อยให้มาเน่ลุยไปข้างหน้าได้ง่ายๆ อเล็กซิสที่เปลี่ยนมาแทนมาต้าดูเหมาะกับเกมแบบนี้มากกว่าเพราะแกจี๊ดและไวกว่าแถมความสามารถเฉพาะตัวก็ดีกว่า
21. ป๊อกบาวันนี้ถึงดดนประกบแน่นแต่ก็ไม่เสียบอลง่ายๆ เพียงแต่ว่าลูกจ่ายทะลุช่องของแกไม่ทำงานสักเท่าไร
22. มิลเนอร์วันนี้เล่นรับได้ดีแต่รุกก็อย่างที่เห็นว่าสู้เทรนท์ไม่ได้ บางจังหวะไม่ควรรอลูกตก อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยอายุ เพราะถ้าฝืนวิ่งไปเอื้อมไปเตะบอลเข้ากลางเลยอาจมีเจ็บ จริงๆแกก็น่าจะรู้ว่าถ้ารอลูกตกอาจจะไม่ทัน คงจะกลัวเรื่องการเจ็บด้วยส่วนหนึ่ง อีกอย่างวันนี้เวลาโยนเข้าไปแล้วลึกตลอด เสียโอกาสทุกที
23. จริงๆยังมีที่อยากเขียนเพิ่มแต่กลัวว่าจะยาวเกิน ผมขอสรุปสุดท้ายนะครับว่า ทั้งคู่เล่นกันเหมือนมีกั๊กๆนิดๆเพราะกลัวเจ็บเพิ่ม แต่เวลารับก็เต็มที่เพราะไม่อยากแพ้ เหมือนหวังผลเสมอทั้งคู่ ซึ่งก็สมใจไป ขอชมโซลชาว่าวางแผนมาดีจริงๆครับ มีจังหวะสวนสวยๆหลายลูกอยู่
ถึงจะเป็นจ่าฝูงแต่ยอมรับว่าอาการของลิเวอร์พูลน่าเป็นห่วง เราแฟนหงส์ก็เอาใจช่วยกันต่อไปครับ
เครดิต หงส์แดงรุ่นลุง ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=372747950183273&id=341536523304416&__tn__=K-R
ประเด็นหลังเกม แมนยู ลิเวอร์พูล ครับ
1.เกมแดงเดือดนี้ทั้ง2ทีมเล่นกันค่อนข้างใช้พลังและความฟิตเยอะมีเบียดมีกระแทกกันแต่ก็ระวังตัวและค่อนข้างรัดกุมมาก
2.ปัจจัยนึงที่ทำให้ทั้งสองทีมซึ่งเล่นกันเต็มที่แต่กลับบุกไม่สุด น่าจะมาจากโปรแกรมการแข่งขันซึ่งดันมาชุกช่วงนี้ แถมนักเตะที่เจ็บ ไล่ตั้งแต่ ucl เอฟเอคัพ พรีเมียร์ลีกที่เล่นกันต่อเนื่องทั้งกลางสัปดาห์และสุดสัปดาห์ จะเล่นเอามันส์หรือให้สะใจอย่างเดียวคงไม่ไหว ต้องนึกถึงสภาพทีมด้วย เพราะทั้ง2ทีมก็มีตัวสำคัญที่เจ็บพอๆกัน โดยก่อนแข่งลิเวอร์พูล มี 3ตัวที่เจ็บ จาก24ตัว ส่วนแมนยูถ้าตัดเฟลไลนี่ออก จะเจ็บ5ตัวจาก26 หลังจากนัดนี้แมนยูเจ็บเพิ่มไปอีก4 ส่วนลิเวอร์พูลเสียหายมากเพราะฟีร์มิโน่ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการประสานเกมก็เจ็บเช่นกัน
3.ด้วยสภาพเกมบุกของลิเวอร์พูลที่บุกสวน และสปีดเกมที่รวดเร็ว ผมว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาต้าและ เอร์เรร่าเจ็บ เพราะ2คน อายุ30 กับ29 กับเกมที่ต้องวิ่งไล่แบบนี้ ต่อให้ความฟิตถึง ต้องวิ่งไล่ขึ้นๆลงก็อาจบาดเจ็บได้
4.ลูกที่แรชฟอร์ดยิง บอกเลยว่าผมเสียวมาก เพราะแกยิง knuckle ball ได้ แต่ด้วยเกมที่บีมกันไวเลยทำให้เกิดความผิดพลาด เพราะเหมือนกับต้องรีบยิง เลยขุดดินจังเบอร์จนทำให้ตัวเองเจ็บเอง แต่ความฟิจแกดีมาก อยู่ได้จนจบเกมทั้งที่เจ็บเป็นคนแรก ส่วนคนอื่นไปต่อไม่ไหวเลยต้องเปลี่ยนตัวออกไป
5. ลูกที่ฟีร์มิน่เจ็บก็เช่นกัน ลิเวอร์พูลกำลังสวนกลับด้วยความไว ฟีโน่จ่ายบอลออกไปแต่ลงผิดจังหวะ เลยเจ็บไปด้วยซึ่งหวังว่าจะเจ็บไม่หนัก
6.วันนี้2ทีมลงมาด้วยโจทย์ที่เหมือนๆกันในความคิดผม แมนยูก็ไม่ได้หวังจะเอาชนะให้ได้ขนาดนั้น ลิเวอร์พูลก็มีโจทย์ว่าจะไม่โหมใส่มากกับเกมที่ใส่กันขนาดนี้ เพราะได้3แต้มแล้วตัวเจ็บเพิ่มคงไม่คุ้มกับความลำบากระยะยาวในนัดอื่น สู้เก็บ1แต้มแล้วเซฟตัวสำคัญไว้ดีกว่า ยิ่งตอนฟีร์มิโน่เจ็บนี่ผมว่าถ้าอยากจะบุกจริงๆจังเอาชากิรี่ลงไปป่วนแต่แรกเลยดีกว่า แต่ความเสี่ยงที่จะเจ็บมันจะสูง แถมถ้าเอาลงแล้วไม่ชนะจะได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งผมไม่แปลกใจที่เลยที่สเตอรริดจ์จะได้ลง
7.การเล่นแมนยูวันนี้คล้ายๆที่บาเยิร์นเล่น เพราะเห็นรับลึกจริงแต่ไม่ได้รับลึกแบบนั้นตลอด ผู้เล่นแมนยูจริงๆรับทั้งสนาม วิ่งไล่กันจนจ่ายลำบาก อาศัยจังหวะสวนกลับซึ่งบอลจะไปอยู่ที่ป๊อกบาเป็นหลัก จากนั้นป๊อกบาจะหาโอกาสจ่ายทะลุบ้าง ยิงบ้าง โยนบ้าง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ลูกากู ซึ่งวันนี้ลูกากูเป็นตัวที่คล็อปป์ก็คาดไม่ถึง เพราะมีบทบาทค่อนข้างเยอะ
8.ลิเวอร์พูลก็มาสไตล์เดิม อย่างที่ผมเคยบอกว่าการที่เกมรับลิเวอร์พูลไม่ดีทำให้ต้องมาพะวงเรื่องการรุก แถมต้องมาพะวงเรื่องจะเจ็บเพิ่มอีก ก่อนหน้านี้ที่กองหลังลิเวอร์พูลอยู่ครบเราจะเห็นเกมบุกบบไม่ห่วงหลังบ้านเลยโดนบุกสวนกองหลังก็แย่งกลับได้ไว แต่ตอนนี้เทรนท์และโกเมสไม่ได้อยู่ในสนาม กองกลางจึงไม่เน้นเจาะ หรือพาบอลไปเอง เพราะผู้เล่นแมนยูนั้นค่อนข้างแข็งแรงถ้าโดนเบียดแย่งและสวนกลับไปอาจเสียประตูได้ วันนี้เกมรุกลิเวอร์พูลมี2แบบเท่านั้นคือ โยนจากด้านขวาซึ่งก็ไม่แม่นเอามากๆ และการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของมาเน่กับซาล่าห์พาบอลเข้าไปซึ่งเป็นไปได้ยากมาก ส่วนจะยิงไกลนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะผู้เล่นแมนยูวิ่งทั่วสนามทำให้ไม่มีเวลาและอีกอย่างตัวยิงไกลถ้าไม่มีชากิรี่ก็คงไม่มีใครกล้ายิง
9.วันนี้โรเบิร์ตสันไม่ค่อยกล้าขึ้นเพราะลูกากูคุมอยู่ หรืออีกนัยนึงลูกากูก็ทำอะไรไม่ได้สัดวกมากเพราะโดนโรเบิร์ตสันคุม แต่โดยส่วนตัวผมแล้ววันนี้ลูกากูค่อนข้างป่วนทีเดียวเพราะป๊อกบาวึ่งโดนเฮนเดอร์สันตามก็ค่อนข้างเงียบ กลับกลายเป็นลูกากูที่ค่อนข้างป่วน หาจังหวะจ่ายทะลุช่อง มีกระโดดโหม่ง และโยนผ่านหน้าปากประตูหงส์ไป เรียกว่าน่าจะสร้างโอกาสได้เยอะสุดแล้วสำหรับทีมแมนยู
10. คล็อปป์มีธงในใจแล้วว่านัดนี้จะไม่ให้ใครเจ็บเพิ่ม จากที่เห็นว่าตอนแรกจะเอาเทรนท์ลงก็เปลี่ยนใจ ซึ่งผมก็ใจชื้นเหมือนกัน เพราะนัดก่อนหน้านี้ที่ลงผมเห็นเทรนท์จับหัวเข่าเลยคิดว่าไม่ดีแน่ในเกมที่ปะทะกันหนักแบบนี้ ถ้าเอาลงอีกมีเจ็บอีกแน่ ถ้าเป็นเกมยุโรปยังพอว่า เพราะหากมีปะทะกันแบบนี้มันฟาล์วแน่ๆ แต่บอลอังกฤษเน้นความแข็งแรง ปะทะกันแรงๆก็ไม่ฟาล์ว
11. การที่คล็อปป์เอาสเตอร์ริดจ์ลงคล็อปคงหวังว่าจะให้สเตอร์ริดจ์หาจังหวะยิงสวยๆเข้าไป จริงๆในทีมลิเวอร์พูลผมมองว่ามี3คนที่จับบอลดีที่สุดไม่ห่างตัวมาก คือ ฟีร์มิโน่ เทรนท์ และสเตอรริดจ์ สเตอร์ริดจ์เป็นคนที่จับบอลแล้วไม่ต้องแต่งมาก กดได้เลยทั้งซ้ายทั้งขวา แถมลูกยิงแกยังนิ่ง ส่าย และลูกไม่หมุนเลย คล้ายๆ knuckle ball แต่ไม่ฮุคขนาดนั้น แต่เวลาแกเลี้ยงบอลแล้วเหมือนบอลจะเกาะแกะเกินไป
12. บางคนบอกสเตอรริดจ์หมดสภาพ จริงๆผมว่าไม่ใช่ การจะใช้งานสเตอร์ริดจ์นั้นต้องมีคนจ่ายทะลุกช่องให้แกหลุดเข้าไปก่อกวน อาจจะยิงหรือส่งก็แล้วแต่ แต่ทีมลิเวอร์พูลนี่ไม่มีตัวนี้มานานแล้ว มีแต่เลี้ยงกินตัวเข้าไปชิ่งหรือส่งกันแถวเขตโทษแล้วถึงจะยิง บ่อยครั้งที่ตอนอยู่ตรงเขตโทษแล้วไม่ยอมยิงกัน ยังพยายามส่งให้เพื่อนอีก อาจเป็นเพราะแต่ละคนไม่ใช่หน้าธรรมชาติ ระยะไกลกว่าเขตโทษเลยไม่กล้ายิงเมื่อพยายามจ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษก็ธรรมดาที่กองกลังที่ยืนกันเต็มต้องสกัดได้ เกมของลิเวอร์พูลเลยจบตรงที่ไปถึงหน้าเขตโทษแต่ไม่ได้ยิง บ่อยครั้งที่ผมเห็นตัวรุกลิเวอร์พูลวิ่งทำทางแต่กองกลางกลับไม่ส่ง เงื้อเหมือนจะส่งแต่ก็พลิกบอลไปทางอื่น ก็เลยงงว่าทำไมไม่ส่ง แต่ถ้าชากิรี่ลงมา ลูกที่กองกลางจะดึงบอลไม่ส่งนั้น ชากิรี่จะส่งทันที เพราะถ้าส่งช้ากว่านี้จังหวะมันจะไม่สวย ซึ่งเมื่อวานชากิรี่ก็มีส่งลุกแบบนี้แต่มันมีเวลาน้อยไปนิด เกมก็ค่อนข้างจะปิดแล้ว เพราะแมนยูก็ลงมากันแน่น ผมว่าถ้าจะหาใครเล่นกับสเตอรริดจ์ได้ก็ชากิรี่นี่แหละ
13. สเตอร์ริดจ์เป็นคนที่ส่งทะลุช่องและส่งในจังหวะที่ถูกต้องได้ดี ไม่มัวลังเลดึงบอลกลับเพราะลังเลกลัวว่าจะส่งแล้วติด ซึ่งอาการแบบนี้เป็นโรคประจำตัวของกองกลางลิเวอร์พูลไปแล้ว วึ่งก็เข้าใจว่าจะเอาแน่นอน แต่ผมว่ามันเยอะไป อีกอย่างคือสเตอร์ริดจ์มีจังหวะเช็คไลน์และsignature ที่บอกให้รู้ว่าต้องส่งจังหวะนี้นะแล้วแกจะมีโอกาสหลุด ถ้าสังเกตให้ดี แกจะวิ่งขึ้นไปอยู่เหนือกองหลังนิดนึงเพื่อไม่ให้ล้ำแล้วย่อตัวเตรียมวิ่ง หากส่งจังหวะนี้แกไม่ล้ำแน่นอนแถมพวกที่จะเช็คล้ำต้องมีเหวอกันแน่ ผมเห็นแกทำแบบนี้บ่อยๆสมัยแรก แล้วเจอร์ราร์ดเป็นพวกชอบจ่ายทะลุอยู่แล้ว เรียกว่าทั้งสเตอร์ริดจ์กับซัวเรซยิงกันมันเลยทีเดียว แต่ทีม ณ ตอนนี้คงไม่ได้สนซิกของแก เพราะเน้นดึงบอลกันไปหน่อย
14.นัดนี้เป็นอีกนัดที่ซาล่าห์โดนประกบแบบหนักมาก เพราะแกตัวเล็ก เจอแรงกระแทกไปบอลก็จับบอลลั่นแล้ว ผมว่าแกต้องไปปรับปรุงการเลี้ยงบอลสักหน่อย จะได้เอาตัวรอดได้ยามโดนรุม เพราะมุมมองของผมแกยังสู้ฟีร์มิโน่ไม่ได้ แต่วันนี้ก็ได้เห็นความพยายามของซาล่าห์เรื่องฟรีคิก ก็หวังว่ามันจะเป็นอาวุธใหม่ได้
15. พูดถึงเรื่องฟรีคิก ถ้าไม่นับเทรนท์กับชากิรี่ ลิเวอร์พูลไม่มีตัวยิงฟรีคิกเลย ทั้งๆที่หน้าจะเป็นหน้าที่ของพวกตัวท็อปอย่างฟีร์มิโน่ มาเน่ หรือซาล่าห์ เพราะพวกเก่งๆมักจะยิงฟรีคิกเก่งด้วย อาจจะเป็นเพราะสไตล์เยอรมันไม่เน้นยิงเข้าเองอยู่แล้ว มีแต่ลูกสูตรส่งเข้าไปยิง
16. พูดถึงกองหลังหงส์แดงบ้าง วันนี้ก็ยังเอ๋อๆบ้าง มาติปจะยิงเข้าประคูอีกแล้ว ดูแล้วเป็นคนแปสกัดไม่เก่งเพราะมีปัญหาตลอด แต่กองหลังก็เริ่มเช็คล้ำหน้าได้สวยๆบ้าง จริงๆแล้วอาวุธอีกอย่างหนึ่งของลิเวอร์พูลคือการเช็คล้ำหน้า เพราะในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกพวกทีมกลางตารางเวลาบุกเร็วจะโดนเช็คล้ำหน้าตลอด เพราะวินัยเกมรับดี แต่พอตัวหลักเจ็บการเช็คล้ำหน้าก็แย่ลง เพราะถึงเช็คล้ำหน้าได้แต่ก็มีพลาดลูกที่ลูกากูครอสเข้ามา
17.พูดถึงแมนยูบ้าง นัดนี้ช่วงแรกป๊อกบาค่อนข้างหายเพราะโดนเฮนเดอร์สันตามติด แถมอีก2ตัว ฟาบินโญ๋ กับ ไวนัลดุมก็แพ็คกลางแน่นทีเดียว
18.แรชฟอร์ดก็เป็นอีกคนที่เด่น ถึงจะเจ็บแต่ในความคิดผมนั้น เพราะมีแรชฟอร์ดค้ำอยู่ทำให้ลิเวอร์พูลไม่กล้าลอยมาก
19. ลูกากูก็เป็นอีกคนนึงเพราะเนื้อแท้แล้วเป็นคนที่เล่นดีมากๆ ทั้งไว ใหญ่ คล่องและโหม่งได้ นัดนี้ก็มีจ่ายสวยๆโดยเฉพาะลูกที่ลินการ์ดหลุด ดีที่อลิสซงไว
20 กองหลังแมนยูและกองกลางคนอื่นก็วิ่งพล่านมาก วินัยดี มาเน่กับซาล่าห์ก็เข้าพื้นที่อันตรายไม่ได้ อย่างมาเน่จะเห็นว่า ยัง เอาไม่ค่อยอยู่แต่ก็วิ่งไล่ไม่ปล่อยให้มาเน่ลุยไปข้างหน้าได้ง่ายๆ อเล็กซิสที่เปลี่ยนมาแทนมาต้าดูเหมาะกับเกมแบบนี้มากกว่าเพราะแกจี๊ดและไวกว่าแถมความสามารถเฉพาะตัวก็ดีกว่า
21. ป๊อกบาวันนี้ถึงดดนประกบแน่นแต่ก็ไม่เสียบอลง่ายๆ เพียงแต่ว่าลูกจ่ายทะลุช่องของแกไม่ทำงานสักเท่าไร
22. มิลเนอร์วันนี้เล่นรับได้ดีแต่รุกก็อย่างที่เห็นว่าสู้เทรนท์ไม่ได้ บางจังหวะไม่ควรรอลูกตก อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยอายุ เพราะถ้าฝืนวิ่งไปเอื้อมไปเตะบอลเข้ากลางเลยอาจมีเจ็บ จริงๆแกก็น่าจะรู้ว่าถ้ารอลูกตกอาจจะไม่ทัน คงจะกลัวเรื่องการเจ็บด้วยส่วนหนึ่ง อีกอย่างวันนี้เวลาโยนเข้าไปแล้วลึกตลอด เสียโอกาสทุกที
23. จริงๆยังมีที่อยากเขียนเพิ่มแต่กลัวว่าจะยาวเกิน ผมขอสรุปสุดท้ายนะครับว่า ทั้งคู่เล่นกันเหมือนมีกั๊กๆนิดๆเพราะกลัวเจ็บเพิ่ม แต่เวลารับก็เต็มที่เพราะไม่อยากแพ้ เหมือนหวังผลเสมอทั้งคู่ ซึ่งก็สมใจไป ขอชมโซลชาว่าวางแผนมาดีจริงๆครับ มีจังหวะสวนสวยๆหลายลูกอยู่
ถึงจะเป็นจ่าฝูงแต่ยอมรับว่าอาการของลิเวอร์พูลน่าเป็นห่วง เราแฟนหงส์ก็เอาใจช่วยกันต่อไปครับ
เครดิต หงส์แดงรุ่นลุง ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้