บทความโดยเด็กหงส์ 🕊️: กำขรี้ดีกว่ากำ....จริงเร้อ

อดที่จะบ่นไม่ได้ และต้องนอนแบบไม่สบายตัวเมื่อเห็นฟอร์มการเล่นของทีมที่เรียกตัวเองว่าผู้ท้าชิงเบอร์หนึ่ง เล่นเกมรุกได้เจี๋ยมเจี้ยมอย่างกับทีมระดับแชมเปี้ยนชิพที่ต้องการเซฟแต้มเพื่อต้องการอยู่รอดในลีกระดับรองต่อไป ทั้งๆที่ควรจะเร่งสุดตัวเพื่อหาทางคว้า 3 แต้มในการทิ้งห่างแชมป์เก่าอย่างเรือใบ

เกมกระชับมิตร น้ำแดงเฮลบลูบอยที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือเป็นอีก 1 เกมที่ทำลายความหวังของสาวกสีแดงทั้งสองทีม เพราะว่าเป็นเกมที่จืดชืดและกร่อยมากเกินคาดคิด และน่าจะกร่อยสุดๆ ในรอบหลายๆปีเลยก็ว่าได้



ปลายปีก่อน กับต้นปีนี้พลังในทีมลิเวอร์พูลมันหายไปอย่างสิ้นเชิง จะเสียใจหรือดีใจกับ 1 แต้มที่ได้มาดีนะ


ก่อนเริ่มเกม แมนยูดูจะโชคร้ายที่สองผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ นั่นทำให้น้าโอเล่เหลือทางเลือกไม่มากนัก เพราะถึงแม้ว่าจะต้องการบุกแหลกเพื่อเอาใจสาวกผีแดง รวมถึงทำตาม passion ที่มีอยู่ในตัวเอง แต่ด้วยสภาพทีมมันก็เลยทำให้เกมเป็นไปอย่างที่เห็น ซึ่งคิดได้สองแง่ก็คือ เป็นแทคติกที่จงใจเล่น หรือโดนหงส์แดงที่มีสภาพความพร้อมที่เหนือกว่ากดดันจนเล่นกันไม่ออก  แต่มองว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า  และเมื่อเล่นไปไม่นาน แมนยูก็เกิดอาการดวงแตก นักเตะเจ็บติดๆกัน 3 ราย นั่นยิ่งทำให้ผีแดงยิ่งมีสภาพทีมเป็นรองไปกันใหญ่ ทำให้ถึงแม้ว่าจะได้เล่นในบ้านก็แทบจะไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ ที่จะมาสู้กับกำลังทัพของหงส์แดงได้เลย

ส่วนหงส์แดง วันนี้มาในสภาพฟูลทีม โดยจัดทีมเน้นความแน่นอนเป็นหลัก และเมื่อในฟากแมนยูมีนักเตะเจ็บบานขนาดนั้น ก็ทำให้หงส์แดงได้เปรียบแบบสุดๆ ซึ่งจากรูปเกมในวันนี้ก็เป็นลิเวอร์พูลที่ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ แต่แทบไม่มีจังหวะที่จะทำอันตรายทีมแมนยูได้เลย และเกือบจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยซ้ำ ถ้าอลิสซงไม่โชว์จังหวะซุปเปอร์เซฟ ซึ่งถ้าจังหวะพลาด ก็อาจจะเป็นใบแดงพร้อมจุดโทษ  รวมถึงจังหวะที่มาติปแปสุดสวย แต่นักเตะแมนยูล้ำหน้าไปหน่อยนึงเท่านั้นเอง  😥



ดุม เทคนิคเหนือชั้นครองบอลเยี่ยม เกมนี้ถ้ามีความคมในจังหวะสุดท้าย เกมอาจไม่จบแบบน่าหลับ


เหนืออื่นใด การทำเกมรุกของลิเวอร์พูลวันนี้ ดูติดขัดมากๆ มีหลายจังหวะที่ควรจะเติม และโหมบุกได้ดีกว่านี้แต่ก็ทำไม่ได้ อีกทั้งนักเตะทุกๆคนในเกมรุก ดูขาดความกระหายชอบกล ไม่รู้ว่าจังหวะต่อบอลสั้นๆ สวยๆ มันหายไปไหนหมด  หรือเป็นการจงใจเล่นแบบเซฟไว้ก่อน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงต้องเรียกได้ว่าเป็นการวางหมากการเล่นที่ผิดพลาด  เพราะการเจอกับทีมระดับแมนยูในช่วงที่มีปัจจัยได้เปรียบมากขนาดนี้ ถ้าไม่เล่นให้คิดชนะจริงจังในตอนนี้ แล้วจะหาโอกาสไหนมาอีกล่ะวะครับ 😡😡

สำหรับ 1 แต้มที่ได้มา ถ้ามองก่อนเตะ หงส์แดงอาจจะพอใจกับคะแนนนี้ที่ทำให้กลับไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง แต่ถ้าดูจากสภาพเกม และปัจจัยที่เอื้อหนุนต่างๆนานาแล้ว มันค่อนข้างน่าผิดหวังกับรูปแบบการเล่น ที่เหมือนกับทีมกลางตาราง มากกว่าทีมที่จะตั้งใจลุ้นแชมป์ลีคในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

กลับมาที่ฟอร์มของนักเตะในเกมนี้ สั้นๆเลยว่าดาดๆกันทุกคน เพราะความที่เกมรุกก็กาก เกมรับก็รับมือง่ายๆ ดังนั้นคงไม่ทีใครเด่นเกินกว่าอลิสซง ที่ขอยกตำแหน่ง MOM ให้เลยสำหรับการยืนตำแหน่งที่ดีในการรับลูกยิงของแมนยูได้อย่างสบายๆทุกลูก รวมถึงการปัดบอลจากเท้าของลินการ์ด ทำให้ทีมไม่ต้องแพ้แบบขายขี้หน้า



อลิสซงโชว์คลาส ในเกมที่สำคัญทำให้ทีมไม่ต้องเสียประตูที่อาจนำไปสู่ 0 คะแนน


ส่วนบทสรุปของเกม ถ้าปีศาจแดงมีผู้เล่นที่พร้อมกว่านี้ ก็ไม่แน่ใจว่าน้าลูกอมแกจะให้ทีมเล่นบุกเต็มที่แบบที่คิดหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจะทำให้ทีมเยือนมีช่องว่างในการเล่นเกมรุกโต้กลับอีกเยอะทีเดียว ไม่ใช่อึดอัดและบ้อท่าเช่นนี้ และมันก็อาจจะกลายเป็นเกมแดงที่เดือดจริงๆในรอบหลายๆปีซะที  ยังไงก็ตามฝ่ายน้าลูกอมเองก็คงโอเคกับผลการแข่งขันแบบนี้ เพราะด้วยตัวผู้เล่นและอาการบาดเจ็บแบบบ้าๆบอๆ แต่สามารถเอาตัวรอดมาได้แบบชิวๆ มันก็ถือว่าไม่ได้เป็นวันที่แย่ที่สุด เพราะอย่างน้อยก็ยังมีแต้ม และยังทำให้สถิติของเค้าเป็นตำนานต่อไป

ข้อดีข้อเดียวสำหรับสถานการณ์ของทีมลิเวอร์พูลในตอนนี้ก็คือ การนำครึ่งแต้มและทำให้ได้กลับสู่หัวตารางอีกครั้ง ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่ค่อยๆโผล่มา ไม่ว่าจะเป็น Passion ที่หายไป ฟอร์มของนักเตะเกมรุกที่บอดสนิท มันทำให้คลอปมีการบ้านหนักที่ต้องจัดการอีกมากมาย ไม่รู้ว่าราคาตั๋วนัดสุดท้ายที่แอนฟิลด์ จาก 2 แสน จะลดเหลือ 2 หมื่นหรือยัง ??  แต่ยังไงเมื่อนำอยู่มันก็ยังมีหวังอยู่ดีล่ะฮะ ถึงแม้ว่าจะต้องเริ่มทำใจบ้าง เพราะความได้เปรียบมันแทบจะหมดไปแล้ว ก็หวังแค่ว่าในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ จะเป็นช่วงที่ผีแดงเหลือโอกาสลุ้นเดียวคือ Top 4 และจะต้องใส่ไม้ยั้งจนเรือล่มกลับบ้านไปละกัน

คลอปต้องรีบจัดการปัญหาต่างๆภายในทีม โดยเฉพาะการจุดไฟปรารถนาให้มันลุกโชนอีกครั้งหนึ่ง แต่ก่อนที่จะเริ่มทำอะไรอยากให้เค้าลองส่องกระจกมองตัวเองอีกครั้ง และมองลึกเข้าไปนัยน์ตาว่ายังมีความกระหายในความสำเร็จ "ในฤดูกาลนี้" อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า  เพราะว่าการที่จะนำทีมไปสู่เป้าหมายได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่ผู้นำต้องมั่นคงในเป้าหมายอย่างชัดเจนและไม่ลดละ  ซึ่งตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา สิ่งที่ทีมแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายตรงนั้นมันค่อยๆจางลงไป จนแฟนบอลหลายๆ คนอาจจะเริ่มถอนหายใจ ทั้งๆที่หงส์แดงก็ยังเป็นผู้นำในตาราง

ภารกิจที่ต้องทำในฤดูกาลนี้มันยังเหลืออีกมากนัก ซึ่งมันช่างสวนทางกับพลังงานที่จะนำพาทีมไปสู่จุดหมายในตอนนี้ สิ่งที่แฟนบอลทำได้ก็มีแค่การเชียร์อย่างเต็มที่ทุกเกมที่เหลืออยู่  โดยหวังว่าทีมรักจะเร่งฟอร์มเกมรุกกลับมาให้เร็วที่สุด 

เชียร์กันต่อไป ด้วยเป้าหมายเดิมๆ คือการเชียร์ให้เหมือนลิเวอร์พูลเตะนัดชิงทุกนัด แต่นักเตะและทีมงานเองก็ต้องรีบกลับมาเล่นให้เหมือนกับเตะนัดชิงทุกๆนัดให้ได้โดยเร็วเหมือนกัน ถ้าไม่อยากเป็นแชมป์ว่าวต่อไปอีกปี  เพราะถ้าพลาดหวังในปีนี้ รับรองว่าปีหน้าคู่แข่งมายืนรอกันอีกเพียบ ทั้งผีแดง ไก่ หรือแม้กระทั่งเชลซี และอาร์เซนอลเอง  

1 แต้มดีกว่าไร้แต้ม นำครึ่งแต้มก็ดีกว่าไม่นำล่ะฮะ กำขรี้ดีกว่ากำตด สุภาษิตนี้เป็นจริงเสมอ  ยังไงปีนี้ขอให้พรีเมียร์ลีคกลายเป็นขรี้สำหรับสาวกหงส์แดงซะทีละกัน จบไปง่ายๆกันแบบนี้ล่ะฮะ หาพารากินแก้ปวดตับก่อนเด้อ 😅😅
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่