คำเตือน : บทความโดยเด็กหงส์ 🕊️


หายไปเป็นสัปดาห์นะฮะ เนื่องจากหงส์แดงมีโปรแกรมเตะน้อยกว่าชาวบ้านเค้า ก็เลยแว๊บไปเล่นบอร์ดเกมจนลืมเขียนบทความไปเลย 😁😂

วันนี้ฤกษ์งามยามดี ก็ถือว่าเป็นวันครบรอบ 1 เดือนพอดีหลังจากลิเวอร์พูลบุกไปถอนขนหมาป่าวูลฟ์แฮมป์ตันลงได้ และทำให้การันตีตำแหน่งจ่าฝูงหลังช่วงคริสมาสต์ และก็ยาวมาจนถึงบัดนี้ 🤗 ซึ่งถ้านับเกมที่ลงเตะมาทั้งหมด ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 60% แล้ว ถ้าเปรียบกับการเรียนก็คงเป็นช่วงที่กำลังจะเตรียมสอบ Final แล้วล่ะฮะ


ลิเวอร์พูล come back ได้เป็นเกมที่สามในฤดูกาล ต้องขอบคุณเทพเจ้าอียิปต์ที่อยู่ถูกที่และถูกเวลาเสมอ


ฟอร์มของลิเวอร์พูลในช่วงปีใหม่ก็นับว่ายังดูไม่ดีเท่าไร ไม่นับเกมบอลถ้วยที่เตะแบบขอไปทีก็เท่ากับว่า หงส์แดงแพ้ 1 ชนะ 2 และทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ก็ยังอยู่ในโหมดที่สามารถคอนโทรลเองได้ 



3 แต้มที่แทบกระอัก::

หงส์แดงเพิ่งได้ 3 แต้มมาแบบจวนเจียนในเกมที่เพิ่งจบกันไปกับการเปิดบ้านรับมือของสแลงอย่างคริสตัลพาเลซ ที่ไม่ว่าจะพบกันกี่ครั้งหงส์แดงก็มักจะเสียท่าให้ทีมนี้อยู่บ่อยๆ 😥 ...จากรูปแบบเกมเดิมๆของพาเลซ ที่คลอปคงเดาออกว่าจะเป็นยังไง หรือจะมีเหตุการณ์ทำนองไหนเกิดขึ้นบ้าง แต่ทว่าพอเอาเข้าจริง หงส์แดงก็มักจะไปไม่เป็นอยู่ทุกทีไป 😖


ถือว่าเป็นปัญหา "แก้เกือบตก" สำหรับลิเวอร์พูล เมื่อต้องเจอกับทีมเล็กๆ ที่เตรียมเกมมาเน้นรับแน่นๆ และถ้าทีมนั้นดันมีตัวรุกความเร็วจัดๆทั้งสองด้าน บวกกับกองหน้าตัวเป้าตัวใหญ่ๆ อีกซักคน นั่นล่ะฮะ เรียกได้ว่าแพ้ทางแบบเบ็ดเสร็จ ความบรรลัยแทบจะกินหัวทันที  ซึ่งถึงแม้ว่าคราวนี้พาเลซจะไม่มีกองหน้าร่างบึกอย่างเบนเตเก้ที่มักจะจบสกอร์ได้ระดับโลกในทุกๆครั้งที่เจอกับทีมเก่า 😂 แต่นั่นก็ไม่วายเพราะเมื่อแผนการเล่นยังคงเดิม เกมรับอุดกันดีเหมือนกำแพงหิน อีกทั้งยังมีตัวรุกที่เร็วปรี๊ด มันก็เลยสร้างปัญหาอย่างมากให้กับลิเวอร์พูลอยู่ดี 

จริงๆแล้ว ถ้าเกมนี้ถ้าลิเวอร์พูลไม่ได้คนแก่ใจดีอย่างสเปรูไรน่า..โลนี่ มาปัดบอลสุดงาม +1 score ให้กับซาลาห์ รวมถึงลูกยิงตบตะกร้ออันแปลกๆอีกลูกนั้น  มันก็คงทำให้หงส์แดงเสียสถิติการไม่แพ้ในบ้านมา 30 กว่านัดและทำให้ทีมพังไปแล้วล่ะ ก็ต้องบอกว่าดวงและโชคของทีม รวมทั้งเทพอียิปต์ดันมาอยู่ถูกที่และถูกเวลา ในเกมที่สำคัญพอดี จึงทำให้ทีมเอาตัวรอดไปได้แบบค่อนข้างกระอักกระอ่วนอยู่เหมือนกัน


ความอนุเคราะห์ของสเปโรนี่มี่ส่วนสำคัญกับสามแต้มของหงส์แดง


สำหรับรูปเกมโดยรวมในครึ่งแรก เป็นหงส์แดงที่ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก และเมื่อเสียการครองบอลเมื่อใด พาเลซก็จะพยายามจ่ายบอลให้ซาฮาเข้ามาปั่นปั่วนแนวรับอย่างมิลเนอร์อยู่ตลอดเวลา จนทำให้แฟนบอลเสียวสันหลังอยู่บ่อยๆ  และจากเกมที่ดูอึดอัดเช่นยั้นเอง พาเลซก็พลิกได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่นักเตะหงส์แดงเกเก้นเพรสซิ่งกันสุดตัว จนพาเลซจวนเจียนจะเสียบอลให้ทีมรุกของหงส์แดงอยู่หลายหน 😅 แต่เมื่อพาเลซแก้ลำเกเก้นมาได้แบบไม่น่าเชื่อ มันก็เลยทำให้กองกลางของลิเวอร์พูลโหว่เป็นรูเบ้อเร่อ และก็เป็นซาฮาที่ได้บอลก่อนจะกระชากหนีมิลเนอร์ และเปิดเข้ามาให้ทาวน์เซ่นยิงเข้าไปอย่างสวยงาม ชนิดที่เรียกว่าหมดสิทธิ์เซฟสำหรับอลิสซอน (ถ้าจะมีคนสัมผัสบอลโดนได้ในจังหวะนั้นซักคนก็คงเป็นเดเคอาเท่านั้นล่ะฮะ 😁)  และครึ่งแรกก็จบลงไปด้วยการตามหลังของทีมเจ้าบ้าน ซึ่งคงทำให้แฟนบอลหงส์แดงรู้สึกขึ้นมาแว๊บๆได้เลยว่า นี่อาจจะเป็นการแพ้คารังครั้งแรก เพราะเกมรุกของทีมไม่มีจังหวะที่ได้ลุ้นอะไรมากมายเลย

มาต่อกันในเกมของครึ่งหลัง ซึ่งเริ่มกันมาได้แค่ประมาณ 1 นาที ซาลาห์ก็ตีเสมอได้อย่างรวดเร็วด้วยลูกเหยียบแบบเดียวกับการถีบตะกร้อหน้า Net แบบงงๆ 😂🤣 คล้ายๆกับตอนฟานไดจ์ยิงเจิดใส่เอฟเวอร์ตันท้ายเกมแบบนั้นเลย และจากนั้นไม่นาน ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะยิงแฉลบของฟีร์มิโน่ ซึ่งถือเป็นอีกเกมนึงที่ลิเวอร์พูลสามารถพลิกสถานการณ์จากการเป็นผู้ตามกลับมาได้อย่างรวดเร็ว  มันเป็นคุณสมบัติที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในฤดูกาลนี้ และไม่เคยเห็นในตลอด 28 ปีที่ผ่านมาในยุคพรีเมียร์ลีคเลย  จากนั้นเกมก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ด้วยความพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในเกมรับ ก็ทำให้พาเลซตีเสมอได้จากลูกโหม่ง ซึ่งจากภาพช้าจะเห็นว่า พาเลซมีตัวยืนบล๊อกด้านหลังของฟานไดจ์อยู่ ทำให้ฟานไดจ์ไม่สามารถถอยไปแย่งสกัดลูกนั้นได้  และก็เป็นการเสียสถิติแรกในเกม ด้วยการเสียลูกโหม่งแรกในฤดูกาล รวมถึงเสีย 2 ประตูในเกมลีคที่แอนฟิลด์เป็นครั้งแรกด้วย  

จากนั้นลิเวอร์พูลก็กลับมาพยายามทำประตูอีกครั้ง และเปลี่ยนชากิรี่ลงมาแทนตัวแถมอย่างเกอิต้าที่ถึงเล่นแทบไม่เอาอ่าว แต่ก็ยังมี 1 assist ให้กับฟีร์มิโน่ไปอย่างหน้าตาเฉย  และก็เหมือนกับว่าชากิรี่เป็นตัวนำโชคให้กับทีม เพราะจากนั้นไม่นานหงส์แดงก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะแปลกๆ ซึ่งซาลาห์แอบขโมยชื่อบน score sheet มาจากสเปโลนี่แบบหน้าตาเฉย 😆😆  จากนั้นรูปเกมก็ยังคล้ายๆเดิม แต่หงส์แดงก็ปิดเกมไม่ลงซะที จนกระทั่งมิลเนอร์มาโดนใบเหลืองแดงจากจังหวะที่เกมรับจ่ายบอลขาดๆ เกินๆ และมิลเนอร์ก็ต้องทำเพื่อทีมกันไป  แต่ก็ยังดีที่มาเน่มายิงปิดกล่องได้ แต่ก็อีกล่ะฮะวันนี้เกมรับหงส์แดงสิ้นท่ามากๆ และอลิสซอนก็เล่นเป็นประตูน้ำในจังหวะที่น่าจะเซฟได้จากประตูที่ 3 ของพาเลซ แต่ก็เท่านั้น หงส์แดงชนะไปได้แบบหืดจับสุดๆ ด้วยสกอร์ 4:3

บทสรุปของเกมนี้ต้องบอกว่าเป็นวันที่เกมรับเล่นได้แย่มาก โดยเฉพาะจังหวะที่ต้องช่วยกันป้องกัน ทั้งเกมที่ซาฮาได้บอล เค้ามีจังหวะ 1:1 กับมิลเนอร์บ่อยมากๆ โดยไม่มีคนมาซ้อน หรือคนช่วยประคองเลย ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามถ้าต้องมาเผชิญหน้ากับนักเตะที่มีความเร็วและทักษะดีแบบซาฮาแบบ 1:1 ยังไงก็เอาตัวรอดอยู่ดี ซึ่งมิลเนอร์เองพ่ายแพ้ในการต่อกรแทบทุกครั้งไป  ส่วนอลิสซอนวันนี้ตรงเป็นตุง 2 ลูกแรกพออภัย แต่ลูกที่ 3 ยังคิดว่าน่าจะเซฟได้ดีกว่านี้  แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะนักเตะทุกคนต้องมีวันแย่ๆ กันบ้าง  ก็ถือเป็นเกมที่ยากมากๆ ที่เจียนอยู่เจียนไป แต่ก็เอาตัวรอดมาได้อยู่ดี เกมนี้คงเป็นอะไรที่ดูหืดขึ้นคอสุดๆ รองจากการเจอเอฟเวอร์ตัน สุดท้ายขอขอบคุณสเปโลนี่ที่มีส่วนกับ 1 ประตูสำคัญและทำให้หงส์แดงคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ  



ฟอร์มนักเตะ:: 

อลิสซอน เป็นวันที่บทบาทกับเกมรุกน้อย ส่วนบทบาทกับเกมรับก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน เพราะ 2 ประตูแรกนั้นถือว่าเป็นลูกที่โดนยิงแบบจะแจ้ง และคงมีน้อยคนที่จะเซฟได้  แต่ลูกที่ 3 ก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่ว่าอะไรเค้าหรอก เพราะเค้าทำดีมาล้านแปด เซฟแต้มให้ทีมได้มากมาย และวันนี้ทีมก็ยังชนะอยู่ดี

ฟานไดจ์ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานนิดหน่อยในจังหวะป้องกันเซตพีซ หลงเหลี่ยมในการเสียประตูตีเสมอ 2:2 แต่ก็ต้องให้เครดิตในความเจ้าเล่ห์ของพาเลซ ที่เอาคนมายืนตันตูดขนาดนั้น จนทำให้ฟานไดจ์หมดสิทธิ์โหม่งสกัด

มาติป มีจังหวะเติมเกมรุกสวยๆ ส่วนเกมรับก็ดูหลวมๆ ไปหน่อยในจังหวะประกบ เป็นวันที่ไม่ดีเท่าไร แต่นี่ก็เป็นแค่เกมแรกหลังจากหายเจ็บ ก็คงจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า

รบส เป็นคนเดียวที่เล่นได้เยี่ยมในเกมรับและเกมรุก คงเป็นเพราะพาเลซเทไปบุกอีกฝั่งมากกว่าทำให้ภาระเกมรับน้อยลงไป (แต่ถ้าทะลึ่งมาบุกฝั่ง รบส ก็อาจจะโดนเก็บกินเรียบเหมือนเดิมล่ะ 🤔😆) ส่วนในเกมรุกก็ยังวิ่งเติมกระจาย และวิ่งได้ไม่มีหมดจริงๆ สุดยอดจริงๆ สำหรับแบ็คพลังม้าคนนี้

มิลเนอร์ ช้าเกินไปที่จะเป็นแบ็คแล้ว วันนี้โดนเผาเละมากๆ ที่สำคัญเพื่อนๆ ไม่ช่วยกรองช่วยซ้อนเลย แก่ปูนนี้ก็เลยบ้อท่าอย่างเดียว ส่วนตัวแล้วชอบความ "ใจเด็ด" ของเค้าในจังหวะที่โดนเหลืองแดง เพราะเป็นการตัดเกมในจังหวะที่เพื่อนจ่ายบอลน้ำหนักไม่ดีมาให้ และเป็นจังหวะสำคัญที่อาจทำให้พาเลซควบไปถึงหน้าประตูได้  ถือว่าเป็นการทำเพื่อทีมอย่างแท้จริง น้ำตาจะไหลเลยฮะ 555

ฟาบินโญ่ มีจังหวะวางบอลยาวได้หลายหน เกมรับทำได้ดีตามตำแหน่ง แต่คงเป็นเพราะพาเลซพี่เน้นด้านข้างเป็นหลักด้วยล่ะ เสียดายที่ท้ายเกมมาเจ็บ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะหายทันเกมหน้ารึเปล่า 

เฮนโด เล่นได้ตามมาตรฐาน แต่ควรจะช่วยประคองมิลเนอร์ให้ได้ดีกว่านี้

เกอิต้า บทบาทแทบไม่มี เล่นแบบให้ครบ 11 คน แต่ก็ยังมี 1 assist ในเกม  ดูจากการเล่นแล้วรู้เลยว่าความมั่นใจไม่มีเลย อีกทั้งจังหวะในการเล่นต่างๆ ก็ยังตามไม่ค่อยทัน ดีที่วันนี้ไม่ได้เล่นเป็น box-to-box เลยอุ่นใจได้นิดหน่อยว่าคงไม่มีการโดนขโมยบอลในจังหวะอันตรายๆ เค้าคงต้องรีบปรับตัวโดยเร็ว ดูแล้วฤดูกาลนี้คงเป็นปีที่เน้นการ "ปรับสภาพ" และสุขภาพอย่างจริงจัง  ตอนนี้เลิกหวังว่าเค้าจะมาเติมสิ่งดีๆให้กับทีมในฤดูกาลนี้ไปแล้ว หวังว่าฤดูกาลหน้าจะกลับมาเล่นได้ดีแบบตอนอุ่นเครื่องนะฮะ   โดยส่วนตัวแล้วถ้านักเตะเราไม่เจ็บเยอะแยะ  แอบอยากให้คลอปส่งเกอิต้าไปให้ทีมระดับกลางตารางในลีคยืมตัวจนจบฤดูกาลเลย  เพราะปัจจัยสำคัญที่จะทำให้นักเตะปรับตัวได้เร็วก็คือ การได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ แต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบเค้นแบบนี้ คงทำให้เกอิต้าโอกาสค่อนข้างน้อย เพราะเค้าไม่มีความแน่นอนอะไรเลยและทีมไม่สามารถรับความเสี่ยงแบบนี้ได้ถ้าไม่จำเป็น

มาเน่ มีโอกาสปิดเกมหลายครั้ง ถึงจะพลาดไปเยอะแต่ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จจากลูกยิงสุดสวยให้ทีมนำ 4:2 ก็ถือว่าเล่นได้โอเค แต่ยังไม่ดีที่สุด

ฟีร์มิโน่ ความขยันและความพยายามเป็นสิ่งที่ทำให้หงส์แดงขาดนักเตะคนนี้ไม่ได้ ถือว่าทำได้ดีกับประตูขึ้นนำ 2:1 ทำให้ทีมเล่นได้ผ่อนคลายขึ้น 

ซาลาห์ เป็นทุกอย่างของทีม อยู่ถูกที่ถูกเวลามากๆ 2 ประตูที่ทำได้ถึงจะเป็นประตูที่ดูแปลกๆ แต่มันก็สำคัญมากๆ เพราะถ้าเค้าไม่อยู่ถูกที่ถูกเวลา ประตุเหล่านั้นก็คงไม่เกิดขึ้น (ยกเว้นประตู 3:2 นะฮะ 😆😂)  ถึงเวลานี้ก็พิสูจน์ตัวเองเรียบร้อยแล้วว่าเป็นยอดนักเตะในพรีเมียร์ลีค เพราะหลังจากเริ่มฤดูกาลแบบฝืดๆ แต่ในเวลานี้เค้าเป็นดาวซัลโวของลีคแบบเดี่ยวๆ ไปเรียบร้อยแล้ว และทำให้มีลุ้นนักเตะยอดเยี่ยม รวมทั้งดาวซัลโวเป็นปีที่สองติดต่อกันอีกด้วย

สำรองทั้ง 3 จะมีก็แค่ชากิรี่ที่มีโอกาสได้บอลบ่อยหน่อย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ ส่วนลัลลาน่ากับคามาโช่นั้นมีเวลาน้อยเกินไป ซึ่งดีแล้วล่ะ ได้เล่นนานไปเดี๋ยวแฟนบอลหัวใจวาย โดยเฉพาะเด็กน้อยอย่างคามาโช่ที่ยังไม่ควรโดนปล่อยลงมาในช่วงสำคัญแบบนี้

มีต่อใน คห 1 ฮะ