คือเวลาที่เราเหนื่อยท้อหรือเครียดจากการเรียนมากๆเราเองก็อยากที่จะได้กำลังใจจากครอบครัว เเต่พอเราไประบายหรือบอกเค้าก็จะบอกว่าเรียนๆไปเถอะจะบ่นอะไรมากมายฉันทำงานยังเหนื่อกว่าแกเยอะ แกแค่เรียนเล่น บ้าเกาหลีไปวันๆจะเอาอะไรไปเหนื่อย เราอยากบอกตรงๆเลย ว่าเราก็เข้าใจเค้าแหละว่ามันก็จริงที่เราเหนื่อยน้อยกว่าเค้าแต่การที่เราไปโรงเรียนมันไม่ได้หมายความว่าเราจะเรียนอย่างเดียวหนิ มันคือการทดสอบการใช้ทักษะชีวิต การทำงานกลุ่ม การเข้ากับเพื่อนแล้วก็อีกหลายๆอย่าง ส่วนตัวเราตอนเข้า ม.1 ใหม่ๆ เราปรับตัวแถบจะไม่ได้เลย (ปัจจุบัน เรากำลังจะจบม.3) ด้วยความที่เราเรียนเอกชนมาตลอดไม่เคยเรียนรัฐบาล สังคมการเป็นอยู่มันไม่เหมือนกันเลย การเรียนการสอนก็ไม่เหมือน ครูเอกชนจะสอนอธิบายละเอียด ช่วยเหลือดูแลอย่างดีทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เรื่องส่วนตัวบางอย่างเรายังปรึกษาครูเค้าได้เลย แต่กับโรงเรีนรัฐบาลมันเหมือนกับชีวิตใครชีวิตมันเธอมีหน้าที่เรียนฉันมีหน้าที่สอนหมดคาบฉันก็ไป ไม่เรียนหรือโดดก็ช่างเธอ เเม้เเต่กับกลุ่มเพื่อนของเราเองเราโชคดีที่ได้กลุ่มเพื่อนเข้ากันได้ เเล้วก็สนิทกันมากด้วยแต่ในสังคมปัจจุบันนี้มันก็ต้องมีการเเข่งกันอ่ะ เราเป็นเพื่อนเกันวลาเรียนเวลาสอบเราต้องมาเเข่งกันเอาชนะกัน เพื่อเป็นที่ 1 เราสนิทกันก็จริงเเต่เวลาอ่านหนังสือทำการบ้านหรือการสรุปสอบเราจะไม่เอามายุ่งเกี่ยวกันเลย เหมือนกันว่าแยกเลยว่า ตอนนี้เราเรียน ตอนนี้เราเล่น มันเป็นอะไรที่ลำบากใจมากนะถ้าเค้าได้เยอะกว่าเรา เราก็เฟลแต่ถ้าเราได้เยอะกว่าเค้ามันก็ดีใจเเหละเเต่มันไม่สุดเหมือนเากำลังเหยียบเพื่อน ระหว่างเรียนมันก็มีภาระงานเยอะเเยะซึ่งการบ้านเด็กสมัยนี้มันไม่ได้ทำในแบบฝึกหรือสมุดเหมือนสมัยก่อนเเล้ว มันต้องทำเป็นรายงาน powerpoint งานห้องหรือรวบรวมวิจัยต่างๆ เเล้วเวลาครูเค้าสั่งอ่ะมันก็ไม่ใช่วิชาเดียวไงมันหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน เรียนก็ต้องเรียน การบ้าน งานกลุ่มก็ต้องทำ ไหนจะเรียนพิเศษอีก ยิ่งถ้าช่วงสอบไม่ต้องพูดถึงเลยจ้าาาา จะเอาเวลาไหนนอน พอหลายๆอย่างมันเข้ามาในเวลาเดียวกันหมดมันก็เครียดมากเลย เเต่ก็ได้ เซฮุนนี่กับวีวี่ของเค้า นี่แหละที่เป็นกำลังใจให้เรา การได้ฟังเพลงมันก็ช่วยได้จริงๆนะ แต่กลับการเป็นว่าโดนพ่อแม่ว่าไร้สาระเอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่ามั๊ย 5555 ทำไงละทีนี้ บางทีก็อยากให้พอเเม่เข้าใจเราเหมือนกันนะว่าเป็นเด็กมันก็เหนื่อยได้ ยิ่งตอนนี้เราอยู่ในช่วงกำลังยื่นโควต้ามันสับสนไปหมดเลย เราอยากเรียนภาษาจีนเพราะเราชอบเสี่ยวลู่กับเซฮุน เราฟังเพลง MAMA ของ Exo เวอร์จีนครั้งเเรกตอนนั้นเพื่อนเปิดให้ดู มันกลายเป็นเเรงบันดาลใจให้เราอยาเรียนภาษาจีนมากเลยมันอาจจะดูไรสาระที่เรียนเพราะชอบผู้ชายงี้ เเต่มันเป็นสิ่งที่เราชอบเเต่พอเเม่กลับบอกว่าเรียนวิทย์-คณิตเถอะ อนาคตมันจะไกลกว่า ถามจริงๆนะเราจะไปรู้อนาคตได้ยังไงว่าสิ่งไหนมันจะดีกว่า เกรดเราก็ไม่ได้สูงมากมาย หาร 5 เทอมเเล้วได้ 3.39 เราก็พอใจกับเกรดแหละแต่การที่จะเสี่ยงลงโควต้าไป ถ้าเราไม่ติดละเราจะไม่มีที่เรียนเลยนะเเล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบด้วย บางทีเราก็อยากจะเรียนใช้ชีวิตเองบ้าง เรารู้ว่าความคิดเรามันผิดพ่อแม่หวังดีกับเราอยู่แล้ว เราคิดอยู่ตลอดว่าจะเอายังไงกับชีวิตดีทางไหนมันจะดีกว่ากันถ้าเลืกผิดชีวิตเราจะเปลี่ยนไปเลย มันเหนื่อยจนคิดว่าชีวิตเราเเล้วจริงๆเนี่ยมันต้องการอะไรกันแน่ คิดมากถึงขั้นที่ว่าคนเราจะเกิดมาไม สมองมันตันไปหมดรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวเลย อยากให้พ่อแม่เข้าใจเราสักนิด ที่จริงเราไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านั้นเลยขอแค่มีคนคอยฟังเราระบายชีวิตในแต่ละวันอ่ะ ว่าเจออะไรมาบ้าง เป็นยังไงแค่นี้จริงๆ
ทำไมพ่อแม่ถึงชอบคิดว่าการที่เราเป็นนักเรียนมันสบาย ไม่หนื่อย ?