การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ เป็นทริปแบบตัดสินใจอย่างเร่งด่วน แต่กลับเป็นทริป 3 วัน 2 คืน ที่สร้างความประทับใจมากที่สุดอีก 1 ทริป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่เที่ยว อาหารการกิน แหล่งช้อปปิ้ง เรียกว่า ฟินสุดๆ หรือ จะเป็นภาษาอีสานก็ ม่วนหลายๆ เด้อ
                      เริ่มกันตั้งแต่เช้าวันเดินทาง มาถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ ตีห้า ไม่เคยตื่นเช้าแบบนี้ มานานละ อากาศกำลังดี รถก็ไม่ติด จากนั้น 7.30 น.ก็ได้เวลาเหินฟ้าไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด
พระอาทิตย์กำลังสวยเลย แดดแรงจังเช้านี้

                     เพียงแค่อึดใจ ก็เดินทางมาถึงจังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากนั้น ก็นั่งรถอีกประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อเข้าไปยัง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อไปจุดหมายแรก ที่หมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทยโคกโก่ง

ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ  ผู้เฒ่า ผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเป็นสิริมงคล
ชมหัตถกรรมการจักสาน
การทำพรมเช็ดเท้าในแบบ หมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทยโคกโก่ง

             พร้อมรับประทานอาหารเมนูท้องถิ่น   อย่างที่เกริ่นว่าเราเพิ่งมากาฬสินธุ์ครั้งแรก ก็ติดใจอาหารพื้นบ้านที่นี่แล้ว โดยเฉพาะข้าวสวยและข้าวเหนียว ที่ทั้งหอมและนุ่มมาก คือดีงาม ตั้งแต่กินข้าวมาที่นี่ข้าวอร่อยสุดเลยค่ะ   ส่วนเมนูอาหาร ทั้งปลาทอด น้ำพริก ต้มเห็ด ส้มตำ ก็รสชาติเด็ดไม่แพ้กัน  และที่สำคัญ ผักสดๆ ปลอดสาร กินอิ่มจนพุงกาง

              อิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไป หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน นั่งหลับมาอีกชั่วโมงกว่าๆก็ถึง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อมาชมงาน ปราสาทรวงข้าว ประเพณีบุญคูณลาน บายศรีสู่ขวัญข้าว สืบสานตานาน พระแม่โพสพ ของชาววัดเศวตวันวนาราม บ้านต้อน ตาบลเหนือง อาเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยงานนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว
ปีนี้ งานยิ่งใหญ่ อลังการ
มีนักข่าวมาทำข่าวด้วย
ว้าวสายไหม สีสวยจัง

                 เดินถ่ายรูปวนจนเหนื่อยละ ก็ได้เวลา ไปหาร้านเก๋ๆ ชิคๆ นั่งพัก ดื่มอะไรเย็นๆ สักหน่อย ขับรถมาอีกไม่นานก็มาถึงร้าน Cafe de' SUPAK ร้านคาเฟ่น่ารักๆ  พื้นที่กว้างขวาง นั่งสบาย แถมรสชาติทั้งเครื่องดื่ม และ ขนม ก็อร่อย ราคามิตรภาพสุดๆ

เค้กลูกตาล รสนุ่ม หอม ที่สำคัญรสชาติกลมกล่อมไม่หวานมาก ส่วนเครื่องดื่ม มิกซ์เบอร์รี่ รสชาติเข้มข้น ดื่มแล้วสดชื่น

ถัดมาเมนู แพนเค้ก รสออริจินัล เนื้อแพนเค้กนุ่มเข้ากันได้ดีกับเนยหอมๆ
ปิดท้ายด้วยเมนู ซิกเนเจอร์ของทางร้าน คือ เค้กช็อกโกแลต กับ เค้กเผือก รสชาติกลมกล่อม หวานกำลังดี เนื้อเค้กนุ่ม

          นั่งถ่ายรูปฟินกับของหวานกันแล้วก็ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว มาครั้งนี้ จัดหนักจัดเต็มทุกมื้อเลย เดินทางต่อมายัง ร้าน เฮือนกาฬสินธุ์ สวนดอนธรรม เส้นทางการมาร้านค่อนข้างเข้ามาลึกหน่อยแต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาเพราะร้านกว้างขวางมาก เพราะนอกจากบริการร้านอาหารแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็ยังมีที่พักเปิดให้บริการด้วยค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปชื่นชมกับบรรยากาศ กันพักใหญ่ๆ อาหารก็พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะเรียบร้อย
          อิ่มแปล้แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พัก เข้าพักที่ Cha-Long Boutiuqe Hotel ห้องพักสะดวกสบาย กว้างขวาง สามารถพักได้ 3 คนเลยทีเดียว เพราะมีเตียงใหญ่ 1 เตียง และ เตียงเดี่ยว อีก 1 เตียง นอนแบบสบายๆ แค่ 2 คน คืนนี้ นอนกันเร็วเพราะเหนื่อยกับการเดินทางมาตั้งแต่เช้า
ห้องใหญ่กว้างขวางดี นอนสบาย

                        เช้าวันที่ 2 หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเดินทาง เข้าสู่ อำเภอสหัสขันธ์ ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง   ก็มาเก็บภาพสวนไดโนเสาร์ ที่ถือเป็นอีก 1 จุดไฮไลต์ที่ต้องแวะมาเก็บภาพสักหน่อย


                 จากนั้นเดินทางต่อเพื่อไปจุดหมายถัดไป โดยไปต่อที่ "ไดโนโรด" ตำบลโนนบุรี  สัมผัสวิถึชุมชน ที่มีการอนุรักษ์กิจกรรม และ บ้านเรือนที่เป็นห้องแถวไม้เก่าแก่

กิจกรรม diy ที่สามารถปรับเปลี่ยนพวงกุญแจให้เป็น อันเดียวในโลกด้วยฝีมือเราค่ะ

จากนั้นก็ทานอาหารเที่ยง ที่ "ไดโนโรด" เมนูท้องถิ่น เลยกับส้มตำปลาร้ารสแซ่บ
ปลาส้มทอด ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยๆ อีกแล้ว

                 หลังจากอิ่มหน่ำแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปต่อที่ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี  ระหว่างการเดินทาง เราจะผ่าน สะพานเทพสุดา ซึ่งมีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ถือว่าเป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นโครงข่ายเชื่อมเส้นทาง คมนาคมขนส่งจาก หนองคาย อุดรฯ ผ่าน กาฬสินธุ์ นั่งชมวิวระหว่างทางไปสักพักก็มาถึง หมู่บ้านไทพวน บ้างเชียง หมู่บ้านแห่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่บอกเล่าถึงอารยธรรมของผู้คนสมัยโบราณของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 5,600 ปีที่ผ่านมา
นั่งรถรางชมรอบหมู่บ้านพร้อมฟังประวัติศาสตร์


มีภาพสามมิติให้ถ่ายด้วย
มีกิจกรรมให้เรา DIY เขียนลายไห แบบบ้านเชียง
พยายามทำให้เหมือนแต่ก็ไม่เหมือน ศิลปะจากฝีมือเราเอง

                 หลังจากเดินเล่น และทำกิจกรรม กันจนเหนื่อย เสียงท้องก็ร้อง ได้เวลาเดินทางไปหาของอร่อยทานกันค่ะ เป้าหมายของเรามุ่งตรงเข้าสู่เมือง  อุดรฯ โดยค่ำนี้เราจะไปทาน อาหารที่ร้าน VT แหนมเนือง




จากนั้น ก็เข้าสู่ที่พัก คืนนี้พักที่นี่  บราวน์เฮ้าส์ อุดร
บรรยากาศภายใน Lobby ของ บราวน์เฮ้าส์
ยังไม่จบสำหรับค่ำคืนนี้ รวมแก๊งค์ออกเดินทางท่องราตรีนิดนึง มากันที่ตลาด UD Town เดินเล่นกันต่อ
ช่วงที่มาใกล้วาไลนไทน์ เลยตกแต่งด้วยหัวใจเยอะๆหน่อย สถานที่กว้างขวางมาก เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร และ ร้านขายของที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในอุดร เลยก็ว่าได้

               เช้าวันที่สาม ก่อนออกเดินทาง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม เห็นเมนูอาหารแล้วประทับใจ น่ากินทั้งนั้นเลย  ถ่ายรูปบรรยากาศตอนเช้าของที่พักสักหน่อย

เมนูบ้านๆ ที่คุ้นเคย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูนุ่มอร่อยเข้ากันได้ดีกับข้าวเหนียวร้อนๆ



                         มาถึงจังหวัดอุดรฯ ทั้งที พลาดไม่ได้ กับการเดินทางไปไหว้พระทำบุญ โดยครั้งนี้ เราไปที่ วัดป่าภูก้อน จุดเด่นของวัดป่าภูก้อน คือการออกแบบทางสถาปัตยกรรมขององค์พระพุทธรูปหินอ่อน “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีพระวิหาร” ทีมีความยาว 20 เมตร ศาลาราย และอาคารรอบลานเขา โดยพระวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์

                  หลังจากอิ่มบุญแล้ว ก็ได้เวลาอิ่มท้องกัน เราแวะกินอาหารท้องถิ่น ของทางอุดร กันแบบ เบาๆ กรุบกริบ เพราะ จะเก็บท้องไปยังร้านของหวาน ที่ตอนนี้กำลังมาแรง
นี่ขนาดรองท้องนะ ยังจัดเต็มมาก

               เดินทางต่อไปยังร้านจุดหมายนั่นก็คือร้าน บ้านนา คาเฟ่ เข้าไปถึง คือ ฟิน อะ บรรยากาศ ดีดี๊ กว้างขวาง มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลย และที่สำคัญ ขนมเค้ก ชา กาแฟ รสชาติดีงาม ราคาก็ดีงามอยู่
มีทั้งแบบ indoor และ outdoor  สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ



                         หลังจากฟิน และ ดื่มด่ำทั้งบรรยากาศและของหวานแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับ ทริปสุดประทับใจ #เที่ยวเท่ๆแบบไทยๆ  #อีสาน อาหารอร่อย #ข้าวไทยอร่อยที่สุดในโลก #อยากกลับไปอีก #ประทับใจถิ่นอีสาน #เที่ยวเท่ๆ แบบไทยๆ #เ