
ใครที่ว่าหอสมุดแห่งชาติเชย ล้าสมัย โบราณคร่ำครึ (ว.เก่าเกินไป,ไม่ทันสมัย) เก่าเกินไปบ้างไหม? ถ้าคุณยังมีความคิดเช่นนี้อยู่คุณต้องรีบเปลี่ยนมุมมองใหม่ในทันที เพราะผมจะพาท่านไปที่หอสมุดแห่งชาติ (ท่าวาสุกรี) หอสมุดแห่งแรกของประเทศไทยที่ในวันนี้ไม่ใช่ห้องสมุดโบราณทั้งหมดแบบที่ท่านเคยรู้จักแล้ว แต่หอสมุดแห่งชาติในปี พ.ศ.2562 นี้ ได้พัฒนาและขับเคลื่อนไปจนก้าวทันยุคทันสมัยกับเขาแล้ว
ถ้าท่านเดินเข้าไปในห้องสมุดที่ผมจะพาท่านไปชมนี้ แล้วท่านไม่เห็นผู้ใดนั่งอ่านหนังสืออยู่เลย มีแต่คนที่นั่งก้มหน้าสไลด์เลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือก้มหน้าจดจ้องอยู่ที่แท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คอย่างตั้งใจ ท่านไม่ต้องแปลกใจเลย เพราะว่าคนเหล่านี้เขาอยู่ในห้องสมุดไร้หนังสือ NLT SMART LIBRARY พื้นที่ให้บริการใหม่ล่าสุดของหอสมุดแห่งชาติ ที่เพิ่งเปิดให้บริการมาจะครบ 5 เดือนแล้ว ไปทำความรู้จักกับห้องสมุดที่ไม่มีหนังสือแห่งนี้กันดีกว่าครับ
ผมมีโอกาสได้พูดคุยสอบถามข้อมูลจากนางสาวอัมพิกา นันทิกาญจนะ (คุณฝน) บรรณารักษ์ปฏิบัติการ ผู้จัดการ NLT SMART LIBRARY แห่งนี้ โดยคุณฝนได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจเป็นอย่างมาก ผมจึงขออนุญาตนำข้อมูลดังกล่าวมาเรียบเรียงเพื่อนำเสนอให้ในรูปแบบของการรีวิวในสไตล์ของผม
ตามผมไปชมกันดีกว่า ... ว่าในห้องสมุดแห่งนี้มีบริการรูปแบบใหม่อะไรบ้าง? ตามผมมาเลยครับ
คุณฝน ผู้จัดการ NLT SMART LIBRARY

-เนื่องในโอกาสที่หอสมุดแห่งชาติครบรอบ 113 ปี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา นางสาวกนกอร ศักดาเดช ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้คิดริเริ่มที่จะให้ห้องสมุดเปิดให้บริการในช่วงนอกเวลา คือช่วงเช้าตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงก่อนหอสมุดแห่งชาติเปิดทำการ และช่วงเวลาเย็นถึงค่ำตั้งแต่หลังหอสมุดแห่งชาติปิดให้บริการจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง เพื่อรองรับผู้ที่ใช้บริการที่สะดวกมาใช้บริการนอกเวลาทำการปกติ จึงจัดสร้างเป็น NLT SMART LIBRARY แห่งนี้ขึ้นมา
-หอสมุดแห่งชาติ (อาคารหลัก-อาคารโบราณ) เปิดให้บริการในวันจันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่เวลา 9.00 -18.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. (ปิดบริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์)

-ส่วน NLT SMART LIBRARY (อาคารข้างนอกด้านหน้า) เปิดให้บริการในวันจันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่เวลา 7.00 – 20.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12.30 – 20.30 น. (ปิดบริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์)
-บริเวณที่เป็น NLT SMART LIBRARY นี้เดิมเป็นอาคารร้านค้าที่จะมีอยู่ 2 ฝั่ง โดยฝั่งปีกซ้ายของอาคารตอนนี้เป็นร้านขายหนังสือของกรมศิลปากร ส่วนฝั่งขวานี้เดิมร้านขายกาแฟ พอร้านกาแฟยกเลิกสัญญาไปทางหอสมุดฯ จึงคิดที่จะใช้พื้นที่นี้ให้เป็นประโยชน์ โดยพื้นที่ส่วนนี้อยู่ด้านหน้าตัวอาคารหอสมุดฯ ฝั่งปีกขวาของอาคาร (ฝั่งตะวันตก-ถ้ามองจากถนนสามเสนคือส่วนที่เห็นอยู่ด้านหน้าอาคารหลักทางซ้ายมือ) เป็นอาคารกระจกติดแอร์ชั้นเดียวที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นมานอกอาคารหลัก
-สำหรับแนวคิดของ NLT SMART LIBRARY คือห้องสมุดไร้หนังสือ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่พฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นให้บริการออนไลน์ทุกอย่างของหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันมีบริการออนไลน์หลักอยู่ 8 ประเภทคือ
1.Single Search เป็นบริการสืบค้นรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่ทั้งหมดของหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 2 ล้านรายการ สืบค้นผ่านช่องทางนี้ช่องทางเดียวก็จะรู้เลยว่า หนังสือที่ท่านสืบค้นนั้นอยู่ที่ไหน อยู่ชั้นไหนของหอสมุดฯ หรืออยู่ที่หอสมุดย่อยแห่งไหนของเรา โดยดูได้หมดว่ามีกี่เล่มและเล่มไหนอยู่ที่ไหนบ้าง (บริการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศ เข้าถึงได้จากเว็บไซต์หอสมุด
www.nlt.go.th )
2.NLT Library เป็นแอพพลิเคชั่นหลักของทางหอสมุดแห่งชาติ สามารถใฃ้บริการสืบค้นรายการทรัพยากรสารสนเทศจากฐานข้อมูลต่างๆ ของหอสมุดแห่งชาติ รวมทั้งหนังสือหายากอิเล็กทรอนิกส์ด้วย ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอพใช้ทางสมาร์ทโฟนของตัวท่านได้เลย ( Mobile application ชื่อว่า NLT Library )
3.D-Library คือห้องสมุดดิจิทัลของหอสมุดแห่งชาติ สามารถสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศฉบับเต็ม จำนวน 14 คอลเล็กชั่น มากกว่า 10,000 รายการ จริงๆ แล้วตัวนี้คือการที่หอสมุดฯ ทำหนังสือเล่มแปลงให้เป็นข้อมูลดิจิทัล โดยทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของหอสมุดแห่งชาติทั้งหมด หนังสือดิจิทัลนี้จะเป็นอีบุ๊ค E-Book ที่สามารถรันได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เป็นการอ่านอีบุ๊คผ่านเว็บลิ้งค์ D-Library ได้เลย (เป็นเว็บอีบุ๊ค) ซึ่งจะมีทั้งหนังสือหายาก , หนังสือเก่า , แบบเรียนเก่า ฯลฯ (ห้องสมุดดิจิทัล D-Library เข้าถึงได้จาก
http://164.115.27.97/digital/ )

4.คลังดิจิทัลของกรมศิลปากร เป็นคลังดิจิทัลที่จัดเก็บข้อมูลหนังสือ วารสาร นิตยสาร ที่จัดพิมพ์ภายใต้กรมศิลปากร รวมทั้งหนังสือหายากของกรมศิลปากรด้วย โดยจะเว็บให้บริการอีบุ๊คเหมือนของหอสมุดแห่งชาติเลย (บริการคลังดิจิทัล กรมศิลปากร เข้าถึงได้จาก
http://www.digitalcenter.finearts.go.th/ )

5.e-Service เป็นระบบสารสนเทศทางด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมเพื่อประชาชนทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้บริการขอเลข ISBN , ISSN , CIP และจดแจ้งการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถขอเลข ISBN ออนไลน์จากทาง e-Service ได้เลย โดยถ้าผู้ใช้บริการกรอกข้อมูลผ่านเว็บครบและแนบไฟล์หลักฐานต่างๆ ครบถ้วน ทางหอสมุดแห่งชาติสามารถออกเลข ISBN ให้ท่านได้ภายในเวลาไม่เกิน 20 นาที (ตัวหนังสือเล่มเอามาให้ภายหลังได้) ซึ่งการให้บริการนี้มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2555 แล้ว โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสำนักพิมพ์ใช้บริการออนไลน์นี้มากกว่าบุคคลธรรมดา (บริการ e-Service (ขอเลข ISBN, ISSN, CIP และจดแจ้งการพิมพ์หัวหนังสือพิมพ์) เข้าถึงได้จาก
http://e-service.nlt.go.th/ )
6.E-Newspaper บริการวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับเต็ม จาก 120 ประเทศ มากกว่า 60 ภาษาทั่วโลก ปัจจุบันมีวารสาร นิยสาร และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ให้บริการมากกว่า 7,000 ชื่อ(หัว) โดยมีทั้งฉบับปัจจุบันและย้อนหลังไปประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนิตยสารใหม่และหนังสือพิมพ์รายวันมีให้บริการหมดเลย จะเห็นว่าในตอนเช้าๆ ก่อนเวลาทำงานจะมีผู้มาใช้บริการอ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์เยอะพอสมควร (บริการหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสารออนไลน์เข้าถึงได้จากเว็บไซต์หอสมุด
www.nlt.go.th )

7.E-Book ให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นหนังสือใหม่ ที่ทางหอสมุดแห่งชาติจัดหาไว้ให้บริการ โดยปัจจุบันมีหนังสือมากกว่า 700 ชื่อเรื่องแล้ว สำหรับบริการนี้เป็น E-Book ที่ทางหอสมุดแห่งชาติจัดซื้อมาสำเร็จรูปจากทางผู้ผลิต(สำนักพิมพ์)โดยตรง โดยจัดซื้อผ่านบริษัทที่เป็นตัวกลางในการจัดจำหน่าย E-Book เป็นซื้อผ่านการคัดเลือก โดยจะต้องเป็น E-Book ที่ดีและน่าสนใจ (บริการ E-Book เข้าถึงได้จากเว็บไซต์หอสมุด
www.nlt.go.th )

8.QR Code Station เป็นการดาวน์โหลดหนังสือที่น่าสนใจรวมทั้งข้อมูล คู่มือ และวิธีการใช้งานฐานข้อมูลต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงผ่านการสแกน QR Code ตอนนี้ทาง NLT SMART LIBRARY พยายามทำข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ โดยจัดทำเป็นการเข้าผ่านการสแกน QR Code เพียงครั้งเดียว (ยิง QR Code ผ่านสมาร์ทโฟนของท่าน) แล้วสามารถเข้าอ่าน E-Book เล่มนั้นได้เลย
-และที่ทำออกมาล่าสุดคือ เป็นการรวบรวมเว็บ E-Book ภาครัฐที่ให้บริการฟรีแก่ประชาชน อย่างในตัวโปสเตอร์นี้จะเห็นมาทางหอสมุดแห่งชาติคัดเลือกหน่วยงานที่ให้บริการอีบุ๊คที่น่าสนใจและมีการใช้บริการบ่อย เอามาทำเป็น QR Code Station ที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างหน่วยงานภาครัฐที่รวบรวมไว้เช่น ของกระทรวงวัฒนธรรม , ของทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , ของ TCDC , ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ฯลฯ โดยพยายามคัดเลือกมาให้มีความหลากหลายด้านด้วย


NLT SMART LIBRARY ... ห้องสมุดไร้หนังสือ
ใครที่ว่าหอสมุดแห่งชาติเชย ล้าสมัย โบราณคร่ำครึ (ว.เก่าเกินไป,ไม่ทันสมัย) เก่าเกินไปบ้างไหม? ถ้าคุณยังมีความคิดเช่นนี้อยู่คุณต้องรีบเปลี่ยนมุมมองใหม่ในทันที เพราะผมจะพาท่านไปที่หอสมุดแห่งชาติ (ท่าวาสุกรี) หอสมุดแห่งแรกของประเทศไทยที่ในวันนี้ไม่ใช่ห้องสมุดโบราณทั้งหมดแบบที่ท่านเคยรู้จักแล้ว แต่หอสมุดแห่งชาติในปี พ.ศ.2562 นี้ ได้พัฒนาและขับเคลื่อนไปจนก้าวทันยุคทันสมัยกับเขาแล้ว
ถ้าท่านเดินเข้าไปในห้องสมุดที่ผมจะพาท่านไปชมนี้ แล้วท่านไม่เห็นผู้ใดนั่งอ่านหนังสืออยู่เลย มีแต่คนที่นั่งก้มหน้าสไลด์เลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือก้มหน้าจดจ้องอยู่ที่แท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คอย่างตั้งใจ ท่านไม่ต้องแปลกใจเลย เพราะว่าคนเหล่านี้เขาอยู่ในห้องสมุดไร้หนังสือ NLT SMART LIBRARY พื้นที่ให้บริการใหม่ล่าสุดของหอสมุดแห่งชาติ ที่เพิ่งเปิดให้บริการมาจะครบ 5 เดือนแล้ว ไปทำความรู้จักกับห้องสมุดที่ไม่มีหนังสือแห่งนี้กันดีกว่าครับ
ผมมีโอกาสได้พูดคุยสอบถามข้อมูลจากนางสาวอัมพิกา นันทิกาญจนะ (คุณฝน) บรรณารักษ์ปฏิบัติการ ผู้จัดการ NLT SMART LIBRARY แห่งนี้ โดยคุณฝนได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจเป็นอย่างมาก ผมจึงขออนุญาตนำข้อมูลดังกล่าวมาเรียบเรียงเพื่อนำเสนอให้ในรูปแบบของการรีวิวในสไตล์ของผม
ตามผมไปชมกันดีกว่า ... ว่าในห้องสมุดแห่งนี้มีบริการรูปแบบใหม่อะไรบ้าง? ตามผมมาเลยครับ
-เนื่องในโอกาสที่หอสมุดแห่งชาติครบรอบ 113 ปี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา นางสาวกนกอร ศักดาเดช ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้คิดริเริ่มที่จะให้ห้องสมุดเปิดให้บริการในช่วงนอกเวลา คือช่วงเช้าตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงก่อนหอสมุดแห่งชาติเปิดทำการ และช่วงเวลาเย็นถึงค่ำตั้งแต่หลังหอสมุดแห่งชาติปิดให้บริการจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง เพื่อรองรับผู้ที่ใช้บริการที่สะดวกมาใช้บริการนอกเวลาทำการปกติ จึงจัดสร้างเป็น NLT SMART LIBRARY แห่งนี้ขึ้นมา
-หอสมุดแห่งชาติ (อาคารหลัก-อาคารโบราณ) เปิดให้บริการในวันจันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่เวลา 9.00 -18.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. (ปิดบริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์)
-ส่วน NLT SMART LIBRARY (อาคารข้างนอกด้านหน้า) เปิดให้บริการในวันจันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่เวลา 7.00 – 20.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12.30 – 20.30 น. (ปิดบริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์)
-บริเวณที่เป็น NLT SMART LIBRARY นี้เดิมเป็นอาคารร้านค้าที่จะมีอยู่ 2 ฝั่ง โดยฝั่งปีกซ้ายของอาคารตอนนี้เป็นร้านขายหนังสือของกรมศิลปากร ส่วนฝั่งขวานี้เดิมร้านขายกาแฟ พอร้านกาแฟยกเลิกสัญญาไปทางหอสมุดฯ จึงคิดที่จะใช้พื้นที่นี้ให้เป็นประโยชน์ โดยพื้นที่ส่วนนี้อยู่ด้านหน้าตัวอาคารหอสมุดฯ ฝั่งปีกขวาของอาคาร (ฝั่งตะวันตก-ถ้ามองจากถนนสามเสนคือส่วนที่เห็นอยู่ด้านหน้าอาคารหลักทางซ้ายมือ) เป็นอาคารกระจกติดแอร์ชั้นเดียวที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นมานอกอาคารหลัก
-สำหรับแนวคิดของ NLT SMART LIBRARY คือห้องสมุดไร้หนังสือ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่พฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นให้บริการออนไลน์ทุกอย่างของหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันมีบริการออนไลน์หลักอยู่ 8 ประเภทคือ
1.Single Search เป็นบริการสืบค้นรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่ทั้งหมดของหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 2 ล้านรายการ สืบค้นผ่านช่องทางนี้ช่องทางเดียวก็จะรู้เลยว่า หนังสือที่ท่านสืบค้นนั้นอยู่ที่ไหน อยู่ชั้นไหนของหอสมุดฯ หรืออยู่ที่หอสมุดย่อยแห่งไหนของเรา โดยดูได้หมดว่ามีกี่เล่มและเล่มไหนอยู่ที่ไหนบ้าง (บริการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศ เข้าถึงได้จากเว็บไซต์หอสมุด www.nlt.go.th )
2.NLT Library เป็นแอพพลิเคชั่นหลักของทางหอสมุดแห่งชาติ สามารถใฃ้บริการสืบค้นรายการทรัพยากรสารสนเทศจากฐานข้อมูลต่างๆ ของหอสมุดแห่งชาติ รวมทั้งหนังสือหายากอิเล็กทรอนิกส์ด้วย ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอพใช้ทางสมาร์ทโฟนของตัวท่านได้เลย ( Mobile application ชื่อว่า NLT Library )
3.D-Library คือห้องสมุดดิจิทัลของหอสมุดแห่งชาติ สามารถสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศฉบับเต็ม จำนวน 14 คอลเล็กชั่น มากกว่า 10,000 รายการ จริงๆ แล้วตัวนี้คือการที่หอสมุดฯ ทำหนังสือเล่มแปลงให้เป็นข้อมูลดิจิทัล โดยทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของหอสมุดแห่งชาติทั้งหมด หนังสือดิจิทัลนี้จะเป็นอีบุ๊ค E-Book ที่สามารถรันได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เป็นการอ่านอีบุ๊คผ่านเว็บลิ้งค์ D-Library ได้เลย (เป็นเว็บอีบุ๊ค) ซึ่งจะมีทั้งหนังสือหายาก , หนังสือเก่า , แบบเรียนเก่า ฯลฯ (ห้องสมุดดิจิทัล D-Library เข้าถึงได้จาก http://164.115.27.97/digital/ )
4.คลังดิจิทัลของกรมศิลปากร เป็นคลังดิจิทัลที่จัดเก็บข้อมูลหนังสือ วารสาร นิตยสาร ที่จัดพิมพ์ภายใต้กรมศิลปากร รวมทั้งหนังสือหายากของกรมศิลปากรด้วย โดยจะเว็บให้บริการอีบุ๊คเหมือนของหอสมุดแห่งชาติเลย (บริการคลังดิจิทัล กรมศิลปากร เข้าถึงได้จาก http://www.digitalcenter.finearts.go.th/ )
5.e-Service เป็นระบบสารสนเทศทางด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมเพื่อประชาชนทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้บริการขอเลข ISBN , ISSN , CIP และจดแจ้งการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถขอเลข ISBN ออนไลน์จากทาง e-Service ได้เลย โดยถ้าผู้ใช้บริการกรอกข้อมูลผ่านเว็บครบและแนบไฟล์หลักฐานต่างๆ ครบถ้วน ทางหอสมุดแห่งชาติสามารถออกเลข ISBN ให้ท่านได้ภายในเวลาไม่เกิน 20 นาที (ตัวหนังสือเล่มเอามาให้ภายหลังได้) ซึ่งการให้บริการนี้มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2555 แล้ว โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสำนักพิมพ์ใช้บริการออนไลน์นี้มากกว่าบุคคลธรรมดา (บริการ e-Service (ขอเลข ISBN, ISSN, CIP และจดแจ้งการพิมพ์หัวหนังสือพิมพ์) เข้าถึงได้จาก http://e-service.nlt.go.th/ )
6.E-Newspaper บริการวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับเต็ม จาก 120 ประเทศ มากกว่า 60 ภาษาทั่วโลก ปัจจุบันมีวารสาร นิยสาร และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ให้บริการมากกว่า 7,000 ชื่อ(หัว) โดยมีทั้งฉบับปัจจุบันและย้อนหลังไปประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนิตยสารใหม่และหนังสือพิมพ์รายวันมีให้บริการหมดเลย จะเห็นว่าในตอนเช้าๆ ก่อนเวลาทำงานจะมีผู้มาใช้บริการอ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์เยอะพอสมควร (บริการหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสารออนไลน์เข้าถึงได้จากเว็บไซต์หอสมุด www.nlt.go.th )
7.E-Book ให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นหนังสือใหม่ ที่ทางหอสมุดแห่งชาติจัดหาไว้ให้บริการ โดยปัจจุบันมีหนังสือมากกว่า 700 ชื่อเรื่องแล้ว สำหรับบริการนี้เป็น E-Book ที่ทางหอสมุดแห่งชาติจัดซื้อมาสำเร็จรูปจากทางผู้ผลิต(สำนักพิมพ์)โดยตรง โดยจัดซื้อผ่านบริษัทที่เป็นตัวกลางในการจัดจำหน่าย E-Book เป็นซื้อผ่านการคัดเลือก โดยจะต้องเป็น E-Book ที่ดีและน่าสนใจ (บริการ E-Book เข้าถึงได้จากเว็บไซต์หอสมุด www.nlt.go.th )
8.QR Code Station เป็นการดาวน์โหลดหนังสือที่น่าสนใจรวมทั้งข้อมูล คู่มือ และวิธีการใช้งานฐานข้อมูลต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงผ่านการสแกน QR Code ตอนนี้ทาง NLT SMART LIBRARY พยายามทำข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ โดยจัดทำเป็นการเข้าผ่านการสแกน QR Code เพียงครั้งเดียว (ยิง QR Code ผ่านสมาร์ทโฟนของท่าน) แล้วสามารถเข้าอ่าน E-Book เล่มนั้นได้เลย
-และที่ทำออกมาล่าสุดคือ เป็นการรวบรวมเว็บ E-Book ภาครัฐที่ให้บริการฟรีแก่ประชาชน อย่างในตัวโปสเตอร์นี้จะเห็นมาทางหอสมุดแห่งชาติคัดเลือกหน่วยงานที่ให้บริการอีบุ๊คที่น่าสนใจและมีการใช้บริการบ่อย เอามาทำเป็น QR Code Station ที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างหน่วยงานภาครัฐที่รวบรวมไว้เช่น ของกระทรวงวัฒนธรรม , ของทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , ของ TCDC , ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ฯลฯ โดยพยายามคัดเลือกมาให้มีความหลากหลายด้านด้วย