ถามเรื่อง18+ อาการหลังมีเพศสัมพันธ์กับแฟน

พอดีว่าผมมีอะไรกับแฟนตามปกติ แล้วก็ล้างปกติไม่ได้คิดอะไร แต่พอตกเย็นก็รู้สึกมีตุ่มอะไรขึ้น พอเอานิ้วเป็นสัมผัส ก็เจ็บมาก เลยคงคิดว่าคงเป็นสิวธรรมดาทั่วไป หลังจากวันนั้นหนึ่งวัน ผมได้กลับมาดูอาการของตัวเอง กลับพบว่า มีผื่นขึ้นที่หัวอวัยวะเพศของผม ผมกังวลมาก ผมเลยอยากจะถามว่ส อาการดังกล่าวที่ผมว่ามา เป็นโรคอะไร พอจะมีทางแก้รักษาได้ไหม

ขอบคุณมากนะครับ ผมกังวลมาก
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
โรคหูดหงอนไก่

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความเสี่ยงอย่างเช่นการมีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส HPV หรือ Human papilloma virus โดยเป็นติ่งเนื้อสีชมพูที่มีลักษณะเหมือนดอกเล็กๆ คล้ายกับดอกกะหล่ำหรือหงอนไก่ โดยมีวิธีรักษาหลายวิธีที่ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของรอยโรค แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

การรักษาด้วยวิธีจี้ไฟฟ้าหรือเลเซอร์ เป็นการตัดรอยโรคออกไป โดยลดอาการเจ็บด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่เสียก่อน แต่วิธีนี้จะมีข้อเสียตรงที่ควันจากการจี้รักษาจะมีเชื้อไวรัส HPV ซึ่งถ้าสูดดมเข้าไปมากอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ HPV ในระบบทางเดินหายใจได้ และยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ 5 – 50%
การรักษาด้วยวิธีจี้ด้วยความเย็น เป็นการใช้ไม้พันสำลีชุบกับไนโตรเจนเหลวแล้วป้ายที่รอยโรค หรือใช้วิธีพ่นสเปรย์ลงบริเวณที่รอยโรค เพื่อให้ความเย็นสัมผัสกับรอยโรคนั้นเป็นระยะเวลาประมาณ 10 – 15 นาที ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดบ้างและทิ้งรอยดำไว้ โดยสามารถทำซ้ำได้ทุก 2 สัปดาห์หรือจนกว่าจะหายดี แต่ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยโรคด้วยเช่นกัน และยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ 20 – 40%
การตัดออกด้วยวิธีผ่าตัด โดยใช้ยาชาฉีดเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด และยังเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดโอกาสหรือความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำได้มากที่สุด เพียงแค่ 20% เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ
ใช้ยา Imiquimod 5% ทาหรือป้ายที่รอยโรค เป็นการกระตุ้นภูมิต้านทานโรคเพื่อให้ร่างกายกำจัดเชื้อ HPV เหมาะสำหรับหูดหงอนไก่ที่อยู่ในบริเวณที่ราบและไม่ได้อยู่บริเวณเยื่อเมือกต่างๆ ของร่างกาย และยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ 20%
ใช้ยา Podophyllin 5% ทาหรือป้ายที่รอยโรค แพทย์จะแต้มยาชนิดนี้ทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วล้างออก โดยใช้รักษาเป็นระยะเวลา 3 – 4 สัปดาห์ หรือจนกว่ารอยโรคจะหาย ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของรอยโรค แต่อาจจะรู้สึกแสบหรือระคายเคืองบริเวณที่แต้มยาไว้ และยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ 20 – 35%
ใช้ยา Trichloroacetic acid 50 – 70% ทาหรือป้ายที่รอยโรค โดยไม่ต้องล้างออก และใช้รักษาซ้ำทุก 2 สัปดาห์ หรือจนกว่ารอยโรคจะหาย แต่อาจจะรู้สึกแสบหรือระคายเคืองบริเวณที่แต้มยาไว้ และยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ 35%
โรคหูดข้าวสุก

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Molluscum contagiosum จะเป็นตุ่มที่มีลักษณะเป็นรอยบุ๋มตรงกลาง เมื่อบีบแล้วจะมีสารที่มีสีขาวขุ่นคล้ายกับข้าวสุก โดยแพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้

รอเวลาให้หายเอง จะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 เดือน ซึ่งมักจะใช้กับเด็กที่มีรอยโรคไม่มากนัก เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บจากการรักษาด้วยวิธีอื่น
การขูดออก เป็นการขูดรอยโรคที่เรียกว่า Molluscum bodies ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Curette โดยสามารถใช้ยาชาชนิดแปะ เพื่อลดอาการเจ็บปวดลงได้ และแพทย์จะทำการรักษาซ้ำทุก 2 – 3 สัปดาห์ จนกว่ารอยโรคจะหายไป
การจี้เย็น เป็นการใช้ไม้พันสำลีชุบกับไนโตรเจนเหลวแล้วป้ายที่รอยโรค เพื่อให้ความเย็นสัมผัสกับรอยโรคนั้นเป็นระยะเวลาประมาณ 10 – 15 นาที ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดบ้างและทิ้งรอยดำไว้ โดยสามารถทำซ้ำได้ทุก 2 สัปดาห์หรือจนกว่าจะหายดี แต่ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยโรคด้วยเช่นกัน
การใช้ยา แพทย์จะใช้ยา Podophyllin เป็นยาชนิดเดียวกันกับที่รักษาโรคหูดหงอนไก่ เพื่อทำลายเซลล์ผิวหนังที่มีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ เหมาะสำหรับรอยโรคที่อยู่บริเวณเนื้อหรือเยื่อเมือกของอวัยวะเพศ และแพทย์จะทำการจี้ซ้ำทุกสัปดาห์ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ จนกว่ารอยโรคจะหายไป
ดังนั้นเราจึงพอจะทราบแล้วว่า ตุ่มสีขาวที่ขึ้นเรียงกันบริเวณอวัยวะเพศนั้น ไม่ได้มีสาเหตุเพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เสมอไป แต่เราก็ไม่ควรไว้วางใจเช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะต้องใช้ถุงยางอนามัยเสมอ รวมถึงหมั่นสังเกตตัวเองด้วยนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่