สวัสดีค่ะ คือตอนนี้เรามีปัญหาที่คิดไม่ตกอยู่ประมาณหนึ่งค่ะ คือตัวเราเองทำงานหลายด้าน และหนึ่งในนั้นคือผลิตสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจำหน่าย (ทั้งแบบปลีกและส่ง)
ที่ผ่านมาเราจะขายส่งเป็นหลัก และ 70% ของยอดขายส่งจะเป็นลูกค้าเครดิต ซึ่งยอมรับเลยค่ะว่ามีผลต่อสภาพคล่องของเงินสดหมุนเวียนมากๆ
สินค้าของเราจัดว่าเป็นสินค้าที่จับกลุ่มผู้บริโภคในตลาดกลางถึงบน และมีเป้าหมายที่จะส่งนอก (คาดหวังว่าจะเป็นไปได้ภายในปีหน้า)
ขออธิบายลักษณะของสินค้าของเราก่อนนะคะ
- เป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน
- เป็นสินค้า otop (4 ดาว)
- เคยได้รับคัดเลือกจากห้าง modern trade แห่งหนึ่งนำสินค้าของเราไปจัดลงขายในกระเช้าปีใหม่
** ห้างนี้เคยคัดเลือกสินค้าของเราเพื่อนำเข้าไปวางจำหน่ายในห้าง แต่เราไม่พร้อมจริงๆค่ะ ทุนไม่ถึง
- มีหลายห้างสนใจนำสินค้าของเราไปวางจำหน่าย แต่ตามเหตุผลข้างต้น เงินเราไม่ถึง จึงไม่พร้อมที่จะเข้าไปลุยตลาดนี้ค่ะ
- ได้รับคัดเลือกเป็น start up ของโครงการมหาวิทยาลัย
- ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมหรือเป็นสินค้าสำหรับทดลองตลาดของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
** แต่ละมหาวิทยาลัยเค้าเลือกและเข้ามาหาเราเองนะคะ เราไม่ได้นำสินค้าเข้าไปเสนอ
ทั้งหมดข้างบนนี้คือข้อมูลคร่าวๆของสินค้าของเราค่ะ
... ทีนี้ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ...
ด้วยสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เราจึงวางแผนจะทำการตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง ซึ่งที่จริงวางแผนจะทำมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่ติดปัญหาบางอย่างจึงยังไม่พร้อม ก็เลยได้แต่ขายออนไลน์เล็กๆน้อยเท่าที่กำลังความสามารถจะทำได้ แต่มาวันนี้ เราคิดว่าเราพร้อมแล้วที่จะทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง โดยวิธีที่จะทำคือ
1. ทำการตลาดด้วยตัวเอง ขายเอง
และ
2. รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั้งแบบสต็อกสินค้า และไม่สต็อกสินค้า
** เราจะมีคลิปช่วยในการทำการตลาด **
สำหรับการจำหน่ายเองนั้น เราไม่ค่อยกังวล แต่สิ่งที่กังวลคือ ระบบตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากตอนนี้เราคิดไม่ตกจริงๆค่ะว่าควรจะให้ค่าคอมฯ กับตัวแทนเท่าไหร่ดี เท่าที่เราคิดไว้คือ
- ตัวแทนจำหน่ายแบบสต็อกสินค้า ให้ 40%
- ตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต็อกสินค้า 20%
เราเองก็ลอง search หาข้อมูลดูแล้วนะคะ แต่เห็นสินค้าบางอย่าง ให้ค่าคอมฯ กัน 50-70% กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าสินค้าเราต้องการให้ค่าคอมขนาดนั้น เราจำเป็นต้องเพิ่มราคาสินค้า ซึ่งลูกค้าก็ต้องรับภาระส่วนนั้นเพิ่มเข้าไปอีก ...ตอนนี้เลยคิดไม่ตกจริงๆค่ะ
... คำถามคือ...
เราควรเดินแผนยังไงดีคะ บอกตรงๆเลยค่ะว่ามืดแปดด้านจริงๆ ตอนนี้แผนในสมองมันตีกันยุ่งไปหมด เนื่องจากต้องคิดเอง วางแผนเองคนเดียว
เราเองก็คิดอยู่นานมากว่าจะโพสต์ถามใน pantip ดีมั้ย ลังเลอยู่นาน จนหาเวลามันใกล้เข้ามาแล้ว จำเป็นต้องหาข้อสรุปให้ได้ เลยตัดสินใจเข้ามาพึ่งเพื่อนๆ และผู้มีความรู้ใน pantip นี่แหละค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ และขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ... ขอบคุณค่ะ 😊😊
ให้ค่าคอมมิชชั่นกับตัวแทนจำหน่ายเท่าไหร่ดี ปัญหาที่คิดไม่ตก
ที่ผ่านมาเราจะขายส่งเป็นหลัก และ 70% ของยอดขายส่งจะเป็นลูกค้าเครดิต ซึ่งยอมรับเลยค่ะว่ามีผลต่อสภาพคล่องของเงินสดหมุนเวียนมากๆ
สินค้าของเราจัดว่าเป็นสินค้าที่จับกลุ่มผู้บริโภคในตลาดกลางถึงบน และมีเป้าหมายที่จะส่งนอก (คาดหวังว่าจะเป็นไปได้ภายในปีหน้า)
ขออธิบายลักษณะของสินค้าของเราก่อนนะคะ
- เป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน
- เป็นสินค้า otop (4 ดาว)
- เคยได้รับคัดเลือกจากห้าง modern trade แห่งหนึ่งนำสินค้าของเราไปจัดลงขายในกระเช้าปีใหม่
** ห้างนี้เคยคัดเลือกสินค้าของเราเพื่อนำเข้าไปวางจำหน่ายในห้าง แต่เราไม่พร้อมจริงๆค่ะ ทุนไม่ถึง
- มีหลายห้างสนใจนำสินค้าของเราไปวางจำหน่าย แต่ตามเหตุผลข้างต้น เงินเราไม่ถึง จึงไม่พร้อมที่จะเข้าไปลุยตลาดนี้ค่ะ
- ได้รับคัดเลือกเป็น start up ของโครงการมหาวิทยาลัย
- ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมหรือเป็นสินค้าสำหรับทดลองตลาดของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
** แต่ละมหาวิทยาลัยเค้าเลือกและเข้ามาหาเราเองนะคะ เราไม่ได้นำสินค้าเข้าไปเสนอ
ทั้งหมดข้างบนนี้คือข้อมูลคร่าวๆของสินค้าของเราค่ะ
... ทีนี้ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ...
ด้วยสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เราจึงวางแผนจะทำการตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง ซึ่งที่จริงวางแผนจะทำมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่ติดปัญหาบางอย่างจึงยังไม่พร้อม ก็เลยได้แต่ขายออนไลน์เล็กๆน้อยเท่าที่กำลังความสามารถจะทำได้ แต่มาวันนี้ เราคิดว่าเราพร้อมแล้วที่จะทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง โดยวิธีที่จะทำคือ
1. ทำการตลาดด้วยตัวเอง ขายเอง
และ
2. รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั้งแบบสต็อกสินค้า และไม่สต็อกสินค้า
** เราจะมีคลิปช่วยในการทำการตลาด **
สำหรับการจำหน่ายเองนั้น เราไม่ค่อยกังวล แต่สิ่งที่กังวลคือ ระบบตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากตอนนี้เราคิดไม่ตกจริงๆค่ะว่าควรจะให้ค่าคอมฯ กับตัวแทนเท่าไหร่ดี เท่าที่เราคิดไว้คือ
- ตัวแทนจำหน่ายแบบสต็อกสินค้า ให้ 40%
- ตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต็อกสินค้า 20%
เราเองก็ลอง search หาข้อมูลดูแล้วนะคะ แต่เห็นสินค้าบางอย่าง ให้ค่าคอมฯ กัน 50-70% กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าสินค้าเราต้องการให้ค่าคอมขนาดนั้น เราจำเป็นต้องเพิ่มราคาสินค้า ซึ่งลูกค้าก็ต้องรับภาระส่วนนั้นเพิ่มเข้าไปอีก ...ตอนนี้เลยคิดไม่ตกจริงๆค่ะ
... คำถามคือ...
เราควรเดินแผนยังไงดีคะ บอกตรงๆเลยค่ะว่ามืดแปดด้านจริงๆ ตอนนี้แผนในสมองมันตีกันยุ่งไปหมด เนื่องจากต้องคิดเอง วางแผนเองคนเดียว
เราเองก็คิดอยู่นานมากว่าจะโพสต์ถามใน pantip ดีมั้ย ลังเลอยู่นาน จนหาเวลามันใกล้เข้ามาแล้ว จำเป็นต้องหาข้อสรุปให้ได้ เลยตัดสินใจเข้ามาพึ่งเพื่อนๆ และผู้มีความรู้ใน pantip นี่แหละค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ และขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ... ขอบคุณค่ะ 😊😊