เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น Cafe’ Funiculi Funicula
(เปิดเผยเนื้อหา)
วันนี้มีโอกาสได้ดูภาพยนต์ญี่ปุ่นเรื่อง Cafe’ Funiculi Funicula ที่มีชื่อไทยแสนละมุนว่า เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ค่ะ
ความที่เราชอบโทนหนัง และพลอตเรื่องประมาณนี้อยู่แล้ว เลยไม่พลาดที่จะตั้งตารอดูตั้งแต่เป็นฉบับหนังสือแปลไทย(ซึ่งก็คือซื้อมากองไว้โดยที่ไม่มีเวลาได้อ่านน่ะนะคะ 55) เราดูแล้วเราประทับใจนะอยากชวนเพื่อนๆที่ชอบหนังญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนที่ชอบพลอตแนวการคาบเกี่ยวกันของเวลา/การย้อนเวลา ความสำคัญของคนข้างๆกายเราอะไรแนวๆนี้ มาดูกันในวันเข้าฉายจริง 21 กพ.นี้นะคะ
ออกตัวก่อนนะคะว่ามันอาจไม่ได้เป็นรีวิวที่ดีมาก เราไม่ได้รับค่าจ้างอะไร
แต่เราอยากรีวิวตามความรู้สึกเรามากกว่าเพราะถ้าปล่อยค้างนานไปก็จะลืมความรู้สึกหลังจากที่ดูจนจบหมดไปก่อน
1. พลอตเรื่อง
ถ้าเป็นคนที่ชอบหนังแนวย้อนเวลา / ไปสู่อนาคต / หรือชอบมิติความสัมพันธ์ของเรื่องโลกคู่ขนาน ทำนองนี้เป็นทุนเดิม หนังเรื่องนี้น่าจะถูกใจคุณค่ะ
เพราะพลอตเรื่องหลักๆเลยคือประเด็นนี้ อาจจะมีบางจุดที่ถ้าคนไม่ชอบเรื่องมิติเวลาได้ดูก็อาจจะงงเอาได้ และพาลเบื่อไปก่อน แต่ถ้าคุณชอบเป็นทุนเดิม เรื่องนี้ก็ไม่ซับซ้อนจนยากที่จะทำความเข้าใจค่ะ
2.โทนหนังอบอุ่น
ให้คุณค่าความหมายของชีวิต ของคนสำคัญข้างๆตัวเรา/สร้างแรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ต่อ
อันนี้ให้สิบเต็มสิบ ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ (หนังโทนนี้ ต้องเป็นญี่ปุ่นเท่านั้นล่ะน้าาา ที่ทำออกมาแล้วดูไม่ยัดเยียดจนเกินไป) แต่คนดูจะค่อยๆซึมซับความรู้สึกนั้นผ่านเนื้อเรื่องได้เองแล้วก็จะอินกับความหมายของชีวิตไปเอง
3.ร้านกาแฟ
เราเป็นคนหนึ่งที่หลังจากดูหนังจบอยากจะหาร้านกาแฟเงียบๆนั่งดื่ม นั่งพัก แล้วปล่อยใจลอยๆไปสักพักล่ะค่ะ ความที่ตัวเองเป็นคนติดกาแฟ ร้านกาแฟเลยเป็นเหมือนที่ชาร์ตพลังงานชั้นดีของเรา ยิ่งถ้าได้ร้านกาแฟเงียบๆ พนักงานเป็นกันเอง มีความเป็นส่วนตัวอย่างร้านกาแฟ Cafe’ Funiculi Funicula ในเรื่องนี่เรายิ่งหลุมรักเลยล่ะค่ะ
4.ตัวละครที่ชอบที่สุด
คือเรื่องราวของ พี่-น้อง ในเรื่องค่ะ ....เพราะเราเพิ่งเสียน้องชายที่สนิทกันมากไปเมื่อต้นปี 61
จนตอนนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้วแต่ความเศร้าความคิดถึงมันยังมีอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่พี่ดูหนังอะไรเกี่ยวกับความผูกพันของพี่น้อง พี่เลยอ่อนไหวง่ายและคิดถึงแกเสมอ...น้ำหูน้ำตาไหลมาสคาร่าเปื้อนตา พยายามผ่อนลมหายใจให้เบาที่สุดตอนนั่งร้องไห้อยู่ในโรง แล้วก็ผ่านมันมาได้ แต่ถึงแม้เป็นเรื่องเศร้าพี่ก็อิ่มใจที่ได้ดูมันนะ คิดในใจว่าได้ร้องไห้บ้างก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆมันก็ทำให้หายคิดถึงแกไปได้บ้าง
5.เคนทาโร่ อิโต
วกกลับมาหัวข้อสุดท้าย เอาแบบร่าเริงกันดีกว่า นั่นคือเคนทาโร่ค่ะ เอาจริงๆจะตั้งกระทู้แค่เคนทาโร่งี้อย่างเดียวก็ได้เนอะ แต่กลัวมันจะไร้สาระเกินไป(55 )ตอนหนังโปรโมทเห็นเคนทาโร่แว้บๆ เข้าใจว่ามาเป็นแค่เกสรับเชิญตอนเดียวอะไรแบบนี้ แต่เปล่าเลยค่ะ น้องคือตัวละครหลักในเรื่องเลยก็ว่าได้แล้วแบบ เคนทาโร่หล่อออออออออออออออออ เคนทาโร่ไม่ใช่เด็กง๊องแง๊งรับบทนักเรียนม.ปลายอีกต่อไป เรื่องนี้ฮีคือรับบทตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงานและมีลูก
เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เราเซอร์ไพร์ส (เพราะไม่คิดว่าจะอยู่ตลอดทั้งเรื่อง) เคนทาโร่คือความดีงามของเรื่องนี้ค่ะ ไปดูกันเถอะ (อันนี้สาระจริงๆ55)

21 กพ.2562 นี้นะคะในโรงภาพยนต์ ไปสนับสนุนหนังญี่ปุ่นดีดีกันเยอะๆ เราจะได้มีหนังญี่ปุ่นดีๆเข้าฉายบ้านเราอีกบ่อยๆค่ะ
เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น (หนังโทนนี้ต้องเป็นญี่ปุ่นเท่านั้นที่ทำ)
วันนี้มีโอกาสได้ดูภาพยนต์ญี่ปุ่นเรื่อง Cafe’ Funiculi Funicula ที่มีชื่อไทยแสนละมุนว่า เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ค่ะ
ความที่เราชอบโทนหนัง และพลอตเรื่องประมาณนี้อยู่แล้ว เลยไม่พลาดที่จะตั้งตารอดูตั้งแต่เป็นฉบับหนังสือแปลไทย(ซึ่งก็คือซื้อมากองไว้โดยที่ไม่มีเวลาได้อ่านน่ะนะคะ 55) เราดูแล้วเราประทับใจนะอยากชวนเพื่อนๆที่ชอบหนังญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนที่ชอบพลอตแนวการคาบเกี่ยวกันของเวลา/การย้อนเวลา ความสำคัญของคนข้างๆกายเราอะไรแนวๆนี้ มาดูกันในวันเข้าฉายจริง 21 กพ.นี้นะคะ
ออกตัวก่อนนะคะว่ามันอาจไม่ได้เป็นรีวิวที่ดีมาก เราไม่ได้รับค่าจ้างอะไร
แต่เราอยากรีวิวตามความรู้สึกเรามากกว่าเพราะถ้าปล่อยค้างนานไปก็จะลืมความรู้สึกหลังจากที่ดูจนจบหมดไปก่อน
1. พลอตเรื่อง
ถ้าเป็นคนที่ชอบหนังแนวย้อนเวลา / ไปสู่อนาคต / หรือชอบมิติความสัมพันธ์ของเรื่องโลกคู่ขนาน ทำนองนี้เป็นทุนเดิม หนังเรื่องนี้น่าจะถูกใจคุณค่ะ
เพราะพลอตเรื่องหลักๆเลยคือประเด็นนี้ อาจจะมีบางจุดที่ถ้าคนไม่ชอบเรื่องมิติเวลาได้ดูก็อาจจะงงเอาได้ และพาลเบื่อไปก่อน แต่ถ้าคุณชอบเป็นทุนเดิม เรื่องนี้ก็ไม่ซับซ้อนจนยากที่จะทำความเข้าใจค่ะ
2.โทนหนังอบอุ่น
ให้คุณค่าความหมายของชีวิต ของคนสำคัญข้างๆตัวเรา/สร้างแรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ต่อ
อันนี้ให้สิบเต็มสิบ ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ (หนังโทนนี้ ต้องเป็นญี่ปุ่นเท่านั้นล่ะน้าาา ที่ทำออกมาแล้วดูไม่ยัดเยียดจนเกินไป) แต่คนดูจะค่อยๆซึมซับความรู้สึกนั้นผ่านเนื้อเรื่องได้เองแล้วก็จะอินกับความหมายของชีวิตไปเอง
3.ร้านกาแฟ
เราเป็นคนหนึ่งที่หลังจากดูหนังจบอยากจะหาร้านกาแฟเงียบๆนั่งดื่ม นั่งพัก แล้วปล่อยใจลอยๆไปสักพักล่ะค่ะ ความที่ตัวเองเป็นคนติดกาแฟ ร้านกาแฟเลยเป็นเหมือนที่ชาร์ตพลังงานชั้นดีของเรา ยิ่งถ้าได้ร้านกาแฟเงียบๆ พนักงานเป็นกันเอง มีความเป็นส่วนตัวอย่างร้านกาแฟ Cafe’ Funiculi Funicula ในเรื่องนี่เรายิ่งหลุมรักเลยล่ะค่ะ
4.ตัวละครที่ชอบที่สุด
คือเรื่องราวของ พี่-น้อง ในเรื่องค่ะ ....เพราะเราเพิ่งเสียน้องชายที่สนิทกันมากไปเมื่อต้นปี 61
จนตอนนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้วแต่ความเศร้าความคิดถึงมันยังมีอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่พี่ดูหนังอะไรเกี่ยวกับความผูกพันของพี่น้อง พี่เลยอ่อนไหวง่ายและคิดถึงแกเสมอ...น้ำหูน้ำตาไหลมาสคาร่าเปื้อนตา พยายามผ่อนลมหายใจให้เบาที่สุดตอนนั่งร้องไห้อยู่ในโรง แล้วก็ผ่านมันมาได้ แต่ถึงแม้เป็นเรื่องเศร้าพี่ก็อิ่มใจที่ได้ดูมันนะ คิดในใจว่าได้ร้องไห้บ้างก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆมันก็ทำให้หายคิดถึงแกไปได้บ้าง
5.เคนทาโร่ อิโต
วกกลับมาหัวข้อสุดท้าย เอาแบบร่าเริงกันดีกว่า นั่นคือเคนทาโร่ค่ะ เอาจริงๆจะตั้งกระทู้แค่เคนทาโร่งี้อย่างเดียวก็ได้เนอะ แต่กลัวมันจะไร้สาระเกินไป(55 )ตอนหนังโปรโมทเห็นเคนทาโร่แว้บๆ เข้าใจว่ามาเป็นแค่เกสรับเชิญตอนเดียวอะไรแบบนี้ แต่เปล่าเลยค่ะ น้องคือตัวละครหลักในเรื่องเลยก็ว่าได้แล้วแบบ เคนทาโร่หล่อออออออออออออออออ เคนทาโร่ไม่ใช่เด็กง๊องแง๊งรับบทนักเรียนม.ปลายอีกต่อไป เรื่องนี้ฮีคือรับบทตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงานและมีลูก
เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เราเซอร์ไพร์ส (เพราะไม่คิดว่าจะอยู่ตลอดทั้งเรื่อง) เคนทาโร่คือความดีงามของเรื่องนี้ค่ะ ไปดูกันเถอะ (อันนี้สาระจริงๆ55)
21 กพ.2562 นี้นะคะในโรงภาพยนต์ ไปสนับสนุนหนังญี่ปุ่นดีดีกันเยอะๆ เราจะได้มีหนังญี่ปุ่นดีๆเข้าฉายบ้านเราอีกบ่อยๆค่ะ