เรื่องมันเกิดขึ้นจากความรักหรือความใคร่....?
เราสองคนรู้จักกันจากที่เรียน เป็นหลักสูตรที่ต้องเรียนหลังจากทำงานได้ 8 ปี เราสองคนทำงานคนละที่ คนละสายงาน แต่ได้มาเจอกันเพราะต้องเรียนหลักสูตรเดียวกัน ตอนแรกเราไม่ชอบหน้าเขาเลย ขอดูเจ้าชู้ ดูยิ่งๆ ด้วยสายงานของเขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาดูเข้าถึงได้ยาก และอีกอย่างที่เราจะไม่คิดอะไรกับเขาเลยเพราะสถานภาพของเขาคือสมรส แต่เราก็ได้คุยกันเพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทกับบัดดี้ของเรา เขาชอบมาคุยกับเราแบบเป็นคู่กัดชอบมาพูดกับเราว่าเรา แต่เราก็คิดว่ามันเป็นวิธีเข้าหาผู้หญิงของเขา เหมือนเขาจะเป็นคนขี้อายคุยกับผู้หญิงยาก เขาเลยใช้วิธีนี้แหละเข้าหาผู้หญิง และสิ่งที่ทำให้เราสนิทกันมากขึ้นก็คือ มีเพื่อนเราบอกว่า เขาเหมือนจะแอบกิ๊กกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เป็นรุ่นพี่ของเรา เพื่อนเราอยากให้เราช่วยดูให้หน่อย ซึ่งพอสังเกตุก็พบว่าเหมือนว่าเขาจะแอบกิ๊กกันจริงๆ ถ้าจะให้เราไปคุยกับรุ่นพี่เรามันก็คงยาก เพราะเราเป็นน้องจะไปพูดไปเตือนเขาก็ไม่ได้ก็เหมือนการสอนเขาเราเป็นรุ่นน้องก็ไม่สมควรที่จะทำแบบนั้นเขาก็โตแล้วจะคิดจะทำอะไรเขาก็คงคิดดีแล้ว เราเลยคิดว่าจะคุยกับผู้ชายดีกว่า แล้วก็พอดีที่เขาทักไลน์ส่วนตัวมาหาเรา ซึ่งปกติเราจะคุยกันเฉพาะใน LINE กลุ่ม เราคุยกันในไลน์ส่วนตัวทำให้เราสนิทกันมากขึ้น และเราก็อายุเท่ากัน เราเลยแอบถามเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เขากิ๊กกัน เขาก็ยอมรับในเรื่องพฤติกรรมที่เราสังเกตุเห็น แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไร แล้วเขาก็รู้ว่าผู้หญิงคิดอะไรกับเขา เราก็ได้แต่พยายามบอกว่าถ้าไม่ได้คิดอะไรก็อย่าไปเล่นด้วย เขาก็บอกว่าตัวเขาเองก็ไม่อยากมีปัญหา เขาก็จะพยายามไม่คุย หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันมากขึ้นคุยกันทุกวัน ในช่วงปีใหม่เราคุยกันทุกวันขาบอกเราว่าเขาไปกินเหล้ากับเพื่อนทุกวันเลย เราเลยสงสัยว่าทำไมเขาไม่กลับบ้านไปหาแฟนเขา หรือว่าเขามีปัญหากันหรือว่าเขาเลิกกัน หลังปีใหม่เราเลยถามเขาตรงๆเขาบอกเราว่า เขามีปัญหากับแฟนจริง แต่ยังไม่ได้หย่ากัน แล้วเราก็ถามเขาว่า คิดว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เขาตอบเราว่าคงไม่กลับไปอีกแล้ว ไม่รู้ทำไมเรารู้สึกดีใจ ตั้งแต่ช่วงปีใหม่มันมีวันหนึ่งที่เราคุยกัน เรารู้สึกใจเต้นแบบบอกไม่ถูก หรือเราจะชอบเขาแล้ว แต่เราก็พยายามบอกตัวเองว่าเขาแต่งงานแล้วนะ ยิ่งพอเรามารู้ว่าเขาเลิกกันแล้ว ความรู้สึกเรามันก็ยิ่งมีมากขึ้นแล้วก็พยายามจะแสดงออกให้เขารู้ เขาก็คงจะรู้แหละแต่เขาก็แค่ไม่พูดนะเราก็ไม่พูด เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิมแบบเพื่อน จนมาวันหนึ่งเราชวนเขาไปเที่ยวไปนั่งกินเหล้ากันสองคน เราก็เมามาก เราขับรถกลับบ้านไม่ไหว เขาก็เลยพาเราไปนอนที่ห้อง ตอนนั้นใจเต้นแรงมาก ความคิดมันสับสนไปหมด คิดว่าจะดีหรอที่ทำแบบนี้ เราเพิ่งรู้จักกันเอง มันไม่เหมาะสมนะสถานภาพเขายังแต่งงานอยู่เลย ถ้าใครรู้เราจะเสียหายนะ แต่ความเมาทำให้เรากล้าทำทุกอย่าง เราบอกชอบเขา เขาบอกเราว่าเขาก็รู้สึกดีกับเรานะ แต่เขายังไม่พร้อมจะมีใคร เราบอกว่าเราจะรอ เขาก็บอกเราว่าไม่ต้องรอเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะพร้อมจะมีใคร แต่เขาก็จูบเรา ไม่รู้ทำไม มันยิ่งทำให้เรารู้สึกกับเขามากเกิน แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกันในคืนนี้ วันต่อมา เขาบอกเราว่าถ้าเรายังรู้สึกอย่างนี้กับเขา เขาจะไม่คุยกับเราเพราะเขาไม่อยากทำให้เราเสียใจ เราไม่อยากเลิกคุยกับเขาเราเลยบอกเขาไปว่า เราจะคุยกับเขาเหมือนเพื่อนเหมือนเดิม จะไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เราก็พยายามทำเป็นปกติ คุยเฉพาะที่เป็นเพื่อนจริงๆ แต่ความรู้สึกเราก็ยังชอบเขาอยู่ บางทีเราก็แสดงให้เขารู้ว่าเรายังรู้สึกอะไรกับเขาอยู่ แต่เขาก็พยายามปฏิเสธเรา แต่บางทีเขาก็เหมือนจะรู้สึกอะไรกับเรา มีวันหนึ่งเราชวนเขาไปกินข้าว เขาก็เหมือนจะไม่ไปกับเราเพราะเขากลัวคนอื่นจะเห็นไม่อยากจะมีปัญหาไม่อยากจะเป็นข่าวกับเราจริงๆเราก็กลัวนะด้วยสถานภาพของเขาทำให้เราเสียหายเหมือนกัน แต่เราก็อยากอยู่กับเขาสองคน เขาก็ยอมไปกับเรา พออยู่กันสองคน เขาก็เป็นคนละคนพูดดีกับเราทำตัวเหมือนคิดอะไรกับเรา เขาบอกว่าอยากมีอะไรกับเรา เราไม่รู้ว่าเพราะเขารู้สึกดีกับเราหรือว่าเพราะแค่ความต้องการทางเพศแค่นั้น แต่เราก็ยอมเพราะเราชอบเขา เรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา เราคิดว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไรเพราะเขาบอกเขาเลิกกับแฟนแล้ว แต่ว่ามันจริงนะที่มีคนเคยพูดว่าผู้หญิงพอได้เป็นของใครแล้วเราก็จะรักเขามากขึ้น แต่ผู้ชายจะรักเราน้อยลง เขาก็เริ่มห่างจากเราตอบไลน์เราน้อยลง โทรหาก็ไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย จนเกิดเรื่องขึ้น เราจะชวนเขาไปเที่ยว แต่เขาก็พยายามปฏิเสธอ้างเหตุผลต่างๆนานา จนเราถามตรงๆ เธออยู่กับแฟนใช่ไหม เขาตอบว่าใช่... เราเสียใจมาก มากจนไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดมากมายจากการที่เขาหลอกเรา อยู่ดีๆเราก็กลายเป็นเมียน้อยหรอ ถ้ารู้ว่าเขายังไม่เลิกกันเราจะไม่คุยกับเขาเลย เราจะไม่ยอมมีอะไรกับเขาเด็ดขาด ตั้งแต่ตอนนั้นเราไม่คุยกับเขาอีกเลยบล็อกเบอร์โทรบล็อกไลน์ทุกอย่าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเจอหน้ากันเพราะเราเรียนที่เดียวกัน เราพยายามหลบหน้าเขาพยายามไม่คุยกับเขา แต่เราต้องไปเที่ยวเชียงใหม่กับเขากับที่โรงเรียน แค่เราพยายามหลบหน้าไม่คุยกับเขามันก็มากพอแล้ว เราต้องมาเจอเรื่องที่มันกระทบจิตใจเรามากขึ้น เขากับรุ่นพี่ของเราคนนั้นพยายามแสดงให้ทุกคนรู้ว่าเขากิ๊กกันอย่างเปิดเผย เราเสียใจมากกินเหล้าจนเมาร้องไห้ต่อหน้าเขา แต่สิ่งที่เขาทำกับเรา เรามารู้ทีหลังว่าเขาแอบทำอะไรกับผู้หญิงคนนันลับหลังเราในรถคันเดียวกัน มันทำให้ความเสียใจของเรากลายเป็นความเกลียดเกลียดมากเกลียดเขาและผู้หญิงคนนั้นมาก เขาทำได้ยังไงทั้งที่เราเสียใจเรื่องเขามากขนาดนี้ เขายังทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นลับหลังเรา แล้วก็แอบไปมีอะไรกัน ทั้งที่เคยบอกกับเราว่าไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ชอบไม่อยากมีปัญหาแต่เขาก็ทำ เราโกรธเขามากเกลียดเขามาก เราพยายามหลบหน้าเขาทั้งสองคนไม่พูดไม่คุยเหมือนปกติมันทำให้เพื่อนๆสงสัยไม่อยากรู้ว่าเราเป็นอะไร แต่ทุกคนก็รู้เรื่องของเขากับผู้หญิงคนนั้นแล้วก็ไม่ชอบพยามเตือนทั้งผู้หญิงผู้ชายแต่เขาก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรไม่ได้คิดอะไรกัน แล้วเขากลับเอาเรื่องของเราไปพูดให้เพื่อนเขาฟังเพราะคิดว่าเราไปพูดเรื่องของเขาทำให้ทุกคนคิดกับเขากับผู้หญิงคนนั้นไม่ดี ขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำไม่มีใครรู้ เขาแ***โคตรเลว เอาเรื่องของเราแบบเป็นประเด็นให้ทุกคนเกลียดเรา ทั้งที่สิ่งที่ผิดคือสิ่งที่เขากับผู้หญิงคนนั้นทำต่างหาก เราโคตรเกลียดเขามากขึ้น เราแ***ไม่อยากจะเชื่อว่าทำไมต้องมาเจอผู้ชายเห*้ยแบบนี้ แต่พอกลับมาจากเชียงใหม่ กลับมาเรียนกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมความเกลียดนั้นมันก็ลดลง เราต้องพยายามใส่หน้ากากพูดกับเขากับผู้หญิงคนนั้นและทำตัวปกติ เพราะความเกลียดมันลดลง มันทำให้ความรู้สึกเก่าๆความทรงจำเก่าๆกลับมา เรากลับไปคุยกับเขาอีกครั้ง แต่เฉพาะเรื่องงานแบบเพื่อนเท่านั้น แต่แค่นั้นมันก็ยังทำให้เราคิดถึงเขาอยากคุยกับเขาอยากอยู่กับเขาสองคนอยากไปเที่ยวกับเขาแต่ก็อยากมีอะไรกับเขาอีก แต่เราก็ไม่กล้า ด้วยสถานภาพของเขาคือสมรส เราไม่อยากเป็นเมียน้อยไม่อยากแย่งของของใครไม่อยากทำผิดศีลธรรม แต่บางทีมันก็อยากลืมเรื่องพวกนี้ทิ้ง และก็อยากทำในสิ่งที่ผิด อยากหลอกตัวเองต่อไปว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว....
เสียใจที่ถูกหลอก แต่อยากหลอกตัวเองต่อไป
เราสองคนรู้จักกันจากที่เรียน เป็นหลักสูตรที่ต้องเรียนหลังจากทำงานได้ 8 ปี เราสองคนทำงานคนละที่ คนละสายงาน แต่ได้มาเจอกันเพราะต้องเรียนหลักสูตรเดียวกัน ตอนแรกเราไม่ชอบหน้าเขาเลย ขอดูเจ้าชู้ ดูยิ่งๆ ด้วยสายงานของเขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาดูเข้าถึงได้ยาก และอีกอย่างที่เราจะไม่คิดอะไรกับเขาเลยเพราะสถานภาพของเขาคือสมรส แต่เราก็ได้คุยกันเพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทกับบัดดี้ของเรา เขาชอบมาคุยกับเราแบบเป็นคู่กัดชอบมาพูดกับเราว่าเรา แต่เราก็คิดว่ามันเป็นวิธีเข้าหาผู้หญิงของเขา เหมือนเขาจะเป็นคนขี้อายคุยกับผู้หญิงยาก เขาเลยใช้วิธีนี้แหละเข้าหาผู้หญิง และสิ่งที่ทำให้เราสนิทกันมากขึ้นก็คือ มีเพื่อนเราบอกว่า เขาเหมือนจะแอบกิ๊กกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เป็นรุ่นพี่ของเรา เพื่อนเราอยากให้เราช่วยดูให้หน่อย ซึ่งพอสังเกตุก็พบว่าเหมือนว่าเขาจะแอบกิ๊กกันจริงๆ ถ้าจะให้เราไปคุยกับรุ่นพี่เรามันก็คงยาก เพราะเราเป็นน้องจะไปพูดไปเตือนเขาก็ไม่ได้ก็เหมือนการสอนเขาเราเป็นรุ่นน้องก็ไม่สมควรที่จะทำแบบนั้นเขาก็โตแล้วจะคิดจะทำอะไรเขาก็คงคิดดีแล้ว เราเลยคิดว่าจะคุยกับผู้ชายดีกว่า แล้วก็พอดีที่เขาทักไลน์ส่วนตัวมาหาเรา ซึ่งปกติเราจะคุยกันเฉพาะใน LINE กลุ่ม เราคุยกันในไลน์ส่วนตัวทำให้เราสนิทกันมากขึ้น และเราก็อายุเท่ากัน เราเลยแอบถามเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เขากิ๊กกัน เขาก็ยอมรับในเรื่องพฤติกรรมที่เราสังเกตุเห็น แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไร แล้วเขาก็รู้ว่าผู้หญิงคิดอะไรกับเขา เราก็ได้แต่พยายามบอกว่าถ้าไม่ได้คิดอะไรก็อย่าไปเล่นด้วย เขาก็บอกว่าตัวเขาเองก็ไม่อยากมีปัญหา เขาก็จะพยายามไม่คุย หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันมากขึ้นคุยกันทุกวัน ในช่วงปีใหม่เราคุยกันทุกวันขาบอกเราว่าเขาไปกินเหล้ากับเพื่อนทุกวันเลย เราเลยสงสัยว่าทำไมเขาไม่กลับบ้านไปหาแฟนเขา หรือว่าเขามีปัญหากันหรือว่าเขาเลิกกัน หลังปีใหม่เราเลยถามเขาตรงๆเขาบอกเราว่า เขามีปัญหากับแฟนจริง แต่ยังไม่ได้หย่ากัน แล้วเราก็ถามเขาว่า คิดว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เขาตอบเราว่าคงไม่กลับไปอีกแล้ว ไม่รู้ทำไมเรารู้สึกดีใจ ตั้งแต่ช่วงปีใหม่มันมีวันหนึ่งที่เราคุยกัน เรารู้สึกใจเต้นแบบบอกไม่ถูก หรือเราจะชอบเขาแล้ว แต่เราก็พยายามบอกตัวเองว่าเขาแต่งงานแล้วนะ ยิ่งพอเรามารู้ว่าเขาเลิกกันแล้ว ความรู้สึกเรามันก็ยิ่งมีมากขึ้นแล้วก็พยายามจะแสดงออกให้เขารู้ เขาก็คงจะรู้แหละแต่เขาก็แค่ไม่พูดนะเราก็ไม่พูด เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิมแบบเพื่อน จนมาวันหนึ่งเราชวนเขาไปเที่ยวไปนั่งกินเหล้ากันสองคน เราก็เมามาก เราขับรถกลับบ้านไม่ไหว เขาก็เลยพาเราไปนอนที่ห้อง ตอนนั้นใจเต้นแรงมาก ความคิดมันสับสนไปหมด คิดว่าจะดีหรอที่ทำแบบนี้ เราเพิ่งรู้จักกันเอง มันไม่เหมาะสมนะสถานภาพเขายังแต่งงานอยู่เลย ถ้าใครรู้เราจะเสียหายนะ แต่ความเมาทำให้เรากล้าทำทุกอย่าง เราบอกชอบเขา เขาบอกเราว่าเขาก็รู้สึกดีกับเรานะ แต่เขายังไม่พร้อมจะมีใคร เราบอกว่าเราจะรอ เขาก็บอกเราว่าไม่ต้องรอเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะพร้อมจะมีใคร แต่เขาก็จูบเรา ไม่รู้ทำไม มันยิ่งทำให้เรารู้สึกกับเขามากเกิน แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกันในคืนนี้ วันต่อมา เขาบอกเราว่าถ้าเรายังรู้สึกอย่างนี้กับเขา เขาจะไม่คุยกับเราเพราะเขาไม่อยากทำให้เราเสียใจ เราไม่อยากเลิกคุยกับเขาเราเลยบอกเขาไปว่า เราจะคุยกับเขาเหมือนเพื่อนเหมือนเดิม จะไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เราก็พยายามทำเป็นปกติ คุยเฉพาะที่เป็นเพื่อนจริงๆ แต่ความรู้สึกเราก็ยังชอบเขาอยู่ บางทีเราก็แสดงให้เขารู้ว่าเรายังรู้สึกอะไรกับเขาอยู่ แต่เขาก็พยายามปฏิเสธเรา แต่บางทีเขาก็เหมือนจะรู้สึกอะไรกับเรา มีวันหนึ่งเราชวนเขาไปกินข้าว เขาก็เหมือนจะไม่ไปกับเราเพราะเขากลัวคนอื่นจะเห็นไม่อยากจะมีปัญหาไม่อยากจะเป็นข่าวกับเราจริงๆเราก็กลัวนะด้วยสถานภาพของเขาทำให้เราเสียหายเหมือนกัน แต่เราก็อยากอยู่กับเขาสองคน เขาก็ยอมไปกับเรา พออยู่กันสองคน เขาก็เป็นคนละคนพูดดีกับเราทำตัวเหมือนคิดอะไรกับเรา เขาบอกว่าอยากมีอะไรกับเรา เราไม่รู้ว่าเพราะเขารู้สึกดีกับเราหรือว่าเพราะแค่ความต้องการทางเพศแค่นั้น แต่เราก็ยอมเพราะเราชอบเขา เรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา เราคิดว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไรเพราะเขาบอกเขาเลิกกับแฟนแล้ว แต่ว่ามันจริงนะที่มีคนเคยพูดว่าผู้หญิงพอได้เป็นของใครแล้วเราก็จะรักเขามากขึ้น แต่ผู้ชายจะรักเราน้อยลง เขาก็เริ่มห่างจากเราตอบไลน์เราน้อยลง โทรหาก็ไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย จนเกิดเรื่องขึ้น เราจะชวนเขาไปเที่ยว แต่เขาก็พยายามปฏิเสธอ้างเหตุผลต่างๆนานา จนเราถามตรงๆ เธออยู่กับแฟนใช่ไหม เขาตอบว่าใช่... เราเสียใจมาก มากจนไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดมากมายจากการที่เขาหลอกเรา อยู่ดีๆเราก็กลายเป็นเมียน้อยหรอ ถ้ารู้ว่าเขายังไม่เลิกกันเราจะไม่คุยกับเขาเลย เราจะไม่ยอมมีอะไรกับเขาเด็ดขาด ตั้งแต่ตอนนั้นเราไม่คุยกับเขาอีกเลยบล็อกเบอร์โทรบล็อกไลน์ทุกอย่าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเจอหน้ากันเพราะเราเรียนที่เดียวกัน เราพยายามหลบหน้าเขาพยายามไม่คุยกับเขา แต่เราต้องไปเที่ยวเชียงใหม่กับเขากับที่โรงเรียน แค่เราพยายามหลบหน้าไม่คุยกับเขามันก็มากพอแล้ว เราต้องมาเจอเรื่องที่มันกระทบจิตใจเรามากขึ้น เขากับรุ่นพี่ของเราคนนั้นพยายามแสดงให้ทุกคนรู้ว่าเขากิ๊กกันอย่างเปิดเผย เราเสียใจมากกินเหล้าจนเมาร้องไห้ต่อหน้าเขา แต่สิ่งที่เขาทำกับเรา เรามารู้ทีหลังว่าเขาแอบทำอะไรกับผู้หญิงคนนันลับหลังเราในรถคันเดียวกัน มันทำให้ความเสียใจของเรากลายเป็นความเกลียดเกลียดมากเกลียดเขาและผู้หญิงคนนั้นมาก เขาทำได้ยังไงทั้งที่เราเสียใจเรื่องเขามากขนาดนี้ เขายังทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นลับหลังเรา แล้วก็แอบไปมีอะไรกัน ทั้งที่เคยบอกกับเราว่าไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ชอบไม่อยากมีปัญหาแต่เขาก็ทำ เราโกรธเขามากเกลียดเขามาก เราพยายามหลบหน้าเขาทั้งสองคนไม่พูดไม่คุยเหมือนปกติมันทำให้เพื่อนๆสงสัยไม่อยากรู้ว่าเราเป็นอะไร แต่ทุกคนก็รู้เรื่องของเขากับผู้หญิงคนนั้นแล้วก็ไม่ชอบพยามเตือนทั้งผู้หญิงผู้ชายแต่เขาก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรไม่ได้คิดอะไรกัน แล้วเขากลับเอาเรื่องของเราไปพูดให้เพื่อนเขาฟังเพราะคิดว่าเราไปพูดเรื่องของเขาทำให้ทุกคนคิดกับเขากับผู้หญิงคนนั้นไม่ดี ขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำไม่มีใครรู้ เขาแ***โคตรเลว เอาเรื่องของเราแบบเป็นประเด็นให้ทุกคนเกลียดเรา ทั้งที่สิ่งที่ผิดคือสิ่งที่เขากับผู้หญิงคนนั้นทำต่างหาก เราโคตรเกลียดเขามากขึ้น เราแ***ไม่อยากจะเชื่อว่าทำไมต้องมาเจอผู้ชายเห*้ยแบบนี้ แต่พอกลับมาจากเชียงใหม่ กลับมาเรียนกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมความเกลียดนั้นมันก็ลดลง เราต้องพยายามใส่หน้ากากพูดกับเขากับผู้หญิงคนนั้นและทำตัวปกติ เพราะความเกลียดมันลดลง มันทำให้ความรู้สึกเก่าๆความทรงจำเก่าๆกลับมา เรากลับไปคุยกับเขาอีกครั้ง แต่เฉพาะเรื่องงานแบบเพื่อนเท่านั้น แต่แค่นั้นมันก็ยังทำให้เราคิดถึงเขาอยากคุยกับเขาอยากอยู่กับเขาสองคนอยากไปเที่ยวกับเขาแต่ก็อยากมีอะไรกับเขาอีก แต่เราก็ไม่กล้า ด้วยสถานภาพของเขาคือสมรส เราไม่อยากเป็นเมียน้อยไม่อยากแย่งของของใครไม่อยากทำผิดศีลธรรม แต่บางทีมันก็อยากลืมเรื่องพวกนี้ทิ้ง และก็อยากทำในสิ่งที่ผิด อยากหลอกตัวเองต่อไปว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว....