การที่บอกแบบนี้เพราะแมนยูมีปัญหาภายในบอร์ดบริหาร ที่มีการก้าวก่ายการทำทีมมากเกินไป ผมจะค่อยๆบอกไปทีละอย่างครับ
1. บอร์ดบริหารของแมนยูไนเต็ด
ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้เก่งเรื่องธุรกิจและหาเงินทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับสโมสร โดยเฉพาะ เอ็ด บุดเวิร์ด นักบัญชีของบอร์ดชุดนี้เก่งมากครับ
แต่รับไม่ได้คือการก้าวก่ายการทำทีมมากเกินไป และไม่ฟังโค้ช อยากได้นักเตะโดยไม่มองว่าเหมาะกับทีมหรือไม่
2. การไม่มีตำแหน่ง DOF (Director of Football)
เมื่อไม่มีตำแหน่งนี้ในทีม ทำให้ขาดแนวทางที่ชัดเจนว่าสโมสรต้องการเล่นสไตล์ไหน ไม่มีการวางแผนที่ชัดเจน ว่าภายใน5-10ปีจะเป็นอย่างไร จะไปต่อยังไง พอไฟลนก้น ก็กระ

กระสนหานักเตะ หาโค้ช น่าสมเพชเวทนา ดูอย่างลิเวอร์พูลก็ได้ ซื้อนักเตะแบบคุ้มค่า คุ้มราคา เช่น ฟาน ไดส์ ส่วนจะลุ้นแชมป์ได้หรือไม่ อยู่ที่ว่าจะผ่านความกดดันทางจิตใจได้หรือเปล่า
ส่วนวิธีแก้ไขต้องให้ตระกูลเกลเซอร์ลงไปแก้ด้วยเอง
1. บอร์ดบริหาร
อย่าให้เกิดหลุมดำหรือแดนสนธยาในบอร์ดบริหารของแมนยูอีก โดนเฉพาะ เอ็ด บุดเวิร์ด นักบัญชีของสโมสร ในเมืองไทยแฟนแมนยู เรียกเขาว่า พณฯท่าน ฉายาเขามีเยอะครับ มีผู้ชื่อเสียงในโลกโซเชียล เรียกเขาว่า "Lord Ed แม่"
ผมเรียกเขาว่า "Lord M."
ตัวละครนิกส์ ฟิวรี่ ในเรื่อง Adventure ชอบพูดประโยคนี้บ่อยๆ
M........... __............. (จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง) บอกใบ้เท่านี้แหละ
อยากสองพี่น้องเกลเซอร์ถามเขาด้วยเองว่า
ต้องการอะไร? จะเอายังไงว่ามา?
ไม่ยังงั้นอนาคต เป็นเสมียนภารโรงเก็บกวาดในสนามฟุตบอลแน่นอน ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองนะ
2. เรียก God กลับมาช่วยทีมด้วยครับ
ให้มาสวมปลอกแขนกัปตันทีม มาเป็นศูนย์รวมจิตใจของทีมนะครับ ผมชอบความสามารถของเขา
"เทควันโด้ สายดำ" เอาไว้คุมพวกนอกลู่นอกทางโดยเฉพาะ สองพี่น้องเกลเซอร์จะทำยังไงก็ได้ ให้เขากลับเข้าทีม ไม่จำเป็นต้องลงทุกนัด เพราะอายุเขาเยอะแล้ว
3. คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
ถ้าเขากล้ากลับมาที่นี้อีก ผมขอเสนอเงื่อนไขสามข้อให้ สองพี่น้องเกลเซอร์พิจารณา หากเขากล้ารับ จะได้งบไม่อั้นในการซื้อนักเตะ
3.1 ตลอดการซ้อม ขอให้เขา"อมน้ำไว้ในปาก" โดยมีคนคอยดูจนจบการซ้อม เขาจะสอนอย่างไร หาทางเอาเองนะจ๊ะ
3.2 ถ่ายทอดประสบการณ์เป็นโค้ชให้กับน้าโอเล่ หากน้าโอเล่ยอมเป็นผู้ช่วยโค้ช จะเป็นประโยชน์กับน้าโอเล่ในอนาคตเลยทีเดียว
3.3 ผลักดันชุดเยาวชนให้มาเล่นในทีมชุดใหญ่ให้มากขึ้น
ส่วนข้อ3.1นั้น ให้ไปถาม "God" ดูนะจ๊ะ เขารู้ แต่เขาจะตอบหรือไม่ อยู่ที่เขาแล้วล่ะ หึๆๆๆ
เอาเรื่องนี้มาเล่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับเจ้าของสโมสร
ครับ
กาลครั้งหนึ่งเมื่อตะกี้นี่ เอ๊ยยย ไม่ใช่ กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มาดริด เคยมียุครุ่งเรือง ยุคนั้น เรียกว่า กาลาติกอส เป็นยุครวมดาว มีนักเตะฝีเท้าดีๆมากมาย เช่น ฟิโก ซีดาน ราอูล เป็นต้น เล่นกันแบบ สุดจัดปลัดบอก กันเลยทีเดียว กวาดแชมป์ทุกรายการที่มีในโลกนี้ ถ้ามีระดับจักรวาลก็คงเอามาโชว์แล้ว แต่ท่านประธานสโมสรที่ชื่อว่า "Perez" ผิดถูกแก้ให้ด้วยครับ ตัดสินใจขายนักเตะคนหนึ่งไป เพราะแค่ขอค่าน้ำร้อนน้ำชาเพิ่ม เอ๊ย ค่าเหนื่อยเพิ่ม
แล้วกล่าวสุดคลาสสิคนี้ว่า
"คุณมันก็แค่นักเตะไล่สกัดบอลจากคู่แข่ง ไม่มีทักษะอันแพรวพราว ส่งบอลได้ไม่เกิน 3 เมตร" ถ้าอยากรู้ประโยคเต็ม ไปช่อง NR sport ชี้โพรงกระรอกแล้วนะ
ตอนนั้น นักเตะคงคิดในใจว่า
"ทำไมชีวิตกรูช่างลำเค็ญเช่นนี้"
ตั้งแต่นั้นมา กาลาติกอส ก็ค่อยเสื่อมความรุ่งโรจน์ เหลือไว้เป็นแค่ ระดับตำนาน นาน เท่านั้น
ส่วนความยิ่งใหญ่ก็ไปตกอยู่กับเชลซี กลายเป็นทีมไร้เทียมทาน บุคคลนั้นคือ โคล็ด มาเกเลเล โดยมีมูรินโญ่ เป็นโค้ช ในยุคนั้น
มีอยู่นัดหนึ่งที่ มาเกเลเล ยิงจุดโทษ โดยมติของทีมให้เอ็งยิงซะ เพราะคนในทีมได้ยิงกันหมดแล้ว ยิงแล้วโกลปัดได้ แต่ยิงซ้ำเข้าไปจนได้ ทั้งทีมดีใจอย่างกับได้แชมป์ มูรินโญ่ over acting มากไปหน่อยนะ ที่ทีมเชลซีทำแบบนี้ เพราะมาเกเลเล เป็นผู้เสียสละ เป็นหัวใจของทีม เลยได้รับเกียรติยิงจุดโทษในครั้งนั้น
หาก ราอูล กอนซาเลซ คือ เจ้าชาย
โคล็ด มาเกเลเล คือ ราชา
นี้คือความเห็นส่วนตัวครับ
ซีดานเคยกล่าวไว้ว่า "รถสปอร์ตที่ฉาบด้วยทองคำทั้งคัน หากขาดเครื่องยนต์มันก็ไร้ค่า"
เพราะตัดสินคนด้วย "ตาเนื้อ" แต่ไม่ตัดสินคนด้วย
"ตาใจ" เขาเลยต้องรับผลที่ตามมาในครั้งนั้น
Perez เป็นคนเก่ง มีเงิน อำนาจ สติปัญญา เสียอยู่อย่างเดียว มีสายตาที่แคบสั้นเกินไป
เอาไว้เป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเจ้าของสโมสรจะดีมากเลย นะครับ
ถ้าสองพี่น้องเกลเซอร์อยากหูตา สว่าง มีหลอดไฟไว้ส่องนำทาง
1.ศึกษาการทำงานของ DOF ลิเวอร์พูล
ว่าทำอย่างไรถึงทำให้ทีมมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เอ่อถ้าทำได้ ซื้อตัวมาเลย ล่อด้วยสุรา นารี บ้าน ที่ดิน พร้อมเงินแบบจัดหนักจัดเต็ม ถือว่าเป็นการตัดกำลังคู่แข่ง 555 แต่ถ้าแนะนำขอเป็นเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้วแต่จะพิจารณาครับ
2. ไปดูการบริหารงานของเลสเตอร์ ซิตี้
จากเป็นหนี้นม 1 ลัง กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก มีศูนย์ฟิตเนสติด 1 ใน 10 ของพรีเมียร์ลีก ทำให้คนมีงานทำ มีเงินใช้ไม่ขาดมือ คุณภาพชีวิตของเมืองเลสเตอร์ดีขึ้น
R.I.P เจ้าสัววิชัย ขอให้ไปสู่สุขคติครับ
เกือบลืมแล้ว มีข่าวร้ายมาบอก มีคนอยากยัดเยียดสองคำนี้ให้สองพี่น้องเกลเซอร์ "ไอ้งั่ง" (โง่+งี่เง่า)
เป็นคนในมุมมืด อาศัยใครบ้างคนในบอร์ดสร้างความตกต่ำให้กับแมนยู ถ้ายกตัวอย่าง ก็ส่งแผนการเล่นให้ฝ่ายตรงข้าม สร้างหลุมดำในบอร์ดบริหาร เป็นต้น
ที่บอกไปเป็นข้อสันนิษฐาน ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ก็แค่ระมัดระวังไว้ดีนะครับ
ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง ลองไปอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ Managing Oneself ของ Peter F. Drucker ถ้าโรมัน อับราโมวิช สนใจลองไปหาอ่านดูได้ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกถึงอนาคต แต่ให้ทบทวน
ตัวเอง แล้วค่อยตัดสินใจในการก้าวสู่อนาคต
สำหรับสองคนนี้ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร และ God ขอเริ่มต้นด้วยคนแรกก่อนนะ
ถ้าหากบอกว่าคุณเล่นเกมรับไม่เป็น คุณคงโกรธผมแน่ ผมขอเปรียบเทียบกับสร้างเขื่อน
ต้องดูดิน ดูพื้นที่ แล้ววางแผนการสร้าง
เขื่อนเนเธอร์แลนด์ที่กันน้ำทะเล เปรียบได้กับทีมสไตล์รับ
เขื่อนในอ่าวไทยใช้สลายพลังคลื่น เปรียบได้กับทีมสไตล์รุก
ถ้าหากสลับที่จะเกิดอะไรขึ้น คงพังพินาศย่อยยับแน่นอน
ตอนนี้คุณจะโกรธผมมั้ยครับ?
"GOD" ผมขอพูดประโยคนี้นะ
"God!!! Help us please." ขอให้คุณเป็นดัง "King Eric" เป็น Captain Britain เอ๊ยยย กัปตันทีม ผมเชื่อว่าคุณเป็นได้ครับ เอิ่มมมมม เป็นพนักงานกำจัดปลวกได้มั้ยครับ
คุณคงคิดในใจว่า "เมิงเห็นกรูเป็นอาลั๊ย"
ผมมีเหตุผลของผม เพราะว่ามีปลวกตัวใหญ่ 2-3 ตัวดุร้ายมาก อยากให้คุณกำจัดหรือกำราบมันก็ยังดีช่วยหน่อย ทีมจะได้เล่นดีขึ้น
แล้วใช้ความสามารถพิเศษ เทควันโด้ ของคุณ ถามว่า จะเอาป่ะล่ะ? ร่างกายต้องการปะทะเหรอ? จะกราบทีนกรูมั้ย? เป็นต้น โดยมีผู้สนับสนุน เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอยูไนเต็ด เป็นแบ็คให้
สุดท้ายทำไมถึงต้องเขียน ก็เพราะรักและศรัทธาในทีมนี้ ไม่อยากให้แมนยูตกต่ำมากไปกว่านี้
อย่างน้อยดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ขอย้ำนะครับ สองพี่น้องเกลเซอร์ต้องเจรจากับ God และ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร คนแรกน่าจะมานะ แต่อีกคนไม่แน่ใจ เพราะว่าผมไม่ไว้ใจบอร์ดบริหารชุดนี้ ผมช่วยเท่าที่ทำได้ครับ
จบด้วยประโยคนี้
Wake up เกลเซอร์
Wake up เกลเซอร์
Wake up เกลเซอร์
Now !!!
เกลเซอร์ wake up now. Crisis in Man United.
1. บอร์ดบริหารของแมนยูไนเต็ด
ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้เก่งเรื่องธุรกิจและหาเงินทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับสโมสร โดยเฉพาะ เอ็ด บุดเวิร์ด นักบัญชีของบอร์ดชุดนี้เก่งมากครับ
แต่รับไม่ได้คือการก้าวก่ายการทำทีมมากเกินไป และไม่ฟังโค้ช อยากได้นักเตะโดยไม่มองว่าเหมาะกับทีมหรือไม่
2. การไม่มีตำแหน่ง DOF (Director of Football)
เมื่อไม่มีตำแหน่งนี้ในทีม ทำให้ขาดแนวทางที่ชัดเจนว่าสโมสรต้องการเล่นสไตล์ไหน ไม่มีการวางแผนที่ชัดเจน ว่าภายใน5-10ปีจะเป็นอย่างไร จะไปต่อยังไง พอไฟลนก้น ก็กระ
ส่วนวิธีแก้ไขต้องให้ตระกูลเกลเซอร์ลงไปแก้ด้วยเอง
1. บอร์ดบริหาร
อย่าให้เกิดหลุมดำหรือแดนสนธยาในบอร์ดบริหารของแมนยูอีก โดนเฉพาะ เอ็ด บุดเวิร์ด นักบัญชีของสโมสร ในเมืองไทยแฟนแมนยู เรียกเขาว่า พณฯท่าน ฉายาเขามีเยอะครับ มีผู้ชื่อเสียงในโลกโซเชียล เรียกเขาว่า "Lord Ed แม่"
ผมเรียกเขาว่า "Lord M."
ตัวละครนิกส์ ฟิวรี่ ในเรื่อง Adventure ชอบพูดประโยคนี้บ่อยๆ
M........... __............. (จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง) บอกใบ้เท่านี้แหละ
อยากสองพี่น้องเกลเซอร์ถามเขาด้วยเองว่า
ต้องการอะไร? จะเอายังไงว่ามา?
ไม่ยังงั้นอนาคต เป็นเสมียนภารโรงเก็บกวาดในสนามฟุตบอลแน่นอน ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองนะ
2. เรียก God กลับมาช่วยทีมด้วยครับ
ให้มาสวมปลอกแขนกัปตันทีม มาเป็นศูนย์รวมจิตใจของทีมนะครับ ผมชอบความสามารถของเขา
"เทควันโด้ สายดำ" เอาไว้คุมพวกนอกลู่นอกทางโดยเฉพาะ สองพี่น้องเกลเซอร์จะทำยังไงก็ได้ ให้เขากลับเข้าทีม ไม่จำเป็นต้องลงทุกนัด เพราะอายุเขาเยอะแล้ว
3. คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
ถ้าเขากล้ากลับมาที่นี้อีก ผมขอเสนอเงื่อนไขสามข้อให้ สองพี่น้องเกลเซอร์พิจารณา หากเขากล้ารับ จะได้งบไม่อั้นในการซื้อนักเตะ
3.1 ตลอดการซ้อม ขอให้เขา"อมน้ำไว้ในปาก" โดยมีคนคอยดูจนจบการซ้อม เขาจะสอนอย่างไร หาทางเอาเองนะจ๊ะ
3.2 ถ่ายทอดประสบการณ์เป็นโค้ชให้กับน้าโอเล่ หากน้าโอเล่ยอมเป็นผู้ช่วยโค้ช จะเป็นประโยชน์กับน้าโอเล่ในอนาคตเลยทีเดียว
3.3 ผลักดันชุดเยาวชนให้มาเล่นในทีมชุดใหญ่ให้มากขึ้น
ส่วนข้อ3.1นั้น ให้ไปถาม "God" ดูนะจ๊ะ เขารู้ แต่เขาจะตอบหรือไม่ อยู่ที่เขาแล้วล่ะ หึๆๆๆ
เอาเรื่องนี้มาเล่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับเจ้าของสโมสร
ครับ
กาลครั้งหนึ่งเมื่อตะกี้นี่ เอ๊ยยย ไม่ใช่ กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มาดริด เคยมียุครุ่งเรือง ยุคนั้น เรียกว่า กาลาติกอส เป็นยุครวมดาว มีนักเตะฝีเท้าดีๆมากมาย เช่น ฟิโก ซีดาน ราอูล เป็นต้น เล่นกันแบบ สุดจัดปลัดบอก กันเลยทีเดียว กวาดแชมป์ทุกรายการที่มีในโลกนี้ ถ้ามีระดับจักรวาลก็คงเอามาโชว์แล้ว แต่ท่านประธานสโมสรที่ชื่อว่า "Perez" ผิดถูกแก้ให้ด้วยครับ ตัดสินใจขายนักเตะคนหนึ่งไป เพราะแค่ขอค่าน้ำร้อนน้ำชาเพิ่ม เอ๊ย ค่าเหนื่อยเพิ่ม
แล้วกล่าวสุดคลาสสิคนี้ว่า
"คุณมันก็แค่นักเตะไล่สกัดบอลจากคู่แข่ง ไม่มีทักษะอันแพรวพราว ส่งบอลได้ไม่เกิน 3 เมตร" ถ้าอยากรู้ประโยคเต็ม ไปช่อง NR sport ชี้โพรงกระรอกแล้วนะ
ตอนนั้น นักเตะคงคิดในใจว่า
"ทำไมชีวิตกรูช่างลำเค็ญเช่นนี้"
ตั้งแต่นั้นมา กาลาติกอส ก็ค่อยเสื่อมความรุ่งโรจน์ เหลือไว้เป็นแค่ ระดับตำนาน นาน เท่านั้น
ส่วนความยิ่งใหญ่ก็ไปตกอยู่กับเชลซี กลายเป็นทีมไร้เทียมทาน บุคคลนั้นคือ โคล็ด มาเกเลเล โดยมีมูรินโญ่ เป็นโค้ช ในยุคนั้น
มีอยู่นัดหนึ่งที่ มาเกเลเล ยิงจุดโทษ โดยมติของทีมให้เอ็งยิงซะ เพราะคนในทีมได้ยิงกันหมดแล้ว ยิงแล้วโกลปัดได้ แต่ยิงซ้ำเข้าไปจนได้ ทั้งทีมดีใจอย่างกับได้แชมป์ มูรินโญ่ over acting มากไปหน่อยนะ ที่ทีมเชลซีทำแบบนี้ เพราะมาเกเลเล เป็นผู้เสียสละ เป็นหัวใจของทีม เลยได้รับเกียรติยิงจุดโทษในครั้งนั้น
หาก ราอูล กอนซาเลซ คือ เจ้าชาย
โคล็ด มาเกเลเล คือ ราชา
นี้คือความเห็นส่วนตัวครับ
ซีดานเคยกล่าวไว้ว่า "รถสปอร์ตที่ฉาบด้วยทองคำทั้งคัน หากขาดเครื่องยนต์มันก็ไร้ค่า"
เพราะตัดสินคนด้วย "ตาเนื้อ" แต่ไม่ตัดสินคนด้วย
"ตาใจ" เขาเลยต้องรับผลที่ตามมาในครั้งนั้น
Perez เป็นคนเก่ง มีเงิน อำนาจ สติปัญญา เสียอยู่อย่างเดียว มีสายตาที่แคบสั้นเกินไป
เอาไว้เป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเจ้าของสโมสรจะดีมากเลย นะครับ
ถ้าสองพี่น้องเกลเซอร์อยากหูตา สว่าง มีหลอดไฟไว้ส่องนำทาง
1.ศึกษาการทำงานของ DOF ลิเวอร์พูล
ว่าทำอย่างไรถึงทำให้ทีมมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ถ้าแนะนำขอเป็นเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้วแต่จะพิจารณาครับ
2. ไปดูการบริหารงานของเลสเตอร์ ซิตี้
จากเป็นหนี้นม 1 ลัง กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก มีศูนย์ฟิตเนสติด 1 ใน 10 ของพรีเมียร์ลีก ทำให้คนมีงานทำ มีเงินใช้ไม่ขาดมือ คุณภาพชีวิตของเมืองเลสเตอร์ดีขึ้น
R.I.P เจ้าสัววิชัย ขอให้ไปสู่สุขคติครับ
เกือบลืมแล้ว มีข่าวร้ายมาบอก มีคนอยากยัดเยียดสองคำนี้ให้สองพี่น้องเกลเซอร์ "ไอ้งั่ง" (โง่+งี่เง่า)
เป็นคนในมุมมืด อาศัยใครบ้างคนในบอร์ดสร้างความตกต่ำให้กับแมนยู ถ้ายกตัวอย่าง ก็ส่งแผนการเล่นให้ฝ่ายตรงข้าม สร้างหลุมดำในบอร์ดบริหาร เป็นต้น
ที่บอกไปเป็นข้อสันนิษฐาน ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ก็แค่ระมัดระวังไว้ดีนะครับ
ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง ลองไปอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ Managing Oneself ของ Peter F. Drucker ถ้าโรมัน อับราโมวิช สนใจลองไปหาอ่านดูได้ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกถึงอนาคต แต่ให้ทบทวน
ตัวเอง แล้วค่อยตัดสินใจในการก้าวสู่อนาคต
สำหรับสองคนนี้ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร และ God ขอเริ่มต้นด้วยคนแรกก่อนนะ
ถ้าหากบอกว่าคุณเล่นเกมรับไม่เป็น คุณคงโกรธผมแน่ ผมขอเปรียบเทียบกับสร้างเขื่อน
ต้องดูดิน ดูพื้นที่ แล้ววางแผนการสร้าง
เขื่อนเนเธอร์แลนด์ที่กันน้ำทะเล เปรียบได้กับทีมสไตล์รับ
เขื่อนในอ่าวไทยใช้สลายพลังคลื่น เปรียบได้กับทีมสไตล์รุก
ถ้าหากสลับที่จะเกิดอะไรขึ้น คงพังพินาศย่อยยับแน่นอน
ตอนนี้คุณจะโกรธผมมั้ยครับ?
"GOD" ผมขอพูดประโยคนี้นะ
"God!!! Help us please." ขอให้คุณเป็นดัง "King Eric" เป็น Captain Britain เอ๊ยยย กัปตันทีม ผมเชื่อว่าคุณเป็นได้ครับ เอิ่มมมมม เป็นพนักงานกำจัดปลวกได้มั้ยครับ
คุณคงคิดในใจว่า "เมิงเห็นกรูเป็นอาลั๊ย"
ผมมีเหตุผลของผม เพราะว่ามีปลวกตัวใหญ่ 2-3 ตัวดุร้ายมาก อยากให้คุณกำจัดหรือกำราบมันก็ยังดีช่วยหน่อย ทีมจะได้เล่นดีขึ้น
แล้วใช้ความสามารถพิเศษ เทควันโด้ ของคุณ ถามว่า จะเอาป่ะล่ะ? ร่างกายต้องการปะทะเหรอ? จะกราบทีนกรูมั้ย? เป็นต้น โดยมีผู้สนับสนุน เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอยูไนเต็ด เป็นแบ็คให้
สุดท้ายทำไมถึงต้องเขียน ก็เพราะรักและศรัทธาในทีมนี้ ไม่อยากให้แมนยูตกต่ำมากไปกว่านี้
อย่างน้อยดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ขอย้ำนะครับ สองพี่น้องเกลเซอร์ต้องเจรจากับ God และ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร คนแรกน่าจะมานะ แต่อีกคนไม่แน่ใจ เพราะว่าผมไม่ไว้ใจบอร์ดบริหารชุดนี้ ผมช่วยเท่าที่ทำได้ครับ
จบด้วยประโยคนี้
Wake up เกลเซอร์
Wake up เกลเซอร์
Wake up เกลเซอร์
Now !!!