แชร์ประสบการณ์ความรัก เกลียดเกาหลี แต่ดันได้แฟนเป็นคนเกาหลี

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ความรัก เกลียดอะไร ได้อย่างนั้น ><!! เนื่องจากช่วงนี้มีเวลาว่างมากขึ้น เพราะเพิ่งกลับจากเรียนภาษาที่ประเทศเกาหลี เลยว่าง วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์เกลียดเกาหลี แต่ดันได้แฟนเป็นคนเกาหลี !!!!
              แรกเริ่มเราเป็นคนชอบดูซีรี่ย์เกาหลีมาก แต่ไม่ชอบฟังเพลง และเคยไปเที่ยวเกาหลี เมื่อปี 2553 ตอนนั้นไปกับทัวร์ กลับมารู้สึกประทับใจ  ต่อมาปี 2556 ก็มีโอกาสพาเพื่อนไปอีก โดยไปกันเอง แต่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ พอไปเอง เที่ยวเอง มีโอกาสเจอคนเกาหลีมากกว่าไปกับทัวร์ ก็พบว่า ไม่ค่อยชอบนิสัยคนเกาหลี ไปซื้อของพนักงาน ทำหน้าดูถูกคนผิวแทนอย่างเรามากๆ เราทะเลาะกับคนขายเสื้อ เราขอดู เอามาทาบกับตัว ไม่ได้ใส่เข้าไป และขอเปลี่ยนแบบอื่นมาลองทาบ นางทำหน้าหงิกใส่ และบ่นๆภาษาเกาหลีใส่ เรารัวภาษาอังกฤษใส่นาง และโยนเสื้อคืนนางและเดินออกจากร้านไปเลย บอกกับตัวเองว่าจะไม่ไปเที่ยวเกาหลีอีกแล้ว พอแล้ว วางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นแทน หลังจากนั้นก็ไปเที่ยว สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น วนไปเวียนมา จนกระทั้งปี 2559  ช่วงนั้นเครียดงานหนักบวกกับเบื่ออากาศร้อนของเมืองไทย เลยอยากไปพักผ่อนที่หนาวๆ แต่เช็คราคาญี่ปุ่นช่วงนั้นแพงมาก มาเจอโปรเกาหลีถูกมากเลยตัดสินใจ เกาหลีก็เอาว่ะ ขอให้มันหนาวๆเป็นพอ เลยจองไปคนเดียวแต่ก่อนไปได้มีโอกาสเจอน้องที่รู้จักจากเพจนึง เลยได้ไปเที่ยวด้วยกันตอนนั้นไปกัน 4 คน ผู้หญิงหมด นัดเจอกันที่สนามบิน พอถึงก็เข้าเช็คอินเที่ยวตามปกติ มีพี่คนนึงในกลุ่ม หน้าสวย น่ารัก แต่นิสัยลุยมาก พี่คนนี้ชื่อย่อ พี่ N มีแฟนเป็นคนเกาหลีที่ทำงานอยู่ไทย เค้าเจอกันที่ไทยและคบกัน พี่ Nเนี่ยมาเที่ยวด้วยกัน แต่แฟนเค้าไม่ได้มาด้วย แฟนยังทำงานอยู่ไทย พี่ N บอกว่า เดี๋ยวเพื่อนแฟน จะพาไปเที่ยว 1 วัน ซึ่งที่ๆไปเนี่ยอยู่นอกตัวเมืองโซล ต้องขับรถประมาณ1 ชม. ก็นัดเวลากันแต่เช้า เพื่อนแฟนพี่ N มาถึงมารับไปเที่ยว
เค้าเป็นผู้ชายตัวสูง หุ่นสมาร์ท แต่ไม่ใช่ชายหนุ่มหน้าใสสไตล์ไอดอล เป็นคนมีอายุ ตอนนั้นอายุประมาณ 40 กว่าได้ แทนชื่อว่า K เราอายุห่างจากK 13 ปี ตอนแรกที่เห็นคือปกติยังไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอไปเที่ยวด้วยกันเค้าเป็นผู้ใหญ่ใจดี เริ่มรู้สึกสนใจ  หลังจากเที่ยวเสร็จก็มีการขอline ไว้ติดต่อกัน เพราะกลุ่มเพื่อนจะกลับไทยไปก่อนเพราะจองมากันแค่ 4-5 วัน แต่ตอนเราจองคือตั้งใจอยู่ 8 วัน เพราะตั้งใจจะไปเที่ยวปูซานด้วย วันสุดท้ายก่อนที่กลุ่มเพื่อนจะกลับไทย K ก็ได้พาเลี้ยงข้าว และเดินไปส่งหน้าโรงแรม และร่ำลากันกับเพื่อนโดยการจับมือเช็คแฮนด์ทุกคน จนเราคนสุดท้ายเราก็ยื่นมือไปเช็คแฮนด์ แต่เค้าไม่ยื่นมือมา เค้าโน้มตัวลงมากอดเราและบอก good luck อารมณ์ตอนนั้นคือทุกคนแซวฮิ้ววววกันมาก >.< !! เดินยิ้มกลับมาโรงแรมด้วยความเขิน 555 พอเพื่อนกลับไปไทยกันหมด เราก็ออกเดินทางไปปูซาน 2 คืน แล้วกลับเข้าโซลมา ระหว่างนั้นก็มีการติดต่อไลน์กับ K ส่งรูปวิว ที่เราไปเที่ยวให้เค้าดูบ้าง ทักทายกันตามมารยาท วันนึงไม่กี่คำ เพราะเค้าทำงานทั้งวัน พอกลับเข้ามาโซล เค้าก็พาเราไปเลี้ยงอาหารเกาหลี เจอกันอีก 2-3 ครั้งก่อนเรากลับ ระหว่างนี้ก็พูดคุยกัน คุยหลายเรื่อง เรื่องส่วนตัว ทัศนคติ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก็รู้สึกชอบที่เค้าเป็นผู้ใหญ่ ตลก มีโมเม้นกวนๆบ้าง ก่อนกลับวันสุดท้ายเค้าเดินมาส่งที่โรงแรมเนื่องจากกินเบียร์เข้าไป ทำให้ทั้งคู่มีความกล้าหน้าด้านเพิ่มขึ้นอีก 50%  5555+ เลยได้kiss กัน ☺️หลังจากนั้นK บอกคืนนี้ไปบ้านฉันมั้ย  ไอ้เราก็ด้วยความฉันเป็นผู้หญิงนะยะ ไม่ได้สิ !!! ฉันต้องรักนวลสงวนตัว (ทั้งๆที่เราก็เคยผ่านการมีแฟนมาแล้ว555)เลยบอกไม่ไปอ่ะ รีบกลับไปจัดกระเป๋า เค้าก็บอก งั้นโอเคไว้เจอกันที่ไทย หลังจากนั้นเราก็กลับไทยและยังคุยกันทางไลน์ต่อมาเรื่อยๆ ไม่กี่เดือนต่อมา เค้ามาพักร้อนที่ไทย ประมาณ 2 อาทิตย์ แต่เค้าไปตีกอล์ฟกับเพื่อนที่พัทยา เค้าลงเครื่องแล้วตรงไปพัทยาเลย เพราะเพื่อนเค้ามารับ อาทิตย์ต่อมา วันศุกร์เค้านั่งรถแท็กซี่ตีจากพัทยาเข้ามา กทม มาหาเรา และจะพักกทม 1 คืน ค่อยกลับไปพัทยา เราเลยทำการจอง รร ที่พักให้ และนัดเจอกับพี่ N เพื่อที่จะกินข้าวเย็นกัน กินข้าวเสร็จต่อร้านนั่งฟังเพลงคุยกันเพลินร้านย่านอโศก สักตี 1 แยกย้ายกันกลับ เราเลยไปส่งเค้าที่โรงแรม แต่พอขึ้นไปบนห้องแล้วอารมณ์ก็เลยตามเลย >~< หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับบ้านตัวเอง 555 เราตั้งใจว่าจะไปส่งk ที่พัทยาวันรุ่งขึ้น เพราะเรามีรถ ไม่อยากให้เค้าเสียค่าแท็กซี่ 1800 บาทไปพัทยา พอถึงพัทยาแล้วก็มีการเจอกันกับพี่ N ที่พัทยา เพราะพี่N ก็มาหาแฟนที่นี่ นัดกินข้าวกันตามปกติ เราพักพัทยากับ K เพราะห้องพัก K ค่อนข้างใหญ่ มีเตียง 2 เตียง พัก2 คืน แล้วกลับ กทม. หลังจากนั้น k ก็อยู่พัทยาจนถึงวันกลับ ก็ไปส่งที่สนามบิน ก่อนกลับเราได้ตกลงจะคบกันเป็นแฟน และติดต่อคุยกันมาเรื่อยๆ  ระหว่างนี้ k บินไปมาไทยเกาหลี สลับกับเราบินไปมาเกาหลี เป็นแบบนี้อยู่ 3 ปี ระหว่างนั้น k มีโอกาสได้เจอ พ่อแม่ของเราด้วย จนกระทั่งมองอนาคตว่า ตกลงใจจะแต่งงานกัน เราจึงต้องไปเรียนภาษาเกาหลีเพื่อที่จะไว้พูดกับแม่ของk ได้เวลาแต่งงานไป ความรักเดินทางมาพอสมควร เราและ k กำลังจะแต่งงานกลางปีนี้ค่ะ
       ในส่วนความรัก ผู้ชายเกาหลีไม่ได้มุ้งมิ้งเหมือนในซีรี่ย์ k คือผู้ชายคนนึงที่มีทั้งข้อดีข้อเสีย เราคบกัน ทดลองอยู่ด้วยกันในช่วง 6 เดือนที่เราไปเรียนภาษา เราก็ทำตัวเด็ก บางครั้งก็ทำอะไรไม่นึกถึงใจเค้า ส่วนk ก็เป็นผู้ใหญ่ที่บางทีก็ลืมใส่ใจความรู้สึกเรา เค้าคิดว่าเรื่องเล็ก แต่เราเล่นใหญ่ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่k เป็นคนใจเย็นมาก นับครั้งได้ที่เค้าโกรธเรา ส่วนใหญ่ถ้าโกรธก็จะดูออก และเราจะพยายามพูดคุยเปิดใจกันว่าเพราะอะไร และจะพยายามปรับตัวได้ เค้าบอกเค้าก็จะพยายามทำความเข้าใจเราว่าเราโตมาแบบนี้ ถึงเป็นแบบนี้ ตอนนี้ความรักไม่ได้หวือหวา ไม่ได้หลงไหลไฝ่หากัน ชีวิตคู่ของจริงยังไม่ได้เริ่มต้น แต่เรากำลังเรียนรู้เพื่อที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน อนาคตไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ก็จะพยายามประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่กันจนแก่เฒ่าให้ได้
       อยากจะบอกว่าทุกวันนี้ใจลึกๆก็ยังอคติกับเกาหลีอยู่นิดๆ คือไม่ได้ชอบ ไม่อยากสุงสิง และยังไม่เปิดใจหาเพื่อนที่เป็นคนเกาหลี เนื่องจากกลัวเค้าจะดูถูกเรา เลยทำให้เพื่อนใหม่ๆที่เป็นคนเกาหลียังไม่มี จะมีแต่เพื่อนของแฟนที่พบปะกินข้าวกันทุกอาทิตย์ ซึ่งคนเหล่านั้นน่ารัก  เราเคยคุยกับแฟนเรื่องเกาหลีชอบดูถูกชาติผิวแทน แฟนบอกว่าเป็นธรรมดาของโลก ทุกประเทศมีทั้งคนดีและไม่ดี ทุกวันนี้เวลาไปกินข้าวร้านอาหารกับแฟน หรือไปเจอคนรู้จักแฟน แฟนจะแนะนำว่าเราคือภรรยา เพื่อให้เกียรติและตัดปัญหาคนพูดนินทาหรือพวกดูถูกมาทำงานไรพวกนี้
เราอาจมีอคติกับคนเกาหลี ติดภาพว่าเค้าชอบดูถูกเพราะเคยโดนกระทำมาก่อน แต่เราก็พยายามปรับมุมมองอยู่ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ อนาคตไม่รู้จะหัวจะก้อย ก็ต้องสู้ต่อไป

ขอขอบคุณทุกคนที่ว่างเข้ามาอ่านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่