.
อาร์เจนักโทษดีเด่นพยายามยื่นหนังสือขอลดโทษกับการประพฤติตัวดี เพื่อให้ได้รับสิทธิ์เป็นนักโทษตัวอย่าง สำหรับคนคุกอายุเพิ่งเริ่มต้นด้วยเลขสองนำหน้าอย่างเขา ยังมีอนาคตยาวไกลไม่ควรมาบนเวียนอยู่ในเรือนจำเพราะข้อหาเล็กๆน้อยๆ
ฆ่าคนไม่กี่คนมันจะหนักหนาสาหัสอะไร
จะว่าไปแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำผิดมากมายเลยในชีวิต เริ่มต้นจากการลงมือฆาตกรรมครั้งแรกเมื่ออายุสิบกว่าขวบ โดยการใช้มีดปอกผลไม้จ้วงแทงเพื่อนร่วมชั้นเรียนจนตายคามือ พ่อแม่มันจนๆจะมีสิทธิอะไรเรียกร้องความเป็นธรรม สมน้ำหน้าพวกมันคนผิดคือเพื่อนตัวดีที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามา ตั้งแต่เข้าเรียนร่วมชั้นต่างหาก การบ้านก็ไม่ค่อยให้ลอก แค่ของเล่นชิ้นเดียวขอเล่นก็ไม่ได้ และยังมีหน้าต่อสู้ขัดขวาง
สำหรับลูกชายคนโตลูกคนมีสีมีอำนาจอย่างอาร์เจจะต้องได้สิ่งที่ต้องการเสมอ ความโมโหทำให้เขาลงมือฆ่าอย่างไม่เคยนึกเสียใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกับรู้สึกสะใจสาสมใจอย่างประหลาดเมื่อเห็นเด็กคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดและลงไปนอนจมกองเลือดท่ามกลางสายตาของเพื่อนนักเรียน
พ่อแม่เป็นคนสำคัญในการออกโรงมาปกป้องเต็มที่ พร้อมอ้างสิทธิการฆ่าคนได้โดยไม่ต้องติดคุก เป็นเด็กสังคมต้องให้อภัยแม้จะโคตรชั่วยังไงก็ตาม เขายังเด็กและคิดแบบเด็กๆ ไม่ควรมีความผิดเพราะยังไม่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
จากนั้นมาอาร์เจเริ่มเรียนรู้ว่าตัวเองมีเทพเจ้าตัวเป็นๆ คอยปกป้อง เพื่อนๆพากันหวาดกลัว ทำให้ยิ่งตระหนักถึงพลังอำนาจ เดินกร่างไปไหนใครต่อใครพากันหัวหด ทางโรงเรียนก็ไม่อยากยุ่งเพราะพ่อของเขาเป็นนักการเมือง นิสัยและอารมณ์จึงมักระเบิดออกมาโดยไม่มีการควบคุม เขาเริ่มทำตัวเกเรทั้งในโรงเรียน ในบ้านและนอกบ้าน ติดยาเสพติด ก่อการทะเลาะวิวาทแทบไม่เว้นแต่ละวัน จากนั้นพัฒนาไปสู่การก่ออาชญากรรมจนฆ่าคนเป็นว่าเล่น
กฎหมายนะเหรอ สำหรับอาร์เจ คือกฎที่คอยปกป้องเขาให้พ้นจากคุก ต้องขอบคุณพวกนักสิทธิมนุษย์ นักกฎหมาย นักการเมือง ทนายความหิวเงิน และพ่อแม่ที่เข้าใจลูก เสนอหน้าออกมาปกป้องโดยอ้างศาสนาและความเมตตาเป็นที่ตั้ง ขอบคุณครับพ่อแม่!
เป็นเด็กก็ดีอย่างนี้เอง ทำอะไรก็ไม่ต้องติดคุก ทั้งตำรวจและกฎหมายอยู่ข้างเขาทั้งนั้น อย่างมากก็แต่ถูกส่งไปเข้าศูนย์อะไรสักอย่างแล้วก็หาทางหลบออกมาจนได้ คิดได้อย่างไรว่าจะแก้นิสัยถาวรของคนเราได้ง่ายๆ เคยหัวเราะใส่หน้าตำรวจด้วยซ้ำที่เอาเขาเข้าคุกไม่ได้
หลังจากวนเวียนอยู่ในวังวนมืดดำมานาน ล่าสุดเขาสังหารคนไปห้าคนโดยการใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงกลุ่มคนเวลากลางคืน หน้าร้านแหล่งสำราญโลกีย์แห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเกิดจากยิงปะทะกันขึ้นและเขาได้รับบาดเจ็บ
ครั้งนี้ลืมนึกไป เขาเพิ่งอายุพ้นยี่สิบปีมายังไม่เท่าไร ดังนั้นจึงถูกยัดเข้าห้องกรงเป็นครั้งแรกในชีวิต พ่อแม่ของอาร์เจพยายามวิ่งเต้นเต็มที่ตามนิสัยพ่อแม่ที่เห็นว่าลูกเป็นฝ่ายถูกเสมอ ต่อให้เขาเอาปืนไปยิงใครสักคนตาย พ่อแม่ก็จะมองว่า คนที่ตายเป็นฝ่ายผิด เพราะไม่ยอมหลบลูกปืน
“นายกำลังจะไปศาล เพื่อจะตัดสินว่านายสมควรถูกปล่อยตัวหรือไม่”
เจ้าหน้าพากันบอกขณะนำตัวเขามาขึ้นรถที่มีระบบการป้องกันหนาแน่น ทั้งลูกกรงเหล็กตามประตูหน้าต่าง กุญแจมือขนาดใหญ่เกินกว่าจะหาทางสะเดาะออกได้
ขึ้นศาลเหรอ? ไปก็ไป... ความยุติธรรมก็ต้องมี เพราะทำตัวดีมาตลอด คนเรากลับตัวกลับใจกันได้ จะยากอะไรกับการเสแสร้งทำตัวเป็นคนดีไม่นาน ทุกคนอยากเห็นแบบนั้น ก็แค่ทำตามที่พวกเขาอยากเห็น
อาร์เจมองนอกหน้าต่าง โลกภายนอกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีกรงเหล็กเขาอาจลองกระโดดลงจากรถไปก็ได้ เสี่ยงไปตายเอาดาบหน้า เพราะไม่แน่ใจว่าการขอลดโทษหรือปล่อยตัวที่พ่อแม่เป็นตัวตั้งตัวตีจะสำเร็จหรือไม่ พักหลังพวกท่านกำลังมีเรื่องอื้อฉาวหลายอย่างจนเป็นที่จับตาของประชาชน ฐานอำนาจกำลังสั่นคลอน
ขณะรถลดความเร็วเข้าโค้งบริเวณเนินเขา มีเสียงระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว รถสะเทือนยวบอย่างรุนแรง อาร์เจกระเด้งกระดอนไปมาในรถหลายรอบก่อนจะสงบนิ่ง จากนั้นจึงเริ่มสังเกตว่าผนังด้านหนึ่งของรถฉีกขาดออกเป็นช่องพอจะลอดออกไปได้ รถควบคุมผู้ต้องหาถูกโจมตีจากข้างทา งโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่าย แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ฝ่ายตำรวจแน่นอน
ไม่ต้องรอให้เสียเวลา ไม่ต้องรอหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าใครเป็นใคร รีบตะกายออกมาจากช่องแห่งโอกาสทองทันที ด้านนอกเต็มไปด้วยฝุ่นควันหนาทึบ มีเสียงร้องเสียงปืนดังอยู่เป็นระยะ นายตำรวจคนที่จำได้ว่าเป็นคนใส่กุญแจมือให้นอนกลิ้งอยู่บนพื้นในสภาพเลือดท่วมตัว
ลูกกุญแจ... นั่นละที่ต้องการ หนุ่มรุ่นเดนนรกก้มศีรษะต่ำปราดเข้าไปหาทันที มือควานล้วงดูตามกระเป๋าเสื้อผ้าหาลูกกุญแจจนได้ และสามารถไขกุญแจมือได้ในที่สุด บทจะง่ายอะไรก็ง่ายไปหมด
“อิสระแล้วโว้ย..!” ความรู้สึกพองโตด้วยความยินดี ลุกขึ้นมองซ้ายขวาหาทางหนีทีไล่ ไม่สนใจเรื่องอื่น ใครจะเป็นจะตายก็ช่างหัวมัน
“อาร์เจ...ช่วยฉันด้วย” เสียงร้องอ่อนล้าทำให้ต้องก้มลงไปมอง เจ้าหน้าที่คนนั้นยังไม่ตาย มือทั้งสองพยายามไขว่คว้ามายึดข้อเท้าอย่างคนต้องการความช่วยเหลือ ที่สำคัญจริงๆคือข้างเอวนายตำรวจมีปืนพกอยู่กระบอกหนึ่ง
ปืน...ตาวาวทันที ไม่ต้องคิดอะไรให้มาก ดึงปืนพกของนายตำรวจมาเป็นสมบัติส่วนตัว ยิ้มกริ่มก่อนหันปลายกระบอกไปยังศีรษะของนายตำรวจผู้โชคร้ายลั่นไกเปรี้ยง หยุดอาการฉุดรั้งทันที นัดเดียวแก้ปัญหาเด็ดขาด
มีเสียงตะโกนโหวกเหวก หนุ่มโหดไม่สนใจ วิ่งสุดกำลังออกจากถนนตัดป่าโปร่งลงไปจนเห็นถนนสายหนึ่ง มีรถราผ่านไปมาไม่มากนัก เหมาะดีแท้
รถ...จะต้องหารถสักคันในการหลบหนี จะมัววิ่งอยู่อย่างนี้ไปไม่รอดแน่ เขาพุ่งพรวดออกไปกลางถนน เล็งปืนใส่รถคันหนึ่ง ทำท่าทางบังคับให้จอดข้างทาง ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเพราะรถเก๋งคันงามจอดลงทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนในรถอยู่ในอาการหวาดกลัวคนที่โผล่ออกมาข้างทางแค่ไหน อาร์เจวิ่งตรงเข้าไป ทำสัญญาณมือให้คนขับรถเปิดประตูรถออก
คนขับรถเป็นผู้ชาย คนนั่งเบาะข้างเป็นผู้หญิง เบาะหลังมีเด็กชายหญิงอายุไม่เกินสิบขวบ ทุกคนมีสีหน้าตื่นตกใจ
ผู้หญิงสวย มันน่าเอาไปทำเมีย...เขามีความคิดชั่วร้ายขึ้นทันที ติดคุกมาเป็นปีไม่เคยเจอผู้หญิงสวย โอกาสมาถึงแล้ว ส่วนไอ้ผู้ชายคนนี้ก็จัดการมันซะ
ไม่ต้องคิดมาก ปืนในมือลั่นเปรี้ยงใส่ขมับ ชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายล้มฟุบลงไปก่อนถูกกระชากให้หลุดลงมากองอยู่กับพื้น เสียงกรีดร้องลั่นรถไม่รู้ว่าเป็นเสียงใครต่อใคร
เด็กเวรพวกนี้ น่ารำคาญชะมัด
ไม่มีการยั้งคิดอะไรแม้เพียงนิด อาร์เจระเบิดกระสุนใส่หน้าอกเด็กทั้งสองคนจนเลือดกระจายเต็มรถ ร่างเด็กๆฟุบลงไปหลังสิ้นเสียงปืน จากนั้นเข้าประจำตำแหน่ง ใช้ปืนในมือจี้ศีรษะผู้หญิงคนนั่งข้างที่กำลังทำท่าจะลงจากรถด้วยท่าทางตกใจหวาดกลัวสุดขีด
มีปืนมันดีอย่างนี้เอง เหมือนมีพลังอำนาจเหนือฟ้า
“อย่าขัดขืนเลยนังหนู เราจะไปมีความสุขด้วยกัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย มือหนึ่งถือปืนจ่อ มือหนึ่งกุมพวงมาลัย ไม่ติดว่าจะต้องหลบหนี คงจับข่มขืนให้หนำใจเสียตั้งแต่เวลานี้
ไม่เป็นไร หนีออกไปได้สักหน่อย ค่อยฟาดให้หนัก ถ้าไม่ยอมโดยดีก็แค่ตบเตะกระทืบหนักๆเข้าสักชุดรับรองไม่กล้าขัดขืน คนก็กลัวเจ็บกลัวตายกันทุกคน เรื่องทรมานคนเขาไม่เคยน้อยหน้าคนโรคจิตคนไหน
อาร์เจพารถพุ่งปราดออกไปทันที
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโจมตีรถคุมขัง แต่ช่างหัวมัน จะเป็นใครก็ช่าง แต่ที่แน่ๆ ช่วยทำให้หลบหนีได้อย่างสบาย ไม่มีสัญญาณว่ารถตำรวจติดตามมาเลย พอเริ่มผ่อนคลายสัญญาณดิบก็เริ่มปะทุ นังผู้หญิงคนนี้ต้องจัดการมันตอนนี้ เริ่มทนไม่ไหวกับความต้องการเถื่อน หน้าอกหน้าใจน่าฟัดเหลือเกิน คิดพลางหันไปมองอย่างหมายมั่นปั้นมือ อารมณ์ดิบเดือดพล่านแทบระเบิด
เธอกำลังยิ้มให้เขา ทำให้อารมณ์ชะงัก
ยัยคนนี้เป็นบ้าแล้วหรือยังไง สถานการณ์แบบนี้ยังมายิ้มอีก ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะคิดคักอย่างสนุกสนานมาจากเบาะหลัง มองทางกระจกหลังก็สะดุ้งไม่เชื่อสายตาอ้าปากค้าง เด็กสองคนลุกขึ้นมามองหน้ากันแล้วส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทั้งที่ร่างชุ่มเลือด!
ช่วงแรก อาร์เจย์รู้สึกประหลาดใจและงุนงงมากกว่าจะหวาดกลัว แต่อึดใจต่อมาก็รู้ทันทีว่าผิดปกติ เด็กสองคนโดนยิงกระสุนทะลุหน้าอกอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีทางรอดตาย อานุภาพแรงขับอาวุธปืนยังอึงอลอยู่ในความรู้สึกสะใจในการฆ่าเด็ก กระสุนเป็นกระสุนจริงแน่นอน ตายจริงยิงจริง! แต่นี่เรื่องบ้าอะไรกัน?
มือของหญิงสาวด้านข้างเอื้อมมาลูบคลำใบหน้า ในขณะกำลังทำตัวไม่ถูก เธอควรจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและหาทางหนีไม่ใช่หรือ! นิ้วชี้ของเธอก็จิกคว้านเข้านัยน์ตาขวาของเขาอย่างแรงจนรู้สึกได้ว่าลูกนัยน์ตาดำลังถูกควักหมุนกระชากออกมาห้อยร่องแร่งข้างแก้ม
อาร์เจแหกปากร้องสุดเสียง!
เจ็บจริง! เกิดมาไม่เคยรู้สึกตกใจและเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน ยกมือจับแขนของหญิงสาวกระชากออกไป ไม่หลงเหลือสัญชาตญาณดิบ แต่มือขาวนวลอีกข้างยังเลื้อยเข้ามาตะกุยตะกายไปตามใบหน้าและลำคอด้วยความรุนแรงจนเนื้อแตกปริออกเป็นทาง
สายตาเบิกโพลงข้างเดียวจ้องมองอย่างตื่นตะลึง ทุกอย่างรอบตัวผิดปกติไปหมด ถนนเบื้องหน้ามองเห็นเป็นเส้นทางยาวเหยียดไกล รถยังคงวิ่งทะยานด้วยความเร็วสูงต่อไปโดยไม่ต้องใช้คนบังคับ
นอกจากมือของผู้หญิงด้านข้าง ยังมีมือของพวกเด็กๆ จากข้างหลัง ไขว่คว้าดึงทึ้งฉีกกระชากจนเสื้อผ้าขาดวิ่น เล็บของคนเหล่านั้นคนกริบเป็นใบมีด กรีดขูดด้วยกำลังเกินวัยเด็กสร้างรอยแผลสับสนบนแผ่นหลังและหน้าอก สัญชาตญาณเอาตัวรอด ทำให้เขาโต้ตอบปัดป้องสุดชีวิตหันปลายกระบอกปืนใส่ใบหน้าของหญิงสาวลั่นไกเปรี้ยงๆ ชนิดไม่ต้องนับ ศีรษะของเธอกระตุกสะท้านไปตามแรงอัดชิ้นส่วนกระดูกใบหน้าเศษเนื้อปนเลือดกระจุยกระจาย หญิงสาวไม่ได้มีอาการเจ็บปวดแม้แต่น้อย รยางค์หลายเส้นพุ่งออกมาจากบาดแผลบนศีรษะ ปลายรยางค์แยกออกเห็นเขี้ยวขาววาววับเรียงรายถี่ยิบสยดสยอง
“โอ๊ย!!!” คราวนี้อาร์เจแหกปากโหยหวน ความหวาดกลัวและความเจ็บปวดชนิดไม่เคยเจอมาก่อนปะทุครืน เสียงร้องหายไปเมื่อรยางค์เส้นหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในปาก กัดกินลิ้นอย่างตะกรุมตระกราม ทะลวงลึกลงไปในลำคอควานเข้าไปดื่มกินในหลอดลม ไล่กัดลงไปถึงขั้วปอดอย่างหิวกระหาย ขณะที่รยางค์เส้นอื่นเจาะเข้าลำคอและลำตัว สูบเลือดเนื้อจนเนื้อตัวสั่นระริกร้าวด้วยความเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าทัณฑ์นรก
หลังจากนั้นอีกหลายนาที อาร์เจยังไม่ตายยังคงอยู่ในห้วงเวลาอันแสนทรมานยาวนาน
วันพิพากษา
อาร์เจนักโทษดีเด่นพยายามยื่นหนังสือขอลดโทษกับการประพฤติตัวดี เพื่อให้ได้รับสิทธิ์เป็นนักโทษตัวอย่าง สำหรับคนคุกอายุเพิ่งเริ่มต้นด้วยเลขสองนำหน้าอย่างเขา ยังมีอนาคตยาวไกลไม่ควรมาบนเวียนอยู่ในเรือนจำเพราะข้อหาเล็กๆน้อยๆ
ฆ่าคนไม่กี่คนมันจะหนักหนาสาหัสอะไร
จะว่าไปแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำผิดมากมายเลยในชีวิต เริ่มต้นจากการลงมือฆาตกรรมครั้งแรกเมื่ออายุสิบกว่าขวบ โดยการใช้มีดปอกผลไม้จ้วงแทงเพื่อนร่วมชั้นเรียนจนตายคามือ พ่อแม่มันจนๆจะมีสิทธิอะไรเรียกร้องความเป็นธรรม สมน้ำหน้าพวกมันคนผิดคือเพื่อนตัวดีที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามา ตั้งแต่เข้าเรียนร่วมชั้นต่างหาก การบ้านก็ไม่ค่อยให้ลอก แค่ของเล่นชิ้นเดียวขอเล่นก็ไม่ได้ และยังมีหน้าต่อสู้ขัดขวาง
สำหรับลูกชายคนโตลูกคนมีสีมีอำนาจอย่างอาร์เจจะต้องได้สิ่งที่ต้องการเสมอ ความโมโหทำให้เขาลงมือฆ่าอย่างไม่เคยนึกเสียใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกับรู้สึกสะใจสาสมใจอย่างประหลาดเมื่อเห็นเด็กคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดและลงไปนอนจมกองเลือดท่ามกลางสายตาของเพื่อนนักเรียน
พ่อแม่เป็นคนสำคัญในการออกโรงมาปกป้องเต็มที่ พร้อมอ้างสิทธิการฆ่าคนได้โดยไม่ต้องติดคุก เป็นเด็กสังคมต้องให้อภัยแม้จะโคตรชั่วยังไงก็ตาม เขายังเด็กและคิดแบบเด็กๆ ไม่ควรมีความผิดเพราะยังไม่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
จากนั้นมาอาร์เจเริ่มเรียนรู้ว่าตัวเองมีเทพเจ้าตัวเป็นๆ คอยปกป้อง เพื่อนๆพากันหวาดกลัว ทำให้ยิ่งตระหนักถึงพลังอำนาจ เดินกร่างไปไหนใครต่อใครพากันหัวหด ทางโรงเรียนก็ไม่อยากยุ่งเพราะพ่อของเขาเป็นนักการเมือง นิสัยและอารมณ์จึงมักระเบิดออกมาโดยไม่มีการควบคุม เขาเริ่มทำตัวเกเรทั้งในโรงเรียน ในบ้านและนอกบ้าน ติดยาเสพติด ก่อการทะเลาะวิวาทแทบไม่เว้นแต่ละวัน จากนั้นพัฒนาไปสู่การก่ออาชญากรรมจนฆ่าคนเป็นว่าเล่น
กฎหมายนะเหรอ สำหรับอาร์เจ คือกฎที่คอยปกป้องเขาให้พ้นจากคุก ต้องขอบคุณพวกนักสิทธิมนุษย์ นักกฎหมาย นักการเมือง ทนายความหิวเงิน และพ่อแม่ที่เข้าใจลูก เสนอหน้าออกมาปกป้องโดยอ้างศาสนาและความเมตตาเป็นที่ตั้ง ขอบคุณครับพ่อแม่!
เป็นเด็กก็ดีอย่างนี้เอง ทำอะไรก็ไม่ต้องติดคุก ทั้งตำรวจและกฎหมายอยู่ข้างเขาทั้งนั้น อย่างมากก็แต่ถูกส่งไปเข้าศูนย์อะไรสักอย่างแล้วก็หาทางหลบออกมาจนได้ คิดได้อย่างไรว่าจะแก้นิสัยถาวรของคนเราได้ง่ายๆ เคยหัวเราะใส่หน้าตำรวจด้วยซ้ำที่เอาเขาเข้าคุกไม่ได้
หลังจากวนเวียนอยู่ในวังวนมืดดำมานาน ล่าสุดเขาสังหารคนไปห้าคนโดยการใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงกลุ่มคนเวลากลางคืน หน้าร้านแหล่งสำราญโลกีย์แห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเกิดจากยิงปะทะกันขึ้นและเขาได้รับบาดเจ็บ
ครั้งนี้ลืมนึกไป เขาเพิ่งอายุพ้นยี่สิบปีมายังไม่เท่าไร ดังนั้นจึงถูกยัดเข้าห้องกรงเป็นครั้งแรกในชีวิต พ่อแม่ของอาร์เจพยายามวิ่งเต้นเต็มที่ตามนิสัยพ่อแม่ที่เห็นว่าลูกเป็นฝ่ายถูกเสมอ ต่อให้เขาเอาปืนไปยิงใครสักคนตาย พ่อแม่ก็จะมองว่า คนที่ตายเป็นฝ่ายผิด เพราะไม่ยอมหลบลูกปืน
“นายกำลังจะไปศาล เพื่อจะตัดสินว่านายสมควรถูกปล่อยตัวหรือไม่”
เจ้าหน้าพากันบอกขณะนำตัวเขามาขึ้นรถที่มีระบบการป้องกันหนาแน่น ทั้งลูกกรงเหล็กตามประตูหน้าต่าง กุญแจมือขนาดใหญ่เกินกว่าจะหาทางสะเดาะออกได้
ขึ้นศาลเหรอ? ไปก็ไป... ความยุติธรรมก็ต้องมี เพราะทำตัวดีมาตลอด คนเรากลับตัวกลับใจกันได้ จะยากอะไรกับการเสแสร้งทำตัวเป็นคนดีไม่นาน ทุกคนอยากเห็นแบบนั้น ก็แค่ทำตามที่พวกเขาอยากเห็น
อาร์เจมองนอกหน้าต่าง โลกภายนอกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีกรงเหล็กเขาอาจลองกระโดดลงจากรถไปก็ได้ เสี่ยงไปตายเอาดาบหน้า เพราะไม่แน่ใจว่าการขอลดโทษหรือปล่อยตัวที่พ่อแม่เป็นตัวตั้งตัวตีจะสำเร็จหรือไม่ พักหลังพวกท่านกำลังมีเรื่องอื้อฉาวหลายอย่างจนเป็นที่จับตาของประชาชน ฐานอำนาจกำลังสั่นคลอน
ขณะรถลดความเร็วเข้าโค้งบริเวณเนินเขา มีเสียงระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว รถสะเทือนยวบอย่างรุนแรง อาร์เจกระเด้งกระดอนไปมาในรถหลายรอบก่อนจะสงบนิ่ง จากนั้นจึงเริ่มสังเกตว่าผนังด้านหนึ่งของรถฉีกขาดออกเป็นช่องพอจะลอดออกไปได้ รถควบคุมผู้ต้องหาถูกโจมตีจากข้างทา งโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่าย แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ฝ่ายตำรวจแน่นอน
ไม่ต้องรอให้เสียเวลา ไม่ต้องรอหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าใครเป็นใคร รีบตะกายออกมาจากช่องแห่งโอกาสทองทันที ด้านนอกเต็มไปด้วยฝุ่นควันหนาทึบ มีเสียงร้องเสียงปืนดังอยู่เป็นระยะ นายตำรวจคนที่จำได้ว่าเป็นคนใส่กุญแจมือให้นอนกลิ้งอยู่บนพื้นในสภาพเลือดท่วมตัว
ลูกกุญแจ... นั่นละที่ต้องการ หนุ่มรุ่นเดนนรกก้มศีรษะต่ำปราดเข้าไปหาทันที มือควานล้วงดูตามกระเป๋าเสื้อผ้าหาลูกกุญแจจนได้ และสามารถไขกุญแจมือได้ในที่สุด บทจะง่ายอะไรก็ง่ายไปหมด
“อิสระแล้วโว้ย..!” ความรู้สึกพองโตด้วยความยินดี ลุกขึ้นมองซ้ายขวาหาทางหนีทีไล่ ไม่สนใจเรื่องอื่น ใครจะเป็นจะตายก็ช่างหัวมัน
“อาร์เจ...ช่วยฉันด้วย” เสียงร้องอ่อนล้าทำให้ต้องก้มลงไปมอง เจ้าหน้าที่คนนั้นยังไม่ตาย มือทั้งสองพยายามไขว่คว้ามายึดข้อเท้าอย่างคนต้องการความช่วยเหลือ ที่สำคัญจริงๆคือข้างเอวนายตำรวจมีปืนพกอยู่กระบอกหนึ่ง
ปืน...ตาวาวทันที ไม่ต้องคิดอะไรให้มาก ดึงปืนพกของนายตำรวจมาเป็นสมบัติส่วนตัว ยิ้มกริ่มก่อนหันปลายกระบอกไปยังศีรษะของนายตำรวจผู้โชคร้ายลั่นไกเปรี้ยง หยุดอาการฉุดรั้งทันที นัดเดียวแก้ปัญหาเด็ดขาด
มีเสียงตะโกนโหวกเหวก หนุ่มโหดไม่สนใจ วิ่งสุดกำลังออกจากถนนตัดป่าโปร่งลงไปจนเห็นถนนสายหนึ่ง มีรถราผ่านไปมาไม่มากนัก เหมาะดีแท้
รถ...จะต้องหารถสักคันในการหลบหนี จะมัววิ่งอยู่อย่างนี้ไปไม่รอดแน่ เขาพุ่งพรวดออกไปกลางถนน เล็งปืนใส่รถคันหนึ่ง ทำท่าทางบังคับให้จอดข้างทาง ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเพราะรถเก๋งคันงามจอดลงทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนในรถอยู่ในอาการหวาดกลัวคนที่โผล่ออกมาข้างทางแค่ไหน อาร์เจวิ่งตรงเข้าไป ทำสัญญาณมือให้คนขับรถเปิดประตูรถออก
คนขับรถเป็นผู้ชาย คนนั่งเบาะข้างเป็นผู้หญิง เบาะหลังมีเด็กชายหญิงอายุไม่เกินสิบขวบ ทุกคนมีสีหน้าตื่นตกใจ
ผู้หญิงสวย มันน่าเอาไปทำเมีย...เขามีความคิดชั่วร้ายขึ้นทันที ติดคุกมาเป็นปีไม่เคยเจอผู้หญิงสวย โอกาสมาถึงแล้ว ส่วนไอ้ผู้ชายคนนี้ก็จัดการมันซะ
ไม่ต้องคิดมาก ปืนในมือลั่นเปรี้ยงใส่ขมับ ชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายล้มฟุบลงไปก่อนถูกกระชากให้หลุดลงมากองอยู่กับพื้น เสียงกรีดร้องลั่นรถไม่รู้ว่าเป็นเสียงใครต่อใคร
เด็กเวรพวกนี้ น่ารำคาญชะมัด
ไม่มีการยั้งคิดอะไรแม้เพียงนิด อาร์เจระเบิดกระสุนใส่หน้าอกเด็กทั้งสองคนจนเลือดกระจายเต็มรถ ร่างเด็กๆฟุบลงไปหลังสิ้นเสียงปืน จากนั้นเข้าประจำตำแหน่ง ใช้ปืนในมือจี้ศีรษะผู้หญิงคนนั่งข้างที่กำลังทำท่าจะลงจากรถด้วยท่าทางตกใจหวาดกลัวสุดขีด
มีปืนมันดีอย่างนี้เอง เหมือนมีพลังอำนาจเหนือฟ้า
“อย่าขัดขืนเลยนังหนู เราจะไปมีความสุขด้วยกัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย มือหนึ่งถือปืนจ่อ มือหนึ่งกุมพวงมาลัย ไม่ติดว่าจะต้องหลบหนี คงจับข่มขืนให้หนำใจเสียตั้งแต่เวลานี้
ไม่เป็นไร หนีออกไปได้สักหน่อย ค่อยฟาดให้หนัก ถ้าไม่ยอมโดยดีก็แค่ตบเตะกระทืบหนักๆเข้าสักชุดรับรองไม่กล้าขัดขืน คนก็กลัวเจ็บกลัวตายกันทุกคน เรื่องทรมานคนเขาไม่เคยน้อยหน้าคนโรคจิตคนไหน
อาร์เจพารถพุ่งปราดออกไปทันที
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโจมตีรถคุมขัง แต่ช่างหัวมัน จะเป็นใครก็ช่าง แต่ที่แน่ๆ ช่วยทำให้หลบหนีได้อย่างสบาย ไม่มีสัญญาณว่ารถตำรวจติดตามมาเลย พอเริ่มผ่อนคลายสัญญาณดิบก็เริ่มปะทุ นังผู้หญิงคนนี้ต้องจัดการมันตอนนี้ เริ่มทนไม่ไหวกับความต้องการเถื่อน หน้าอกหน้าใจน่าฟัดเหลือเกิน คิดพลางหันไปมองอย่างหมายมั่นปั้นมือ อารมณ์ดิบเดือดพล่านแทบระเบิด
เธอกำลังยิ้มให้เขา ทำให้อารมณ์ชะงัก
ยัยคนนี้เป็นบ้าแล้วหรือยังไง สถานการณ์แบบนี้ยังมายิ้มอีก ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะคิดคักอย่างสนุกสนานมาจากเบาะหลัง มองทางกระจกหลังก็สะดุ้งไม่เชื่อสายตาอ้าปากค้าง เด็กสองคนลุกขึ้นมามองหน้ากันแล้วส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทั้งที่ร่างชุ่มเลือด!
ช่วงแรก อาร์เจย์รู้สึกประหลาดใจและงุนงงมากกว่าจะหวาดกลัว แต่อึดใจต่อมาก็รู้ทันทีว่าผิดปกติ เด็กสองคนโดนยิงกระสุนทะลุหน้าอกอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีทางรอดตาย อานุภาพแรงขับอาวุธปืนยังอึงอลอยู่ในความรู้สึกสะใจในการฆ่าเด็ก กระสุนเป็นกระสุนจริงแน่นอน ตายจริงยิงจริง! แต่นี่เรื่องบ้าอะไรกัน?
มือของหญิงสาวด้านข้างเอื้อมมาลูบคลำใบหน้า ในขณะกำลังทำตัวไม่ถูก เธอควรจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและหาทางหนีไม่ใช่หรือ! นิ้วชี้ของเธอก็จิกคว้านเข้านัยน์ตาขวาของเขาอย่างแรงจนรู้สึกได้ว่าลูกนัยน์ตาดำลังถูกควักหมุนกระชากออกมาห้อยร่องแร่งข้างแก้ม
อาร์เจแหกปากร้องสุดเสียง!
เจ็บจริง! เกิดมาไม่เคยรู้สึกตกใจและเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน ยกมือจับแขนของหญิงสาวกระชากออกไป ไม่หลงเหลือสัญชาตญาณดิบ แต่มือขาวนวลอีกข้างยังเลื้อยเข้ามาตะกุยตะกายไปตามใบหน้าและลำคอด้วยความรุนแรงจนเนื้อแตกปริออกเป็นทาง
สายตาเบิกโพลงข้างเดียวจ้องมองอย่างตื่นตะลึง ทุกอย่างรอบตัวผิดปกติไปหมด ถนนเบื้องหน้ามองเห็นเป็นเส้นทางยาวเหยียดไกล รถยังคงวิ่งทะยานด้วยความเร็วสูงต่อไปโดยไม่ต้องใช้คนบังคับ
นอกจากมือของผู้หญิงด้านข้าง ยังมีมือของพวกเด็กๆ จากข้างหลัง ไขว่คว้าดึงทึ้งฉีกกระชากจนเสื้อผ้าขาดวิ่น เล็บของคนเหล่านั้นคนกริบเป็นใบมีด กรีดขูดด้วยกำลังเกินวัยเด็กสร้างรอยแผลสับสนบนแผ่นหลังและหน้าอก สัญชาตญาณเอาตัวรอด ทำให้เขาโต้ตอบปัดป้องสุดชีวิตหันปลายกระบอกปืนใส่ใบหน้าของหญิงสาวลั่นไกเปรี้ยงๆ ชนิดไม่ต้องนับ ศีรษะของเธอกระตุกสะท้านไปตามแรงอัดชิ้นส่วนกระดูกใบหน้าเศษเนื้อปนเลือดกระจุยกระจาย หญิงสาวไม่ได้มีอาการเจ็บปวดแม้แต่น้อย รยางค์หลายเส้นพุ่งออกมาจากบาดแผลบนศีรษะ ปลายรยางค์แยกออกเห็นเขี้ยวขาววาววับเรียงรายถี่ยิบสยดสยอง
“โอ๊ย!!!” คราวนี้อาร์เจแหกปากโหยหวน ความหวาดกลัวและความเจ็บปวดชนิดไม่เคยเจอมาก่อนปะทุครืน เสียงร้องหายไปเมื่อรยางค์เส้นหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในปาก กัดกินลิ้นอย่างตะกรุมตระกราม ทะลวงลึกลงไปในลำคอควานเข้าไปดื่มกินในหลอดลม ไล่กัดลงไปถึงขั้วปอดอย่างหิวกระหาย ขณะที่รยางค์เส้นอื่นเจาะเข้าลำคอและลำตัว สูบเลือดเนื้อจนเนื้อตัวสั่นระริกร้าวด้วยความเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าทัณฑ์นรก
หลังจากนั้นอีกหลายนาที อาร์เจยังไม่ตายยังคงอยู่ในห้วงเวลาอันแสนทรมานยาวนาน