คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเป็นคนต่างจังหวัดมาเรียนมหาลัยที่กรุงเทพ อาศัยอยุ่หอพักใกล้มหาลัย
และตอนผมจบใหม่ อายุ 23 เมื่อ2ปีที่แล้ว ก็ทำงานอยู่ในกรุงเทพได้ ไม่ถึงปี เพราะทน คุณภาพชีวิตแย่ๆไม่ไหวแล้ว
1.อากาศสกปรก
2.มหารถติด
3.แท็กซี่โรคจิต โดนแซงแล้วหัวร้อน ไม่รับผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์ มักจะใช้บริการแท็กซี่เวลาไปห้าง หรือนั่งจากสนามบินดอนเมืองมาที่หอพัก เคยเจอมาหมด
4.โดนรถเมล์รมควันตอนนั่งมอไซรับจ้างไปสถานี mrt ตอนไปและกลับจากทำงาน
5.ผมต้องขึ้นจาก mrt ห้วยขวางไปยัง mrt สุขุมวิท คนเยอะบรรลัย วิธีเร็วสุดคือต้องนั่งย้อนไปขึ้นสถานีต้นๆ ซึ่งเม่งก็คนเยอะอยู่ดี
6.น้ำท่วมบ่อย
7.ข้ามทางม้าลาย ยังต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ทั้งๆที่ไฟคนเดินสีเขียว
8.ข้ามสะพานลอยเจอสายไฟ สายเคเบิ้ล สายโทรศัพท์อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด
9.เดินบนฟุตบาท เหมือนเดินหลบกับระเบิด เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่เท่ากัน
จริงๆมีอีกเยอะ คนกรุงเทพก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ว่าเจออะไรกันบ้าง
ที่แน่ๆคือผมคิดแล้วละว่า "กุจะไม่อยู่แล้ว"
ผมก็อยากหางานทำใกล้บ้าน บ้านเกิดผมอยู่ภาคใต้ ประเด็นคือ ผมทำงานด้านโปรแกรมเมอร์ จะหามันก็พอมี แต่เงินเดือนมันช่างต่ำต้อย
ผมทนทำงานอยู่กรุงเทพได้ 9 เดือน (คือตอนเรียนมหาลัย หอพักอยู่ใกล้มหาลัย เดินไปก็ถึง เรียนเสร็จก็กลับ เลยทนปัญหาเล็กๆน้อยๆได้)
ในที่สุดก็ออกจากที่นั่น ได้งานใหม่ ไปต่างประเทศเลย ที่นี่อากาศดี เมืองสะอาด ผู้คนมีมารยาท ทางม้าลายคือทางม้าเลย ไฟแดงคือไฟแดง รถไฟฟ้าก็มีการกระจายที่ดี เงินเดือนก็เพิ่ม ตั้งแต่ออกมา ชีวิตดีขึ้นมาก
ผมก็ติดตามข่าวที่ไทยอยู่ตามเฟสบุค เห็นแต่ข่าว ฆ่า ข่มขืน และยาเสพติด ที่สำคัญอายุของคนทำนี่ ต่ำลงๆ เรื่อยๆ
แล้วก็ข่าวฝุ่นละออง ตอนนี้กรุงเทพน่าจะเป็น red zone แล้วล่ะ ผู้คนกำลังตายลงอย่างช้าๆ
ใครคิดจะหนีอย่าลังเล เชื่อผม มันต้องมีหนทางหนี
และตอนผมจบใหม่ อายุ 23 เมื่อ2ปีที่แล้ว ก็ทำงานอยู่ในกรุงเทพได้ ไม่ถึงปี เพราะทน คุณภาพชีวิตแย่ๆไม่ไหวแล้ว
1.อากาศสกปรก
2.มหารถติด
3.แท็กซี่โรคจิต โดนแซงแล้วหัวร้อน ไม่รับผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์ มักจะใช้บริการแท็กซี่เวลาไปห้าง หรือนั่งจากสนามบินดอนเมืองมาที่หอพัก เคยเจอมาหมด
4.โดนรถเมล์รมควันตอนนั่งมอไซรับจ้างไปสถานี mrt ตอนไปและกลับจากทำงาน
5.ผมต้องขึ้นจาก mrt ห้วยขวางไปยัง mrt สุขุมวิท คนเยอะบรรลัย วิธีเร็วสุดคือต้องนั่งย้อนไปขึ้นสถานีต้นๆ ซึ่งเม่งก็คนเยอะอยู่ดี
6.น้ำท่วมบ่อย
7.ข้ามทางม้าลาย ยังต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ทั้งๆที่ไฟคนเดินสีเขียว
8.ข้ามสะพานลอยเจอสายไฟ สายเคเบิ้ล สายโทรศัพท์อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด
9.เดินบนฟุตบาท เหมือนเดินหลบกับระเบิด เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่เท่ากัน
จริงๆมีอีกเยอะ คนกรุงเทพก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ว่าเจออะไรกันบ้าง
ที่แน่ๆคือผมคิดแล้วละว่า "กุจะไม่อยู่แล้ว"
ผมก็อยากหางานทำใกล้บ้าน บ้านเกิดผมอยู่ภาคใต้ ประเด็นคือ ผมทำงานด้านโปรแกรมเมอร์ จะหามันก็พอมี แต่เงินเดือนมันช่างต่ำต้อย
ผมทนทำงานอยู่กรุงเทพได้ 9 เดือน (คือตอนเรียนมหาลัย หอพักอยู่ใกล้มหาลัย เดินไปก็ถึง เรียนเสร็จก็กลับ เลยทนปัญหาเล็กๆน้อยๆได้)
ในที่สุดก็ออกจากที่นั่น ได้งานใหม่ ไปต่างประเทศเลย ที่นี่อากาศดี เมืองสะอาด ผู้คนมีมารยาท ทางม้าลายคือทางม้าเลย ไฟแดงคือไฟแดง รถไฟฟ้าก็มีการกระจายที่ดี เงินเดือนก็เพิ่ม ตั้งแต่ออกมา ชีวิตดีขึ้นมาก
ผมก็ติดตามข่าวที่ไทยอยู่ตามเฟสบุค เห็นแต่ข่าว ฆ่า ข่มขืน และยาเสพติด ที่สำคัญอายุของคนทำนี่ ต่ำลงๆ เรื่อยๆ
แล้วก็ข่าวฝุ่นละออง ตอนนี้กรุงเทพน่าจะเป็น red zone แล้วล่ะ ผู้คนกำลังตายลงอย่างช้าๆ
ใครคิดจะหนีอย่าลังเล เชื่อผม มันต้องมีหนทางหนี
แสดงความคิดเห็น
อยากถามความเห็นในการเลือกที่ทำงาน ระหว่าง กทมและต่างจังหวัด
สาเหตุที่ลาออก เพราะรู้สึกอึดอัด ทั้งการเบียดผู้คนไปทำงานทั้งเช้าและเย็น เงินเดือนถูกหักไปกับท่าที่พักและค่าเดินทาง และผมเป็นภูมิแพ้(ผมรู้สึกหายใจลำบาก จามทั้งวันในที่ทำงานตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนมีข่าวเตือนเรื่อง 2.5 PMอีก) ผมอยากทราบความเห็นในการทำงาน ซึ่งตอนนี้ผมคิดไว้ 3 ทาง
1.กลับไปทำงานใน กทม (ผมมองว่าผมมีความอดทนน้อยไป ขนาดคนอื่นเค้ายังทนกันได้เลยทำไมเราถึงไม่อดทนแบบเค้าบ้าง)
2.หางานทำใกล้บ้าน ในระยะที่ขับรถไปได้ (ข้อเสียของข้อนี้คือ ผมมองว่าผมอาจไม่ได้ใช้ทักษะมากเท่ากับการไปทำงานที่ กทม และผมยังอยากหาประสบการณ์ มากกว่านี้)
3.ไปทำงานต่างประเทศ ทำงานแบบถูกกฏหมาย (ข้อนี้เหมือนการออกจาก comfort zone แต่ก็มีความกังวลหลายๆอย่างครับเหมือน ไปหาเอาดาบหน้ายังไงยังงั้น)
เพิ่มข้อ 4.ศึกษาต่อ