ปีที่แล้วผมกลับไปเมืองไทย ได้อยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด โดยรอบนี้จำเป็นต้องขับรถ ทำธุระให้ที่บ้านตั้งแต่เดินทางถึงวันแรกๆ ตื่นเต้นมากครับ รถเยอะมากที่ต่างจังหวัด
อาการเจ็ทแลกหายไปทันทีเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย มันคือสิ่งท้าทาย เพราะชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว มีรถสองแถวซิ่ง เด็กแว้น คนขับรถสวนเลน รถคันหน้านึกจะจอดก็จอด ไฟเลี้ยวไม่ต้องพูดถึง มีด้วยหรือ? ไหนจะหมาวิ่งตัดหน้าอีก การได้ขับรถในไทยทำให้ผมรู้สึกหนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง อะดรีนาลีนสูบฉีดเต็มที่
วันนึงท่ามกลางรถติดในตัวเมือง เข็มอุณหภูมิชี้ไปที่ขีดแดง ควันพวยพุ่งจากกระโปรงหน้า ผมประคองขับจนถึงบ้าน โชคดีหม้อน้ำไม่รั่ว แต่ปั๊มน้ำไฟฟ้าเสีย วันต่อมาผมเอารถไปเข้าอู่ที่ทำเกี่ยวกับระบบไฟฟ้ารถยนต์
ก่อนที่จะไปผมได้ศึกษาและอ่านรีววิว จากอินเตอร์เน็ต ร้านนี้ได้คำชมเยอะมาก ผมไปตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะได้คิวแรก เฮียเจ้าของร้าน และลูกชายมาต้อนรับและถามอาการ โชคดีว่าร้านมีอะไหล่ จึงสามารถซ่อมได้เลย ค่าอะไหล่ 1750บาท ค่าแรงสี่ร้อย เฮียลดให้เหลือ 350 ลูกชายเฮียพร้อมกับลูกน้องสองคน มารุมที่รถผม สักพักมีรถหกล้อของลูกค้าเจ้าประจำเข้ามาเทียบ ลูกชายเฮียเลยผละจากอีโคคาร์ของผมไปทำหกล้อ โดยสั่งลูกน้องไว้ว่า “ต้นดูคันนี้นะ พี่จะไปซ่อมอีกคัน”
ต้นเด็กหนุ่ม หน้าละอ่อน พร้อมผู้ช่วยชาวเมียนมาร์ ค่อยๆถอด ชิ้นส่วนออกมาทีละชิ้น ด้วยความที่ว่า รถอีโคคันนี้มีห้องเครื่องเล็ก ทุกอย่างเลยอัดแน่นไปหมด กว่าจะเข้าถึงพัดลมไฟฟ้าได้ ต้องรื้อ หม้อกรองอากาศ ฝาครอบเครื่อง ฝาครอบหม้อน้ำ แบตเตอร์รี่ และ ปั๊มอะไรสักอย่างออก สิ่งที่ผมกังวล คือช่างทั้งสอง เอาชิ้นส่วนวางลงบนพื้น โดยไม่มีการเรียงอะไรก่อนอะไรหลัง อันนั้นไม่เท่าไหร่ น๊อตทุกตัวที่ถอดมา จะถูกรวมไว้ตรงร่องระหว่างที่ปัดน้ำฝนกับฝากระโปรง ไม่มีการแยกอะไรทั้งสิ้น น๊อตหลายขนาด หลายสี หลายวัสดุ(โลหะ,พลาสติก) ปนเปกันไปหมด
ผมเริ่มจะเครียดเพราะเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์ “ญี่ปุ่นผลิตน๊อตเกิน” ผมเลยแกล้งถามต้น “น้องยังเรียนอยู่ หรือจบแล้ว” “ยังอยู่ ปวส ปีหนึ่งครับ” เวรแล้ว! ผมนึกในใจ ผมแย็บต่อ “แล้วทำงานมากี่ปีแล้วครับ” “กับเฮียสองปีกว่า ส่วนใหญ่เป็นช่วงปิดเทอม ถ้าวันไหนไม่เรียนก็จะมาทำงานด้วย” โอเคความขยันได้ แต่ฝีมือผมไม่แน่ใจ
ผมกะว่าจะฉะกับเฮียแน่ ถ้ามีอะไรขาดหาย หรือน็อตเหลือสักตัวรับรองเป็นเรื่อง มีอย่างที่ไหนให้เด็กฝึกงานมาทำรถลูกค้า ผมตั้งใจว่าจะเฝ้าสองคนนี้ทำรถผมจนกว่าจะเสร็จ หลังจากใส่พัดลมอันใหม่ลงไป ชิ้นส่วนที่เหลือเริ่มประกอบเข้าที่เดิม เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง สองคนทำโดยไม่พัก
“เสร็จแล้วครับพี่” ต้นหันมาบอก ผมรีบมองไปที่รางที่ปัดน้ำฝน ไม่มีอะไรเหลือ หรือว่า ช่างแอบทิ้งลงบนพื้น ผมก้มลงมองพื้นรอบๆรถ ไม่มีอะไรตกให้เห็น “พี่หาอะไรครับ” ต้นถาม ผมแก้เก้อ “ลมยางดูอ่อนไปหน่อย ช่วยเติมให้พี่ด้วยนะ” ต้นจัดการเช็ค และเติมลมทั้งสี่ล้อ
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่สับสนในความคิดตัวเอง ขับรถกลับบ้าน ไม่มีอาการโอเวอร์ฮีทอีกเลย

ผมกลับมาแคนาดา รถเชฟโรเลทคู่ใจ ไฟหน้าสองดวงดับ ผมเลยศึกษาจากยูทูป กะว่าจะเปลี่ยนเองแต่มันต้องอาศัยแม่แรงยกขึ้นก่อน บิดล้อให้ได้องศา แล้วเอาลงมาเปิดฝาครอบ คือต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะถึงจะทำได้ จากคอมเม้นท์ในยูทูป คนใช้รถรุ่นนี้ มีหลายๆคนเจอปัญหาเดียวกันกับผม ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า GM วางยา เลยออกแบบให้คนธรรมดาเปลี่ยนหลอดไฟหน้าเองไม่ได้ เพื่อเป็นช่องทางให้ศูนย์หาเงิน
ขอยกตัวอย่างความเห็นในยูทูป เอ็ดเวิร์ด จาก อิลลินอยส์ กล่าวด้วยอารมณ์ว่า “โอ้ย กู ละ ปวดหัว กับระบบของ คัก เอ็ดมาหยั่งสีบซ้อน คักแน่”
(ผมใช้โปรแกรมแปลภาษา ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยครับ)
ผมลองอีกครั้งโดยเอารถไปเข้าอู่แถวบ้านซึ่งเปิดมากว่ายี่สิบปี ช่างเห็นครั้งแรกบอกว่าทำไม่ได้ ผมเลยโชว์คลิปให้แกดู แกเงียบไปสักพักแล้วบอกว่า”น้องคนนี้อึ๋มมาก”...... โทษทีผิดคลิป ช่างพยายามจะทำอีกครั้ง ไม่เวิร์ค สุดท้ายต้องเอาเข้าศูนย์
ที่ศูนย์พนักงาน พยายามอธิบายว่าแค่แรงคล่าวๆเป็นอัตราเท่าไหร่ อะไหล่ประมาณเท่าไหร่ แต่ไม่มีตัวเลขแน่นอน ซึ่งไอ้รถรุ่นนี้ มีให้ซ่อมเป็นร้อยเป็นพันคันทั้งแคนาดา และอเมริกา มันควรจะรู้ว่าเบ็ดเสร็จค่าแรงค่าอะไหล่เป็นเท่าไหร่ ผมจำใจเอารถเข้าซ่อม ตลอดเวลา ช่างยืนคุยกันซะมาก พักสูบบุหรี่บ้าง จิบกาแฟบ้าง
กว่ารถผมจะได้ขึ้นแม่แรง รอไปเกือบสี่สิบห้านาที ใช้เวลาทำจริงสองข้างไม่ถึงยี่สิบนาที กว่าจะเอารถออกมาได้ ประมาณครึ่งชั่วโมง
บิลออกมา ค่าแรง $140 หรือ 3331บาท(ยังไม่รวมภาษี13%) ค่าหลอดไฟสองข้าง $46.64 หรือ 1109บาท ยังไม่รวมภาษี พอผมจะเริ่มบ่นเรื่องค่าแรง พนักงานชี้ไปที่เงื่อนไขซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กๆ(fine prints)คล้ายๆหลังใบสมัครบัตรเครดิต
ผมคิดว่าต่อไปทางศูนย์คงไม่ต้องมีใบเสร็จแล้ว แค่พนักงานเคาน์เตอร์มีกล็อกคนละกระบอก หันปากกระบอกไปทางลูกค้า แค่วางไว้เฉยๆนะ ลูกค้าคงไม่กล้าแม้จะเอ่ยปาก เพราะมันคือการปล้น
ไม่แปลกที่ยอดขายรถ GM มียอดลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ 1990s เดือนกว่าๆหลังจากผมเอารถเข้าศูนย์ GM สั่งปิดโรงงานแปดแห่ง
จากเหตุการณ์เอารถให้ฝรั่งซ่อม ทำให้ผมนึกถึงช่างคนไทยคนนึง และผมมีอะไรจะบอกกับเขาด้วย
ต้น.....พี่ขอโทษ
ช่างไทย vs ช่างฝรั่ง EP1
อาการเจ็ทแลกหายไปทันทีเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย มันคือสิ่งท้าทาย เพราะชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว มีรถสองแถวซิ่ง เด็กแว้น คนขับรถสวนเลน รถคันหน้านึกจะจอดก็จอด ไฟเลี้ยวไม่ต้องพูดถึง มีด้วยหรือ? ไหนจะหมาวิ่งตัดหน้าอีก การได้ขับรถในไทยทำให้ผมรู้สึกหนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง อะดรีนาลีนสูบฉีดเต็มที่
วันนึงท่ามกลางรถติดในตัวเมือง เข็มอุณหภูมิชี้ไปที่ขีดแดง ควันพวยพุ่งจากกระโปรงหน้า ผมประคองขับจนถึงบ้าน โชคดีหม้อน้ำไม่รั่ว แต่ปั๊มน้ำไฟฟ้าเสีย วันต่อมาผมเอารถไปเข้าอู่ที่ทำเกี่ยวกับระบบไฟฟ้ารถยนต์
ก่อนที่จะไปผมได้ศึกษาและอ่านรีววิว จากอินเตอร์เน็ต ร้านนี้ได้คำชมเยอะมาก ผมไปตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะได้คิวแรก เฮียเจ้าของร้าน และลูกชายมาต้อนรับและถามอาการ โชคดีว่าร้านมีอะไหล่ จึงสามารถซ่อมได้เลย ค่าอะไหล่ 1750บาท ค่าแรงสี่ร้อย เฮียลดให้เหลือ 350 ลูกชายเฮียพร้อมกับลูกน้องสองคน มารุมที่รถผม สักพักมีรถหกล้อของลูกค้าเจ้าประจำเข้ามาเทียบ ลูกชายเฮียเลยผละจากอีโคคาร์ของผมไปทำหกล้อ โดยสั่งลูกน้องไว้ว่า “ต้นดูคันนี้นะ พี่จะไปซ่อมอีกคัน”
ต้นเด็กหนุ่ม หน้าละอ่อน พร้อมผู้ช่วยชาวเมียนมาร์ ค่อยๆถอด ชิ้นส่วนออกมาทีละชิ้น ด้วยความที่ว่า รถอีโคคันนี้มีห้องเครื่องเล็ก ทุกอย่างเลยอัดแน่นไปหมด กว่าจะเข้าถึงพัดลมไฟฟ้าได้ ต้องรื้อ หม้อกรองอากาศ ฝาครอบเครื่อง ฝาครอบหม้อน้ำ แบตเตอร์รี่ และ ปั๊มอะไรสักอย่างออก สิ่งที่ผมกังวล คือช่างทั้งสอง เอาชิ้นส่วนวางลงบนพื้น โดยไม่มีการเรียงอะไรก่อนอะไรหลัง อันนั้นไม่เท่าไหร่ น๊อตทุกตัวที่ถอดมา จะถูกรวมไว้ตรงร่องระหว่างที่ปัดน้ำฝนกับฝากระโปรง ไม่มีการแยกอะไรทั้งสิ้น น๊อตหลายขนาด หลายสี หลายวัสดุ(โลหะ,พลาสติก) ปนเปกันไปหมด
ผมเริ่มจะเครียดเพราะเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์ “ญี่ปุ่นผลิตน๊อตเกิน” ผมเลยแกล้งถามต้น “น้องยังเรียนอยู่ หรือจบแล้ว” “ยังอยู่ ปวส ปีหนึ่งครับ” เวรแล้ว! ผมนึกในใจ ผมแย็บต่อ “แล้วทำงานมากี่ปีแล้วครับ” “กับเฮียสองปีกว่า ส่วนใหญ่เป็นช่วงปิดเทอม ถ้าวันไหนไม่เรียนก็จะมาทำงานด้วย” โอเคความขยันได้ แต่ฝีมือผมไม่แน่ใจ
ผมกะว่าจะฉะกับเฮียแน่ ถ้ามีอะไรขาดหาย หรือน็อตเหลือสักตัวรับรองเป็นเรื่อง มีอย่างที่ไหนให้เด็กฝึกงานมาทำรถลูกค้า ผมตั้งใจว่าจะเฝ้าสองคนนี้ทำรถผมจนกว่าจะเสร็จ หลังจากใส่พัดลมอันใหม่ลงไป ชิ้นส่วนที่เหลือเริ่มประกอบเข้าที่เดิม เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง สองคนทำโดยไม่พัก
“เสร็จแล้วครับพี่” ต้นหันมาบอก ผมรีบมองไปที่รางที่ปัดน้ำฝน ไม่มีอะไรเหลือ หรือว่า ช่างแอบทิ้งลงบนพื้น ผมก้มลงมองพื้นรอบๆรถ ไม่มีอะไรตกให้เห็น “พี่หาอะไรครับ” ต้นถาม ผมแก้เก้อ “ลมยางดูอ่อนไปหน่อย ช่วยเติมให้พี่ด้วยนะ” ต้นจัดการเช็ค และเติมลมทั้งสี่ล้อ
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่สับสนในความคิดตัวเอง ขับรถกลับบ้าน ไม่มีอาการโอเวอร์ฮีทอีกเลย
ผมกลับมาแคนาดา รถเชฟโรเลทคู่ใจ ไฟหน้าสองดวงดับ ผมเลยศึกษาจากยูทูป กะว่าจะเปลี่ยนเองแต่มันต้องอาศัยแม่แรงยกขึ้นก่อน บิดล้อให้ได้องศา แล้วเอาลงมาเปิดฝาครอบ คือต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะถึงจะทำได้ จากคอมเม้นท์ในยูทูป คนใช้รถรุ่นนี้ มีหลายๆคนเจอปัญหาเดียวกันกับผม ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า GM วางยา เลยออกแบบให้คนธรรมดาเปลี่ยนหลอดไฟหน้าเองไม่ได้ เพื่อเป็นช่องทางให้ศูนย์หาเงิน
ขอยกตัวอย่างความเห็นในยูทูป เอ็ดเวิร์ด จาก อิลลินอยส์ กล่าวด้วยอารมณ์ว่า “โอ้ย กู ละ ปวดหัว กับระบบของ คัก เอ็ดมาหยั่งสีบซ้อน คักแน่”
(ผมใช้โปรแกรมแปลภาษา ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยครับ)
ผมลองอีกครั้งโดยเอารถไปเข้าอู่แถวบ้านซึ่งเปิดมากว่ายี่สิบปี ช่างเห็นครั้งแรกบอกว่าทำไม่ได้ ผมเลยโชว์คลิปให้แกดู แกเงียบไปสักพักแล้วบอกว่า”น้องคนนี้อึ๋มมาก”...... โทษทีผิดคลิป ช่างพยายามจะทำอีกครั้ง ไม่เวิร์ค สุดท้ายต้องเอาเข้าศูนย์
ที่ศูนย์พนักงาน พยายามอธิบายว่าแค่แรงคล่าวๆเป็นอัตราเท่าไหร่ อะไหล่ประมาณเท่าไหร่ แต่ไม่มีตัวเลขแน่นอน ซึ่งไอ้รถรุ่นนี้ มีให้ซ่อมเป็นร้อยเป็นพันคันทั้งแคนาดา และอเมริกา มันควรจะรู้ว่าเบ็ดเสร็จค่าแรงค่าอะไหล่เป็นเท่าไหร่ ผมจำใจเอารถเข้าซ่อม ตลอดเวลา ช่างยืนคุยกันซะมาก พักสูบบุหรี่บ้าง จิบกาแฟบ้าง
กว่ารถผมจะได้ขึ้นแม่แรง รอไปเกือบสี่สิบห้านาที ใช้เวลาทำจริงสองข้างไม่ถึงยี่สิบนาที กว่าจะเอารถออกมาได้ ประมาณครึ่งชั่วโมง
บิลออกมา ค่าแรง $140 หรือ 3331บาท(ยังไม่รวมภาษี13%) ค่าหลอดไฟสองข้าง $46.64 หรือ 1109บาท ยังไม่รวมภาษี พอผมจะเริ่มบ่นเรื่องค่าแรง พนักงานชี้ไปที่เงื่อนไขซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กๆ(fine prints)คล้ายๆหลังใบสมัครบัตรเครดิต
ผมคิดว่าต่อไปทางศูนย์คงไม่ต้องมีใบเสร็จแล้ว แค่พนักงานเคาน์เตอร์มีกล็อกคนละกระบอก หันปากกระบอกไปทางลูกค้า แค่วางไว้เฉยๆนะ ลูกค้าคงไม่กล้าแม้จะเอ่ยปาก เพราะมันคือการปล้น
ไม่แปลกที่ยอดขายรถ GM มียอดลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ 1990s เดือนกว่าๆหลังจากผมเอารถเข้าศูนย์ GM สั่งปิดโรงงานแปดแห่ง
จากเหตุการณ์เอารถให้ฝรั่งซ่อม ทำให้ผมนึกถึงช่างคนไทยคนนึง และผมมีอะไรจะบอกกับเขาด้วย
ต้น.....พี่ขอโทษ