อย่างที่ดารานายแบบหนุ่มลูกครึ่งบอกแหละครับว่าที่ออสไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆ
แต่ที่เมืองไทยผมไม่สัมผัสถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของรัฐบาลที่มีต่อวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สักเท่าไรนัก
ปัญหามลภาวะทางอากาศในตอนนี้มันเข้าข่ายเรื่องคอขาดบาดตายแท้ๆแต่การแก้ปัญหาเชิงรุกของภาครัฐนั้นบอกตรงๆว่าน่าผิดหวัง
ที่อเมริกาหรือที่ออสเตรเลียเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆและถึงต่อให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ
ภาครัฐ เอกชน และประชาชนเค้าจะ Active กว่าบ้านเรามากครับ
มาถึงจุดนี้ผมว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบน่าจะออกไปประท้วงหรือเรียกร้องให้ภาครัฐภาคเอกชนออกมาแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษโดยด่วน
ทั้งๆที่เรื่องนี้มันสำคัญกว่าเรื่องการเลือกตั้งเสียด้วยซ้ำไปแต่กลับไม่มีใครออกไปเรียกร้องนายกและรัฐบาลเหมือนเรื่องประชาธิปไตยเลย

ผมขอติการทำงานของนายกและรัฐบาลในเรื่องการควบคุมดูแลและแก้ปัญหาฝุ่นพิษในครั้งนี้
เดี๋ยวคอยดูที่เชียงใหม่ก็จะเจอกับควันพิษจากการเผาป่าบนดอยของชาวบ้านที่ปลูกมันให้กับพวกนายทุนเป็นประจำทุกปี
สังคมไทย = สังคมเห็นแก่ตัว?
ไม่รู้จริงไหมแต่ผมว่าคนไทยเราเห็นแก่ส่วนรวมน้อยมากๆ
ยากครับที่ประเทศไทยเราจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้
คนไทยคงไม่มีวันมีคุณภาพชีวิตที่ดีแบบคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว
หมดหวังจริงๆ