ดิฉันขอแชร์เรื่องราวที่เคยพบเจอมาค่ะ
***เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจริงค่ะ***
1.เกือบโดนน้าชายแท้ๆข่มขืน
เรื่องเกิดขึ้นตอนที่ดิฉันอายุ 12-13
ตอนนั้นยังไม่มีประจำเดือนและยังไม่รู้ความนัก
จริงๆที่บ้านดิฉันอยู่กัน 4 คน มีคุณยาย คุณแม่และพี่ชายและดิฉัน ส่วนคุณพ่อไม่ได้อยู่ด้วยคุณพ่อทำงานต่างจังหวัดนานๆกลับ ซึ่งไม่ได้มีน้าชายมาตั้งแต่แรก
แต่พึ่งมาขออยู่อาศัยทีหลัง แรกๆก็ขอไปอยู่บ้านของน้าสาว(บ้านเช่าที่น้าสาวปล่อยให้เช่า) แต่ก็กินเหล้าเมาทุกวัน จนไม่มีใครรับดูแล
สุดท้ายครอบครัวดิฉันก็ต้องรับดูแล เพราะเห็นแก่คุณยาย แล้วเนื่องจากบ้านดิฉันเป็นบ้านแฝดที่มีพื้นที่แค่ครึ่งนึง พอมีน้าชายเพิ่มมา ที่นอนไม่พอ(ความจริงน้าชายสามารถมาปูผ้านอนในบ้านใกล้ๆที่นอนยายได้ แต่เขาไม่ทำเพราะเขาเกลียดคุณแม่เกลียดดิฉันเกลียดพี่ชายดิฉันมาก(เขาบอกอย่างนั้น) เขาจึงนอนโซฟาหน้าบ้าน(ไม่มีมุ้ง)
ตั้งแต่มาอยู่ก็กินเหล้าเมาทุกวัน ตั้งแต่หัววันยันหัวค่ำ จนกระทั้งมีวันนึงที่คุณแม่และคุณยายต่างไม่อยู่บ้านกันทั้งคู่ เหลือดิฉันกับพี่ชายและน้าชายสามคนในบ้าน แต่พี่ชายดิฉันพิการทางสมอง(เคยประสบอุบัติเหตุทางถนน) พี่ชายดิฉันจะติดโทรศัพท์คุยกับผู้หญิงมากๆ เขาเลยอยู่แต่ในห้องนอนของเขาไม่ค่อยออกมาในบ้านเท่าไร
เรื่องเกิดขึ้นตอนหัวค่ำ น้าชายเมากลับบ้านมา แล้วก็มาเข้าห้องน้ำในบ้าน ดิฉันกำลังทำการบ้านและดูทีวีอยู่ในบ้าน พอน้าชายออกห้องน้ำมา ก็เรียกดิฉันให้เข้าไปนั่งตัก ด้วยความที่ดิฉันกลัวน้าชายมาก เพราะเขาชอบเสียงดังใส่ดิฉันตลอด จึงเดินเข้าไปนั่งตักเขาอย่างว่าง่าย ในตอนนั้นดิฉันไม่คาดคิดว่าน้าชายตั้งใจจะข่มขืนดิฉันเลยสักนิด แต่พอน้าชายบอกให้ถอดเสื้อผ้าออก ดิฉันก็รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึงทันที แต่จะหนีก็คงโดนจับได้ จะร้องให้พี่ชายช่วยเขาคงไม่ได้ยิน ตอนนั้นดิฉันนึกถึงวิชาสุขศึกษาที่ได้เรียนมา
ซึ่งก็คือ ตอนแรกให้ยอมๆทำตามไปก่อน อย่าพึ่งขัดขืน หากมีโอกาสค่อยเรียกคนช่วย แต่ต้องโอกาส 100% เพราะถ้าหากเราเรียกให้คนช่วย แต่เขาไม่กล้าเข้ามายุ่งเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง นอกจากจะไม่มีคนช่วยแล้ว อาจโดนน้าชายทำร้ายร่างกายเนื่องจากโกรธที่เราเรียกให้คนช่วย เพราะฉะนั้น ต้องทำตามไปก่อน ได้โอกาสค่อยหาทางวิ่งหนีไปเรียกให้คนช่วย
หลังจากที่นั่งตักแล้ว น้าชายก็จับหน้าอกเราบ้าง กอดจูบต้นคอบ้าง เราไม่ขัดขืนอะไรเลยเพราะกลัวมากๆ แล้วก็มีแม่ค้ามาส่งไข่ให้ที่บ้านพอดี เขามาเห็นเข้า เราเลยลุกไปตอนแรกจะลุกไปขอให้ช่วย แต่น้าชายขู่ว่าถ้าบอกคนอื่นเราโดนหนักแน่แล้วอีกอย่างก็ไม่มีใครช่วยได้หรอกแถมยังจะโดนชาวบ้านนินทาอีกว่าโดนน้าชายแท้ๆกระทำ ตัวดิฉันเองและครอบครัวที่จะเสื่อมเสีย
ไม่ใช่ว่าดิฉันไม่เรียกให้ป้าส่งไข่ช่วยเพราะคำขู่ของน้าชาย แต่เพราะป้าเขารีบวางไข่แล้วพูดว่ามาส่งไข่ค่ะแล้วก็รีบออกไปเลย ดิฉันเลยคิดว่าป้าเขาคงช่วยดิฉันไม่ได้แน่ๆ ดิฉันจึงกลับเข้าไป แล้วบอกกับน้าชายว่าดิฉันปวดฉี่มาก ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะแล้วก็จะอาบน้ำด้วย คงเป็นเพราะดิฉันไม่ขัดขืนอะไรน้าชายแต่แรก เขาเลยไม่ได้ขืนใจดิฉันเลย แถมยังยอมให้ไปเข้าห้องน้ำก่อนด้วย หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จดิฉันก็อยู่ในนั้นนานมากๆจนน้าชายมาเคาะเรียก ดิฉันก็ทำทีเป็นอาบน้ำไปเรื่อยๆ แล้วบอกน้าชายว่าอาบน้ำอยู่รอก่อนนะ ทำอย่านั้นจนพี่ชายดิฉันออกจากห้องเพื่อมาเข้าห้องน้ำ เขาก็งงๆว่าน้าชายมาอยู่หน้าห้องน้ำทำไม แถมยังเป็นตอนที่ดิฉันอาบน้ำอยู่ น้าชายเห็นพี่ชายเข้าบ้านมา จึงรีบออกไปอยู่นอกบ้าน
พอได้ยินว่าน้าชายออกไปแล้วดิฉันก็เปิดประตูห้องน้ำมาแล้วก็ให้พี่ชายเข้า แล้วดิฉันก็เข้าไปอยู่ที่ห้องพี่ชาย หลังจากพี่ชายมา ดิฉันก็เล่าให้ฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้น พี่ชายของดิฉันโกรธมากและบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกทุกคน แต่ดิฉันห้ามไว้ เพราะคิดว่าน้าชายคงไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว
หลังจากเรื่องผ่านไปเกือบ 1 เดือน พี่ชายและน้าชายทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นต่อยกัน ดิฉันก็จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร ตอนนั้นทุกคนในบ้านต่างเขาไปห้าม แล้วพี่ชายก็พูดถึงเรื่องที่น้าชายกระทำกับดิฉันขึ้นมา ทำให้ทุกคนตกใจมาก ดิฉันก็โดนคุณแม่กับคุณยายถามว่าเกิดขึ้นจริงหรือ แล้วเกิดเมือไรที่ไหนยังไง
หลังจากดิฉันเล่าเหตุการณ์ไปอย่างละเอียด
คุณแม่ก็ตัดสินใจไล่น้าออกจากบ้านทันที แต่คุณยายก็ขอร้องคุณแม่ไว้อีกหนหนึ่ง ว่าถ้าน้าชายทำอีกครั้งค่อยไล่ไป เพราะน้าชายสำนึกผิดแล้ว จะเลิกเหล้าและจะทำความดี จะไม่มีวันมากระทำกับดิฉันอีกแน่นอน...
เรื่องเลยจบที่ไม่มีการแจ้งความหรือไล่ออกจากบ้าน ดิฉันโดนกำชับว่าห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดและห้ามให้คุณพ่อรู้โดยเด็ดขาด(ทุกวันนี้คุณพ่อก็ยังไม่ทราบ) หลังจากนั้นยาวนานหลายปี จนดิฉันได้พบเจอกับเรื่องที่สอง
2.โดนพี่ชายแท้ๆลักหลับ
หลังจากเรื่องแรกที่ดิฉันอายุ 12-13 เรื่องที่สองดิฉันอายุมากขึ้นกว่านั้นเยอะค่ะ อยู่ในวัยรุ่นเต็มวัย อายุ 17-18 ปีค่ะ เรื่องแรกดิฉันได้พูดถึงพี่ชายไปบ้างแล้ว เขาเป็นผู้พิการทางสมองเพราะเคยประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนมาก่อนค่ะ จริงๆแล้วดิฉันกับพี่ชาย เป็นพี่น้องคนละพ่อกันแต่แม่คนเดียวกันค่ะ สมัยก่อนดิฉันกับพี่ชายไม่ค่อยถูกกันตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพี่ชายก็ค่อนข้างเกลียดและอิจฉาเราที่เป็นลูกของพ่อเลี้ยง แต่พอพี่ชายโตมาก็ดีกับดิฉันมากขึ้น จนพี่ชายประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหนักมาก ทั้งเลือดคลั่งสมองต้องผ่าตัด จนรอดมาได้มีชีวิตเกือบเทียบเท่าคนปกติ เพราะคุณยายและดิฉันคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นอย่างดี ที่โรงพยาบาลคุณยายจะดูแล ตอนที่เกิดเรื่องดิฉันอยู่ประถม5 จึงยังต้องไปเรียน กว่าพี่ชายจะมาพักฟื้นที่บ้านได้ ดิฉันก็อยู่ประถม6พอดี หลังจากพี่ชายดิฉันเดินได้ ดิฉันกับพี่ชายก็สนิทกันมาก เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า เพราะพี่ชายดิฉัน เหมือนสมองหยุดอยู่แค่อายุ17(อายุตอนที่ประสบอุตบัติเหตุ) เขาจะเป็นวัยรุ่นหัวร้อนตลอดเวลาเลยค่ะ
แต่เรื่องเกิดขึ้นตอนที่ดิฉันอายุ17ปี พี่ชายและดิฉันห่างกัน 5 ปี พี่ชายตอนนั้นอายุ 22 ปีค่ะ จริงๆแล้วดิฉันรู้ว่าพี่ชายมักจะหมกมุ่นในเรื่อง 18+ อยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไรพี่ชายเลย ตอนนั้นพี่ชายพึ่งเลิกกับแฟนสาวที่คบกันค่ะ อาจทำให้พี่ชายเกิดความอยากมั้งคะ
จริงๆต้องบอกก่อนค่ะ ว่าดิฉันไว้ผมสั้นและคบผู้หญิงเป็นแฟน เพราะตั้งแต่เกือบโดนน้าชายข่มขืน ดิฉันก็กลัวผู้ชายไปเลยค่ะ พี่ชายดิฉันก็ทราบดีค่ะ ว่าดิฉันเป็นทอม(ผู้หญิงที่ไว้ผมสั้นและแต่งตัวเปรียบว่าตนเองเป็นผู้ชาย) แต่ก็เคยมีที่อาบน้ำอยู่แล้วพบว่าพี่ชายกำลังเอากล้องยื่นเข้ามาถ่าย(ห้องน้ำมีช่องว่างพอที่จะเอาของยื่นเข้ามาได้ค่ะ) หรือแอบถ่ายตอนดิฉันกำลังนอนหลับน้ำลายยืด
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคือพี่ชายแอบมาลักหลับค่ะ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนค่ะ เนื่องจากบ้านดิฉันอาศัยกันอยู่หลายคน ทำให้ดิฉันไม่มีห้องส่วนตัวค่ะ นอกจากจะอยู่กัน 5 คนรวมน้าชายแล้ว จะมีพี่สาวมานอนบ้านเป็นครั้งคราวค่ะ คุณแม่เลยเก็บไว้ให้พี่สาวมาพัก แล้วให้เราปูผ้านอนหน้าห้องพี่สาวแทนค่ะ ในตอนนั้น พี่สาวดิฉันไปทำงานตจว.และคุณแม่อาสาไปขับรถให้พี่สาวก่อนเพราะพี่สาวขับรถไม่แข็งและพึ่งเอารถไปคว่ำพังทั้งคันจนต้องซื้อใหม่เลยค่ะ
ในบ้านเหลือแค่คุณยายพี่ชายและน้าชายค่ะ น้าชายก็ยังเมาเช้าเมาเย็นเหมือนเดิมค่ะ แถมยังหนักขึ้นเรื่อยๆเลยที่เคยสาบานสัญญาอะไรไว้ลืมหมดค่ะ แต่น้าชายก็ไม่ได้กระทำดิฉันอีกเลยค่ะ(คงเพราะกลัวโดนไล่ออกบ้าน)
เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ ดิฉันจึงเาแต่ดูการ์ตูนทั้งคืนจนไม่ได้หลับค่ะ มาหลับตอนเกือบเช้า แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่ามีใครมาคลำหน้าอก ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมเลยสักนิดค่ะ รำคาญมากๆเพราะพึ่งจะได้นอน ดิฉันยังสะลึมสะลือ ปัดมือพี่ชายออกแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุดจนทำให้ดิฉันตื่นขึ้นมา พี่ชายก็ทำทีว่ามาหาของ แล้วก็รีบออกไปค่ะ เป็นแบบนี้ทุกวันๆ ดิฉันต้องโดนลวนลามเกือบทุกวัน จนดิฉันทนไม่ไหว ปีนเข้าไปนอนในห้องพี่สาวค่ะ ที่เขาไปได้เพราะมีช่องเล็กๆพอให้รอดเข้าไปได้ค่ะ หลังจากนั้นดิฉันก็โทรเล่าเหตุการณ์ให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็บอกว่าใกล้จะได้กลับแล้วทนอีกหน่อยนะลูก อยู่ในห้องพี่สาวไปก่อน พี่ชายดิฉันจะไม่กระทำอะไรตอนดิฉันตื่นอยู่ค่ะ เขาจะทำแค่ตอนที่ดิฉันไม่รู้สึกตัวเท่านั้น ซึ่งก็มีแค่การจับหน้าอกเท่านั้นค่ะ จะต่างจากน้าชายที่มีทั้งกอดและดูดคอ เป็นการลักหลับมากกว่าข่มขืนค่ะ แล้วทุกครั้งที่ดิฉันตื่น พี่ชายจะรีบหนีไปทันทีค่ะ
หลังจากที่คุณแม่กลับมาก็เรียกพี่ชายไปคุยกับคุณยายค่ะ ว่าถ้าทำอีกจะแจ้งความ พี่ชายก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่พอผ่านไปไม่นานนักก็กลับมาทำอีกค่ะ ส่วนน้าชายก็ยังมีมากอดดูดคออีก ดิฉันก็บอกและเล่าให้คุณแม่ฟังทุกครั้งค่ะ คุณแม่ก็ไม่ได้แจ้งความพี่ชายหรือไล่น้าชายอย่างที่พูดไว้ค่ะ เพียงแต่ยกให้ดิฉันอยู่ห้องพี่สาวแทน แต่เหตุการณ์มันอาจเกิดได้ทุกเมื่อค่ะ ถ้าดิฉันไม่ระวังตัวหรืออาจโดนบังคับอีก
สุดท้ายดิฉันทนอยู่บ้านหลังนี้จนเรียนจบและออกมาอาศัยอยู่บ้านเพื่อนค่ะ รู้สึกว่าเป็นภาระให้คุณแม่กับคุณยาย ให้ท่านต้องเหนื่อยกับเราเวลาเกิดเรื่อง รู้สึกเป็นตัวปัญหาค่ะ คิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านหลังจากพี่ชายและน้าชายเสียแล้ว รู้สึกว่าโชคร้ายเรื่องสายเลือดและครอบครัว แต่ก็โชคดีที่มีเพื่อนดีดีคอยช่วยเหลือค่ะ
โลกนี้ไม่มีควายุติธรรม แต่เราสามารถหลีกหนีสิ่งที่เรียกว่าไม่ยุติธรรมได้ค่ะ
ดิฉันเชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องพบเจอเรื่องราวแบบเดียวกับดิฉัน และอยากให้กำลังใจค่ะ ดิฉันก็จะผ่านเรื่องร้ายๆไปให้ได้ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านเรื่องราวของดิฉันค่ะ
หากคุณเคยโดนกระทำ?
***เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจริงค่ะ***
เรื่องเกิดขึ้นตอนที่ดิฉันอายุ 12-13
ตอนนั้นยังไม่มีประจำเดือนและยังไม่รู้ความนัก
จริงๆที่บ้านดิฉันอยู่กัน 4 คน มีคุณยาย คุณแม่และพี่ชายและดิฉัน ส่วนคุณพ่อไม่ได้อยู่ด้วยคุณพ่อทำงานต่างจังหวัดนานๆกลับ ซึ่งไม่ได้มีน้าชายมาตั้งแต่แรก
แต่พึ่งมาขออยู่อาศัยทีหลัง แรกๆก็ขอไปอยู่บ้านของน้าสาว(บ้านเช่าที่น้าสาวปล่อยให้เช่า) แต่ก็กินเหล้าเมาทุกวัน จนไม่มีใครรับดูแล
สุดท้ายครอบครัวดิฉันก็ต้องรับดูแล เพราะเห็นแก่คุณยาย แล้วเนื่องจากบ้านดิฉันเป็นบ้านแฝดที่มีพื้นที่แค่ครึ่งนึง พอมีน้าชายเพิ่มมา ที่นอนไม่พอ(ความจริงน้าชายสามารถมาปูผ้านอนในบ้านใกล้ๆที่นอนยายได้ แต่เขาไม่ทำเพราะเขาเกลียดคุณแม่เกลียดดิฉันเกลียดพี่ชายดิฉันมาก(เขาบอกอย่างนั้น) เขาจึงนอนโซฟาหน้าบ้าน(ไม่มีมุ้ง)
ตั้งแต่มาอยู่ก็กินเหล้าเมาทุกวัน ตั้งแต่หัววันยันหัวค่ำ จนกระทั้งมีวันนึงที่คุณแม่และคุณยายต่างไม่อยู่บ้านกันทั้งคู่ เหลือดิฉันกับพี่ชายและน้าชายสามคนในบ้าน แต่พี่ชายดิฉันพิการทางสมอง(เคยประสบอุบัติเหตุทางถนน) พี่ชายดิฉันจะติดโทรศัพท์คุยกับผู้หญิงมากๆ เขาเลยอยู่แต่ในห้องนอนของเขาไม่ค่อยออกมาในบ้านเท่าไร
เรื่องเกิดขึ้นตอนหัวค่ำ น้าชายเมากลับบ้านมา แล้วก็มาเข้าห้องน้ำในบ้าน ดิฉันกำลังทำการบ้านและดูทีวีอยู่ในบ้าน พอน้าชายออกห้องน้ำมา ก็เรียกดิฉันให้เข้าไปนั่งตัก ด้วยความที่ดิฉันกลัวน้าชายมาก เพราะเขาชอบเสียงดังใส่ดิฉันตลอด จึงเดินเข้าไปนั่งตักเขาอย่างว่าง่าย ในตอนนั้นดิฉันไม่คาดคิดว่าน้าชายตั้งใจจะข่มขืนดิฉันเลยสักนิด แต่พอน้าชายบอกให้ถอดเสื้อผ้าออก ดิฉันก็รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึงทันที แต่จะหนีก็คงโดนจับได้ จะร้องให้พี่ชายช่วยเขาคงไม่ได้ยิน ตอนนั้นดิฉันนึกถึงวิชาสุขศึกษาที่ได้เรียนมา
ซึ่งก็คือ ตอนแรกให้ยอมๆทำตามไปก่อน อย่าพึ่งขัดขืน หากมีโอกาสค่อยเรียกคนช่วย แต่ต้องโอกาส 100% เพราะถ้าหากเราเรียกให้คนช่วย แต่เขาไม่กล้าเข้ามายุ่งเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง นอกจากจะไม่มีคนช่วยแล้ว อาจโดนน้าชายทำร้ายร่างกายเนื่องจากโกรธที่เราเรียกให้คนช่วย เพราะฉะนั้น ต้องทำตามไปก่อน ได้โอกาสค่อยหาทางวิ่งหนีไปเรียกให้คนช่วย
หลังจากที่นั่งตักแล้ว น้าชายก็จับหน้าอกเราบ้าง กอดจูบต้นคอบ้าง เราไม่ขัดขืนอะไรเลยเพราะกลัวมากๆ แล้วก็มีแม่ค้ามาส่งไข่ให้ที่บ้านพอดี เขามาเห็นเข้า เราเลยลุกไปตอนแรกจะลุกไปขอให้ช่วย แต่น้าชายขู่ว่าถ้าบอกคนอื่นเราโดนหนักแน่แล้วอีกอย่างก็ไม่มีใครช่วยได้หรอกแถมยังจะโดนชาวบ้านนินทาอีกว่าโดนน้าชายแท้ๆกระทำ ตัวดิฉันเองและครอบครัวที่จะเสื่อมเสีย
ไม่ใช่ว่าดิฉันไม่เรียกให้ป้าส่งไข่ช่วยเพราะคำขู่ของน้าชาย แต่เพราะป้าเขารีบวางไข่แล้วพูดว่ามาส่งไข่ค่ะแล้วก็รีบออกไปเลย ดิฉันเลยคิดว่าป้าเขาคงช่วยดิฉันไม่ได้แน่ๆ ดิฉันจึงกลับเข้าไป แล้วบอกกับน้าชายว่าดิฉันปวดฉี่มาก ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะแล้วก็จะอาบน้ำด้วย คงเป็นเพราะดิฉันไม่ขัดขืนอะไรน้าชายแต่แรก เขาเลยไม่ได้ขืนใจดิฉันเลย แถมยังยอมให้ไปเข้าห้องน้ำก่อนด้วย หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จดิฉันก็อยู่ในนั้นนานมากๆจนน้าชายมาเคาะเรียก ดิฉันก็ทำทีเป็นอาบน้ำไปเรื่อยๆ แล้วบอกน้าชายว่าอาบน้ำอยู่รอก่อนนะ ทำอย่านั้นจนพี่ชายดิฉันออกจากห้องเพื่อมาเข้าห้องน้ำ เขาก็งงๆว่าน้าชายมาอยู่หน้าห้องน้ำทำไม แถมยังเป็นตอนที่ดิฉันอาบน้ำอยู่ น้าชายเห็นพี่ชายเข้าบ้านมา จึงรีบออกไปอยู่นอกบ้าน
พอได้ยินว่าน้าชายออกไปแล้วดิฉันก็เปิดประตูห้องน้ำมาแล้วก็ให้พี่ชายเข้า แล้วดิฉันก็เข้าไปอยู่ที่ห้องพี่ชาย หลังจากพี่ชายมา ดิฉันก็เล่าให้ฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้น พี่ชายของดิฉันโกรธมากและบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกทุกคน แต่ดิฉันห้ามไว้ เพราะคิดว่าน้าชายคงไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว
หลังจากเรื่องผ่านไปเกือบ 1 เดือน พี่ชายและน้าชายทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นต่อยกัน ดิฉันก็จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร ตอนนั้นทุกคนในบ้านต่างเขาไปห้าม แล้วพี่ชายก็พูดถึงเรื่องที่น้าชายกระทำกับดิฉันขึ้นมา ทำให้ทุกคนตกใจมาก ดิฉันก็โดนคุณแม่กับคุณยายถามว่าเกิดขึ้นจริงหรือ แล้วเกิดเมือไรที่ไหนยังไง
หลังจากดิฉันเล่าเหตุการณ์ไปอย่างละเอียด
คุณแม่ก็ตัดสินใจไล่น้าออกจากบ้านทันที แต่คุณยายก็ขอร้องคุณแม่ไว้อีกหนหนึ่ง ว่าถ้าน้าชายทำอีกครั้งค่อยไล่ไป เพราะน้าชายสำนึกผิดแล้ว จะเลิกเหล้าและจะทำความดี จะไม่มีวันมากระทำกับดิฉันอีกแน่นอน...
เรื่องเลยจบที่ไม่มีการแจ้งความหรือไล่ออกจากบ้าน ดิฉันโดนกำชับว่าห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดและห้ามให้คุณพ่อรู้โดยเด็ดขาด(ทุกวันนี้คุณพ่อก็ยังไม่ทราบ) หลังจากนั้นยาวนานหลายปี จนดิฉันได้พบเจอกับเรื่องที่สอง
หลังจากเรื่องแรกที่ดิฉันอายุ 12-13 เรื่องที่สองดิฉันอายุมากขึ้นกว่านั้นเยอะค่ะ อยู่ในวัยรุ่นเต็มวัย อายุ 17-18 ปีค่ะ เรื่องแรกดิฉันได้พูดถึงพี่ชายไปบ้างแล้ว เขาเป็นผู้พิการทางสมองเพราะเคยประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนมาก่อนค่ะ จริงๆแล้วดิฉันกับพี่ชาย เป็นพี่น้องคนละพ่อกันแต่แม่คนเดียวกันค่ะ สมัยก่อนดิฉันกับพี่ชายไม่ค่อยถูกกันตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพี่ชายก็ค่อนข้างเกลียดและอิจฉาเราที่เป็นลูกของพ่อเลี้ยง แต่พอพี่ชายโตมาก็ดีกับดิฉันมากขึ้น จนพี่ชายประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหนักมาก ทั้งเลือดคลั่งสมองต้องผ่าตัด จนรอดมาได้มีชีวิตเกือบเทียบเท่าคนปกติ เพราะคุณยายและดิฉันคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นอย่างดี ที่โรงพยาบาลคุณยายจะดูแล ตอนที่เกิดเรื่องดิฉันอยู่ประถม5 จึงยังต้องไปเรียน กว่าพี่ชายจะมาพักฟื้นที่บ้านได้ ดิฉันก็อยู่ประถม6พอดี หลังจากพี่ชายดิฉันเดินได้ ดิฉันกับพี่ชายก็สนิทกันมาก เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า เพราะพี่ชายดิฉัน เหมือนสมองหยุดอยู่แค่อายุ17(อายุตอนที่ประสบอุตบัติเหตุ) เขาจะเป็นวัยรุ่นหัวร้อนตลอดเวลาเลยค่ะ
แต่เรื่องเกิดขึ้นตอนที่ดิฉันอายุ17ปี พี่ชายและดิฉันห่างกัน 5 ปี พี่ชายตอนนั้นอายุ 22 ปีค่ะ จริงๆแล้วดิฉันรู้ว่าพี่ชายมักจะหมกมุ่นในเรื่อง 18+ อยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไรพี่ชายเลย ตอนนั้นพี่ชายพึ่งเลิกกับแฟนสาวที่คบกันค่ะ อาจทำให้พี่ชายเกิดความอยากมั้งคะ
จริงๆต้องบอกก่อนค่ะ ว่าดิฉันไว้ผมสั้นและคบผู้หญิงเป็นแฟน เพราะตั้งแต่เกือบโดนน้าชายข่มขืน ดิฉันก็กลัวผู้ชายไปเลยค่ะ พี่ชายดิฉันก็ทราบดีค่ะ ว่าดิฉันเป็นทอม(ผู้หญิงที่ไว้ผมสั้นและแต่งตัวเปรียบว่าตนเองเป็นผู้ชาย) แต่ก็เคยมีที่อาบน้ำอยู่แล้วพบว่าพี่ชายกำลังเอากล้องยื่นเข้ามาถ่าย(ห้องน้ำมีช่องว่างพอที่จะเอาของยื่นเข้ามาได้ค่ะ) หรือแอบถ่ายตอนดิฉันกำลังนอนหลับน้ำลายยืด
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคือพี่ชายแอบมาลักหลับค่ะ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนค่ะ เนื่องจากบ้านดิฉันอาศัยกันอยู่หลายคน ทำให้ดิฉันไม่มีห้องส่วนตัวค่ะ นอกจากจะอยู่กัน 5 คนรวมน้าชายแล้ว จะมีพี่สาวมานอนบ้านเป็นครั้งคราวค่ะ คุณแม่เลยเก็บไว้ให้พี่สาวมาพัก แล้วให้เราปูผ้านอนหน้าห้องพี่สาวแทนค่ะ ในตอนนั้น พี่สาวดิฉันไปทำงานตจว.และคุณแม่อาสาไปขับรถให้พี่สาวก่อนเพราะพี่สาวขับรถไม่แข็งและพึ่งเอารถไปคว่ำพังทั้งคันจนต้องซื้อใหม่เลยค่ะ
ในบ้านเหลือแค่คุณยายพี่ชายและน้าชายค่ะ น้าชายก็ยังเมาเช้าเมาเย็นเหมือนเดิมค่ะ แถมยังหนักขึ้นเรื่อยๆเลยที่เคยสาบานสัญญาอะไรไว้ลืมหมดค่ะ แต่น้าชายก็ไม่ได้กระทำดิฉันอีกเลยค่ะ(คงเพราะกลัวโดนไล่ออกบ้าน)
เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ ดิฉันจึงเาแต่ดูการ์ตูนทั้งคืนจนไม่ได้หลับค่ะ มาหลับตอนเกือบเช้า แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่ามีใครมาคลำหน้าอก ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมเลยสักนิดค่ะ รำคาญมากๆเพราะพึ่งจะได้นอน ดิฉันยังสะลึมสะลือ ปัดมือพี่ชายออกแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุดจนทำให้ดิฉันตื่นขึ้นมา พี่ชายก็ทำทีว่ามาหาของ แล้วก็รีบออกไปค่ะ เป็นแบบนี้ทุกวันๆ ดิฉันต้องโดนลวนลามเกือบทุกวัน จนดิฉันทนไม่ไหว ปีนเข้าไปนอนในห้องพี่สาวค่ะ ที่เขาไปได้เพราะมีช่องเล็กๆพอให้รอดเข้าไปได้ค่ะ หลังจากนั้นดิฉันก็โทรเล่าเหตุการณ์ให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็บอกว่าใกล้จะได้กลับแล้วทนอีกหน่อยนะลูก อยู่ในห้องพี่สาวไปก่อน พี่ชายดิฉันจะไม่กระทำอะไรตอนดิฉันตื่นอยู่ค่ะ เขาจะทำแค่ตอนที่ดิฉันไม่รู้สึกตัวเท่านั้น ซึ่งก็มีแค่การจับหน้าอกเท่านั้นค่ะ จะต่างจากน้าชายที่มีทั้งกอดและดูดคอ เป็นการลักหลับมากกว่าข่มขืนค่ะ แล้วทุกครั้งที่ดิฉันตื่น พี่ชายจะรีบหนีไปทันทีค่ะ
หลังจากที่คุณแม่กลับมาก็เรียกพี่ชายไปคุยกับคุณยายค่ะ ว่าถ้าทำอีกจะแจ้งความ พี่ชายก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่พอผ่านไปไม่นานนักก็กลับมาทำอีกค่ะ ส่วนน้าชายก็ยังมีมากอดดูดคออีก ดิฉันก็บอกและเล่าให้คุณแม่ฟังทุกครั้งค่ะ คุณแม่ก็ไม่ได้แจ้งความพี่ชายหรือไล่น้าชายอย่างที่พูดไว้ค่ะ เพียงแต่ยกให้ดิฉันอยู่ห้องพี่สาวแทน แต่เหตุการณ์มันอาจเกิดได้ทุกเมื่อค่ะ ถ้าดิฉันไม่ระวังตัวหรืออาจโดนบังคับอีก
สุดท้ายดิฉันทนอยู่บ้านหลังนี้จนเรียนจบและออกมาอาศัยอยู่บ้านเพื่อนค่ะ รู้สึกว่าเป็นภาระให้คุณแม่กับคุณยาย ให้ท่านต้องเหนื่อยกับเราเวลาเกิดเรื่อง รู้สึกเป็นตัวปัญหาค่ะ คิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านหลังจากพี่ชายและน้าชายเสียแล้ว รู้สึกว่าโชคร้ายเรื่องสายเลือดและครอบครัว แต่ก็โชคดีที่มีเพื่อนดีดีคอยช่วยเหลือค่ะ
ดิฉันเชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องพบเจอเรื่องราวแบบเดียวกับดิฉัน และอยากให้กำลังใจค่ะ ดิฉันก็จะผ่านเรื่องร้ายๆไปให้ได้ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านเรื่องราวของดิฉันค่ะ