
สวัสดีครับ เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา (ปี 2562) ได้มีโอกาสเดินทางไปจัดกิจกรรมวันเด็กให้กับเด็กบนดอย ณ บ้านน้ำแคะ ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน โดยการเดินทางครั้งนี้ผมได้ขอร่วมเดินทางไปกับพี่ๆ บริษัท TKK Corporation เลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวของ บ้านน้ำแคะ ที่น้อยคนนักจะได้ไปถึง เพราะอะไรกัน เชิญมาติดตามเรื่องราวกันได้เลยครับ

เราออกเดินทางจากพระราม 3 ช่วงสองทุ่ม ระหว่างทางก็หลับๆตื่นๆ โผล่มาอีกทีถึง จ.น่าน ในยามเช้าที่อากาศเย็นสบาย ใช้เวลา 10 ชม
แต่หนทางเหมือนไม่ได้จบแค่นั้น เพราะ ปลายทางของเราอยู่เกือบชายแดนติดประเทศลาว เราต้องขับรถลัดเลาะเขา กันตั้งแต่ 7 โมง ถึงเกือบ 11 โมง
ถ้านึกภาพไม่ออกก็ลองนึกถึง เส้นทาง เชียงใหม่-ปาย คงไม่ต่างอะไรกับเส้นทาง น่าน - บ่อเกลือ ที่เรากำลังจะไปกันเลย

เราถึงตำบล ดงพญา (อำเภอบ่อเกลือ) กันช่วง 11 โมง ซึ่งจากตัวตำบลไปหมู่บ้านน้ำแคะนั้น เส้นทางค่อนข้างลำบาก รถที่ขึ้นไปได้นั้น จึงต้องเป็นรถที่ลุยได้ในระดับหนึ่ง (รถเก๋งหมดสิทธิ์) ภาพความลำบากของเส้นทางที่ผ่านมาแทบจะไม่มีความหมาย เมื่อคุณต้องมาลัดเลาะไปตามเขากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงตัวหมู่บ้าน ที่ทำให้เราเริ่มเข้าใจกันแล้วว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนขึ้นมาที่นี่กันสักเท่าไหร่

อันนี้แค่ทางเข้านะ ข้างในนี่หวาเสียวกว่านี้จนไม่กล้าหยิบมือถือมาถ่ายรูป
เราถึงหมู่บ้านกันช่วงเที่ยง หมู่บ้านน้ำแคะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆประชากรประมาณ 300 กว่าชีวิต ซ๋อนตัวอยู่ในป่าที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่วันนี้ดูเหมือนจะมีแขกมาเยี่ยมเยียนเยอะเป็นพิเศษ เพราะมีกลุ่มจิตอาสา เพื่อนธารา 52 มาร่วมจัดกิจกรรมด้วย ทำเอาบรรยากาศในหมู่บ้าน คงดูผิดจากช่วงเวลาปกติไปมาก
สักพักหนึ่งเด็กๆที่นี่ก็เริ่มทยอยกันมา ชาวบ้านที่นี่เป็นคนชนเผ่าลัวะ ข้อมูลเพิ่มเติม (
https://www.gotoknow.org/posts/333307)
จากที่ได้สัมผัส คนที่นี่ ก็จะคล้ายกับชนเผ่าโดยทั่วไป คือ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน ผู้ชายก็จะดูเฮฮา สนุกสนาน เป็นกันเอง แต่ผู้หญิงก็จะดูเขิลอายมากกว่าเวลาที่พูดคุยกับพวกเรา

ช่วงบ่ายกิจกรรมวันเด็กก็เริ่มขึ้น เด็กๆดูดีใจเพราะเขาบอกกับเราว่าไม่เคยมีใครมาแจกของ ทำกิจกรรมให้เขาใหญ๋โตขนาดนี้มาก่อนเลย

หลังจากกิจกรรมเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ผมก็ถือโอกาสไปเดินเล่น ก็เห็นพี่ๆในหมู่บ้านเขาตั้งวงกินเหล้าสนทนากันอยู่ ก็เลยใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกับที่นี่ให้มากขึ้น พี่ทุกคนก็น่ารักมาก ต่างคนต่างแย่งกันโปรโมทหมู่บ้านตัวเองกันเต็มที่ไม่มีใครยอมใคร ได้ความมาก็ประมาณนี้
1. ที่นี่มีน้ำตกอยุ่ 1 แห่ง ชื่อน้ำตก ห้วยควาย ที่ชื่อห้วยควาย เพราะ มีควายสองตัวต่อสู้กันแล้วตกลงมา
2. ที่นี่ติดกับชายแดนประเทศลาวมาก แบบที่ว่าสามารถเดินไปดูหลักเขตแดนได้เลยละ
3. ที่นี่มีต้นน้ำที่ไหลเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำน่าน
และ 4. ที่นี่มีจุดชมวิวด้วยนะ ไม่ไกลเท่าไหร่เอง เดี๋ยวผมพาพี่ไปขึ้นไปเอาไหม หลังจากพูดจบ ก็ได้เรื่องเลยละครับ

ในใจตอนแรกผมก็ลังเลอยู่ ด้วยความที่พี่เขาเมาด้วย และเราก็เพิ่งรู้จักกัน เอาจริงๆก็กลัวนะ แต่ความอยากมีมากกว่า กลัวกลับมาแล้วไม่มีอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปฟัง ก็ตัดสินใจไปก็ไป ไอที่บอกว่าทางขึ้นมาหมู่บ้านนี่หวาดเสียว ลืมไปได้เลย เพราะ พี่แกพาขับมอไซต์ขึ้นไปหวาดเสียวยิ่งกว่า คือตอนแรกกลัวพี่เขาพาไปปล้น แต่พอขึ้นมอไซต์เลยเปลี่ยนใจละ กลัวพี่เขาพาไปตกเหวมากกว่า แต่พอขึ้นมาถึงข้างบน ก็รู้สึกนะว่า เราคุ้มค่าที่เราตัดสินใจเสี่ยงมา

ไม่ลืมเซลฟี่ ความทรงจำกับพี่สมจิตร เก็บไว้
บางครั้งการที่เราห่างไกลจากคำว่า " ผลประโยชน์ " คำว่า "มิตรภาพ" มันก็หากันง่ายขึ้นจริงๆนะ
ตกกลางคืนก็มีฉายหนังกาตูน การแสดงรอบกองไฟ การแสดงของเด็กให้ดูแก้หนาวกันไป กับอุณหภูมิ 15 องศา ที่คืนนี้ผมมีแค่ ถุงนอนบางๆกับเสื้อกันหนาว 1 ตัว ให้หนาวเล่นกันไป ณ ค่ำคืนนี้

ด้วยความที่มันหนาวมากจนผมนอนไม่หลับ ผมเลือกตื่นเช้ามาเดินเล่น พอดีกับเจอพี่ๆ TKK Corporation ที่มาด้วยกัน ก็เลยชวนกันเดินขึ้นไปจุดชมวิว ที่ผมมาเมื่อเย็นนี้ โชคดีได้เจอทะเลหมอกด้วยละ........คราวหน้ามา ถ้าได้มากางเต้นท์ แถวๆนี้ก็คงจะดีไม่น้อย

แล้วก็ถึงเวลาบอกลา เหล่าผู้คนเกือบๆร้อยชีวิตที่ขึ้นมาจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ทยอยกันเก็บข้าวของ สัมภาระของตนเองขึ้นรถ บรรยากาศของหมู่บ้านที่มันควรจะเป็นก็กำลังกลับมาอีกครั้ง แต่เสียดายที่เราก็ต้องกลับเช่นกัน ก็คงต้องบอกลา แล้วหวังว่าเราคงได้มาเจอกันใหม่......บ้านน้ำแคะ
การเดินทางมันอาจไม่ได้สำคัญว่าเราได้ไปในสถานที่ ที่สุดยอดแค่ไหน มันสำคัญแค่ว่าเราเดินทางแล้วได้อะไรกลับมามากน้อยเพียงใดมากกว่า
ขอบคุณพี่ๆ TKK Corporation และกลุ่ม เพื่อนธารา 52 สำหรับการเดินทางที่คงไม่ได้มีโอกาสได้มาง่ายๆเช่นนี้
พจน์ ณฐาภพ
บ้านน้ำแคะ ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน (ดินแดนสุดขอบสยาม)
สวัสดีครับ เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา (ปี 2562) ได้มีโอกาสเดินทางไปจัดกิจกรรมวันเด็กให้กับเด็กบนดอย ณ บ้านน้ำแคะ ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน โดยการเดินทางครั้งนี้ผมได้ขอร่วมเดินทางไปกับพี่ๆ บริษัท TKK Corporation เลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวของ บ้านน้ำแคะ ที่น้อยคนนักจะได้ไปถึง เพราะอะไรกัน เชิญมาติดตามเรื่องราวกันได้เลยครับ
เราออกเดินทางจากพระราม 3 ช่วงสองทุ่ม ระหว่างทางก็หลับๆตื่นๆ โผล่มาอีกทีถึง จ.น่าน ในยามเช้าที่อากาศเย็นสบาย ใช้เวลา 10 ชม
แต่หนทางเหมือนไม่ได้จบแค่นั้น เพราะ ปลายทางของเราอยู่เกือบชายแดนติดประเทศลาว เราต้องขับรถลัดเลาะเขา กันตั้งแต่ 7 โมง ถึงเกือบ 11 โมง
ถ้านึกภาพไม่ออกก็ลองนึกถึง เส้นทาง เชียงใหม่-ปาย คงไม่ต่างอะไรกับเส้นทาง น่าน - บ่อเกลือ ที่เรากำลังจะไปกันเลย
เราถึงตำบล ดงพญา (อำเภอบ่อเกลือ) กันช่วง 11 โมง ซึ่งจากตัวตำบลไปหมู่บ้านน้ำแคะนั้น เส้นทางค่อนข้างลำบาก รถที่ขึ้นไปได้นั้น จึงต้องเป็นรถที่ลุยได้ในระดับหนึ่ง (รถเก๋งหมดสิทธิ์) ภาพความลำบากของเส้นทางที่ผ่านมาแทบจะไม่มีความหมาย เมื่อคุณต้องมาลัดเลาะไปตามเขากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงตัวหมู่บ้าน ที่ทำให้เราเริ่มเข้าใจกันแล้วว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนขึ้นมาที่นี่กันสักเท่าไหร่
เราถึงหมู่บ้านกันช่วงเที่ยง หมู่บ้านน้ำแคะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆประชากรประมาณ 300 กว่าชีวิต ซ๋อนตัวอยู่ในป่าที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่วันนี้ดูเหมือนจะมีแขกมาเยี่ยมเยียนเยอะเป็นพิเศษ เพราะมีกลุ่มจิตอาสา เพื่อนธารา 52 มาร่วมจัดกิจกรรมด้วย ทำเอาบรรยากาศในหมู่บ้าน คงดูผิดจากช่วงเวลาปกติไปมาก
สักพักหนึ่งเด็กๆที่นี่ก็เริ่มทยอยกันมา ชาวบ้านที่นี่เป็นคนชนเผ่าลัวะ ข้อมูลเพิ่มเติม (https://www.gotoknow.org/posts/333307)
จากที่ได้สัมผัส คนที่นี่ ก็จะคล้ายกับชนเผ่าโดยทั่วไป คือ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน ผู้ชายก็จะดูเฮฮา สนุกสนาน เป็นกันเอง แต่ผู้หญิงก็จะดูเขิลอายมากกว่าเวลาที่พูดคุยกับพวกเรา
ช่วงบ่ายกิจกรรมวันเด็กก็เริ่มขึ้น เด็กๆดูดีใจเพราะเขาบอกกับเราว่าไม่เคยมีใครมาแจกของ ทำกิจกรรมให้เขาใหญ๋โตขนาดนี้มาก่อนเลย
หลังจากกิจกรรมเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ผมก็ถือโอกาสไปเดินเล่น ก็เห็นพี่ๆในหมู่บ้านเขาตั้งวงกินเหล้าสนทนากันอยู่ ก็เลยใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกับที่นี่ให้มากขึ้น พี่ทุกคนก็น่ารักมาก ต่างคนต่างแย่งกันโปรโมทหมู่บ้านตัวเองกันเต็มที่ไม่มีใครยอมใคร ได้ความมาก็ประมาณนี้
1. ที่นี่มีน้ำตกอยุ่ 1 แห่ง ชื่อน้ำตก ห้วยควาย ที่ชื่อห้วยควาย เพราะ มีควายสองตัวต่อสู้กันแล้วตกลงมา
2. ที่นี่ติดกับชายแดนประเทศลาวมาก แบบที่ว่าสามารถเดินไปดูหลักเขตแดนได้เลยละ
3. ที่นี่มีต้นน้ำที่ไหลเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำน่าน
และ 4. ที่นี่มีจุดชมวิวด้วยนะ ไม่ไกลเท่าไหร่เอง เดี๋ยวผมพาพี่ไปขึ้นไปเอาไหม หลังจากพูดจบ ก็ได้เรื่องเลยละครับ
ในใจตอนแรกผมก็ลังเลอยู่ ด้วยความที่พี่เขาเมาด้วย และเราก็เพิ่งรู้จักกัน เอาจริงๆก็กลัวนะ แต่ความอยากมีมากกว่า กลัวกลับมาแล้วไม่มีอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปฟัง ก็ตัดสินใจไปก็ไป ไอที่บอกว่าทางขึ้นมาหมู่บ้านนี่หวาดเสียว ลืมไปได้เลย เพราะ พี่แกพาขับมอไซต์ขึ้นไปหวาดเสียวยิ่งกว่า คือตอนแรกกลัวพี่เขาพาไปปล้น แต่พอขึ้นมอไซต์เลยเปลี่ยนใจละ กลัวพี่เขาพาไปตกเหวมากกว่า แต่พอขึ้นมาถึงข้างบน ก็รู้สึกนะว่า เราคุ้มค่าที่เราตัดสินใจเสี่ยงมา
บางครั้งการที่เราห่างไกลจากคำว่า " ผลประโยชน์ " คำว่า "มิตรภาพ" มันก็หากันง่ายขึ้นจริงๆนะ
ตกกลางคืนก็มีฉายหนังกาตูน การแสดงรอบกองไฟ การแสดงของเด็กให้ดูแก้หนาวกันไป กับอุณหภูมิ 15 องศา ที่คืนนี้ผมมีแค่ ถุงนอนบางๆกับเสื้อกันหนาว 1 ตัว ให้หนาวเล่นกันไป ณ ค่ำคืนนี้
ด้วยความที่มันหนาวมากจนผมนอนไม่หลับ ผมเลือกตื่นเช้ามาเดินเล่น พอดีกับเจอพี่ๆ TKK Corporation ที่มาด้วยกัน ก็เลยชวนกันเดินขึ้นไปจุดชมวิว ที่ผมมาเมื่อเย็นนี้ โชคดีได้เจอทะเลหมอกด้วยละ........คราวหน้ามา ถ้าได้มากางเต้นท์ แถวๆนี้ก็คงจะดีไม่น้อย
แล้วก็ถึงเวลาบอกลา เหล่าผู้คนเกือบๆร้อยชีวิตที่ขึ้นมาจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ทยอยกันเก็บข้าวของ สัมภาระของตนเองขึ้นรถ บรรยากาศของหมู่บ้านที่มันควรจะเป็นก็กำลังกลับมาอีกครั้ง แต่เสียดายที่เราก็ต้องกลับเช่นกัน ก็คงต้องบอกลา แล้วหวังว่าเราคงได้มาเจอกันใหม่......บ้านน้ำแคะ
การเดินทางมันอาจไม่ได้สำคัญว่าเราได้ไปในสถานที่ ที่สุดยอดแค่ไหน มันสำคัญแค่ว่าเราเดินทางแล้วได้อะไรกลับมามากน้อยเพียงใดมากกว่า
ขอบคุณพี่ๆ TKK Corporation และกลุ่ม เพื่อนธารา 52 สำหรับการเดินทางที่คงไม่ได้มีโอกาสได้มาง่ายๆเช่นนี้
พจน์ ณฐาภพ