กระทู้อื่นๆของเรา
[CR] เมื่อ Maldives ไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไปที่ Finolhu Baa Atoll
https://pantip.com/topic/37293004
[CR]ตามล่าแสงเหนือ ไม่เจอเราไม่กลับที่ Iceland & Scandinavia
https://pantip.com/topic/37315559
[CR]ดูบอล นอนชิว ฟิวกู๊ดที่อังกฤษ เวลล์ 16 วัน 15 คืน ไปให้สุดแล้วหยุดที่สก๊อตแลนด์
https://pantip.com/topic/37337883
[CR] Road Trip เมื่อฉันถูกเซอร์ไพร์ด้วยแสงใต้ ในแดนกีวี่ นิวซีแลนด์
https://pantip.com/topic/37600989
[CR] ไม่ไปไม่รู้ ลมหายใจแห่งพระเจ้า Bromo Kawa Ijen 4 วัน 3 คืน
https://m.pantip.com/topic/37807241?
อย่าลืมกดไลท์กดติดตามเพจ :
https://facebook.com/GoGoSmurf/
.....S'Murf Wander / เมิร์ฟหนีเที่ยว......กันด้วยนะคะ
วันนี้เมิร์ฟจะพาทุกคนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นก็คงจะเห็นรีวิวเต็มไปหมด ตอนแรกเมิร์ฟคิดว่าจะไม่เขียนรีวิวแล้ว ซึ่งรอบนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 10 ของเมิร์ฟ แต่เมืองที่เลือกไปเที่ยวครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองรองที่ยังไม่ฮิตมากในหมู่คนไทยสักเท่าไหร่ พอไปกลับมาก็รู้สึกว่าเมืองรองก็มีดีเหมือนกัน เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่ไปญี่ปุ่นหลายครั้งแล้วแล้วเริ่มเบื่อเมืองใหญ่ แต่ไม่รู้จะไปไหนดีกระทู้นี้อาจจะพอช่วยเพื่อนๆได้
ทริปนี้เมิร์ฟไปมาช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา 10 วัน 9 คืน ตอนแรกว่าจะไปจอยกับเพื่อนบางจุดบางเมือง แต่พอคุยเล่นๆกับที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่พี่น้องเริ่มสนใจ จากทริปเพื่อนเปลี่ยนเป็นทริปครอบครัวแทน สรุปทริปนี้มีผู้ร่วนผจญภัยทั้งหมด 13 คน ผู้ใหญ่ 10 เด็กโต 3
การเตรียมตัว
โรงแรม
เนื่องจากจำนวนคนเดินทาง 13 คน เราก็ต้องรีบหาที่พักก่อนเลยเพราะเป็นช่วงปีใหม่ด้วยเกรงว่าถ้าหาเอาใกล้ๆโรงแรมเต็มจะต้องแยกโรงแรมนอนก็คงจะวุ่นวายไม่น้อย แล้วต้องแพลนหาโรงแรมที่เดินไม่ไกลจนเกินไปเพราะมีผู้ใหญ่ไปด้วย หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็นั่งนับวันรอให้ถึงปีใหม่อย่างเดียวเลย
เช่ารถ ทริปนี้เมิร์ฟเลือกที่จะไม่เช่ารถเนื่องจาก
1) ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่การเดินทางค่อนข้างสะดวกตรงเวลา
2) สถานที่ที่เราจะไป สามารถไปด้วยขนส่งสาธารณะได้ไม่ยากลำบาก
3) เนื่องจากจำนวนคนเยอะ จะให้พอในรถ 1 คันคงทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้อง 2 คัน การจัดการก็แอบวุ่นวาย ไหนจะหาที่จอดรถนั่นนู่นนี่
4) ทริปนี้แทบจะไม่ต้องลากกระเป๋าใบใหญ่เลย เลยทำให้ความจำเป็นที่จะต้องเช่ารถหมดไป
5) อยากให้ทุกคนได้สัมผัสการเดินทางในหลายๆรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟธรรมดา รถไฟชินคังเซน รถเมล์ Tram อยากให้เห็นความเป็นระเบียบ ความตรงต่อเวลา และวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นเช่นเวลาขึ้นบันไดเลื่อนต้องยืนด้านไหน วิธีดูรถไฟต้องทำยังไง มันเหมือนเปิดประสบการณ์ชีวิตให้มากขึ้น
แพลนการเดินทาง
ทริปครั้งนี้จะไม่ค่อยแน่นเพราะมีผู้ใหญ่กับเด็กไปด้วย แพลนก้ออกจะยืดๆหน่อย แพลนคร่าวๆของเราเลยออกมาตามด้านล่างเลยค่ะ
Day 1: Tokyo / Shibuya
เราบินมาถึงญี่ปุ่นสนามบินนาริตะ ตั้งแต่เช้าประมาณ 07.45 (เวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) เราลืมบอกไปว่าแก้งค์เราบินไม่พร้อมกัน แต่เรากับอีก 1 คู่มาถึงแต่เช้า รวมเป็น 4 คน ส่วนที่เหลือตามมาสมทบอีกทีตอนบ่าย มาทั้งญี่ปุ่นสะทีเมื่อยไปหมด พอลงเครื่องมาก็มาต่อแถวเข้าตม. ก่อนมาคิดว่าปีใหม่ต้องได้ยืนรอสักครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่!!! ผิดคลาดมากเช้านี้ตม.คนน้อยไม่มีคิวเลย เราสามารถผ่านตม.ภายใน 5 นาที แฮปปี้จริงๆ
พอรับกระเป๋าที่สายพานเรียบร้อยแล้ว รอบนี้เมิร์ฟเลือกเข้าเมืองโดยใช้สิทธิ์ Free Limousine รับจากสนามบินไปส่งโรงแรมจากบัตรเครดิต Citi Prestige โดย Citi bank เค้าจะให้สิทธิ์ปีละ2 ครั้งสามารถโทรไปจองล่วงหน้าทาง Call center ก่อนเดินทางได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีบัตรใบนี้ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เพราะจากสนามบินเข้าเมืองมีหลายวิธีมากๆไม่ว่าจะเป็น NEX (Zone Shinjuku Shibuya), Sky Liner (zone Nippori, Ueno, Tokyo) หรือแม้กระทั่งรถบัสก้อมีนะคะ
ย้อนกลับไปถ้าใครใช้สิทธิ์ Free Limousine แบบเมิร์ฟ หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋าที่สายพานเสร็จแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาชูป้ายชื่อเรารอรับอยู่ด้านนอก รอบนี้เมิร์ฟได้คุณลุงใจดี ดูแลอย่างดีตั้งแต่เข็นกระเป๋า ยกกระเป๋า ไปเอารถมารับ แถมเตรียมน้ำให้ในรถคนละขวดด้วย ถ้าโซนโตเกียวจะใช้ได้กับระยะทางไม่เกิน 85 กิโลเมตร ถ้าเกินจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ #CitiPrestige #Citibank ระหว่างทางคุณลุงก้อบรรยายชี้ให้ดูสถานที่ไฮไลท์ไปเรื่อยๆ
ผ่านไปชั่วโมงนิดๆ คุณลุงก็จอดส่งเราถึงหน้าประตูรร.เลย รอบหน้าไม่พลาดที่จะใช้บริการอีกแน่นอน ^_^ วันนี้แพลนไม่แน่นมาก เพราะต้องกลับมารับชาวแก้งค์รอบบ่ายที่รร.อีกครั้ง เลยไปเดินเล่นช๊อปปิ้งแถว Harajuku รอ ภารกิจที่สำคัญของวันนี้ไม่ใช่การกิน การเที่ยว การช๊อปปิ้ง แต่มันคือการจองตั๋วรถไฟ Shinkansen ให้ได้ จริงๆแล้วถ้าไม่ใช่หน้าเทศกาลและจำนวนคนในกรุ๊ปไม่เยอะก็ไม่ต้องกังวล เพราะยังไงก้อมีที่นั่ง แต่เนื่องจากจำนวนคนเราเยอะแถมเป็นหน้าเทศกาลอีก และทริปเราต้องใช้รถไฟ Shinkansen ไปต่างหวัดที่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานหลายรอบเลยในทริปนี้ ถ้ารถไฟเต็มไม่มีที่นั่งหรือได้เวลาผิดจากที่เราวางไว้จะทำให้ทริปเรารวนหมด เราเลยบอกทุกคนว่ามาถึงที่นี่ครบทุกคนแล้วพวกเราไปออกตั๋วก่อนนะ
พอทีมครบพวกเราก็รีบวิ่งไปแลก JR Rail Pass 7 days ที่ซื้อมาจากไทย แล้วให้เจ้าหน้าที่จองที่นั่งในแต่ละวันให้เราเลย ถ้าจะให้ง่ายเพื่อนๆเลือกเวลาที่จะเดินทางคร่าวๆมาแล้วปริ๊นซ์ใส่กระดาษแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่เลยจะสะดวกขึ้น ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ค่อยๆทยอยจองที่นั่งในแต่ละขบวนให้ เราก็ภาวนาว่าขอให้ได้ที่นั่งครบทุกรูทเลยนะ จะได้นั่งสบายๆ ถ้าไม่ได้ต้องทรมานแน่ๆ เพราะเราเคยเห็นและได้ยินมาเยอะว่าช่วงเทศกาล ถ้าโบกี้ที่ต้อง reserve seat เต็ม เราต้องไปแย่งที่นั่งในตู้ Non reserve เอาเองแล้วถ้าตู้นั้นเต็มอีก คุณต้องยืนไปตลอดทาง “ใช่ค่ะ ยืนตลอดทาง ถ้าใช้เวลาวิ่ง 3 ชั่วโมง ก้อต้อง 3 ชั่วโมง” ไม่นะ เราไม่อยากเจอสภาพนั้น ระหว่างเราภาวนาในใจและแล้วเจ้าหน้าที่ผู้หญิงสุดใจดีคนนั้นก็เอ่อปากออกมาว่า “ที่นั่งเต็ม” 2 รูท นางไม่สามารถจองที่นั่งให้เราได้เลย เต็มทั้งวัน ทุกเวลา นางบอกเราต้องไปขึ้นตู้ Non reserve เอาเอง เหงื่อตกขึ้นมาเลยไม่อยากคิดสภาพคน 13 คน จะมีที่นั่งครบได้ยังไง แต่เอาวะ ก็มันเต็มก้อต้องวัดดวงเอาหน้างานละกัน
จองตั๋วเสร็จอะไรเสร็จ พวกเราก้อไปหาอะไรกิน เดินเล่นกันอีกนิดหน่อยแล้วเราก้อกลับที่พัก ก็วันนี้เดินทางมาเหนื่อยกลับไปชาร์ตแบตก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
ที่พักคืนนี้เรานอนกันที่ Hotel Lungwood (Nippori)(2 คืน) : ที่เลือกที่นี่เพราะสถานีนี้รถไฟ Sky Liner จาก Narita Airport จอด เดินจากสถานีนิดเดียวก็ถึงโรงแรมแล้ว
Day 2: Tsukiji Fish Market / Harajuku
เช้านี้ตื่นมาเนื่องจากรองเท้า Yeezy วางขายวันแรก แก้งค์วัยรุ่นอย่างเราก็ต้องไปต่อแถวซื้อสิคะของมันต้องมี พอซื้อเสร็จเรียบร้อย เราก็พาหลาน 3 คนไปส่งที่ Disney Sea ให้นางเข้าไปเล่นกันเอง (หลานโตระดับมัธยมแล้ว) แล้วตอนค่ำเราจะมารับอีกครั้ง Disney Sea เดินทางจากใจกลางเมืองได้สะดวก สถานีที่คนจะไปเที่ยว Disney resort, Disneyland, Disney Sea จะต้องไปลงคือ Maihama นะคะ พอถึงสถานี Maihama เรียบร้อยแล้ว ก้อซื้อตั๋วรถไฟ Disney Monorail เพื่อเข้าสู่ Disney Zone อีกครั้งค่ะ
พอส่งหลานเสร็จ เราก็นัดกับทีมที่เหลือให้ไปเจอกันที่ตลาดปลา Tsukiji ไปหาปลาดิบกินกันดีกว่า เห็นหลายๆคนพูดว่าดี ขอสารภาพว่าเราไม่เคยมาเลย นับย้อนไป 10 ปีที่แล้วที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น 2 ปี และวนเวียนมาเที่ยวอีกหลายครั้ง พอมาถึงเราก้อเดินเล่นดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย แล้วเราก้อสุ่มเข้าร้านร้านนึง พอกินเสร็จสรุปไม่ผ่าน เรารู้สึกไม่ฟินเลย หรือเราเลือกร้านผิดก็ไม่รู้ ออกมาก้อมาลองไข่หวานชื่อดังของตลาดนี้ ซึ่งเราและแก้งค์เราลงความเห็นว่ามันหวานมากกกกก แต่ถามว่าดีมั้ยก็โอเคอยู่ พอได้ ยังไงก้อลองกันนะคะ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
Tsukiji
หลังจากเดินเล่นจนพอใจ เราก้อไปเดินเล่นกันต่อที่ Shinjuku หาขนม ของกินไปเรื่อยๆ การมาหลายๆคนก็ดีตรงที่ซื้อมาแล้วมาแบ่งกันกิน ทำให้ลองได้หลายๆอย่าง ถ้ามาสองคนจุกไปตั้งแต่สองร้านแรกไปแล้ว 555
ขนมที่ Shinjuku
สองวันแรกอาจจะยังไม่มีอะไรพราะเป็นวันที่อยู่ในเมือง เพื่อนๆน่าจะพอมีข้อมูลกันมาบ้างแล้ว แต่หลังจากพรุ่งนี้เช้าเราจะเริ่มออกต่างจังหวัดกันแล้วนะ อย่าพึ่งเบื่อกันน้า
คืนนี้เรานอนกันที่เดิม Hotel Lungwood (Nippori)
[CR] ญี่ปุ่นเมืองรองมีอะไรให้ทำมากกว่าที่คิด 10 วัน 9 คืนกับการตะลุยทะเลทราย Tottori ล่าภูติพรายเมืองผี หนีไป kinosaki Onsen
[CR] เมื่อ Maldives ไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไปที่ Finolhu Baa Atoll https://pantip.com/topic/37293004
[CR]ตามล่าแสงเหนือ ไม่เจอเราไม่กลับที่ Iceland & Scandinavia https://pantip.com/topic/37315559
[CR]ดูบอล นอนชิว ฟิวกู๊ดที่อังกฤษ เวลล์ 16 วัน 15 คืน ไปให้สุดแล้วหยุดที่สก๊อตแลนด์ https://pantip.com/topic/37337883
[CR] Road Trip เมื่อฉันถูกเซอร์ไพร์ด้วยแสงใต้ ในแดนกีวี่ นิวซีแลนด์ https://pantip.com/topic/37600989
[CR] ไม่ไปไม่รู้ ลมหายใจแห่งพระเจ้า Bromo Kawa Ijen 4 วัน 3 คืน https://m.pantip.com/topic/37807241?
อย่าลืมกดไลท์กดติดตามเพจ : https://facebook.com/GoGoSmurf/
.....S'Murf Wander / เมิร์ฟหนีเที่ยว......กันด้วยนะคะ
วันนี้เมิร์ฟจะพาทุกคนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นก็คงจะเห็นรีวิวเต็มไปหมด ตอนแรกเมิร์ฟคิดว่าจะไม่เขียนรีวิวแล้ว ซึ่งรอบนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 10 ของเมิร์ฟ แต่เมืองที่เลือกไปเที่ยวครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองรองที่ยังไม่ฮิตมากในหมู่คนไทยสักเท่าไหร่ พอไปกลับมาก็รู้สึกว่าเมืองรองก็มีดีเหมือนกัน เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่ไปญี่ปุ่นหลายครั้งแล้วแล้วเริ่มเบื่อเมืองใหญ่ แต่ไม่รู้จะไปไหนดีกระทู้นี้อาจจะพอช่วยเพื่อนๆได้
ทริปนี้เมิร์ฟไปมาช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา 10 วัน 9 คืน ตอนแรกว่าจะไปจอยกับเพื่อนบางจุดบางเมือง แต่พอคุยเล่นๆกับที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่พี่น้องเริ่มสนใจ จากทริปเพื่อนเปลี่ยนเป็นทริปครอบครัวแทน สรุปทริปนี้มีผู้ร่วนผจญภัยทั้งหมด 13 คน ผู้ใหญ่ 10 เด็กโต 3
การเตรียมตัว
โรงแรม
เนื่องจากจำนวนคนเดินทาง 13 คน เราก็ต้องรีบหาที่พักก่อนเลยเพราะเป็นช่วงปีใหม่ด้วยเกรงว่าถ้าหาเอาใกล้ๆโรงแรมเต็มจะต้องแยกโรงแรมนอนก็คงจะวุ่นวายไม่น้อย แล้วต้องแพลนหาโรงแรมที่เดินไม่ไกลจนเกินไปเพราะมีผู้ใหญ่ไปด้วย หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็นั่งนับวันรอให้ถึงปีใหม่อย่างเดียวเลย
เช่ารถ ทริปนี้เมิร์ฟเลือกที่จะไม่เช่ารถเนื่องจาก
1) ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่การเดินทางค่อนข้างสะดวกตรงเวลา
2) สถานที่ที่เราจะไป สามารถไปด้วยขนส่งสาธารณะได้ไม่ยากลำบาก
3) เนื่องจากจำนวนคนเยอะ จะให้พอในรถ 1 คันคงทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้อง 2 คัน การจัดการก็แอบวุ่นวาย ไหนจะหาที่จอดรถนั่นนู่นนี่
4) ทริปนี้แทบจะไม่ต้องลากกระเป๋าใบใหญ่เลย เลยทำให้ความจำเป็นที่จะต้องเช่ารถหมดไป
5) อยากให้ทุกคนได้สัมผัสการเดินทางในหลายๆรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟธรรมดา รถไฟชินคังเซน รถเมล์ Tram อยากให้เห็นความเป็นระเบียบ ความตรงต่อเวลา และวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นเช่นเวลาขึ้นบันไดเลื่อนต้องยืนด้านไหน วิธีดูรถไฟต้องทำยังไง มันเหมือนเปิดประสบการณ์ชีวิตให้มากขึ้น
แพลนการเดินทาง
ทริปครั้งนี้จะไม่ค่อยแน่นเพราะมีผู้ใหญ่กับเด็กไปด้วย แพลนก้ออกจะยืดๆหน่อย แพลนคร่าวๆของเราเลยออกมาตามด้านล่างเลยค่ะ
Day 1: Tokyo / Shibuya
เราบินมาถึงญี่ปุ่นสนามบินนาริตะ ตั้งแต่เช้าประมาณ 07.45 (เวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) เราลืมบอกไปว่าแก้งค์เราบินไม่พร้อมกัน แต่เรากับอีก 1 คู่มาถึงแต่เช้า รวมเป็น 4 คน ส่วนที่เหลือตามมาสมทบอีกทีตอนบ่าย มาทั้งญี่ปุ่นสะทีเมื่อยไปหมด พอลงเครื่องมาก็มาต่อแถวเข้าตม. ก่อนมาคิดว่าปีใหม่ต้องได้ยืนรอสักครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่!!! ผิดคลาดมากเช้านี้ตม.คนน้อยไม่มีคิวเลย เราสามารถผ่านตม.ภายใน 5 นาที แฮปปี้จริงๆ
พอรับกระเป๋าที่สายพานเรียบร้อยแล้ว รอบนี้เมิร์ฟเลือกเข้าเมืองโดยใช้สิทธิ์ Free Limousine รับจากสนามบินไปส่งโรงแรมจากบัตรเครดิต Citi Prestige โดย Citi bank เค้าจะให้สิทธิ์ปีละ2 ครั้งสามารถโทรไปจองล่วงหน้าทาง Call center ก่อนเดินทางได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีบัตรใบนี้ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เพราะจากสนามบินเข้าเมืองมีหลายวิธีมากๆไม่ว่าจะเป็น NEX (Zone Shinjuku Shibuya), Sky Liner (zone Nippori, Ueno, Tokyo) หรือแม้กระทั่งรถบัสก้อมีนะคะ
ย้อนกลับไปถ้าใครใช้สิทธิ์ Free Limousine แบบเมิร์ฟ หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋าที่สายพานเสร็จแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาชูป้ายชื่อเรารอรับอยู่ด้านนอก รอบนี้เมิร์ฟได้คุณลุงใจดี ดูแลอย่างดีตั้งแต่เข็นกระเป๋า ยกกระเป๋า ไปเอารถมารับ แถมเตรียมน้ำให้ในรถคนละขวดด้วย ถ้าโซนโตเกียวจะใช้ได้กับระยะทางไม่เกิน 85 กิโลเมตร ถ้าเกินจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ #CitiPrestige #Citibank ระหว่างทางคุณลุงก้อบรรยายชี้ให้ดูสถานที่ไฮไลท์ไปเรื่อยๆ
ผ่านไปชั่วโมงนิดๆ คุณลุงก็จอดส่งเราถึงหน้าประตูรร.เลย รอบหน้าไม่พลาดที่จะใช้บริการอีกแน่นอน ^_^ วันนี้แพลนไม่แน่นมาก เพราะต้องกลับมารับชาวแก้งค์รอบบ่ายที่รร.อีกครั้ง เลยไปเดินเล่นช๊อปปิ้งแถว Harajuku รอ ภารกิจที่สำคัญของวันนี้ไม่ใช่การกิน การเที่ยว การช๊อปปิ้ง แต่มันคือการจองตั๋วรถไฟ Shinkansen ให้ได้ จริงๆแล้วถ้าไม่ใช่หน้าเทศกาลและจำนวนคนในกรุ๊ปไม่เยอะก็ไม่ต้องกังวล เพราะยังไงก้อมีที่นั่ง แต่เนื่องจากจำนวนคนเราเยอะแถมเป็นหน้าเทศกาลอีก และทริปเราต้องใช้รถไฟ Shinkansen ไปต่างหวัดที่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานหลายรอบเลยในทริปนี้ ถ้ารถไฟเต็มไม่มีที่นั่งหรือได้เวลาผิดจากที่เราวางไว้จะทำให้ทริปเรารวนหมด เราเลยบอกทุกคนว่ามาถึงที่นี่ครบทุกคนแล้วพวกเราไปออกตั๋วก่อนนะ
พอทีมครบพวกเราก็รีบวิ่งไปแลก JR Rail Pass 7 days ที่ซื้อมาจากไทย แล้วให้เจ้าหน้าที่จองที่นั่งในแต่ละวันให้เราเลย ถ้าจะให้ง่ายเพื่อนๆเลือกเวลาที่จะเดินทางคร่าวๆมาแล้วปริ๊นซ์ใส่กระดาษแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่เลยจะสะดวกขึ้น ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ค่อยๆทยอยจองที่นั่งในแต่ละขบวนให้ เราก็ภาวนาว่าขอให้ได้ที่นั่งครบทุกรูทเลยนะ จะได้นั่งสบายๆ ถ้าไม่ได้ต้องทรมานแน่ๆ เพราะเราเคยเห็นและได้ยินมาเยอะว่าช่วงเทศกาล ถ้าโบกี้ที่ต้อง reserve seat เต็ม เราต้องไปแย่งที่นั่งในตู้ Non reserve เอาเองแล้วถ้าตู้นั้นเต็มอีก คุณต้องยืนไปตลอดทาง “ใช่ค่ะ ยืนตลอดทาง ถ้าใช้เวลาวิ่ง 3 ชั่วโมง ก้อต้อง 3 ชั่วโมง” ไม่นะ เราไม่อยากเจอสภาพนั้น ระหว่างเราภาวนาในใจและแล้วเจ้าหน้าที่ผู้หญิงสุดใจดีคนนั้นก็เอ่อปากออกมาว่า “ที่นั่งเต็ม” 2 รูท นางไม่สามารถจองที่นั่งให้เราได้เลย เต็มทั้งวัน ทุกเวลา นางบอกเราต้องไปขึ้นตู้ Non reserve เอาเอง เหงื่อตกขึ้นมาเลยไม่อยากคิดสภาพคน 13 คน จะมีที่นั่งครบได้ยังไง แต่เอาวะ ก็มันเต็มก้อต้องวัดดวงเอาหน้างานละกัน
จองตั๋วเสร็จอะไรเสร็จ พวกเราก้อไปหาอะไรกิน เดินเล่นกันอีกนิดหน่อยแล้วเราก้อกลับที่พัก ก็วันนี้เดินทางมาเหนื่อยกลับไปชาร์ตแบตก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
ที่พักคืนนี้เรานอนกันที่ Hotel Lungwood (Nippori)(2 คืน) : ที่เลือกที่นี่เพราะสถานีนี้รถไฟ Sky Liner จาก Narita Airport จอด เดินจากสถานีนิดเดียวก็ถึงโรงแรมแล้ว
Day 2: Tsukiji Fish Market / Harajuku
เช้านี้ตื่นมาเนื่องจากรองเท้า Yeezy วางขายวันแรก แก้งค์วัยรุ่นอย่างเราก็ต้องไปต่อแถวซื้อสิคะของมันต้องมี พอซื้อเสร็จเรียบร้อย เราก็พาหลาน 3 คนไปส่งที่ Disney Sea ให้นางเข้าไปเล่นกันเอง (หลานโตระดับมัธยมแล้ว) แล้วตอนค่ำเราจะมารับอีกครั้ง Disney Sea เดินทางจากใจกลางเมืองได้สะดวก สถานีที่คนจะไปเที่ยว Disney resort, Disneyland, Disney Sea จะต้องไปลงคือ Maihama นะคะ พอถึงสถานี Maihama เรียบร้อยแล้ว ก้อซื้อตั๋วรถไฟ Disney Monorail เพื่อเข้าสู่ Disney Zone อีกครั้งค่ะ
พอส่งหลานเสร็จ เราก็นัดกับทีมที่เหลือให้ไปเจอกันที่ตลาดปลา Tsukiji ไปหาปลาดิบกินกันดีกว่า เห็นหลายๆคนพูดว่าดี ขอสารภาพว่าเราไม่เคยมาเลย นับย้อนไป 10 ปีที่แล้วที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น 2 ปี และวนเวียนมาเที่ยวอีกหลายครั้ง พอมาถึงเราก้อเดินเล่นดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย แล้วเราก้อสุ่มเข้าร้านร้านนึง พอกินเสร็จสรุปไม่ผ่าน เรารู้สึกไม่ฟินเลย หรือเราเลือกร้านผิดก็ไม่รู้ ออกมาก้อมาลองไข่หวานชื่อดังของตลาดนี้ ซึ่งเราและแก้งค์เราลงความเห็นว่ามันหวานมากกกกก แต่ถามว่าดีมั้ยก็โอเคอยู่ พอได้ ยังไงก้อลองกันนะคะ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
Tsukiji
หลังจากเดินเล่นจนพอใจ เราก้อไปเดินเล่นกันต่อที่ Shinjuku หาขนม ของกินไปเรื่อยๆ การมาหลายๆคนก็ดีตรงที่ซื้อมาแล้วมาแบ่งกันกิน ทำให้ลองได้หลายๆอย่าง ถ้ามาสองคนจุกไปตั้งแต่สองร้านแรกไปแล้ว 555
ขนมที่ Shinjuku
สองวันแรกอาจจะยังไม่มีอะไรพราะเป็นวันที่อยู่ในเมือง เพื่อนๆน่าจะพอมีข้อมูลกันมาบ้างแล้ว แต่หลังจากพรุ่งนี้เช้าเราจะเริ่มออกต่างจังหวัดกันแล้วนะ อย่าพึ่งเบื่อกันน้า
คืนนี้เรานอนกันที่เดิม Hotel Lungwood (Nippori)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้