หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ดอยมณฑา เลาะห้วย เข้าป่า แตะขอบฟ้าแม่สอด
กระทู้รีวิว
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
อุทยานแห่งชาติ
เที่ยวไทย
“ตอนนี้ยังไม่เปิดครับ ฝนกำลังดี ชาวบ้านนำทางลูกหาบเขายังทำไร่ทำนาอยู่” นั่นคือคำตอบของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จังหวัดตาก บอกกับผมตอนโทรไปถามข้อมูลการท่องเที่ยวเดินป่าขึ้นดอยมณฑา ... แต่นั่นเมื่อสองปีกว่าๆ มาแล้วนะครับ
ตัดฉับมาปัจจุบัน เมื่อผมแจ้งเจ้าหน้าที่ในช่วงปลายปีว่ามีความประสงค์จะพาเพื่อนๆ รวม 8 ชีวิต ไปยลดอยมณฑา เป็นทริปประเดิมปี 2562 สักหน่อย คราวนี้ทุกอย่างดูเหมือนราบลื่นเรียบร้อยดี
ตั๋วรถทัวร์จองแล้ว นัดแนะเพื่อนแล้ว นัดแนะรถกระบะรับ-ส่งของเจ้าหน้าที่แล้ว แต่พอหลังหยุดยาวปีใหม่ก่อนเดินทางแค่สองวัน โทรคุยกับเจ้าหน้าที่อีกรอบก็ถึงกับอึ้งกิมกี่เมื่อปลายสายพูดว่า “ชาวบ้านบอกว่าเดือนนี้ไม่นำเดินแล้วค่ะ บนดอยหาแหล่งน้ำยากแล้ว”
ใจหล่นถึงตาตุ่ม จะทำยังไงล่ะ ก็อ้อนวอนเจ้าหน้าที่ไปสิครับว่าขออีกกลุ่มไม่ได้หรือ เพิ่งหลังปีใหม่เอง ที่สำคัญเราเตรียมการเดินทางไว้หมดแล้ว นับว่าโชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าใจและใจดีคุยกับชาวบ้านให้ และชาวบ้านเองก็เห็นใจ... โอเค กลุ่มเราเป็นกลุ่มสุดท้ายของฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้นะ
เฮ้อ... โล่งอกไปที
ดอยมณฑา เป็นยอดเขาลูกหนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เป็นแนวแบ่งเขตอำเภอแม่สอด กับอำเภอเมือง ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวทางอุทยานฯ บริการจัดการร่วมกับชุมชนบ้านปูแป้ ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด นักท่องเที่ยวจะขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตอุทยานฯ ก่อน จากนั้นอุทยานฯ จะประสานงานกับชาวบ้านให้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่แท้จริง
อช.ตากสินมหาราช ดอยมณฑา และบ้านปูแป้ อยู่ตรงกลางระหว่าง ตาก – แม่สอด หากเดินทางเองด้วยรถสาธารณะแนะนำให้ลง บขส.ตาก แล้วใช้บริการเหมารถกระบะของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะดีที่สุด เหมือนที่พวกเราทำในครั้งนี้ครับ
(1)
ทริปนี้พวกเรา 8 ชีวิต เดินทางจากหมอชิต 6 คน นัดเจอกับเจ้าถิ่นชาวตาก อีก 2 คน ที่อุทยานฯ สะดวกที่สุดคือรถ ป.1 กทม. – บ้านตาก รอบสี่ทุ่ม ถึง บขส.ตาก 5.00-5.30 น. เวลากำลังดี
ถึง บขส.ตาก เช้าตรู่ รถเจ้าหน้าที่ก็มารับ หน้าหนาวแบบนี้ฟ้ายังมืดตึ้ดตื๋อ ก่อนเข้าไปข้างในต้องแวะตลาดซื้อของก่อน ทริปนี้วันเดียวเพราะฉะนั้นทำแบบง่ายๆ ผัดผัก หมูยอทอด ลูกชิ้นทอด ที่ตลาดมีให้เลือกทุกสิ่งอยู่แล้ว
จับจ่ายข้าวของเสร็จก็ตรงมาที่ทำการอุทยานฯ วิ่งถนน แม่สอด-ตาก ทล.12 นั่นแหละ จากปากทางเข้ามาประมาณสามกิโลเมตร ตรงนี้เป็นเขตของอำเภอเมือง เรามาที่นี่เพื่อลงทะเบียนขึ้นดอยมณฑาและเตรียมตัวลุยกัน
ในเอกสารลงทะเบียนบอกเอาไว้ครับ เส้นทางถึงยอดดอยมณฑาทั้งหมด 7 กิโลเมตร เป็นทางค่อนข้างราบ 4 กิโลเมตร และทางชัน 3 กิโลเมตร เตือนไว้ก่อนว่าจะต้องเหนื่อยพอดู
หากใครขับรถส่วนตัวจะมากางเต็นท์นอนที่นี่ก่อนสักคืนก็บรรยากาศดี ลานกางเต็นท์หลายโซน ห้องน้ำห้องท่าสะดวกมาก
จากที่ทำการฯ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงมาถึงจุดนัดหมายกับชาวบ้านนำทางที่วัดปูแป้ ตรงนี้อยู่ในเขตอำเภอแม่สอดแล้ว เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง แต่เพราะไม่ได้อยู่บนเขา ถนนเข้าถึง ก็เป็นชาวกะเหรี่ยงทันสมัย ลูกหลานรุ่นใหม่ถือสัญชาติไทย พูดทั้งกะเหรี่ยงทั้งไทยได้สบาย และเป็นจุดสุดท้ายจริงๆ สำหรับใครจะเตรียมความพร้อมเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย
ความสนุกก่อนเหนื่อยคือเราต้องนั่งรถอีแต๊กจากวัดปูแป้ต่อเข้าไปจุดเริ่มเดิน ผ่านทั้งถนนลูกรัง ลำห้วย สองข้างทางเป็นพื้นที่ถากถางทำเกษตรบ้าง ป่าปลูกบ้าง นั่งหัวโยกหัวคลอนกันประมาณครึ่งชั่วโมงครับ
ถึงสุดทางรถอีแต๊กจึงได้เดินกันแล้ว (เย้...) เตรียมของขึ้นเป้ได้เลย มองนาฬิกาสิบโมงครึ่งพอดี
อย่างที่บอกครับว่าทางช่วงแรกเป็นทางราบ จริงๆ ก็ไม่ราบเสียทีเดียวหรอก ไต่ระดับทีละน้อยตามห้วยปูแป้ ข้ามห้วยไปมาหลายครั้ง ดีว่าเดือนมกราคมน้ำค่อนข้างน้อย เหยียบหินบ้าง ก้าวยาวๆ บ้างก็พ้น ไม่ต้องลุยน้ำเหมือนตอนหมดฝนใหม่ๆ
ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี เราก็มาถึงจุดที่ลำห้วยย่อยสองสายมาบรรจบกัน ไกด์บอกว่าพักกินข้าวตรงนี้แหละ เราบอกว่ายังไม่หิวเลยไปต่อก็ได้ แต่ไกด์ยืนยันว่าให้กินตรงนี้ มาบางอ้อหลังกินเสร็จว่าจากจุดนี้ลูกหาบจะแยกกับเรา เขาไปทางสั้นกว่าเพื่อตัดขึ้นแคมป์ ส่วนเราไปอีกทางที่ชันกว่าไกลกว่าแต่มีวิวให้ชมนั่นเอง
น้ำในลำห้วยปูแป้ใสมากครับ กุ้ง ปลา ลูกอ๊อด เพียบเลย หลักฐานความสะอาดของน้ำคือการมีอยู่ของสัตว์น้ำตามธรรมชาตินี่แหละ
หลังพักกินข้าวเรายังคงเดินขึ้นแบบเรื่อยๆ ทีละนิดละหน่อยอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงพ้นช่วงที่เรียกว่า 4 กิโลเมตรแรก ต้องเจอทางชัน 3 กิโลเมตร ที่อุทยานฯ ขู่ไว้สักที
เนินแรกมาตอนเที่ยงครึ่ง เพิ่งรู้สึกว่ามาเดินป่าขึ้นเขาจริงจังก็ตอนนี้ การได้เดินมายาวๆ ก่อนหน้าถือว่าดีนะ เหมือนวอร์มเครื่อง พอเจอทางชันเลยไม่หนักมาก ไม่เหมือนบางดอยแค่ก้าวไม่กี่ก้าวก็ชันซะแล้ว
ใกล้บ่ายสอง พ้นเนินที่สองขึ้นมาจะมองเห็นภูเขาสีทองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล นั่นแหละคือดอยมณฑา และจุดที่เราจะตั้งแคมป์กัน
ทีละนิด ทีละนิด เราต้องผจญทางชันๆ อีกประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อผ่านเนินที่สองและเนินที่สามให้ได้
พ้นแนวป่าเนินที่สามขึ้นมาสู่ยอดเขาโล่งๆ พอเห็นเขาลูกข้างหน้าแล้วถึงกับน้องโอ้ว ยิ่งเห็นทางเดินสีขาวๆ ขึ้นสู่ยอดเขาด้วยแล้ว ขอกลืนน้ำลายแป๊บนะ (ฮา...)
ไกด์บอกว่ายอดเขาโดดเด่นลูกข้างหน้าคือเนินสุดท้ายที่เราต้องเผชิญ มีชื่อว่าคลุยโจโม ส่วนตรงที่เราจะไปตั้งแคมป์คือคลุยพะแล (คลุยแปลว่าภูเขา) ทั้งหมดอยู่ในภูเขาลูกที่เรียกว่าดอยมณฑานั่นไง
ถอนหายใจสักเฮือก ขึ้นเป้ แล้วไปต่อ ยืนอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ยังไงภูเขาก็ไม่ลดความสูงให้หรอก (ฮา...)
ขึ้นมาเรื่อยๆ ทีละก้าววิวสวยมาก น่าแปลกคือตอนยืนดูไกลๆ เห็นว่าสูงลิบลับ พอเดินจริงๆ กลับไม่ชันเหมือนที่ตาเห็นแฮะ หรืออาจเพราะได้เดินไปชมวิวไปถ่ายรูปไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ถึงยอดคลุยโจโม แดดแรงๆ แบบนี้นั่งพักหลบร่มต้มกาแฟร้อนๆ กินกันเถอะ บ้าไปแล้วอากาศร้อนดันจิบกาแฟร้อนอีก
นั่นแหละครับเนินชันเนินสุดท้าย หลังจากนี้จะเดินเลาะตามสันเขา ช่วงที่เราไปหญ้าเริ่มแห้งแถมดอกหญ้ากำลังออก สะท้อนแดดกลายเป็นทางเดินสีทองสวยน่าประทับใจมาก แต่อย่าชมวิวเพลินเกินไปล่ะ เพราะบางช่วงหากเผลอก้าวผิดทิศผิดทางอาจลงยาวหล่นหายวับไปในป่าเลยก็ได้
สี่โมงเศษๆ ถึงจุดชมวิวสวยที่สุดของดอยครับ เป็นจุดถ่ายรูปหลักเลยแหละ มีชะง่อนหินยื่นออกมาให้ยืนให้นั่งแอ็กท่าพอดีเป๊ะ แบ็คกราวน์เป็นแนวเทือกเขาและยอดคลุยโจโม ขอบอกว่าฟิน
จากจุดถ่ายรูป เดินทะลุชายป่าอีกไม่เกินห้านาทีก็ถึงจุดตั้งแคมป์ สภาพพื้นที่ช่วงหน้าแล้งแจ๋วมาก เต็นท์ดี เปลสะดวก มีเพิงที่ชาวบ้านทำไว้อีกสองหลัง เราสามารถใช้พื้นที่ได้เลย สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเทอร์เน็ต มีครบทุกเครือข่าย
ส่วนน้ำดื่มน้ำใช้ลูกหาบเอามาให้เรียบร้อย ไกด์บอกว่าเข้ามกราคม ลูกหาบจะต้องแบกน้ำมาไกลกว่าช่วงก่อนหน้านี้ เพราะแหล่งน้ำใกล้แคมป์แห้งสนิทไปแล้ว นั่นทำให้หมู่บ้านจะทำการปิดดอยไม่พานักท่องเที่ยวขึ้นมาแล้วนั่นไง
หลังจัดการที่นอนเสร็จก็ช่วยกันหุงข้าวทำกับข้าวกับปลาแบบง่ายๆ สไตล์ชาวแคมป์ล่ะนะ
พอใกล้พระอาทิตย์ตกก็พากันออกไปดื่มด่ำบรรยากาศสักหน่อย วันนี้เพราะอิทธิพลของหางพายุปาบึกแสงเลยไม่แรงฟ้าไม่จัดจ้านเท่าไหร่ แต่ก็แลกมากับการได้เห็นไข่แดงดวงกลมๆ สวยดีครับ
ค่ำคืนนี้พวกเรากินข้าวนั่งคุยกันไปเรื่อยแบบไม่แคร์เวลา อากาศกำลังดี ไม่หนาวเกินไป ลมไม่แรง ท้องฟ้าเปิดๆ ปิดๆ เมฆลอยไปลอยมา ผมเลยขี้เกียจไม่ได้ตั้งกล้องถ่ายดาว ขอเป็นทริปชิลๆ บ้างแล้วกัน
ชื่อสินค้า:
ดอยมณฑา (ดอยโล้น) แห่งแม่สอด
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ดอยมณฑาหน้าฝน ดอยไม่ดังแต่มีดี
ดอยมณฑาแห่งนี้หากไม่ใช่นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ น้อยคนนักที่จะรู้จักหรือแม้กระทั่งเคยได้ยินมาก่อน ตัวผมเองมีโอกาสได้ไปสัมผัสความงดงามและบริสุทธ์ของดอยแห่งนี้เมื่อวันที่ 24-25 ก.ย. 2559 จึงขอพา
dragonthailand
NAD HIKING:: "เปรโต๊ะลอซู" ตามหาหัวใจ 💖 ฉัน-ทำ-ได้-โว้ยยย!! ก็อยากขิงๆ อะ
สวัสดีค่า เราจะมาทุกคนมาพบกับความยากลำบากก ทั้งการใช้ชีวิตที่ต้องนอนกลางสายฝน เจอดินโคลนที่โคตรเละ ไหนจะต้องไปพิชิตยอด และแว๊ะไปเช็คอินกับน้ำตกปิตุโกร (น้ำตกรูปหัวใจ) อีก !! โอ้โห ฉันทำได้ยังไงวะเนี่ย
nadtiiz
ดอยหว่าวาโจ ปุยหลวง หนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่อันตรายที่สุดที่ผมเคยเดินมา เกือบตกเขา หลงป่า ทากัด!!!
สวัสดีครับ พวกเราเป็นนักศึกษาปี4 ที่กำลังทำโปรเจคจบ โดยเป็นรายการเดินป่านะครับ ยังไงก็ฝากคำแนะนำจากพี่ๆด้วยครับ ทริปนี้เรามาเดินป่า 2วัน1คืน กับเหล่าเดอะแก็งของผม ที่แม่ฮ่องสอน ต้องบอกเลยว่าเพื่อนๆข
สมาชิกหมายเลข 7763031
น้ำตกป่าละอู
🛻เที่ยวตามใจเมีย พาไปเที่ยวน้ำตก #น้ำตกป่าละอู #ดูผีเสื้อ #ให้อาหารปลาพลวง 🍃ที่มาของน้ำตกป่าละอู คำว่า "ละอู" ในภาษากะเหรี่ยงจะแปลว่า ไผ่ โ
สมาชิกหมายเลข 6872732
เรื่องราวการเดินทาง ณ ดอยมณฑา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ดอยมณฑา อยู่ในเขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เป็นดอยสวยแห่งใหม่ที่เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักเดินป่า ดอยแห่งนี้มีอีกหนึ่งชื่อคือ "ดอยโล้น" ซึ่งหมายถึงว่าบริเ
สมาชิกหมายเลข 1135034
พาเที่ยวถ่ายรูป เลอกวาเดาะ จ.ตาก ด้วยกล้องมือถือ Redmi Note 11 Pro 5G ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล
สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคนครับ หน้าฝนทั้งทีเราก็ต้องพาทุกคนไปเดินป่า เอาร่างกายไปปะทะหมอกหนาๆ สิครับ ซึ่งครั้งนี้ผมได้ใช้กล้องมือถ
วิชาท่องเที่ยว 101
รีวิวดอยหลวงเชียงดาว
ดอยหลวงเชียงดาว: 🌄 ชื่อเต็ม: ดอยหลวงเชียงดาว ⛰️ ความสูง: ประมาณ 2,275 เมตรจากระดับน้ำทะเล → เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย (รองจากดอยอินทนนท์ และดอยผ้าห่มปก) 🌿 ลักษณะภูมิประเทศ: เป็นภูเ
สมาชิกหมายเลข 8940268
สุดแต่สองเท้า..จะก้าวเดิน กับเส้นทางแห่งศรัทธา ซัมบาลาเมืองไทย 11-12 ธ.ค.2564
สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคนค่ะ รีวิวนี้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ ความประทับใจในการเดินป่าแบบจริงจังครั้งแรกในชี
สมาชิกหมายเลข 780110
ทริปนี้มีเรื่องมาเล่า #ตอนที่ 6> พิชิตยอดเขา "ดอยหลวงเชียงดาว" ตะลอนเที่ยวเชียงใหม่
ทริปนี้มีเรื่องมาเล่า #Chapter 6# พิชิตยอด "ดอยหลวงเชียงดาว" "ดอยผ้าห่มปก" ตะลอนเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 4 คืน >> เราก็มาพบกับเรื่องเล่ากันอีกแล้วนะครับ จะว่าไปทริปนี้จะเป็นทริ
หยุดแล้วเที่ยวได้
ไปนอนแค้มป์หนีน้ำป่าแก่งสีดา ดูน้ำตกแซกะอาก ณ ผาชะนะได อุบล
แก่งสีดา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าดงนาทาม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เกิดจากน้ำหลายสายที่ไหลมารวมกันก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ระยะทางที่เดิน(จากด้านบนผาชะนะได) ก็ประมาณ 5 กิโลนิดๆ ระยะทาง: 4.7 กม. ระยะเวลา:
ไอ้คล้าวผจญภัย
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
อุทยานแห่งชาติ
เที่ยวไทย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 67
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ดอยมณฑา เลาะห้วย เข้าป่า แตะขอบฟ้าแม่สอด
“ตอนนี้ยังไม่เปิดครับ ฝนกำลังดี ชาวบ้านนำทางลูกหาบเขายังทำไร่ทำนาอยู่” นั่นคือคำตอบของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จังหวัดตาก บอกกับผมตอนโทรไปถามข้อมูลการท่องเที่ยวเดินป่าขึ้นดอยมณฑา ... แต่นั่นเมื่อสองปีกว่าๆ มาแล้วนะครับ
ตัดฉับมาปัจจุบัน เมื่อผมแจ้งเจ้าหน้าที่ในช่วงปลายปีว่ามีความประสงค์จะพาเพื่อนๆ รวม 8 ชีวิต ไปยลดอยมณฑา เป็นทริปประเดิมปี 2562 สักหน่อย คราวนี้ทุกอย่างดูเหมือนราบลื่นเรียบร้อยดี
ตั๋วรถทัวร์จองแล้ว นัดแนะเพื่อนแล้ว นัดแนะรถกระบะรับ-ส่งของเจ้าหน้าที่แล้ว แต่พอหลังหยุดยาวปีใหม่ก่อนเดินทางแค่สองวัน โทรคุยกับเจ้าหน้าที่อีกรอบก็ถึงกับอึ้งกิมกี่เมื่อปลายสายพูดว่า “ชาวบ้านบอกว่าเดือนนี้ไม่นำเดินแล้วค่ะ บนดอยหาแหล่งน้ำยากแล้ว”
ใจหล่นถึงตาตุ่ม จะทำยังไงล่ะ ก็อ้อนวอนเจ้าหน้าที่ไปสิครับว่าขออีกกลุ่มไม่ได้หรือ เพิ่งหลังปีใหม่เอง ที่สำคัญเราเตรียมการเดินทางไว้หมดแล้ว นับว่าโชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าใจและใจดีคุยกับชาวบ้านให้ และชาวบ้านเองก็เห็นใจ... โอเค กลุ่มเราเป็นกลุ่มสุดท้ายของฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้นะ
เฮ้อ... โล่งอกไปที
ดอยมณฑา เป็นยอดเขาลูกหนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เป็นแนวแบ่งเขตอำเภอแม่สอด กับอำเภอเมือง ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวทางอุทยานฯ บริการจัดการร่วมกับชุมชนบ้านปูแป้ ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด นักท่องเที่ยวจะขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตอุทยานฯ ก่อน จากนั้นอุทยานฯ จะประสานงานกับชาวบ้านให้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่แท้จริง
อช.ตากสินมหาราช ดอยมณฑา และบ้านปูแป้ อยู่ตรงกลางระหว่าง ตาก – แม่สอด หากเดินทางเองด้วยรถสาธารณะแนะนำให้ลง บขส.ตาก แล้วใช้บริการเหมารถกระบะของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะดีที่สุด เหมือนที่พวกเราทำในครั้งนี้ครับ
ทริปนี้พวกเรา 8 ชีวิต เดินทางจากหมอชิต 6 คน นัดเจอกับเจ้าถิ่นชาวตาก อีก 2 คน ที่อุทยานฯ สะดวกที่สุดคือรถ ป.1 กทม. – บ้านตาก รอบสี่ทุ่ม ถึง บขส.ตาก 5.00-5.30 น. เวลากำลังดี
ถึง บขส.ตาก เช้าตรู่ รถเจ้าหน้าที่ก็มารับ หน้าหนาวแบบนี้ฟ้ายังมืดตึ้ดตื๋อ ก่อนเข้าไปข้างในต้องแวะตลาดซื้อของก่อน ทริปนี้วันเดียวเพราะฉะนั้นทำแบบง่ายๆ ผัดผัก หมูยอทอด ลูกชิ้นทอด ที่ตลาดมีให้เลือกทุกสิ่งอยู่แล้ว
จับจ่ายข้าวของเสร็จก็ตรงมาที่ทำการอุทยานฯ วิ่งถนน แม่สอด-ตาก ทล.12 นั่นแหละ จากปากทางเข้ามาประมาณสามกิโลเมตร ตรงนี้เป็นเขตของอำเภอเมือง เรามาที่นี่เพื่อลงทะเบียนขึ้นดอยมณฑาและเตรียมตัวลุยกัน
ในเอกสารลงทะเบียนบอกเอาไว้ครับ เส้นทางถึงยอดดอยมณฑาทั้งหมด 7 กิโลเมตร เป็นทางค่อนข้างราบ 4 กิโลเมตร และทางชัน 3 กิโลเมตร เตือนไว้ก่อนว่าจะต้องเหนื่อยพอดู
หากใครขับรถส่วนตัวจะมากางเต็นท์นอนที่นี่ก่อนสักคืนก็บรรยากาศดี ลานกางเต็นท์หลายโซน ห้องน้ำห้องท่าสะดวกมาก
จากที่ทำการฯ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงมาถึงจุดนัดหมายกับชาวบ้านนำทางที่วัดปูแป้ ตรงนี้อยู่ในเขตอำเภอแม่สอดแล้ว เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง แต่เพราะไม่ได้อยู่บนเขา ถนนเข้าถึง ก็เป็นชาวกะเหรี่ยงทันสมัย ลูกหลานรุ่นใหม่ถือสัญชาติไทย พูดทั้งกะเหรี่ยงทั้งไทยได้สบาย และเป็นจุดสุดท้ายจริงๆ สำหรับใครจะเตรียมความพร้อมเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย
ความสนุกก่อนเหนื่อยคือเราต้องนั่งรถอีแต๊กจากวัดปูแป้ต่อเข้าไปจุดเริ่มเดิน ผ่านทั้งถนนลูกรัง ลำห้วย สองข้างทางเป็นพื้นที่ถากถางทำเกษตรบ้าง ป่าปลูกบ้าง นั่งหัวโยกหัวคลอนกันประมาณครึ่งชั่วโมงครับ
ถึงสุดทางรถอีแต๊กจึงได้เดินกันแล้ว (เย้...) เตรียมของขึ้นเป้ได้เลย มองนาฬิกาสิบโมงครึ่งพอดี
อย่างที่บอกครับว่าทางช่วงแรกเป็นทางราบ จริงๆ ก็ไม่ราบเสียทีเดียวหรอก ไต่ระดับทีละน้อยตามห้วยปูแป้ ข้ามห้วยไปมาหลายครั้ง ดีว่าเดือนมกราคมน้ำค่อนข้างน้อย เหยียบหินบ้าง ก้าวยาวๆ บ้างก็พ้น ไม่ต้องลุยน้ำเหมือนตอนหมดฝนใหม่ๆ
ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี เราก็มาถึงจุดที่ลำห้วยย่อยสองสายมาบรรจบกัน ไกด์บอกว่าพักกินข้าวตรงนี้แหละ เราบอกว่ายังไม่หิวเลยไปต่อก็ได้ แต่ไกด์ยืนยันว่าให้กินตรงนี้ มาบางอ้อหลังกินเสร็จว่าจากจุดนี้ลูกหาบจะแยกกับเรา เขาไปทางสั้นกว่าเพื่อตัดขึ้นแคมป์ ส่วนเราไปอีกทางที่ชันกว่าไกลกว่าแต่มีวิวให้ชมนั่นเอง
น้ำในลำห้วยปูแป้ใสมากครับ กุ้ง ปลา ลูกอ๊อด เพียบเลย หลักฐานความสะอาดของน้ำคือการมีอยู่ของสัตว์น้ำตามธรรมชาตินี่แหละ
หลังพักกินข้าวเรายังคงเดินขึ้นแบบเรื่อยๆ ทีละนิดละหน่อยอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงพ้นช่วงที่เรียกว่า 4 กิโลเมตรแรก ต้องเจอทางชัน 3 กิโลเมตร ที่อุทยานฯ ขู่ไว้สักที
เนินแรกมาตอนเที่ยงครึ่ง เพิ่งรู้สึกว่ามาเดินป่าขึ้นเขาจริงจังก็ตอนนี้ การได้เดินมายาวๆ ก่อนหน้าถือว่าดีนะ เหมือนวอร์มเครื่อง พอเจอทางชันเลยไม่หนักมาก ไม่เหมือนบางดอยแค่ก้าวไม่กี่ก้าวก็ชันซะแล้ว
ใกล้บ่ายสอง พ้นเนินที่สองขึ้นมาจะมองเห็นภูเขาสีทองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล นั่นแหละคือดอยมณฑา และจุดที่เราจะตั้งแคมป์กัน
ทีละนิด ทีละนิด เราต้องผจญทางชันๆ อีกประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อผ่านเนินที่สองและเนินที่สามให้ได้
พ้นแนวป่าเนินที่สามขึ้นมาสู่ยอดเขาโล่งๆ พอเห็นเขาลูกข้างหน้าแล้วถึงกับน้องโอ้ว ยิ่งเห็นทางเดินสีขาวๆ ขึ้นสู่ยอดเขาด้วยแล้ว ขอกลืนน้ำลายแป๊บนะ (ฮา...)
ไกด์บอกว่ายอดเขาโดดเด่นลูกข้างหน้าคือเนินสุดท้ายที่เราต้องเผชิญ มีชื่อว่าคลุยโจโม ส่วนตรงที่เราจะไปตั้งแคมป์คือคลุยพะแล (คลุยแปลว่าภูเขา) ทั้งหมดอยู่ในภูเขาลูกที่เรียกว่าดอยมณฑานั่นไง
ถอนหายใจสักเฮือก ขึ้นเป้ แล้วไปต่อ ยืนอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ยังไงภูเขาก็ไม่ลดความสูงให้หรอก (ฮา...)
ขึ้นมาเรื่อยๆ ทีละก้าววิวสวยมาก น่าแปลกคือตอนยืนดูไกลๆ เห็นว่าสูงลิบลับ พอเดินจริงๆ กลับไม่ชันเหมือนที่ตาเห็นแฮะ หรืออาจเพราะได้เดินไปชมวิวไปถ่ายรูปไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ถึงยอดคลุยโจโม แดดแรงๆ แบบนี้นั่งพักหลบร่มต้มกาแฟร้อนๆ กินกันเถอะ บ้าไปแล้วอากาศร้อนดันจิบกาแฟร้อนอีก
นั่นแหละครับเนินชันเนินสุดท้าย หลังจากนี้จะเดินเลาะตามสันเขา ช่วงที่เราไปหญ้าเริ่มแห้งแถมดอกหญ้ากำลังออก สะท้อนแดดกลายเป็นทางเดินสีทองสวยน่าประทับใจมาก แต่อย่าชมวิวเพลินเกินไปล่ะ เพราะบางช่วงหากเผลอก้าวผิดทิศผิดทางอาจลงยาวหล่นหายวับไปในป่าเลยก็ได้
สี่โมงเศษๆ ถึงจุดชมวิวสวยที่สุดของดอยครับ เป็นจุดถ่ายรูปหลักเลยแหละ มีชะง่อนหินยื่นออกมาให้ยืนให้นั่งแอ็กท่าพอดีเป๊ะ แบ็คกราวน์เป็นแนวเทือกเขาและยอดคลุยโจโม ขอบอกว่าฟิน
จากจุดถ่ายรูป เดินทะลุชายป่าอีกไม่เกินห้านาทีก็ถึงจุดตั้งแคมป์ สภาพพื้นที่ช่วงหน้าแล้งแจ๋วมาก เต็นท์ดี เปลสะดวก มีเพิงที่ชาวบ้านทำไว้อีกสองหลัง เราสามารถใช้พื้นที่ได้เลย สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเทอร์เน็ต มีครบทุกเครือข่าย
ส่วนน้ำดื่มน้ำใช้ลูกหาบเอามาให้เรียบร้อย ไกด์บอกว่าเข้ามกราคม ลูกหาบจะต้องแบกน้ำมาไกลกว่าช่วงก่อนหน้านี้ เพราะแหล่งน้ำใกล้แคมป์แห้งสนิทไปแล้ว นั่นทำให้หมู่บ้านจะทำการปิดดอยไม่พานักท่องเที่ยวขึ้นมาแล้วนั่นไง
หลังจัดการที่นอนเสร็จก็ช่วยกันหุงข้าวทำกับข้าวกับปลาแบบง่ายๆ สไตล์ชาวแคมป์ล่ะนะ
พอใกล้พระอาทิตย์ตกก็พากันออกไปดื่มด่ำบรรยากาศสักหน่อย วันนี้เพราะอิทธิพลของหางพายุปาบึกแสงเลยไม่แรงฟ้าไม่จัดจ้านเท่าไหร่ แต่ก็แลกมากับการได้เห็นไข่แดงดวงกลมๆ สวยดีครับ
ค่ำคืนนี้พวกเรากินข้าวนั่งคุยกันไปเรื่อยแบบไม่แคร์เวลา อากาศกำลังดี ไม่หนาวเกินไป ลมไม่แรง ท้องฟ้าเปิดๆ ปิดๆ เมฆลอยไปลอยมา ผมเลยขี้เกียจไม่ได้ตั้งกล้องถ่ายดาว ขอเป็นทริปชิลๆ บ้างแล้วกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้