รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งไม่พ่าย
คิดว่าลิปปี้วางแผนมาดีสมราคาคุย ปล่อยของตบไทย
ครึ่งแรกเหมือนหยั่งเชิง ดูเกมรับและจุดอ่อนไทย โดยบอมบ์เข้าใส่ไทยอย่างเดียว ย้ำๆ แต่เกมรับไทยรวมเป็นกลุ่ม สกัดการโจมตีได้ และโต้กลับได้เตะมุม และฟรีคลิกหลายครั้ง ไทยน่าจะได้ประตูสักลูกหรือ 2 ลูกแต่จีนคงทำการบ้านมาดี เสียเพียงลูกขลุกขลิกหน้าประตู
1 ลูก ไทยจึงนำ ไทยน่าจะได้สัก 2 ลูก งานคงง่ายขึ้น
ครึ่งหลัง จีนโจมตีหลากหลายขึ้น คือทั้งบอมบ์และต่อบอลเข้าไปทำ ถ้าต่อไปไม่ถึงหน้าประตู ก็โยนบอมบ์ระยะใกล้ เหมือนการโจมตีหลายทิศทาง การรับไทยจึงเริ่มรวน (เปิดตำราไม่ทัน) ห่วงทั้งการต่อและการบอมบ์ใส่ แนวป้องกันต้องกระจาย ทำให้จีนมีช่องเข้าทำประตูมาก
จุดเปลี่ยนน่าจะเป็นตอน ศุภชัยโดนเหลือง (และเหลืองอีกหลายใบ) ทำให้ไทยเล่นยาก จนต้องเปลี่ยนตัว ทำให้จีนเจาะเข้าทำประตูสำเร็จ และลูกที่ 2 จุดโทษตามมาติดๆ ไทยจึงเสียกระบวนเหมือนนัดเจออินเดีย เปิดตำราสู้ไม่ทัน และตัวเลือกส่งลงมาแทนเหมือนจะผิด (คิดว่าควรส่ง อดิศักดิ์ลงมาน่าจะดีกว่า เพราะเก๋ากว่า)
ฝั่งจีนแก้จุดอ่อนคือ ความช้า แต่ใช้ความได้เปรียบรูปร่าง เข้าปะทะ ตัดเกม ยอมฟาวล์ และใบเหลือง ทั้งแซะทั้งดึงตลอดหลายครั้ง เมื่อไทยจับบอล(น่าจะโดนแดงถ้าเจอทีมที่แกร่งกว่านี้ ) จนเกมไทยปะติดปะต่อเข้าไปทำประตูไม่ได้ เหมือนจีนเล่นหมดหน้าตักเพื่อเอาชนะไทยให้ได้ ไม่สนใจรอบต่อไป และก็ทำสำเร็จ เจ คายพิษสงไม่ออก ไม่สามารถเข้าเขตอันตรายเข้าไปยิง แต่ก็ขู่นักเตะจีนได้ดี จีนเล่นเกิน 100 ไม่ยอมเปลี่ยนอูเล่ย ออกแสดงว่ากลัวไทยเหมือนกัน จีนเล่นเต็มที่แต่ชนะไทยแค่ลูกเดียว ถือว่าไม่ห่างมีโอกาสล้างตาถ้าไทยเตรียมแก้เกมให้พร้อมกว่านี้
งานนี้ศุภชัยสอบผ่านน่าจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต ขาดเพียงประสบการณ์และการควบคุมอารมณ์ ลูกแรกที่ยิงไม่เข้าเพราะฉีกเกินไป จนหลุดประตู ถ้ายิงตรงเข้ากรอบน่าจะมีสิทธิ์ได้ประตู (อยากให้ยิงตรงกรอบมากกว่ายิงหลบประตู) ส่วนชนานันท์คงต้องลงแข่งหาประสบการณ์ในลีกให้มากๆ ส่วนอีกหลายคนที่จะมาแทนก็ควรแก้จุดอ่อนเสริมจุดแข็ง อนาคตไทยจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น
ใครมีข้อคิดเห็นอย่างไร? เชิญเลยเลยครับ
ลองวิเคราะห์เกมบอล ไทย - จีน เมื่อคืนที่ผ่านมา
คิดว่าลิปปี้วางแผนมาดีสมราคาคุย ปล่อยของตบไทย
ครึ่งแรกเหมือนหยั่งเชิง ดูเกมรับและจุดอ่อนไทย โดยบอมบ์เข้าใส่ไทยอย่างเดียว ย้ำๆ แต่เกมรับไทยรวมเป็นกลุ่ม สกัดการโจมตีได้ และโต้กลับได้เตะมุม และฟรีคลิกหลายครั้ง ไทยน่าจะได้ประตูสักลูกหรือ 2 ลูกแต่จีนคงทำการบ้านมาดี เสียเพียงลูกขลุกขลิกหน้าประตู
1 ลูก ไทยจึงนำ ไทยน่าจะได้สัก 2 ลูก งานคงง่ายขึ้น
ครึ่งหลัง จีนโจมตีหลากหลายขึ้น คือทั้งบอมบ์และต่อบอลเข้าไปทำ ถ้าต่อไปไม่ถึงหน้าประตู ก็โยนบอมบ์ระยะใกล้ เหมือนการโจมตีหลายทิศทาง การรับไทยจึงเริ่มรวน (เปิดตำราไม่ทัน) ห่วงทั้งการต่อและการบอมบ์ใส่ แนวป้องกันต้องกระจาย ทำให้จีนมีช่องเข้าทำประตูมาก
จุดเปลี่ยนน่าจะเป็นตอน ศุภชัยโดนเหลือง (และเหลืองอีกหลายใบ) ทำให้ไทยเล่นยาก จนต้องเปลี่ยนตัว ทำให้จีนเจาะเข้าทำประตูสำเร็จ และลูกที่ 2 จุดโทษตามมาติดๆ ไทยจึงเสียกระบวนเหมือนนัดเจออินเดีย เปิดตำราสู้ไม่ทัน และตัวเลือกส่งลงมาแทนเหมือนจะผิด (คิดว่าควรส่ง อดิศักดิ์ลงมาน่าจะดีกว่า เพราะเก๋ากว่า)
ฝั่งจีนแก้จุดอ่อนคือ ความช้า แต่ใช้ความได้เปรียบรูปร่าง เข้าปะทะ ตัดเกม ยอมฟาวล์ และใบเหลือง ทั้งแซะทั้งดึงตลอดหลายครั้ง เมื่อไทยจับบอล(น่าจะโดนแดงถ้าเจอทีมที่แกร่งกว่านี้ ) จนเกมไทยปะติดปะต่อเข้าไปทำประตูไม่ได้ เหมือนจีนเล่นหมดหน้าตักเพื่อเอาชนะไทยให้ได้ ไม่สนใจรอบต่อไป และก็ทำสำเร็จ เจ คายพิษสงไม่ออก ไม่สามารถเข้าเขตอันตรายเข้าไปยิง แต่ก็ขู่นักเตะจีนได้ดี จีนเล่นเกิน 100 ไม่ยอมเปลี่ยนอูเล่ย ออกแสดงว่ากลัวไทยเหมือนกัน จีนเล่นเต็มที่แต่ชนะไทยแค่ลูกเดียว ถือว่าไม่ห่างมีโอกาสล้างตาถ้าไทยเตรียมแก้เกมให้พร้อมกว่านี้
งานนี้ศุภชัยสอบผ่านน่าจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต ขาดเพียงประสบการณ์และการควบคุมอารมณ์ ลูกแรกที่ยิงไม่เข้าเพราะฉีกเกินไป จนหลุดประตู ถ้ายิงตรงเข้ากรอบน่าจะมีสิทธิ์ได้ประตู (อยากให้ยิงตรงกรอบมากกว่ายิงหลบประตู) ส่วนชนานันท์คงต้องลงแข่งหาประสบการณ์ในลีกให้มากๆ ส่วนอีกหลายคนที่จะมาแทนก็ควรแก้จุดอ่อนเสริมจุดแข็ง อนาคตไทยจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น
ใครมีข้อคิดเห็นอย่างไร? เชิญเลยเลยครับ