สวัสดีค่ะเราพึ่งอายุ 17 ปี รู้สึกเป็นคนจิตใจอ่อนแอมากเกินไปหรือป่าว..ที่จะทนอยู่บนโลกใบนี้ไปฟังประสบการณ์กันเลยค่ะ
เราเรียน ปวช ปีสุดท้ายค่ะ ณตอนนี้
รู้สึกเหนื่อยเครียดท้อเหลือเกินกับวิชาโครงการกับการเตรียมตัวเข้ามหาลัย ชีวิตเจอแต่อุปสัคค่ะ เริ่มตั้งแต่ต้นจาก..
ปี2ปวช.จะมีการฝึกงานค่ะ เราเเลือกฝึกงานร้านหนึ่งกับเพื่อนเพราะเห็นว่าไกล้บ้าน
เลยตกลงกันว่าจะฝึกร้านฝึกงานนี้ค่ะ โดนที่ไม่รู้เลยว่ากําลังจะเจออะไร.......
ณ..ปัจจุบันเรามีปัญหาทางจิตจนต้องเข้าโรงบาลจิตเวชและอาการแพนิคเพราะผลพวงมากจากสิ่งนี้ เราแค่ต่องการระบายความในใจเท่านั้นไม่ได้ประสงค์ร้ายหรืออื่นใด เราจะเล่าเลยและกันนะคะ ว่าร้านฝึกงานร้านนี้ทําอะไรกับเรามั้งใน2เดือนที่ผ่านมา เริ่มต้นจาก โยนงาออกแบบซึ่งเป็นงานไหญ่มากๆมาให้เราทําตั้งแต่วันนแรกที่เราฝึกงานซึ่งในมุมของเด็กฝึกงานอย่างเรามันหนักมาก จนกลับบ้านไปนั่งร้องให้ตั้งแต่วันแรกที่ทํางานต่อมา...คือสิ่งที่เราเจอหลังจากนี้.......เช่น ออกไปซื้อของเอง,ผัดกับข้าว,ให้พวกเข้ากินออก,ไปส่งของ,ไปซื้อของ,ใช้ให้ออกไปยกของ,ไปส่งเอกสารให้คน,ใช้ให้ปริ้เอกสาร,+โดนลูกค้าด่า จนไปนั่งร้องตรงคอมที่ทํางานประจํา ใช้ให้ไปดูลูกค้าให้ ให้เปิดร้าน....และห้ามหยุด..ต้องมาฝึกงานนะ เพราะเขาจะจับผิดหากเราหยุดเขาจะรู้ทันทีว่าไม่อยากมา.. ในเรื่องของคนภายในร้านที่มีต่อเรา มองว่าเราเป็นเด็กเก็บตัวไม่ชอบเที่ยว ติ่มๆ พนักงานในร้านเป็นตาเท่าหัวงู ดูถูกเราต่อหน้าลูกค้าเพื่อให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือ...แต่ตัวเองกลับทํางานที่เราทําไม่เป็นไม่รู้เรื่องไม่รับดู แต่กลับใช้ให้เราทํางานทุกอย่างที่ตัวเองทําไม่เป็น ส่วนอีกคนผู้หญิง คนนี้ดีหน่อย อีกคนอีก..( นั้นอีกคนละ555 ) เป็นเจ้าของร้านชอบจี้เราจนเราเริ่มรวนทําไม่ไหวจี้อยู่แบบนั้น....
เราต้องทนอยู่แบบนั้นเป็นเวลา 2 เดือนโดนไปทุกวันไม่หยุดทุกวัน ร้องให้ทุกวันที่ฝึกงานกับเพื่อน...
กลับบ้านไปนอนร้องให้ กลีดน่องขาตัวเองให้เป็นรอยข่วนนิดๆ ไม่ถึงกับมีเลือดออก ร้องให้จนไม่มี....
นํ้าตา เอาให้แค่พอลืมความคิดที่ต้องเผชิญกับร้านแห่งนี้ แต่ว่า....วันรุ่งขึ้นก็ต้องมาเจออยู่ที่ เราต้อง....
มาเปิดร้านให้เขาทุกเช้าในถานะเด็กฝึกงาน และต้องไปเช้าประมาณ 7:00 น. เรื่องทําร้ายตัวเองและร้องให้ช่วงหลังๆเราทําทุกวันทําไม่หยุด จนเรา
สัญญาเลยว่าเราจะไม่มาเหยียบร้านนี้อีก...จนกระทั้งเปิดเทอม..ขึ้นปี3 เพื่อนตอนเปิดเทอมแจ่มใส ร่าเริงเป็นปกติ เมามอยปกติส่วนเรา...เครียดจากเหตุการณ์ที่ร้านฝึกงานมันฝังใจทําให้เก็บมาคิดทุกคืน...
จนกระทั้งวันหนึ่ง..ขณะที่นั่งเรียนอยู่เราร้องให้ไม่ไปกินข้าวกลับเพื่อน .... เรากลับไปบ้านเราเริ่มวิตกกังวลว่า..ปี3แล้วต้องรีบแล้ว..เราพยายามทํางานให้ได้ดั่งใจเราแต่มันก็ไม่ได้ดั่งใจซักที่..เหมื่อนความรู้สึกมันพัง+เหตุการณ์ที่ร้านฝึกงานมันตามมาหลอกหลอน ความคิดมันวนไปอยู่แบบนั้น เพราะเป็นทางผ่านบ้านเรา..เราเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นในงานที่มากขึ้นกับโครงการปี3....
.
.
.
.
วันหนึ่งเราไประเบิดอารมณ์กับเพื่อนเราเพราะเพื่อนล้อเรามากเกินไปทั้งที่ก่อนหน้าที่จะฝึกงานเราร่าเริ่งมาก แบบเวลาใครล้ออะไรมันคือการล้อขําๆจริง แต่เรากลับจริงจังมากเกินไปและเก็บมาคิดมาก..เราเริ่มระบายทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตที่มันไม่ดีสาดใส่เพื่อนเราไม่หยุดจนหลังจากนั้นเราเอามาร้องให้เองร้องแบบร้องไม่หยุดร้องแบบสาดความผิดทุกอย่างเข้าตัวเองตั้งแต่อดีต..ปัจจุบัน..ทําไม่ถึงได้ทําแบบนั้นเราร้องจนเราเบลอทําอะไรผิดๆถุกคุยรู้เรื่องมั้งไม่รู้เรื่องมั้ง ไปที่ รร. เราเห็นเพื่อนเราร้องกับเพื่อนอีกคน... เรารู้สึกผิดมากมายจนกลับบ้านเราคุมความคิดตัวเองไม่อยู่แล้วจนกลับบ้านมาคือบ้าของจริง....
เรานอนไม่หลับเลยเพราะเราคุมความคิดตัวเองไม่อยู่แล้ว ตัวเราเย็นวุบวาบๆไม่หยุดหัวใจเต้นแรงมากจนกระทั้งเราคิดเรื่องฆ่าตัวตายขึ้นมาในหัว ตอนนั้นเราคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว สิ่งที่เหลือคือจิตใต้สํานึกที่ยังอยู่ เราเลยไปนอนกับแม่และเล่าทุกอย่างให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา...หลังจากนั้นเราก็ไปโรงบาลระหว่างทางเราทําอะไรไม่รู้เรื่องเลยคนมองเต็มไปหมดเรา เราตัดสินใจเขาโรงบาลจิตเวชเป็นเวลา 3 วันและออกมาจากโรงพยาบาล...
เราแค่ต้องการมาเล่าประสบการณ์ชีวิตค่ะ และเป็นอุทาหรณ์สอนใจสําหรับหลายๆคน
ที่กําลังเครียดหรือวิตกกังวลมากเกินไปอะไรมากเกินไปโดยใช่เหตุแบบเราซึ่ง
มันไม่ดีเอาเสียเลยนอกจากมันจะทําร้ายตัวเราแล้วมันยังทําร้ายคนรอบข้างแบบที่เรา
โดยที่เราไม่รู้ตัว ณ ปัจจุบันกําลังรักษาตัวอยู่ค่ะ และปรับยาไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะหาย
.
.
.
.
.
.
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านมาอ่านค่ะ
รู้สึกตัวเองอ่อนแอเกินไปค่ะ อ่อนแอเกินที่จะอยู่บนโลกนี้
เราเรียน ปวช ปีสุดท้ายค่ะ ณตอนนี้
รู้สึกเหนื่อยเครียดท้อเหลือเกินกับวิชาโครงการกับการเตรียมตัวเข้ามหาลัย ชีวิตเจอแต่อุปสัคค่ะ เริ่มตั้งแต่ต้นจาก..
ปี2ปวช.จะมีการฝึกงานค่ะ เราเเลือกฝึกงานร้านหนึ่งกับเพื่อนเพราะเห็นว่าไกล้บ้าน
เลยตกลงกันว่าจะฝึกร้านฝึกงานนี้ค่ะ โดนที่ไม่รู้เลยว่ากําลังจะเจออะไร.......
ณ..ปัจจุบันเรามีปัญหาทางจิตจนต้องเข้าโรงบาลจิตเวชและอาการแพนิคเพราะผลพวงมากจากสิ่งนี้ เราแค่ต่องการระบายความในใจเท่านั้นไม่ได้ประสงค์ร้ายหรืออื่นใด เราจะเล่าเลยและกันนะคะ ว่าร้านฝึกงานร้านนี้ทําอะไรกับเรามั้งใน2เดือนที่ผ่านมา เริ่มต้นจาก โยนงาออกแบบซึ่งเป็นงานไหญ่มากๆมาให้เราทําตั้งแต่วันนแรกที่เราฝึกงานซึ่งในมุมของเด็กฝึกงานอย่างเรามันหนักมาก จนกลับบ้านไปนั่งร้องให้ตั้งแต่วันแรกที่ทํางานต่อมา...คือสิ่งที่เราเจอหลังจากนี้.......เช่น ออกไปซื้อของเอง,ผัดกับข้าว,ให้พวกเข้ากินออก,ไปส่งของ,ไปซื้อของ,ใช้ให้ออกไปยกของ,ไปส่งเอกสารให้คน,ใช้ให้ปริ้เอกสาร,+โดนลูกค้าด่า จนไปนั่งร้องตรงคอมที่ทํางานประจํา ใช้ให้ไปดูลูกค้าให้ ให้เปิดร้าน....และห้ามหยุด..ต้องมาฝึกงานนะ เพราะเขาจะจับผิดหากเราหยุดเขาจะรู้ทันทีว่าไม่อยากมา.. ในเรื่องของคนภายในร้านที่มีต่อเรา มองว่าเราเป็นเด็กเก็บตัวไม่ชอบเที่ยว ติ่มๆ พนักงานในร้านเป็นตาเท่าหัวงู ดูถูกเราต่อหน้าลูกค้าเพื่อให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือ...แต่ตัวเองกลับทํางานที่เราทําไม่เป็นไม่รู้เรื่องไม่รับดู แต่กลับใช้ให้เราทํางานทุกอย่างที่ตัวเองทําไม่เป็น ส่วนอีกคนผู้หญิง คนนี้ดีหน่อย อีกคนอีก..( นั้นอีกคนละ555 ) เป็นเจ้าของร้านชอบจี้เราจนเราเริ่มรวนทําไม่ไหวจี้อยู่แบบนั้น....
เราต้องทนอยู่แบบนั้นเป็นเวลา 2 เดือนโดนไปทุกวันไม่หยุดทุกวัน ร้องให้ทุกวันที่ฝึกงานกับเพื่อน...
กลับบ้านไปนอนร้องให้ กลีดน่องขาตัวเองให้เป็นรอยข่วนนิดๆ ไม่ถึงกับมีเลือดออก ร้องให้จนไม่มี....
นํ้าตา เอาให้แค่พอลืมความคิดที่ต้องเผชิญกับร้านแห่งนี้ แต่ว่า....วันรุ่งขึ้นก็ต้องมาเจออยู่ที่ เราต้อง....
มาเปิดร้านให้เขาทุกเช้าในถานะเด็กฝึกงาน และต้องไปเช้าประมาณ 7:00 น. เรื่องทําร้ายตัวเองและร้องให้ช่วงหลังๆเราทําทุกวันทําไม่หยุด จนเรา
สัญญาเลยว่าเราจะไม่มาเหยียบร้านนี้อีก...จนกระทั้งเปิดเทอม..ขึ้นปี3 เพื่อนตอนเปิดเทอมแจ่มใส ร่าเริงเป็นปกติ เมามอยปกติส่วนเรา...เครียดจากเหตุการณ์ที่ร้านฝึกงานมันฝังใจทําให้เก็บมาคิดทุกคืน...
จนกระทั้งวันหนึ่ง..ขณะที่นั่งเรียนอยู่เราร้องให้ไม่ไปกินข้าวกลับเพื่อน .... เรากลับไปบ้านเราเริ่มวิตกกังวลว่า..ปี3แล้วต้องรีบแล้ว..เราพยายามทํางานให้ได้ดั่งใจเราแต่มันก็ไม่ได้ดั่งใจซักที่..เหมื่อนความรู้สึกมันพัง+เหตุการณ์ที่ร้านฝึกงานมันตามมาหลอกหลอน ความคิดมันวนไปอยู่แบบนั้น เพราะเป็นทางผ่านบ้านเรา..เราเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นในงานที่มากขึ้นกับโครงการปี3....
.
.
.
.
วันหนึ่งเราไประเบิดอารมณ์กับเพื่อนเราเพราะเพื่อนล้อเรามากเกินไปทั้งที่ก่อนหน้าที่จะฝึกงานเราร่าเริ่งมาก แบบเวลาใครล้ออะไรมันคือการล้อขําๆจริง แต่เรากลับจริงจังมากเกินไปและเก็บมาคิดมาก..เราเริ่มระบายทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตที่มันไม่ดีสาดใส่เพื่อนเราไม่หยุดจนหลังจากนั้นเราเอามาร้องให้เองร้องแบบร้องไม่หยุดร้องแบบสาดความผิดทุกอย่างเข้าตัวเองตั้งแต่อดีต..ปัจจุบัน..ทําไม่ถึงได้ทําแบบนั้นเราร้องจนเราเบลอทําอะไรผิดๆถุกคุยรู้เรื่องมั้งไม่รู้เรื่องมั้ง ไปที่ รร. เราเห็นเพื่อนเราร้องกับเพื่อนอีกคน... เรารู้สึกผิดมากมายจนกลับบ้านเราคุมความคิดตัวเองไม่อยู่แล้วจนกลับบ้านมาคือบ้าของจริง....
เรานอนไม่หลับเลยเพราะเราคุมความคิดตัวเองไม่อยู่แล้ว ตัวเราเย็นวุบวาบๆไม่หยุดหัวใจเต้นแรงมากจนกระทั้งเราคิดเรื่องฆ่าตัวตายขึ้นมาในหัว ตอนนั้นเราคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว สิ่งที่เหลือคือจิตใต้สํานึกที่ยังอยู่ เราเลยไปนอนกับแม่และเล่าทุกอย่างให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา...หลังจากนั้นเราก็ไปโรงบาลระหว่างทางเราทําอะไรไม่รู้เรื่องเลยคนมองเต็มไปหมดเรา เราตัดสินใจเขาโรงบาลจิตเวชเป็นเวลา 3 วันและออกมาจากโรงพยาบาล...
เราแค่ต้องการมาเล่าประสบการณ์ชีวิตค่ะ และเป็นอุทาหรณ์สอนใจสําหรับหลายๆคน
ที่กําลังเครียดหรือวิตกกังวลมากเกินไปอะไรมากเกินไปโดยใช่เหตุแบบเราซึ่ง
มันไม่ดีเอาเสียเลยนอกจากมันจะทําร้ายตัวเราแล้วมันยังทําร้ายคนรอบข้างแบบที่เรา
โดยที่เราไม่รู้ตัว ณ ปัจจุบันกําลังรักษาตัวอยู่ค่ะ และปรับยาไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะหาย
.
.
.
.
.
.
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านมาอ่านค่ะ