เรื่องเริ่มจากหลายปีก่อนแล้วพ่อกับแม่เราเช่าที่ดินกับญาติผู้ใหญ่ท่านนึงของแม่เรา เพื่อทำการเกษตร พอดีกับที่เขามีปัญหาทะเลาะเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันญาติผู้ใหญ่ท่านนี้เลยไปยิงเขาเสียชีวิต ถูกจับและขึ้นศาล ญาติผู้ใหญ่เลยมาขอค่าเช่าที่ดินกับพ่อแม่เราล่วงหน้า2ปีและขอยืมเงินจำนวนนึงไปจ้างทนายสู้กับศาล แต่สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
หลังจากนั้น4ปีก่อนภรรยากับลูกสะใภ้ของญาติผู้ใหญ่มาคุยกับพ่อแม่เราให้ช่วยซื้อที่ดินแปลงนี้หน่อย เขาเอาที่ดินไปจำนองแล้วดอกเบี้ยมันพอกพูนจนหนี้ประมาณ7แสนกว่า เขาเสนอราคาว่า ไร่ละ200,000บาท พ่อเราบอกว่าไม่มีเงินหรอก ถ้าขายใครได้ก็ขายไป เขาบอกอยากให้คนกันเองพ่อเราเลยบอกไป ถ้าไร่ละ150,000บาท พอสู้ไหวแต่ไปคุยกับอาที่อยู่ในเรือนจำก่อนว่าเขาให้ขายราคานี้ไหม แล้วที่มีกี่ไร่? เขาบอกมี10 ไร่ เป็นเงิน1,500,00บาท เขาก็หายไปเดือนนึง แล้วกลับมาบอกว่าอาที่อยู่ในเรือนจำบอกว่าให้ขายไร่ละ150,000ได้ พอถึงวันที่ต้องซื้อขาย แต่พ่อแม่เราต้องเอาเงินไปไถ่กับธนาคารถึงจะได้โฉนดที่ดินมาแล้วถึงจะโอนได้ พ่อกับแม่เราก็ไปธนาคารถอนใบโฉนดออกมาสรุปว่า โฉนดที่ดินมี 9ไร่1งาน 37ตร.วา มันไม่ใช่10ไร่ เขาแหกตาเราเพราะตลอดมาพ่อแม่เราก็จ่ายค่าเช่า10ไร่เต็มมาตลอด พ่อเราเลยคิดเงินจ่ายเขาไป9ไร่1เงิน 37ตร.วา สีหน้าเขาไม่พอใจแต่ก็ไม่ว่าอะไร
จน4ปีผ่านมาอาที่เคยติดคุกเขาได้ลดโทษจนออกมา พ่อแม่เราไปเจอเขาที่วัดเลยเข้าไปทักทายเขา แต่เขากลับชี้หน้าด่าพ่อแม่เราว่าโกงเงินเขา พ่อเราบอกโกงยังไงก็ซื้อตามโฉนดที่ดินมันไม่ถึง10ไร่ นี่ เขาบอกถ้าวัดยังไงมันก็ถึง เขามีใบนส.3มัน13ไร่ด้วยซ้ำ แต่นึกสภาพที่ดินท้ายไร่มันเป็นลำห้วยผ่านคือเขาตะให้เราลงไปปลูกผลผลิตในห้วยเหรอคะ? แล้วเขาก็ข่มขู่แม่เราว่าทำแบบนี้จะเสียใจ นี่ยังเห็นแก่ตาของเรานะ ก็แยกย้ายกันไปหลายเดือน แต่เขาก็ป่าวประกาศไปทั่วว่าพ่อแม่เราโกงเขา จนเมื่อวานพ่อแม่เราก็โทรไปนัดเจรจากับเขาให้มาคุยกันที่บ้านตา เขาก็มา แต่เขากลับคำพูดทั้งหมดเขาบอกว่าเขาขายเหมาทั้งหมด1,500,000บาท เขาไม่ได้ขายเป็นไร่ พ่อเราเลยแย้งไปว่าตอนขายบอกขายเป็นไร่ เขาบอกว่าก็ขาย10ไร่อ่ะ เขาค่อนข้างไม่ฟังสิ่งที่เราชี้แจงเลย พ่อเราเลยบอกงั้นจะให้จนท.รางวัดมาวัด เขาบอกถ้าจะวัดต้องวัดมาถึงขอบคอนกรีตด้วย (คือเขาปลูกเกินเสาไฟฟ้ากันเหรอคะ ถามจริง?) แม่เราเลยบอกว่าจบเถอะพูดกันไปก็ไม่รู้เรื่อง แล้วเขาก็พูดอีกว่า แล้วจะเสียใจ (ในความคิดเราก็คือเขาข่มขู่อ่ะค่ะ) ตอนนั้นตากับยายเราก็อยู่ ยายเราเขากลัวเขาแนะนำให้แม่เราจ่ายส่วนที่เหลือ100,000กว่าบาทไปเถอะเรื่องจะได้จบกันไปแล้วหลังจากนี้ก็ตัดขาดกันไป แค่พ่อเราก็บอกว่า100,000บาทเราก็ทำงานเหนื่อยตั้งนานกว่าจะได้มา ทุกคนคิดว่าเรามีวิธีจัดการยังไงกับคนแบบนี้ดีคะ เขาค่อนข้างนักเลงและไม่กลัวคุกกลัวตารางเลยแล้วคำพูดกลับกลอกมาก
อยากทราบวิธีจัดการกับผู้ที่ขายที่ดินมาข่มขู่จะเอาเงินเพิ่มหลังจากขายมา4ปีแล้ว
หลังจากนั้น4ปีก่อนภรรยากับลูกสะใภ้ของญาติผู้ใหญ่มาคุยกับพ่อแม่เราให้ช่วยซื้อที่ดินแปลงนี้หน่อย เขาเอาที่ดินไปจำนองแล้วดอกเบี้ยมันพอกพูนจนหนี้ประมาณ7แสนกว่า เขาเสนอราคาว่า ไร่ละ200,000บาท พ่อเราบอกว่าไม่มีเงินหรอก ถ้าขายใครได้ก็ขายไป เขาบอกอยากให้คนกันเองพ่อเราเลยบอกไป ถ้าไร่ละ150,000บาท พอสู้ไหวแต่ไปคุยกับอาที่อยู่ในเรือนจำก่อนว่าเขาให้ขายราคานี้ไหม แล้วที่มีกี่ไร่? เขาบอกมี10 ไร่ เป็นเงิน1,500,00บาท เขาก็หายไปเดือนนึง แล้วกลับมาบอกว่าอาที่อยู่ในเรือนจำบอกว่าให้ขายไร่ละ150,000ได้ พอถึงวันที่ต้องซื้อขาย แต่พ่อแม่เราต้องเอาเงินไปไถ่กับธนาคารถึงจะได้โฉนดที่ดินมาแล้วถึงจะโอนได้ พ่อกับแม่เราก็ไปธนาคารถอนใบโฉนดออกมาสรุปว่า โฉนดที่ดินมี 9ไร่1งาน 37ตร.วา มันไม่ใช่10ไร่ เขาแหกตาเราเพราะตลอดมาพ่อแม่เราก็จ่ายค่าเช่า10ไร่เต็มมาตลอด พ่อเราเลยคิดเงินจ่ายเขาไป9ไร่1เงิน 37ตร.วา สีหน้าเขาไม่พอใจแต่ก็ไม่ว่าอะไร
จน4ปีผ่านมาอาที่เคยติดคุกเขาได้ลดโทษจนออกมา พ่อแม่เราไปเจอเขาที่วัดเลยเข้าไปทักทายเขา แต่เขากลับชี้หน้าด่าพ่อแม่เราว่าโกงเงินเขา พ่อเราบอกโกงยังไงก็ซื้อตามโฉนดที่ดินมันไม่ถึง10ไร่ นี่ เขาบอกถ้าวัดยังไงมันก็ถึง เขามีใบนส.3มัน13ไร่ด้วยซ้ำ แต่นึกสภาพที่ดินท้ายไร่มันเป็นลำห้วยผ่านคือเขาตะให้เราลงไปปลูกผลผลิตในห้วยเหรอคะ? แล้วเขาก็ข่มขู่แม่เราว่าทำแบบนี้จะเสียใจ นี่ยังเห็นแก่ตาของเรานะ ก็แยกย้ายกันไปหลายเดือน แต่เขาก็ป่าวประกาศไปทั่วว่าพ่อแม่เราโกงเขา จนเมื่อวานพ่อแม่เราก็โทรไปนัดเจรจากับเขาให้มาคุยกันที่บ้านตา เขาก็มา แต่เขากลับคำพูดทั้งหมดเขาบอกว่าเขาขายเหมาทั้งหมด1,500,000บาท เขาไม่ได้ขายเป็นไร่ พ่อเราเลยแย้งไปว่าตอนขายบอกขายเป็นไร่ เขาบอกว่าก็ขาย10ไร่อ่ะ เขาค่อนข้างไม่ฟังสิ่งที่เราชี้แจงเลย พ่อเราเลยบอกงั้นจะให้จนท.รางวัดมาวัด เขาบอกถ้าจะวัดต้องวัดมาถึงขอบคอนกรีตด้วย (คือเขาปลูกเกินเสาไฟฟ้ากันเหรอคะ ถามจริง?) แม่เราเลยบอกว่าจบเถอะพูดกันไปก็ไม่รู้เรื่อง แล้วเขาก็พูดอีกว่า แล้วจะเสียใจ (ในความคิดเราก็คือเขาข่มขู่อ่ะค่ะ) ตอนนั้นตากับยายเราก็อยู่ ยายเราเขากลัวเขาแนะนำให้แม่เราจ่ายส่วนที่เหลือ100,000กว่าบาทไปเถอะเรื่องจะได้จบกันไปแล้วหลังจากนี้ก็ตัดขาดกันไป แค่พ่อเราก็บอกว่า100,000บาทเราก็ทำงานเหนื่อยตั้งนานกว่าจะได้มา ทุกคนคิดว่าเรามีวิธีจัดการยังไงกับคนแบบนี้ดีคะ เขาค่อนข้างนักเลงและไม่กลัวคุกกลัวตารางเลยแล้วคำพูดกลับกลอกมาก